ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ที่ไปทั่วโลก มีกี่สาย  (อ่าน 41076 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
หลังจากมีการทำสังคายนาพระไตรปิฏก ครั้้งที่ 3 แล้ว

มีสายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ที่ไปทั่วโลกนั้น มีกี่สาย

ของประเทศไทยเป็นสายที่เท่าไหร่ คะ

  พระโสณะ พระ อุตตระ เกี่ยวข้องอย่างไรกับ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ คะ

 :25: :88: :c017:
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
การเข้ามาสู่ประเทศไทยของพระพุทธศาสนา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 17, 2010, 08:41:50 pm »
0
การเข้ามาสู่ประเทศไทยของพระพุทธศาสนา

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ต่อมาประมาณพุทธศตวรรษที่ 3 พระเจ้าอโศกมหาราชผู้ทรงปกครองประเทศอินเดียในสมัยนั้น มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา พระองค์ได้ทรงให้ความอุปถัมภ์โดยทรงจัดให้มีการทำสังคายนาพระพุทธศาสนาครั้ง ที่ 3 ขึ้นในปี พ . ศ . 236 ณ วัดอโศการาม นครปาฎลีบุตรแคว้นมคธ ( ปัจจุบันคือเมืองปัฏนะ เมืองหลวงของรัฐพิหาร )
 
ทรงอาราธนาพระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระ เป็นประธาน หลังจากทำสังคายนาร้อยกรองพระธรรมวินัยเสร็จสิ้นแล้ว พระโมคคัลลีบุตรได้จัดคณะพระธรรมทูตออกเป็น 9 คณะแล้วส่งไปประกาศพระศาสนาในดินแดนต่าง ๆ ดังนี้

การแพร่กระจายของพุทธศาสนาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช

คณะที่ 1พระมัชฌันติกเถระเป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ แคว้นกัษมีระ และคันธาระ
ในปัจจุบันได้แก่ ประเทศปากีสถาน และอัฟกานิสถาน

คณะที่ 2 มีพระมหาเทวะเป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่พุทธศาสนา ในแคว้นมหิสมณฑล
ปัจจุบันได้แก่ รัฐไมซอร์ และดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโคธาวารี ซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศอินเดีย

คณะที่ 3 มีพระรักขิตเถระเป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ วนวาสีประเทศ
ในปัจจุบัน ได้แก่ ดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย    

คณะที่ 4 มีพระธรรมรักขิตเป็นหัวหน้าคณะ ไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ อปรันตกชนบท
ปัจจุบันสันนิษฐานว่า คือดินแดนแถบชายทะเลเหนือเมืองบอมเบย์

คณะที่ 5 มีพระมหาธรรมรักขิตเป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ แคว้นมหาราษฎร์
 ปัจจุบันได้แก่ รัฐมหาราษฎร์ของประเทศอินเดีย

คณะที่ 6 มีพระมหารักขิตเป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนาในเอเซียกลาง
ปัจจุบัน ได้แก่ ดินแดนที่เป็นประเทศอิหร่านและตุรกี

คณะที่ 7 มีพระมัชฌิมะเป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ ดินแดนแถบภูเขาหิมาลัย
ปัจจุบันสันนิษฐานว่า คือ ประเทศเนปาล

คณะที่ 8 มีพระโสณะและพระอุตตระเป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ
ซึ่งปัจจุบัน คือประเทศในคาบสมุทรอินโดจีน เช่น พม่า ไทย ลาว เขมร เป็นต้น


คณะที่ 9 มีพระมหินทเถระผู้เป็น พระราชโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นหัวหน้าคณะไปเผยแผ่พุทธศาสนา ณ เกาะลังกา ซึ่งในปัจจุบัน ได้แก่ ประเทศศรีลังกา

การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่พระโมคคัลลีบุตรเถระดำเนินการ โดยจัดส่งพระธรรมทูตคณะต่างๆ ประกาศพระศาสนาในต่างแดนนั้น แม้ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในอาณาเขตของชมพูทวีป หรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน แต่ก็ถือว่าเป็นการประกาศศาสนา ในเชิงรุกทำให้พุทธศาสนา ได้แพร่หลายกว้างไกลออกไปยังดินแดนต่างๆ อย่างแพร่หลายเป็นที่รู้จักของมหาชน

