๗ มหาราชของชาติไทย
การที่ควรปฏิบัติและมิควรปฏิบัติ ของ องค์พระมหากษัตริย์.! อย่าเสวยผลไม้ที่มีต้นและผลดำ.!!จากหนังสือ “บรมราชาภิเษก” ศึกษาค้นคว้าโดย นางณัฏฐภัทร จันทวิช ซึ่งบริษัท รุ่งอรุณ พับลิชชิ่ง จำกัด จัดพิมพ์เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ ในบทสรุปวิเคราะห์มีข้อความที่น่าสนใจเกี่ยวกับคติความเชื่อดั้งเดิมของคนไทย ที่กำหนดข้อควรและไม่สมควรที่พระเจ้าอยู่หัวจะพึงปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้พระองค์มีความเจริญรุ่งเรือง ประกอบด้วยฤทธานุภาพและตบะอันสูง ในหัวข้อ “การที่ควรปฏิบัติและมิควรปฏิบัติขององค์พระมหากษัตริย์”
@@@@@@
ข้อควรปฏิบัติและยึดถือ มี ๙ ประการ คือ
๑. เมื่อจะเสวยพระกระยาหาร ประทับหันพระพักตร์ไปทางตะวันออก
๒. ให้เสวยปลาที่มีรสโอชา
๓. ให้เสวยผลไม้ที่มีรสหวาน
๔. ให้ดมกลิ่นดอกไม้อันหอม
๕. ให้สรง (อาบน้ำ) ระหว่างเวลาเที่ยง
๖. ให้ลูบไล้พระวรกายด้วยเครื่องหอม
๗. เมื่อจะบรรทมให้บ่ายพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก
๘. เมื่อตื่นพระบรรทมแล้วให้สรงพระพักตร์ด้วยน้ำสังข์ และน้ำที่มีกลิ่นหอม และให้หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก
๙. ให้ทรงพระภูษาเนื้อละเอียด
@@@@@@
ส่วนการที่มิควรปฏิบัติสำหรับพระมหากษัตริย์ มี ๑๐ ประการ คือ
๑. อย่าทอดพระเนตรดูแสงพระอาทิตย์
๒. อย่าบรรทมตื่นสายจนแสงพระอาทิตย์ขึ้น
๓. อย่าเสวยพระกระยาหารในเวลาบ่ายถึงยามหนึ่ง
๔. อย่าเสวยผลไม้ที่มีต้นและผลดำ
๕. อย่าเสวยน้ำที่มีมันตมและห้วยหนอง
๖. อย่าเสวยเนื้อปลาที่คาวและไม่มีมัน
๗. อย่าเสวยพระโอสถที่หมอปรุงขึ้นในที่มิชอบ
๘. อย่าเสวยสิ่งที่ต้องขบ ต้องกัด
๙. อย่าเสพกามคุณด้วยสตรีที่มีอายุ ๔๐-๕๐ ปี
๑๐. อย่าทรงพระภูษาเนื้อหยาบ
@@@@@@
นอกจากนี้ พระองค์ยังต้องทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจที่สำคัญๆ เรียกว่า “จักรวรรดิวัตร” ซึ่งมีอยู่ ๕ ประการ คือ
๑. ธรรมาธิปไตย ถือธรรมเป็นใหญ่ เคารพและเชิดชูธรรม ตั้งตนอยู่ในธรรม
๒. ธรรมิการักขา ให้ความคุ้มครองโดยธรรม ด้วยการรักษาคุ้มครองป้องกันอันชอบธรรม แก่ชนทุกหมู่เหล่าในแผ่นดิน
๓. อธรรมการ คือจัดการป้องกันแก้ไขมิให้มีการกระทำที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมือง
๔. ธนานุประทาน แบ่งปันทรัพย์เฉลี่ยให้แก่ผู้ยากไร้ ด้วยการจัดให้ราษฎรมีการหาเลี้ยงชีพพึ่งตนเองได้
๕. ปริปุจฉา คือการมีที่ปรึกษาที่ทรงวิชาการ ทรงคุณธรรม เป็นผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบ ที่จะช่วยให้เจริญปัญญาและกุศลธรรม
@@@@@@
นอกจากนี้แล้ว องค์พระมหากษัตริย์ยังต้องทรงประกอบราชสังคหะ คือต้องทำนุประชาราษฎร์ด้วยหลักธรรมที่เรียกว่า “ราชสังคหวัตถุ” ทั้งยังต้องเป็นผู้ละเว้นอคติทั้งปวงด้วย
สำหรับ ราชสังคหวัตถุ มี ๔ ประการ คือ
๑. สัสสะเมธังฉลาดที่จะบำรุงธัญญาหาร
๒. วาจาเปยะมีวาทะดูดดื่มใจ
๓. ปุริสเมธังฉลาดสงเคราะห์บุรุษ
๔. สัมมาปาสังสามารถผูกน้ำใจมนุษย์ให้นิยมยินดี
@@@@@@
สำหรับ อคติต่างๆ ที่ต้องละเว้น มี ๔ ประการ คือ
๑. ฉันทาคติลำเอียงเพราะชอบ
๒. โทสาคติลำเอียงเพราะชัง
๓. ภยาคติลำเอียงเพราะขลาดกลัว
๔. โมหาคติลำเอียงเพราะหลงหรือเขลา
@@@@@@
ธรรมดังกล่าวเหล่านี้ เป็นธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า เป็นธรรมที่องค์พระมหากษัตริย์หรือผู้นำรัฐพึงกระทำ ซึ่งก็นับว่าเป็นการยากยิ่งที่บุคคลธรรมดาจะปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็นับว่าเป็นบุญของประชาชนชาวไทย ที่มีองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมนี้มาตลอด ทำให้ชาติไทยมีความร่มเย็น สุขสงบ และเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับขอบคุณที่มา :
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000035831เผยแพร่ : 15 เม.ย. 2562 11:11, โดย : โรม บุนนาค