ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ อยู่ครับ  (อ่าน 1883 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 อนุโมทนา กับท่านที่ปฏิบัติกรรมฐาน กันทุกท่านครับ แม้จะไม่ค่อยมีเวลาแต่ ผมก็พยายามหาโอกาสปฏิบัติธรรมกรรมฐาน อยู่ครับ แต่ไม่ค่อยจะก้าวหน้าเลย ไปล่าสุด หลวงพ่อท่านให้ฝึก อานาปานสติ ครับ


 :49: st11 st12
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ อยู่ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2013, 06:47:21 am »
0
ชีวิตที่ดำเนินไปทุกวี่ทุกวันเดี๋ยวเช้าเดี๋ยวมืดแข่งขันกับเวลาเหน็ดเหนื่อยล้าหน่ายทั้งกายและใจ โดยเฉพาะใจที่แต่ละวันต้องอดทนอดกลั้นกับยิ่งยั่วยุทั้งที่เห็นได้ยินต่างๆนานาจนบางครั้งก็ให้นึกรู้สึกว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด สิ่งที่เรียกว่าความสุขมันอยู่ไหน ชีวิตเบื่อเบื่ออยากอยากบ้างก็สู้บ้างก็ท้อมีชีวิตมีลมหายใจที่ทุกวันเสมือนขาดทุนมันว่างเปล่าเพียงเพราะเราซึ้งถึงคำคำเดียวคือ "เห็นแก่ตัว" ของสังคม ค คน ใจที่ล้าเหนื่อยเกินกว่าจะไปคิดเอาคืนเคืองขืนเอากำไลกับใคร ที่สุดก็หยุดลงตรงหน้าโต๊ะหมู่กราบขมาสวดมนต์ให้ตัวเอง ภาวนานั่งนับพุทโธให้ใจคลายวางว่างกับความคิดมีสติตอบใจตัวเองได้ว่า เกิดมาทำไม
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ปฏิบัติกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ อยู่ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2013, 01:16:44 am »
0
ความก้าวหน้าไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องมีอะไร ต้องได้อะไร
ความก้าวหน้าที่ต้องมี ต้องได้นั้น มันไม่ใช่ทางที่ตถาคตตรัสสอน

ความเห็นอยู่ในกาย เห็นอยู่ในใจ ไม่เข้าไปยุ่งหรือเสพย์ใน สังขาร และ ธรรมมารมณ์ ใดๆ สักแต่เป้นผู้รู้ ผู้แลดูอยู่เท่านั้น นั่นคือการปฏิบัติที่ตถาคตตรัสสอนเรื่องอบรมกายและใจ

เมื่อไรที่คุณมีจิตเป็นกุศล เมื่อคิดก็เป็นกุศล เมื่อพูดก็เป็นกุศล เมื่อทำก็เป็นกุศล จนถึงความปล่อยวางดับจากกาม ราคะ โทสะ โมหะทั้งหลาย สิ่งนี้แหละคือหัวใจและผลที่ได้รับจากการฝึกที่แท้จริงครับ ทีนี้ลองดูในชีวิตประจำวันนะครับว่าคุณสงบรำงับกิเลสนั้นๆได้ไหม มีความคิด พูด ทำที่เป็นกุศลมากเพียงไร มีศีลและพรหมวิหาร๔ ไหมในแต่ละวัน คุณสามารถทรงธรรมใน สติ ศีล และ พรหมวิหาร๔ ได้มากเพียงไร รู้จักอด รู้จักละ รู้จักปล่อย รู้จักวางได้มากแค่ไหน ทำได้มากเท่าไหร่โดยที่ไม่ขุ่นมัวขัดเคืองใจตน คุณก็ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น

รู้ไหมพระอาจารย์ท่านสอนเอกแห่งกรรมฐานให้นั่นคือ สมหายใจนี้แหละ หากรู้ลมหายใจแล้ว จะไปสติปัฏฐานก็ได้ จะไปสัมโพชฌงค์ก็ได้ ถึงความหลุดพ้นได้ง่าย ขอให้อย่าทิ้งความเพียรนะครับ ยอฝห้เจริญในธรรมครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