พระปฐมเจดีย์ สร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราช เดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิ

สันนิษฐาน กันว่า พระสมณทูตสายที่ 8 คือพระโสณะกับพระอุตตระนี่เอง ที่นำพุทธศาสนาเข้ามาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งก็คือบริเวณจังหวัดนครปฐม โดยสันนิษฐานจากการพบตราพระธรรมจักร ที่นักโบราณคดี สันนิษฐานกันว่า น่าจะอยู่ในช่วงประมาณ พ . ศ . 236 สมัยเดียวกันกับพระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระโสณะ และพระอุตตระมาประกาศพระศาสนา แต่พม่าก็สันนิษฐานว่า มีในกลางอยู่ที่เมืองสะเทิม ภาคใต้ของพม่า

ที่มา  http://tahra.wordpress.com/พระอุตตระ/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ประวัติของพระโสณะ และพระอุตตระ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 17, 2010, 08:46:16 pm »
0
ประวัติของพระโสณะและพระอุตตระ

ประวัติของพระโสณะและพระอุตตระ ไม่ปรากฏชัด จากการศึกษาพบว่า ปรากฏชื่อของท่านทั้งสองในการทำสังคายนาครั้งที่ 3จึงเชื่อว่าท่านทั้งสองอยู่ในช่วงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (สังคายนาครั้งที่ 3 ประมาณปี พ.ศ. 218) ในประเทศอินเดีย


ผลงานที่สำคัญ
พระโสณะและพระอุตตระ เป็นสมณทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชและพระโมคคัลลสีบุตรได้คัดเลือกให้พระเถระ ผู้ทรงภูมิธรรมที่สามารถออกไปประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ พระโสณะและพระอุตตระถูกคัดเลือกให้เป็นพระสมณะทูตคณะที่ 8 และ 9 ดังรายละเอียดปรากฏในพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ ดังนี้

พระเจ้าอโศกมหาราช แม้จะทรงอุปถัมภ์การสังคายนาครั้งที่ 3 ของนิกายเถรวาทแต่พระองค์ก็ยังทรงอุปถัมภ์เคารพนับถือสงฆ์ในนิกายอื่น ๆ ด้วย พระสงฆ์นิกายเถรวาทที่ทำสังคายนามีเพียง 1,000 รูป แต่ยังมีพระสงฆ์อรหันตเถระในนิกายอื่นอีกมาก

โดยเฉพาะนิกายสราวสติวาทิน (เป็นนิกายย่อยของเถรวาท) พระที่พระองค์ส่งไปทั้ง 9 สายนั้น คงมีหลายนิกาย แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ สายที่ 8 กับสายที่ 9 เป็นสายใต้เป็นพระนิกายเถรวาท ดังนั้น พระโสณะกับพระอุตตระและคณะจึงเป็นเถรวาท ใช้ภาษาบาลีจดจารึกพระไตรปิฏก ปรากฏในคัมภีร์สมันตปาสาทิกา ว่าพระโสณะกับพระอุตตระไปสุวรรณภูมิ ดังคำว่า


สุวณฺณภูมิ คจฺฉนฺตฺวาน โสณุตฺตรา มหิทฺธิกา
ปิสาเจ นิทฺธมิตฺวาน พฺรหฺมชาลํ อเทสิสุ


(ความว่า พระโสณะและพระอุตตระผู้มีฤทธิ์มาก ไปสู่สุวรรณภูมิ ปราบปรามพวกปีศาจแล้ว ได้แสดงพรหมชาลสูตร)

ตาม คัมภีร์สมันตปาสาทิกา กล่าวถึงพระโสณะและพระอุตตระ แสดงอภินิหาริย์ปราบนางผีเสื้อน้ำและทรงแสดงธรรมพรหมชาลสูตร (สูตรว่าด้วยข่ายอันประเสริฐ ประกอบด้วย ศีลน้อย ศีลกลาง และศีลใหญ่) นั่นคือการประพฤติตนอยู่ในสรณะและศีล มีคนทั้งหลายในสุวรรณภูมิประเทศนี้ได้บรรลุธรรมประมาณ 60,000 คน กุลบุตรออกบวชประมาณ 3,500 คน
 
