สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

พระไตรปิฏก => พระธรรมตามพระไตรปิฏก => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 26, 2015, 09:53:35 am



หัวข้อ: แม้อยู่ในครรภ์..ก็เข้าถึงไตรสรณคมน์ได้
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 26, 2015, 09:53:35 am

(https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/428132_258420570906071_1891236893_n.jpg?oh=4e57fe6c4bfd0d29e02ba17a4a17a603&oe=56A622C7)


องค์ของภิกษุผู้มีความเพียร ๕

     [๕๑๘] ดูกรราชกุมาร องค์ของภิกษุผู้มีความเพียร ๕ เหล่านี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.

     องค์ของภิกษุผู้มีความเพียร ๕ เป็นไฉน.?
             
     ๑. ดูกรราชกุมาร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม.
     ๒. เธอเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง ประกอบด้วยไฟธาตุสำหรับย่อยอาหารสม่ำเสมอ ไม่เย็นนัก ไม่ร้อนนัก เป็นปานกลางควรแก่ความเพียร.
     ๓. เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมายา เปิดเผยตนตามความเป็นจริง ในพระศาสดาหรือในเพื่อนพรหมจรรย์ผู้เป็นวิญญูทั้งหลาย.
     ๔. เธอเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรมให้เข้าถึงพร้อมเป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย.
     ๕. เธอเป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้ประกอบด้วยปัญญาอันเห็นความเกิดและดับเป็นอริยะสามารถชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ.
     ดูกรราชกุมาร องค์ของภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้แล



(https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/425474_258421084239353_1588791562_n.jpg?oh=fd99a5d9224d4fd3ac54ae80e1a23bb8&oe=569D61B8)


ผู้มีความเพียรทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์ได้ภายใน ๑ วัน ช้าที่สุด ๗ ปี
     
      ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้แล เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ พึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ที่กุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันแล้วเข้าถึงอยู่ได้ [ใช้เวลาเพียง] เจ็ดปี.

     ดูกรราชกุมาร เจ็ดปีจงยกไว้.
     ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้ เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ พึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า ที่กุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่ได้. [ใช้เวลาเพียง] หกปี ...ห้าปี ... สี่ปี ... สามปี ... สองปี ... หนึ่งปี.

     ดูกรราชกุมาร หนึ่งปีจงยกไว้.
     ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้ เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ พึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า ที่กุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่ได้ [ใช้เวลาเพียง] เจ็ดเดือน.

    ดูกรราชกุมาร เจ็ดเดือนจงยกไว้.
    ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้ เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำพึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ที่กุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่ได้ [ใช้เวลาเพียง]หกเดือน ... ห้าเดือน ... สี่เดือน ... สามเดือน ... สองเดือน ... หนึ่งเดือน.

     ดูกรราชกุมาร ครึ่งเดือนจงยกไว้.
     ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้ เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำพึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า ที่กุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่ได้ [ใช้เวลาเพียง] เจ็ดคืนเจ็ดวัน.

     ดูกรราชกุมาร เจ็ดคืนเจ็ดวันจงยกไว้.
     ภิกษุประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร๕ ประการนี้  เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ พึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า ที่กุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่ได้ [ใช้เวลาเพียง] หกคืนหกวัน ... ห้าคืนห้าวัน ... สี่คืนสี่วัน ... สามคืนสามวัน ... สองคืนสองวัน ... หนึ่งคืนหนึ่งวัน.

     ดูกรราชกุมาร หนึ่งคืนหนึ่งวันจงยกไว้.
     ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งภิกษุผู้มีความเพียร ๕ ประการนี้ เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ ตถาคตสั่งสอนในเวลาเย็น จักบรรลุคุณวิเศษได้ในเวลาเช้า ตถาคตสั่งสอนในเวลาเช้า จักบรรลุคุณวิเศษได้ในเวลาเย็น.



