หัวข้อ: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 08:04:54 pm :s_hi:
เป็นอันตรายอะไรไหมคะฝึกอานาปานสติ อยู่ๆก็รู้สึกว่าไม่หายใจ ไม่ได้กลั่นใจนะคะ แต่อยู่ๆมันเบา ๆ ๆ แล้วก็ไม่รู้สึกว่าไม่หายใจอีกเลย แรกๆพยายามกลับมาหายใจอีกครั้ง สักพักก็หายไปอีกแล้ว เป็นแบบนี้อยู่ 3 วันได้แล้วค่ะ ก็พยายามตามรู้นะคะว่าก่อนรู้สึกว่าไม่หายใจ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็รู้ครบดีอยู่ สติดีครบอยู่ แต่ลมหายใจหาย แต่ไม่ยักกะตายแหะ แปลกดีเหมือนกัน พอไม่ไปใส่ใจมันไปสักพัก มันก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดียินร้ายกับมันเพราะผ่านมาวันที่สามแล้วก็ไม่ยักกะตาย ที่กังวลคือ ทำผิดวิธีผิดขั้นตอนหรือเปล่า แล้วมันจะเป็นอันตราย ต่อระบบทางเดินหายใจไหมคะถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพิ่งเริ่มฝึกจริงจัง แนะนำด้วยค่ะ :25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: poepun ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 09:52:36 pm ไม่เป็นอันตราย ครับ ยิ่งฝึกได้อย่างนี้แสดงว่า ลมหายใจ ปกติแล้วครับ
แต่ที่นี้ต้องพิจารณาตามขั้นตอน นะครับ เพราะของคุณอยู่ ขั้นที่ 4 ระงับกายสังขารหายใจเข้า หายใจออก การกำหนดรู้ลมหายใจเปลี่ยนแล้วนะครับ ต่อไปต้องกำหนดปีติ หายใจเข้า และ หายใจออก ปีติ คือ ความยินดีที่ระงัึบกายสังขารได้ นะครับ ถ้าไม่มีก็แสดงว่า คุณกำลังเข้าสู่ อทุกขมสุขเวทนา คือวางอารมณ์เป็นกลางเฉย ๆเท่านั้นอันนี้มีประโยชน์ในการ พักผ่อนครับ แต่ไม่มีประโยชน์ในการดับกิเลสครับ อนุโมทนาด้วยครับ :25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: poepun ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 09:56:56 pm อ่านตั้งแต่ข้อที่สี่เลยนะครับ ผมนำเสนอไว้แล้วบางส่วนครับ
เรื่องรวม ๆ เกี่ยวกับสมาธิ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2889.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2889.0) ถ้าจะให้แน่น ก็ขอรับหนังสือจากพระอาจารย์สนธยา เล่มล่าสุดครับ เล่มนี้มีประโยชน์ในการฝึก อานาปานสติ มาก ๆ ครับ หรือไม่ก็ไปอ่านที่นี่ก่อนนะครับ อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค เพื่อการภาวนา http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=811.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=811.0) หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2011, 11:47:17 am ขอบคุณค่ะแล้วจะ ปฎิบัติตาม
:25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:57:05 pm ไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องไปสนใจ ควรเอาจิตรจดจ่ออยู่กับการงาน พระกรรมฐานก็จะก้าวหน้าไปเอง
หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2011, 06:58:52 pm ไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องไปสนใจ ควรเอาจิตรจดจ่ออยู่กับการงาน พระกรรมฐานก็จะก้าวหน้าไปเอง ควรเอาจิตรจดจ่ออยู่กับการงาน พระกรรมฐานก็จะก้าวหน้าไปเอง ไม่เข้าใจคำนี้คะ ช่วยขยายความใ้ห้หน่อย หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2011, 07:22:36 pm มีไฟล์แนบสมัยที่พระอาจารย์ฝึก สมาธิใหม่ ๆ
แบบเริ่มต้น พอจะเป็นแนวทางได้บ้าง คำแนะนำในการสร้างสมาธิ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=78.msg4163#msg4163 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=78.msg4163#msg4163) หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 04:20:16 am ฝึกแล้วไม่หายใจ ก็ต้องตายสิคะ
ทำไมไม่ตาย แสดงว่ายังหายใจอยู่ ใช่หรือไม่คะ :s_hi: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 05:38:19 am ฝึกแล้วไม่หายใจ ก็ต้องตายสิคะ รบกวนท่านผู้รู้ท่านนี้ อรรถาธิบาย ให้ฟังหน่อยค่ะเมื่อปฎิบัติจนถึงขั้นที่จับลมหายใจไม่ได้แล้ว ทำยังไงต่อ :96: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: samapol ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 05:54:52 am ระงับกายสังขาร ก็คือ หยุดนิ่งการปรุงแต่งทางกาย
กาย ก็ได้แ่ก่ ลมหายใจเข้า หายใจออก ลมหายใจหมด ก็ไม่ใช่ เพราะ ลมหายใจ เป็นสิ่งที่เรียกว่า กาย ที่จริงแล้วลำดับ น่าจะเกิดปีติ ต่อ แต่เป็นเพราะไม่มีนิมิตเกิด ปีติ ก็ยังไม่เกิด สุข ก็ยังไม่เกิด ผมว่าที่สำคัญอยู่ที่นิมิต คือ ลมหายใจเข้า หายใจออก จะมีนิมิตอยู่ประมาณ 9 - 10 อย่าง เช่น เกิดดังเมฆหมอก เกิดเห็นดังสำลี เกิดดังธารน้ำ เป็นต้น นิมิตควรจะมี ก็ตั้งแต่ อุคคหนิมิต ถ้านิมิตไม่เกิด ลมหายใจมีความรู้สึกว่าดับ ขั้นนี้กล่าวว่าเป็น ฌาน 4 เชียวนะ แต่การจะได้ ฌาน 4 โดยไม่เกิด ปีติ และ สุข เป็นไปไม่ได้ เพราะ ปฐมฌาน ประกอบด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข ก่อนจะ เอกัคคตา ส่วน ฌาน 4 ที่กล่าวว่า ลมหายใจหยุด คือ ไม่มีลมนั้น เป็น เอกัคคตา การปฏิบัติ ฌาน 4 โดยไม่ผ่าน ฌานอื่น ๆ เป็นไปไม่ได้ เพราะสภาวะ เกิดตามลำดับ จะเร็ว จะช้า ก็ต้องเกิด อนุโมทนาด้วยครับ ขอให้ตั้งใจฝึกต่อไปครับ :13: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: สถาพร ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 06:18:58 am แท้ที่จริง คือการเข้าถึง กาย คือ ลมหายใจเข้า ออก