พระอุตตระเถระ(หลวงปู่เทพโลกอุดร)

แสดงให้เห็นว่า พระโสณะและพระอุตตระ เป็นแบบอย่างของผู้ประพฤติอยู่ในสรณะและศีล จึงสามารถปราบพวกภูติผีปีศาจได้ และมีบทบาทสำคัญต่อการนับถือพระพุทธศาสนาของคนไทยก็คือ นิกายเถรวาท ซึ่งเป็นนิกายที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยให้ความนับถือจนถึงปัจจุบัน

ที่มา  http://mediacenter.mcu.ac.th/data/caipyo/m1/unit4/no33.php
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
VDO พระอุตตระและพระโสณะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 17, 2010, 08:47:43 pm »
0
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2010, 08:50:00 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
การสืบทอด "พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 17, 2010, 09:00:27 pm »
0
การสืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ

พระพุทธศาสนา ยุคต้นพุทธกาล
พระราหุลเถรเจ้า ทรงเป็นต้นสาย ต้นแบบ เป็นพระอาจารย์ใหญ่พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ  ประจำต้นยุคพุทธกาล

ยุคปลายพุทธกาล ถึงหลังพุทธกาลครั้ง ปฐมสังคายนา
พระราหุลเถรเจ้า พระองค์ท่าน ทรงมีสัทธิวิหาริกในครั้งพุทธกาล  พระองค์หนึ่งนามว่า  พระโกลิกะเถรเจ้า  เป็นผู้สืบพระกรรมฐานมัชฌิมา องค์ต่อมา พระโกลิกะเถรเจ้า ได้เข้าร่วมสังคายนา กับพระอรหันต์ ๕๐๐ รูป

ปฐมสังคายนา
ปรารภเรื่องพระสุภัททะภิกษุผู้บวชเมื่อแก่ กล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัย จึงปรารภที่จะทำให้พระธรรมวินัยรุ่งเรื่องสืบไป ครั้งนั้น พระมหากัสสปะเถรเจ้า เป็นประธาน และเป็นผู้ถาม พระอุบาลีเถรเจ้า เป็นผู้วิสัชนาพระวินัย พระอานนท์เถรเจ้า เป็นผู้วิสัชนาพระธรรม  ประชุมสังคายนาที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ภูเขาเวภารบรรพต เมืองราชคฤห์ หลังเข้าพุทธปรินิพพานได้ สามเดือน โดยพระเจ้าอชาติศัตรู ทรงเป็นศาสนูปถัมภพ สิ้นเวลา ๗ เดือนจึงแล้วเสร็จ

พระพุทธศาสนา ยุคหลังพุทธกาล ครั้งทุติยสังคายนา
พระมันลิกะเถระเจ้า เป็นพระอาจารย์ใหญ่พระกรรมฐานมัชฌิมา ประจำยุคหลังพุทธกาล ในดินแดนชมภูทวีป ท่านประสูติหลังพุทธกาลล่วงแล้วได้ ๒๙ พรรษา  บรรพชาอุปสมบทในสำนักพระโกลิกะเถรเจ้า ที่เมืองเวสาลี  ศึกษาพระกรรมฐาน แบบมัชฌิมาในสำนัก พระโกลิกะเถรเจ้าๆ ท่านเป็นสัทธิวิหาริก ของพระราหุลเถรเจ้า พระมันลิกะเถรเจ้า ท่านได้เข้าร่วมทุติยสังคายนา
 
ท่านนิพพานหลังพุทธกาลล่วงแล้วได้ ๑๑๔ ปี ชนมายุประมาณ ๘๕ พรรษา   หลังท่านนิพพานแล้วบารมีธรรมของท่านยังแผ่ไปอีก  ๕๐๐ ปี  โดยท่านเจริญอิทธิบาทภาวนา เข้าสุขสัญญา ลหุสัญญา อธิฐานกายทิพย์ดูแลรักษาพระศาสนา ต่อไปอีก ๕๐๐ ปี หลังเข้านิพพาน