(https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/64183_258420604239401_770815619_n.jpg?oh=b253474419b77ae630dea6e01f68da45&oe=56A7CF7B)


พระโพธิราชกุมารถึงสรณคมน์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

     เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว โพธิราชกุมารได้กราบทูลว่า
     พระพุทธเจ้ามีพระคุณเป็นอัศจรรย์ พระธรรมมีพระคุณเป็นอัศจรรย์ พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้วเป็นอัศจรรย์ เพราะภิกษุที่พระผู้มีพระภาคทรงสั่งสอนในเวลาเย็น จักบรรลุคุณวิเศษได้ในเวลาเช้า ที่พระผู้มีพระภาคทรงสั่งสอนในเวลาเช้า จักบรรลุคุณวิเศษได้ในเวลาเย็น.

     [๕๑๙] เมื่อโพธิราชกุมารตรัสอย่างนี้แล้ว มาณพสัญชิกาบุตรได้ทูลโพธิราชกุมารว่า
     ก็ท่านโพธิราชกุมารองค์นี้ ทรงประกาศไว้ว่า พระพุทธเจ้ามีพระคุณเป็นอัศจรรย์ พระธรรมมีพระคุณเป็นอัศจรรย์ พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้วเป็นอัศจรรย์อย่างนี้เท่านั้น ก็แต่ท่านหาได้ทรงถึงพระโคดมผู้เจริญพระองค์นั้น พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสมณะไม่.


      st11 st11 st11 st11

     [๕๒๐] โพธิราชกุมารตรัสว่า
     ดูกรเพื่อนสัญชิกาบุตร ท่านอย่าได้กล่าวอย่างนั้น
     ดูกรเพื่อนสัญชิกาบุตร ท่านอย่าได้กล่าวอย่างนั้น

     ดูกรสัญชิกาบุตร เรื่องนั้นเราได้ฟังมาได้รับมาต่อหน้าเจ้าแม่ของเราแล้ว คือ
     ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โฆสิตารามใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้น เจ้าแม่ของเรากำลังทรงครรภ์ เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า     
     "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลูกคนอยู่ในครรภ์ของหม่อมฉันนี้ เป็นชายก็ตาม เป็นหญิงก็ตาม เขาย่อมถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคทรงจำเขาว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"

     ดูกรเพื่อนสัญชิกาบุตร ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในป่าเภสกลามิคทายวัน ใกล้เมืองสุงสุมารคิระ ในภัคคชนบทนี้แลครั้งนั้น แม่นมอุ้มเราเข้าสะเอวพาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า
     "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โพธิราชกุมารพระองค์นี้ ย่อมถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำโพธิราชกุมารนั้น ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"

     ดูกรเพื่อนสัญชิกาบุตร เรานี้ย่อมถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ แม้ในครั้งที่สามขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำหม่อมฉันว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉะนี้แล.


อ้างอิง :-
เรื่องโพธิราชกุมาร โพธิราชกุมารสูตร
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=7663&Z=8236 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=7663&Z=8236)


หัวข้อ: Re: แม้อยู่ในครรภ์..ก็เข้าถึงไตรสรณคมน์ได้
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กันยายน 26, 2015, 11:22:07 am
มีบุรุษแม้มากถือกำเนิดแล้ว มารดาเลี้ยงได้ยาก อาศัยที่มารดาหย่อนก้อนข้าวแล้วในบาตรผู้ขอ(ภิกษุ) ได้ขอเศษส่วนอันประเสริฐนั้นแล้วแม้เพียงหยิบมือหนึ่งป้อนสู่ปากบุตรอันมารดาเลี้ยงได้ยากย่อมถึงซึ่งความเจริญในวัย ดังนี้เยื่องนี้แม้กระผม(ธุลีธวัช)ก็เยื่องอย่างนั้น ...... แล


หัวข้อ: Re: แม้อยู่ในครรภ์..ก็เข้าถึงไตรสรณคมน์ได้
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มีนาคม 08, 2016, 08:41:56 am

   สาธุ ครับ