เวทนา คือ ลมหายใจเข้า ออก จิต คือ ลมหายใจเข้า ออก ธรรม คือ ลมหายใจเเย้า ออก นิพพาน คือ พ้นจากลมหาย ใจ เข้า ออก :25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:10:39 am ระงับกายสังขาร ก็คือ หยุดนิ่งการปรุงแต่งทางกาย ขอบคุณท่านผู้รู้ที่อนุเคราะห์ค่ะ ตามที่ได้อ่านของท่านที่กล่้าวมา ด้วยความที่ขาพเจ้าเป็นผู้ใหม่ในด้านนี้อาจไม่เข้าใจ ศัพบางคำ จริงของไล่เรียงเลยนะคะ ข้าพเจ้าได้เริ่มปฎิบัิติด้วยวิูีธี ดูลมหายใจ ไม่ได้ใช้คำบริกรรมใดใด เริ่มตั้งใจมั่นว่าจะดูลม ได้กระทำตามความตั้งใจดูลม เกิดอาการตัวพองยืด เมื่อตัวพองยืดหมดไป รู้สึก happyแบบเย็นๆ สบาย บอกไม่ถูก หลังจากนั้นรู้สึกว่าเสียงหลานข้างบ้านที่ร้องก็ไม่รบกวนอารมเราแล้ว คงหมายถึงได้ยินเสียงแต่เสียงไม่มีผลต่ออารมณ์มั้งคะ รู้สึกเป็นสมาธิแล้วไม่ฟุ้งซ่านเหมือน ตอนทำแรกๆ หลังจากนั้นไม่ต้องตั้งใจดูลมแล้วมันดูของมันเองโดยอัตโนมัติ เกิดอาการตัวพองอีกแต่เบาบาง และผ่านอาการนี้เร็วมาก happy มาอีกแล้วแต่รู้สึก สบายกว่าคราวแรกก่อน แล้วรู้สึกทรงในอารมสงบได้ดีกว่า ตอนช่วงแรก สักพักรู้สึก Happy ลั้นลา หนักกว่าเดิมอีก มันประมาณว่ามันสุขเยือกเย็น มีแต่ความสบาย ๆ ลมหายใจเบาลงมาก หูที่เหมือนไม่ได้ยินเสียงภายนอก ถึงเสียงหลานร้องดังมาก ๆ เราได้ยินเหมือนกันแต่เบามาก มีการทรงตัวแบบแน่นสนิท ต่อมาซักระยะเหมือนมัน happy จนเต็มอิ่มแล้วมันก็ไม่อยากจะ happy พอเราจะพยายามกลับไป Happy อีกมันก็เหมือนเลี่ยน ไม่เอาแล้ว เหมืือนกินของอร่อยมากๆแล้วมันอิ่้มเลี่ยนกินต่อไม่ได้ ตอนนี้ละที่รู้สึกว่า ไม่มีลมหายใจมันไม่มีตั้งแต่ตอนไหน ก็ไม่รู้มารู้อีกทีตอนไม่อยาก happy แล้วละ ทีีนี้ไม่รู้จะรู้อะไรมันก็เลย เฉยๆไม่ใส่ใจกับใดๆ อันนี้น่าจะเป็นอุเบกขา ประมาณนี้ค่ะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่มี นางฟ้า เทวดาโพล่มาซักองค์ แม่แต่แสงวุบวาบที่เคยอ่านเจอก็ไม่มีเลย เอ..หรือเราบุญน้อยเลยไม่เห็น รบกวนท่านผู้รู้ชีแนะด้วยค่ะ ข้าพเจ้ามือใหม่ :) หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: ครูนภา ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:16:25 am เรียนมาจากใคร น่าสนใจคะ มีวิธีการดูลมอย่างไรคะ ตอนที่ทำใช้เวลาประมาณเท่าใดคะ หลัีงจากออกจากการดู
ลมแล้ว ที่เรียกว่า อุเบกขา แล้วออกมาดำเนินกิจกรรมอะไรต่อคะ เคยดูลมติดต่อ ถึง 24 ชม.