ทุติยสังคายนา 
ปรารภเรื่องภิกษุวัชชีบุตร แสดงวัตถุ ๑๐ ประการนอกธรรมนอกวินัย พระยศกากัณฑกบุตร เป็นผู้ชักชวนให้พระอรหันต์ ๗๐๐ รูป ใน ๗๐๐ รูปนั้นมี พระมันลิกะเถรเจ้า รวมอยู่ด้วย พระเรวตะเป็นผู้ถาม พระสัพพกามี เป็นผู้วิสัชชนา ประชุมทำที่วาสิการาม เมืองเวสาลี เมื่อพุทธกาลล่วงแล้วได้ ๑๐๐ ปี โดยพระเจ้ากาลาโศกราช เป็นศาสนูปถัมภก ทำสิ้นเวลา ๘ เดือนจึงเสร็จ

พระมันลิกะเถรเจ้า  บอกพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ
ให้แก่สัทธิวิหาริกสืบต่อมา  คือ พระโสณกะเถรเจ้า

พระโสณกะเถรเจ้า  บอกพระกรรมฐานมัชฌิมา
ให้กับ  พระสิคควะเถรเจ้า และพระจัณฑวัชชีเถรเจ้า

พระสิคควะเถรเจ้า  บอกพระกรรมฐานมัชฌิมา
ให้กับ  พระโมคลีบุตรติสสะเถรเจ้า  และพระโสนันตะเถรเจ้า 
พระจัณฑวัชชี บอกพุทธพจน์ให้กับ พระโมคคัลลีบุตติสสะเถรเจ้า และพระโสนันตะเถรเจ้า
 
พระโมคลีบุตรติสสะเถรเจ้า  ขึ้นพระกรรมฐานมัชฌิมาให้กับ พระโสณเถรเจ้า  และพระอุตระเถรเจ้า และให้สอบอารมณ์กับ พระโสนัตตเถรเจ้า

ต่อมาพระโสณเถรเจ้า บอกพระกรรมฐานมัชฌิมาให้กับ พระชาลตะเถรเจ้า
พระกิตตระเถรเจ้า พระภูริยะเถรเจ้า

พระอุตระเถรเจ้า บอกกรรมฐานให้กับ พระญาณเถรเจ้า
 

พระมหาเถรทั้ง ๔ พระองค์ได้เข้าร่วม ตติยสังคายนา คือ
 ๑.พระโมคคัลลีบุตติสสะ ๒.พระโสนันตะเถร ๓.พระโสณเถร ๔.พระอุตรเถร

พระพุทธศาสนา ยุคหลังพุทธกาล ครั้งตติยสังคายนา
พุทธกาลล่วงแล้วได้ประมาณ  ๒๑๖ ปี  ก่อนตติยสังคายนา จึงหมดพระกรรมฐานแบบสันโดดคือ การเจริญพระกรรมฐานแบบกองใด กองหนึ่ง อย่างใด อย่างหนึ่ง ของพระมหาสาวกทั้งหลาย เหลือแต่พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ เป็นพระกรรมฐานทางสายกลาง  ของพระราหุลเถรเจ้า
 
เหตุที่เรียกพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เพราะเป็นพระกรรมฐานที่ไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ในพระสมถกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง และเรียนเป็นลำดับไปจนครบ ๔๐ กอง เป็นการรวบรวมเอาพระสมถะกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง และวิปัสสนาทั้งมวลไว้ในที่เดียวกัน

เพื่อไม่ให้พระสมถะกรรมฐาน ๔๐กอง และพระวิปัสสนาทั้งมวล แตกกระจายสูญหายไปในทางปฏิบัติ (คือไม่เหลือ แต่ตำรา) อีกทั้งไม่ให้ความสำคัญกับพระกรรมฐานกองใด กองหนึ่ง

พระกรรมฐานแบบมัชฌิมา แบบลำดับ อันเป็นของ พระผู้เป็นเอตทัคคะ เป็นเลิศทาง เป็นผู้ใคร่ในการศึกษา ศีล สมาธิ ปัญญา คือ พระราหุลเถรเจ้า