หรือยังคะ :25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:24:08 am อ้างถึง สักพักรู้สึก Happy ลั้นลา หนักกว่าเดิมอีก มันประมาณว่ามันสุขเยือกเย็น มีแต่ความสบาย ๆ ลมหายใจเบาลงมาก happy ลั้นลา ที่เป็นสุขเยือกเย็น นี้ กำหนดอย่างไรคะ ในลมหายใจคะ อ้างถึง happy พอเราจะพยายามกลับไป Happy อีกมันก็เหมือนเลี่ยน ไม่เอาแล้ว เหมืือนกินของอร่อยมากๆแล้วมันอิ่้มเลี่ยนกินต่อไม่ได้ ตอนนี้ละที่รู้สึกว่า ไม่มีลมหายใจมันไม่มีตั้งแต่ตอนไหน ก็ไม่รู้มารู้อีกทีตอนไม่อยาก happy แล้วละ ทีีนี้ไม่รู้จะรู้อะไรมันก็เลย เฉยๆไม่ใส่ใจกับใดๆ อันนี้เป็นอุเบกขา ปกติเมื่อจิตเข้าสู่สถานะ ความสุขสมาธิ จิตรวมเป็นหนึ่งเดียว ด้วยเรื่องเดียว ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำัดับ จัดเป็นสุขสมาธิ ซึ่งมีวิธีการกำหนดเรื่องสุข ๆ ไม่ใช่เรืื่องที่เลี่ยน หรือ เบื่อได้ ง่ายถ้าไม่เจริญธรรมลงไป จะให้อิ่มเหมือนอาหารนั้นไม่ได้ เพราะอาหารหล่อเลี้ยงกาย ๆ มีขอบเขต ส่วนจิตนั้น ไม่มีขอบเขต ไม่มีความกว้าง หรือ มาตรฐาน เหมือนกายดังนั้นสุข ไม่สามารถที่จะเลี่ยนได้เหมือนอาหาร คือจะ เกิดความเบื่อหน่ายต่อสุข ได้นั้นไม่ใช่ิวิสัยของบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้กำหนด วิปัสสนา ไปในกาย แต่น่าสนใจ เล่าต่ออีกสิคะ ว่าหลังจากเข้าอุเบกขา แล้วเป็นยังไงต่อในสามวันนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะคะ สาธุ :25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: สมภพ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:29:27 am และตั้งใจ จะทำอะไร ต่อไปครับ หลังจากได้อุเบกขาครับ
ความเข้าใจในชีิวิต มีว่าอย่างไรครับ คืออยากทราบว่า ปณิธาน ความรู้สึกในการภาวนา อันเป็นผล ภาวนา นี้ตั้งใจจะทำอะไรต่อไปในการภาวนา ครับ ? :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: สาวิตรี ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:31:20 am อยากทราบวิธีการฝึกนี้ เรียนมาจากไหน ครับบอกได้หรือไม่คะ ?
วิธีขั้นตอน ตอนที่กำหนดลมหายใจ เข้า ออก ในระหว่างที่ไม่มีบริกรรมนั้น ทำอย่างไรบ้างคะ ? สนใจคะ :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:41:08 am เรียนมาจากใคร น่าสนใจคะ มีวิธีการดูลมอย่างไรคะ ตอนที่ทำใช้เวลาประมาณเท่าใดคะ หลัีงจากออกจากการดู ขอตอบเป็นข้อๆนะคะ 1.เรียนมาจากใคร - ฝึกตามพระพี่ชายค่ะ แต่ตอนนี้ท่านไม่ได้ติดต่อมาเลยรู้ครั้งสุดท้ายไปอยู่วัดแถวภาคอิสาน 2.มีวิธีการดูลมอย่างไรคะ - พระพี่ชายท่านสอนให้ดูลมเฉยๆเลย รู้ว่าเข้า รู้ว่าออก ไม่ต้องใช้คำบริกรรมท่านบอกว่า พุทธเจ้าไม่ได้สอนบริกรรมขณะดูลม ถ้าฟู้งก็ดึงเข้ามาดูลมใหม่ ดูให้รู้ว่าอะไรเกิดอะไรดับ ถ้าเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ ก็ให้รู้อารมณ์ รู้ทันความคิด รู้เย็นร้อนอ่อนแข็ง และจับความรู้สึกร่างกาย รู้ให้ทันว่าเกิดดับอะไรตอนไหน ท่านบอกว่านี่ละเดินจงกรม ถ้าเวลาไม่รู้จะรู้อะไรก็ให้รู้ลม อย่าหลงลืมลม หน้าทีของเรามีแค่นี้ ไม่ต้องไปโกรธตัวเองถ้าทำไม่ได้มันเป็นธรรมชาติของจิต ทำไปเรื่่อยๆ ไม่ต้องสงสัยถึงเวลาจะรู้เอง แล้วท่านก็จากไปไม่ติดต่อกลับมาเลย 3.