ตติยสังคายนา
ปรารภเดียรถีย์มากมาย ปลอมบวชในพระพุทธศาสนา เพราะมีลาภสักการะเกิดขึ้นมาก พระอรหันต์ ๑,๐๐๐ รูป   พระโมคคลีบุตรติสสะเถรเป็นประธาน ขณะนั้นพระชนมายุได้ ๑๑๘ พรรษา (ชนมายุ ๑๒๐ ปีจึงเข้านิพพาน)  ประชุมทำสังคายนากันที่อโศการาม เมืองปาฏลีบุตร ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๔ โดยพระเจ้าอโศกมหาราช หรือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภพ สิ้นเวลา ๙ เดือนจึงเสร็จ
 
พระโมคคลีบุตรติสสะเถรเจ้า  ประสูติในเรื่อนของ นางโมคคลีพราหมณ์  ได้นามว่า ติสสะมานพ ชนมายุได้ ๑๖ พรรษา พระสิคควะเถร นำติสสะมานพ ออกบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อเรียน พุทธมนต์  ติสสะมานพ บรรพชาแล้ว ได้บอกพระกรรมฐานมัชฌิมา เบื้องต้น  มีปีติทั้งห้า พระยุคลทั้งหก สุขสมาธิสองให้สามเณรติสสะ  เธอทำบริกรรม พุทโธ  ในห้องพุทธานุสสติกรรมฐานนั้นอยู่ ละสักกายทิฎฐิ ละความสงสัยพระรัตนไตร ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว

พระอาจารย์ คิดว่า ถ้าบอกพระกรรมฐานเพิ่มให้แก่สามเณรติสสะ  เธอจะมีความขวนขวายน้อย ในการที่จะเรียนเอา พุทธพจน์ 
พระสิคควะเถร จึงส่งสามเณรติสสะ ไปเรียนพุทธพจน์ จาก พระจัณฑวัชชีเถรเจ้า     ติสสะสามเณร ได้เรียนเอาพุทธพจน์นั้นทั้งหมด ยกเว้นวินัยปิฎก  อุปสมบทแล้วยังไม่ได้พรรษา  ทรงพระไตรปิฎก   

ครั้นพระอาจารย์ และอุปัชฌายะ นิพพานแล้ว ทรงเจริญกรรมฐานมัชฌิมาต่อจนจบตามลำดับ และบรรลุพระอรหันต์ และได้บอกพระกรรมฐานมัชฌิมา และพระพุทธพจน์ ธรรมวินัย แก่ภิกษุเป็นจำนวนมาก

พระโมคคลีบุตรติสสะ  เป็นพระอุปัชฌาย์ ของพระมหินท์เถรเจ้า  พระโสณเถรเจ้า  พระอุตรเถรเจ้า


พระเจ้าอโศก ส่งพระสงฆ์ไปเผยแผ่พระศาสนา
ท่านพระโมคคลีบุตรติสสเถรเจ้า ครั้นทำตติยสังคายนาเสร็จแล้ว จึงดำริว่า ต่อไปภายหน้าว่าพระศาสนาจะดำรงมั่น ณ ที่ใด ครั้นพิจารณาแล้วท่านก็ทราบด้วย  พระอนาคตังสญาณว่า พระศาสนาจะดำรงมั่นในปัจจันตชนบท ท่านจึงมอบให้ภิกษุเหล่านั้น ส่งท่านเหล่านั้นไปในรัฐนั้นๆคือ
 
๑.พระมัชฌัมติกเถร ไปกัสมีรคันธารรัฐ 
๒.,พระมหาเทวเถร ไป มหิสกมณฑล 
๓.พระรักขิตเถร ไปแคว้น วนวาสี   
๔.พระโยนกธรรมรัต ไปแคว้นอปรันตกะ
๕.พระมหาธรรมรักรัต ไปมหารัฐ
๖.พระมหารักขิตเถร ไปโยนกโลก 
๗.พระมัชฌิมเถร ไปหิมวันตประเทศ 
๘.พระมหินทเถร ไปลังกาทวีป
๙.พระโสณเถร พระอุตระเถร   ไปสุวรรณภูมิ

พระโมคคลีบุตรติสสเถรเจ้า ส่งพระโสณเถร พระอุตระ ไปสุวรรณภูมิ  แล้วสั่งว่า ผู้เป็นเจ้าผู้เจริญทั้งสอง เมื่อไปถึงสถานที่นั้นแล้ว จงประดิษฐานพระศาสนาในสุวรรณภูมินั้น
พระเถรเจ้าทั้งสองก็นมัสการ ลาพระโมคคัลลีบุตรติสสเถรเจ้า และพระภิกษุสงฆ์ แล้วออกมาจากที่ประชุมนั้น   คณะสงฆ์ที่จะไปดินแดน สุวรรณภูมิ มีพระเถรผู้ใหญ่ หรือพระเถรองค์ใหญ่ ๕ รูป คือ
 
๑.พระโสณเถรเจ้า 
๒.พระอุตระเถรเจ้า
๓.พระชาลตะเถรเจ้า
๔.พระกิตตระเถรเจ้า
๕.พระภูริยะเถรเจ้า  และพระสงฆ์สัทธิวิหาริก พระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้าอีก ๗ รูป คือ
 
๑. พระญาณเถร
๒. พระณิชาเถร
๓.พระปฐวีเถร 
๔.พระชาตเถร
๕.พระติสสะเถร 
๖. พระปาโสเถร
๗. พระเตชิตะเถร  รวม ๑๒ รูป

หลังตติยสังคายนาแล้ว ไม่นาน คณะของพระโสณเถร พระอุตระเถระ จึงเดินทางออกจาก อโศการามมหาวิหาร เมืองปาฎลีบุตร กรุงราชคฤห์ ในชมพูทวีป มาแวะที่เกาะลังกาก่อน ในสมัยพระเจ้ากุฎสีวะเทวะ  คณะของพระโสณเถรเจ้า ล่วงหน้ามาก่อน คณะของพระมหินทเถรเจ้า

คณะของพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า อยู่เกาะลังกานั้น ได้บอกพระกรรมฐานมัชฌิมา ให้กับ พระจิตตกะเถรเจ้า กาลต่อมาพระจิตตกะเถรเจ้า  เป็นอาจารย์บอกพระกรรมฐานมัชฌิมาให้กับ พระอุบาลีเถรเจ้า แห่งเกาะลังกา

อ้างอิง
ตำนานสืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ของพระราหุลเถรเจ้า
วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร(พลับ)




คุณครูอริสาครับ ผมแนบไฟล์หนังสือ"ตำนานสืบทอดพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ"

ที่ใช้อ้างอิงมาให้ ผมนำมาจากเว็บสมเด็จสุก หวังว่าคงถูกใจไม่มากก็น้อย

 ;) :49: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2010, 09:06:21 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

axe

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 187
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ที่ไปทั่วโลก มีกี่สาย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 08:30:24 am »
0
อนุโมทนาสาธุ ครับ

ได้ประโยชน์จริง ๆๆ
 :25:


บันทึกการเข้า
หนุ่มหล่อ ใจดี AXE

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: สายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ที่ไปทั่วโลก มีกี่สาย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 08:37:02 am »
0
อนุโมทนา กับเรื่องนี้ เพราะมีประวัติตำนานการสืบทอด

พระกรรมฐาน ที่พระอาจารย์ต่อพระอาจารย์ บันทึกส่งกันมาไว้เป็นทอด ๆ

จนถึงปัจจุบัน

เจริญพร

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ban

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 117
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: สายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ที่ไปทั่วโลก มีกี่สาย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2011, 09:24:31 pm »
0
ผมเคยฟังพระอาจารย์เคยกล่าวถึงประวัติ พระปฐมเจดีย์ และ คัมภีร์ศิลาจาึรึก กระเบื้องจาร
มีประวัติที่น่าสนใจมากครับ

อ่านซ้ำวันนี้รู้สึกเข้าใจ เรื่องเพิ่มขึ้นอีกครับ

 :s_hi:
บันทึกการเข้า