ตอนที่ทำใช้เวลาประมาณเท่าใดคะ -ทำมาเรื่อยๆค่ะ 3-4 ปีละแต่ไม่ได้จริงจังอะไรทำมั่งลืมมั่ง เพิ่งมาจริงจังตอนคุณลุงเสียเมื่อ 3-4เดือนก่อน 4.หลัีงจากออกจากการดู ลมแล้ว ที่เรียกว่า อุเบกขา แล้วออกมาดำเนินกิจกรรมอะไรต่อคะ -หลังจากเลิกทำก็ ใช้ชีวิตปกติค่ะ แต่มันไม่ค่อยอยากคุยกับใคร จะต้องทิ้งเวลาซักพักใหญ่ๆ ถึงจะเม้าซี้ได้ปกติค่ะ 5.เคยดูลมติดต่อ ถึง 24 ชม.หรือยังคะ -ใช้เวลานานสุดได้แค่ ประมาณ 14 ชม. 5โมงเย็น ถึง 7โมงเช้า ต้องไปทำงานเลยยาวไม่ได้ค่ะ แต่ถ้านับดูลมอย่างเดียว ไม่เกินครึ่ง ชม. ก็ไม่ีมีลมให้ดูแล้วค่ะ แล้วแต่วันบางวันก็ 15 นาที หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการอื่นๆ ดังที่เขียนข้างต้น ;) หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:43:13 am และตั้งใจ จะทำอะไร ต่อไปครับ หลังจากได้อุเบกขาครับ เมื่อก่อนทำเพราะอยากสงบ อยากมีสมาธิทำงาน ต่อมาทำเพราะอยากนิพานหรือ ใดๆก็ว่าไป แต่ ณ. ปัจจุบัน นิพานก็ไม่เห็นจะอยากได้ แต่ยังไม่บรรลุแน่นอนค่ะเพิ่งเริ่มเอง แต่ไม่อยากได้อะไรเลย หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:58:49 am happy ลั้นลา ที่เป็นสุขเยือกเย็น นี้ กำหนดอย่างไรคะ ในลมหายใจคะ ไม่ได้กำหนดอะไรเลยค่ะ แค่ก็ดูลมเข้าออก ไปเฉยๆจนไม่มีลมให้ดู หลังจากนั้นก็ดูอะไรเกิดอะไรดับแค่นั้นเองค่ะ เรื่องสุขจนอื่ม เลี่ยน เบื่อ นั่นเปรียบเปรยให้ฟังไม่รู้จะเปรียบยังไงดีค่ะ แล้วเป็นยังไงต่อในสามวันนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะคะ ที่ว่า 3 วันหมายความว่า ลมเริ่มหายเมื่อ วันที่ 8 กพ ตั้งกระทู้วันที่ 11 กพ. ไม่ได้หมายเอาเพิ่งทำมา 3 วันค่ะ ทำมาหลายปีแล้วค่ะ แต่เพิ่งจริงจังตอนคุณลุงเีสีย เมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: SAWWALUK ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 08:14:34 am อนุโมทนาด้วย คะ
โดยปกติ บุคคลที่ฝึกดูลมหายใจเข้า ออก โดยวิธีการเฝ้าติดตามลมหายใจเข้า และออก โดยไม่มีบริกรรมนั้น นั้นไม่มีการกำหนดเงื่อนไข ครบ 3 ประการ คือ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก และ ก็นิิมิต ส่วนใหญ่ จะตกข้าง ฝ่ายความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่ก็ขี้เกียจ เพราะวิธีการติดตามตามลมหายใจเข้า ออก ทุกสภาวะนั้น เป็นการฝึกจากสติ จนพัฒนาเป็นสมาธิ ก็อนุโทนาด้วย คะ จากใจจริง เพราะที่จริงก็อยากทำได้เหมือนกัน เมื่อฝึกสติ เป็น สมาธิ ปัญญามองเห็นตามความเป็นจริง นั้นควรจะเห็นความเกิดขึ้น ดับไป ในลมหายใจ เข้า ออก :s_good: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 08:25:39 am อนุโมทนาด้วย คะ ขอบคุณค่ะ โดยส่วนตัวไม่เคยเจอนิมิต อะไรเลย แสงก็ไม่เจอค่ะ พระพี่ชายปลูกฝังให้ทำตาม พุทธพจน์ก่อนค่ะ เลยไม่เคยรู้วิธีอื่นๆ อาจมีวิธีที่ไวกว่านี้มั้งค่ะ เรื่องฟุ้งซ่าน พระพี่ชายสอนว่าเป็นธรรมดาของจิต เรามีหน้าที่ดึงเข้ามารู้ลม และในขณะที่ดึงเราต้องรู้ให้ทันว่าอะไรเกิดอะไรดับ เช่น ฟุ้งเรื่องงาน แ้ล้วเราดึงกลับมารู้ลม ฟู้งเรื่องงาน=จิตไปจับ ความจำ+ปรุงแต่ง ดึงมารู้ลม= ปรุงแต่งดับ จิดดวงใหม่จับลมเกิด หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: jeeb ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 08:53:17 am วิธีขั้นตอน ตอนที่กำหนดลมหายใจ เข้า ออก ในระหว่างที่ไม่มีบริกรรมนั้น ทำอย่างไรบ้างคะ ? ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าตอบตรงคำถามหรือปล่าวนะคะ ข้าพเจ้าแค่ รู้ลมเข้าออก พอหายใจเข้าก็รู้ว่าหายใจเข้า ยาวสั้นไปถึงไหน พอหายใจออกก็ตามรู้ว่าออกยาวหรือสั้น ไม่ต้องไปกะเกนว่าเข้ายาวเท่าไรต้องออกยาวเท่านั้น เอาเราสบายที่สุด มันจะมีช่วงรอยต่อ ระหว่างลมเข้ากับลมออก นิดหน่อยค่ะ ตรงนั้นดูว่าจิตจับกับอะไร อะไรเกิดดับ ถ้าฟู้งเราก็แค่ดึงกลับมารู้ลม แล้วถ้าปัญญารู้ทันเราก็เห็นว่า จิตจับฟุ้งดับไป จิตจับลมเกิด แค่นี้ค่ะ ไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมาก หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: ประสิทธิ์ ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:55:26 pm อ้างถึง 5.เคยดูลมติดต่อ ถึง 24 ชม.หรือยังคะ อยากให้เล่าประสบการณ์ 14 ชม.ให้ฟังบ้าง ว่าขณะนั้น กาย จิต เป็นอย่างไรบ้างครับ :25: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 10:46:30 pm
น่าสนใจนะคะ ประสบการณ์ 14 ชม. นี้ถ่ายทอดเป็นอักขระ หรือ เสียงได้หรือไม่คะ :c017: หัวข้อ: Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เริ่มหัวข้อโดย: ก้านตอง ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2011, 03:41:20 am "อนึ่งธรรม ๓ ประการ คือลมออก ๑ ลมเข้า ๑ นิมิต ๑
จะได้เป็นอารมณ์แห่งจิตอันเดียวกันหามิได้ ลมออกก็เป็นอารมณ์แห่งจิตอัน ๑ ลมเข้าก็เป็นอารมณ์แห่งจิตอัน ๑ ต่างกันดังนี้ ก็แลพระโยคาพจรพระองค์ใดบ่มิได้รู้ซึ่งธรรมทั้ง ๓ คือลมออกมิได้ปรากฏแจ้ง ลมเข้าก็มิได้ปรากฏแจ้ง นิมิตก็มิได้ปรากฏแจ้ง มิได้รู้ซึ่งธรรมทั้ง ๓ ประการนี้แล้ว พระกรรมฐานแห่งพระโยคาพจรพระองค์นั้นก็มิได้สำเร็จซึ่งอุปจารแลอัปปนา ต่อเมื่อใดธรรมทั้ง ๓ นี้ ปรากฏแจ้งพระกรรมฐานแห่งพระโยคาพจรนั้นจึงจะสำเร็จถึงซึ่งอุปจารฌานแลอัปปนา ฌานในกาลนั้น เมื่อนิมิตบังเกิดดังนี้แล้ว ให้พระโยคาพจรไปยังสำนักอาจารย์พึงถามดูว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อาการดังนี้ปรากฏแก่ข้าพเจ้าพระมหาเถรสันทัดในคัมภีร์ทีฆนิกายนั้น ถ้าศิษย์มาถามดังนั้น อาจารย์อย่าพึงบอกว่านั่นแลคืออุคคหนิมิตแลปฏิภาคนิมิต และจะว่าใช่นิมิตก็อย่าพึงว่า พึงบอกว่าดูกรอาวุโส ดังนั้นแลท่านจงมนสิการไปให้เนือง ๆ เถิด ครั้นอาจารย์บอกว่าเป็นอุคคหปฏิภาคแล้ว สตินั้นก็จะคลายความเพียรเสียมิได้จำเริญพระกรรมฐานสืบไป ถ้าบอกว่าดังนั้นมิใช่นิมิต จิตพระโยคาพจรก็จะถึงซึ่งนิราศสิ้นรักใคร่ยินดีในพระกรรมฐาน เหตุดังนั้นอย่าได้บอกทั้ง ๒ ประการ พึงเตือนแต่อุตสาหะมนสิการไปอย่าได้ละวาง ฝ่ายพระมหาเถระผู้กล่าวคัมภีร์ มัชฌิมนิกายว่า ให้อาจารย์พึงบอกดูกรอาวุโส สิ่งนี้คืออุคคหนิมิตสิ่งนี้คือปฏิภาคนิมิตบังเกิดแล้ว ท่านผู้เป็นสัตบุรุษจงอุตสาหะมนสิการพระกรรมฐานไปจงเนือง ๆ เถิด และพระโยคาพจรเป็นศิษย์พึงตั้งซึ่งภาวนาจิตไว้ในปฏิภาคนิมิตนั้น จำเดิมแต่ปฏิภาคนิมิตบังเกิดแล้วอันว่านิวรณธรรมทั้ง ๕ มีกามฉันทะเป็นต้นก็สงบลง บรรดากิเลสธรรมทั้งหลายมีโลภะ โทสะ เป็นต้นก็รำงับไป จิตแห่งพระโยคาพจรก็จะตั้งมั่นลงด้วยอุปจารสมาธิ แลพระโยคาพจรนั้น อย่าพึงมนสิการซึ่งนิมิต โดยวรรณมีสีดังปุยนุ่นเป็นต้น อย่าพึงพิจารณาโดยสีอันหยาบ แลลักษณะมีความไม่เที่ยงเป็นต้น พึงเว้นเสียซึ่งสิ่งอันมิได้เป็นที่สบาย ๗ ประการ มีอาวาสมิได้เป็นสบายเป็นต้น พึงเสพซึ่งสบาย ๗ ประการ มีอาวาสสบายเป็นต้น แล้วพึงรักษานิมิตนั้นไว้ ให้สถาพรเป็นอันดี ประดุจนางขัตติยราชมเหสีอันรักษาไว้ซึ่งครรภ์ อันประสูติออกมาได้เป็นบรมจักรพรรดิราชนั้น เมื่อรักษาไว้ได้ดังนี้แล้ว พระกรรมฐานก็จำเริญแพร่หลายแลพระโยคาพจรพึงตกแต่งซึ่งอัปปนาโกศล ๑๐ ประการ ประกอบความเพียรให้เสมอพยายามสืบไป อันว่าจตุกฌานปัญญจกฌานก็จะบังเกิดในมิตนั้น โดยลำดับดังกล่าวมาแล้วในปฐวีกสิณ เมื่อจตุกฌานปัญจกฌานบังเกิดแล้ว ถ้าพระโยคาพจรมีความปรารถนาจะจำเริญซึ่งพระกรรมฐานด้วยสามารถสัลลักขณาวิธี แลวัฏฏนาวิธี จะให้ถึงซึ่งอริยผลนั้น ให้กระทำฌานอันตนได้นั้นให้ชำนาญคงแก่วสี ๕ ประการแล้ว จึงกำหนดซึ่งนามรูป คือจิตแลเจตสิกกับรูป ๒๘ ปลงลงสู่วิปัสสนาปัญญาพิจารณาด้วยสามารถสัมมัสสนญาณเป็นต้นก็สำเร็จแก่พระ อริยมรรคอริยผล มีพระโสดาบันเป็นต้น เป็นลำดับตราบเท่าพระอรหัตตผลเป็นปริโยสาน ด้วยอำนาจจำเริญซึ่งพระอานาปาสติกรรมฐานนี้ เหตุดังนั้นพระโยคาพจรกุลบุตรผู้เป็นบัณฑิตชาติอย่าพึงประมาท จงหมั่นประกอบเนือง ๆ ซึ่งพระอานาปาสติสมาธิอันกอปรด้วยอานิสงส์เป็นอันมากดังกล่าวมานี้ ฯ " จำมาอีกทีคะ |