สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: notebook123 ที่ เมษายน 21, 2011, 11:40:23 am



หัวข้อ: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: notebook123 ที่ เมษายน 21, 2011, 11:40:23 am
มีบางท่านบอกว่า ตื่นขึ้นมาและก่อนนอนต้องสมาทานศิลเพื่อเราจะได้อานิสงค์  แต่ถ้าหากว่าเราอยู่เฉยๆแล้วคิดถึงว่าจะพูดต้องควรละวัง แบบระลึกไว้เสมอ แต่ไม่ได้สมาทาน  ได้ไหมครับ


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 21, 2011, 12:28:22 pm
การสมาทานศีล เป็นการสร้าง อธิษฐานบารมี และ สัจจะบารมี

เป็นการกระตุ้นเตือนจิต ให้มีสติ ระลึกรู้ มีความเกรงกลัวและละอายต่อบาป

ส่วนตัวคิดว่า หากใครคิดว่า ตัวเองมี สติสมบูรณ์ มีหิริ โอตตัปปะ หรือ มีอินทรียสังวรศีล

ก็ไม่จำเป็นต้องสมาทาน

 ;) :25:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: PISSAMAI ที่ เมษายน 21, 2011, 06:14:35 pm
สมาทาน หมายถึง หมายถึงการรับเอามาปฏิบัติ นะคะ

สมทาน ประกอบด้วยศัพท์ 2 ศัพท์ คือ สม ( เสมอ,ประจำ ) ทาน  (การให้)

ถ้าแปลตามตรง ก็คือ ทำประจำเช่นการให้ หรือ ทำสม่ำเสมอ เหมือนการให้

การ สมาทาน ศีล ก็คือ การทำให้ กาย วาจา ให้เรียบร้อยสม่ำเสมอเช่นการให้ทาน

หรือ น้อมรับมาปฏิบัติ

 ทาน เป็นเรื่องของ มนุษย์ และ บัณฑิต ดังนั้นคนที่ทำทาน เปรียบเหมือนบัณฑิต

 การเข้าสู่การภาวนา ในพระพุทธศาสนา ต้อง มี ทาน ศีล และ ภาวนา

 :coffee2:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: สมภพ ที่ เมษายน 22, 2011, 07:56:52 am
การไม่สมาทาน ศีล คือการไม่รับไปปฏิบัติครับ

 ส่วนการรับศีล นั้นมีสองแบบ คือกล่าวรับมีพยาน คือ พระสงฆ์

                                  และการกล่าววาจา อธิษฐาน  มีศีล

 ในกรณี กล่าวรับ แบบมีพยานนั้น แสดงถึงความมุ่ง มั่น และประเพณี และให้ความสำคัญ ต่อพระรัตนตรัยครับ
แต่เมื่อรับมาแล้ว ไม่ได้ประพฤติ ปฏิบัติ ก็ยังไม่ชื่อว่า สมาทานศีล ครับ


 ในกรณีที่สองนั้น กล่าววาจาทั้งเปล่งทางวาจา และอธิษฐานทางใจ ว่าข้าพเจ้าจะัรักษาศีล ด้วยตนเอง และประพฤติปฏิบัติ อันนี้ชื่อว่า สมาทานศีล ครับ

  แต่ทั้งสองวิธี ไม่ควรจะขาด หรือ เลือกวิธีใด วิธีหนึ่ง เพราะทั้งสองเป็น วิถีชีวิตของคนมีศีล ครับ

   :s_good:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: นิด_หน่อย ที่ เมษายน 22, 2011, 03:43:21 pm
ไม่สมาทานศีลไม่ได้ คะ ( เท่่าที่ได้ศึกษามาจากพระอาจารย์ นะคะ )

เพราะศีลเป็นบาทแรกของการภาวนา ถ้าเราจะภาวนาต้องมีศีลคะ

ถ้าไม่มีศีล ก็จบคะในเรื่องภาวนา

 เพราะศีล เป็นคุณสมบัติ ของการสำรวม กาย วาจา คะ

 :bedtime2:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: สาวิตรี ที่ เมษายน 24, 2011, 08:33:40 am
เห็นด้วยคะ กับการกล่าววาจาสมาทานศีล นับว่าเป็นเรื่องที่ควรกระทำมาก ๆ คะ
เพราะกุศล เริ่มที่ กาย วาจา คะ และสุดท้าย ก็จะเข้าไปสู่ที่ใจ คะ

 :bedtime2:



หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 24, 2011, 01:34:12 pm
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๒ มหาวิภังค์ ภาค ๒


ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสถามท่านพระอุปเสนวังคันตบุตรว่า ดูกรอุปเสน บริษัท
ของเธอนี้น่าเลื่อมใสนัก, เธอแนะนำบริษัทอย่างไร?

   ท่านพระอุปเสนวังคันตบุตรกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ผู้ใดขออุปสมบทต่อข้าพระ-
พุทธเจ้า, ข้าพระพุทธเจ้าบอกกะเขาอย่างนี้ว่า อาวุโส ฉันเป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตร ถือบิณฑบาต
เป็นวัตร ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร,

ถ้าท่านจักถืออยู่ป่าเป็นวัตร ถือบิณฑบาตเป็นวัตร ทรงผ้า
บังสุกุลเป็นวัตรบ้าง, ฉันก็จักให้ท่านอุปสมบทตามประสงค์ ถ้าเขารับคำของข้าพระพุทธเจ้าๆ
จึงให้เขาอุปสมบท, ถ้าเขาไม่รับคำของข้าพระพุทธเจ้าๆ ก็ไม่ให้เขาอุปสมบท.

ภิกษุใดขอนิสัยต่อข้าพระพุทธเจ้าๆ บอกกะภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า อาวุโส เราเป็นผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร ถือบิณฑบาต
เป็นวัตร ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร, ถ้าท่านจักถืออยู่ป่าเป็นวัตร ถือบิณฑบาตเป็นวัตร ทรงผ้า
บังสุกุลเป็นวัตรบ้างได้,

เราก็จักให้นิสัยแก่ท่านตามความประสงค์ ถ้าภิกษุนั้นรับคำของข้าพระ-
พุทธเจ้าๆ จึงจะให้นิสัย, ถ้าภิกษุนั้นรับคำของข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ ข้าพระพุทธเจ้าก็ไม่ให้นิสัย,
ข้าพระพุทธเจ้าแนะนำบริษัทอย่างนี้แล พระพุทธเจ้าข้า.

   ภ. ดีแล้ว ดีแล้ว อุปเสน, เธอแนะนำบริษัทได้ดีจริงๆ เออก็เธอรู้กติกาของสงฆ์
ในเขตพระนครสาวัตถีไหม อุปเสน?.
   อุ. ไม่ทราบเกล้าฯ พระพุทธเจ้าข้า.

   ภ. ดูกรอุปเสน สงฆ์ในเขตพระนครสาวัตถี ตั้งกติกากันไว้ว่า ท่านทั้งหลาย พระผู้มี-
พระภาคมีพระประสงค์จะเสด็จหลีกออกเร้นอยู่ตลอดไตรมาส, ใครๆ อย่าเข้าไปเฝ้าพระองค์
นอกจากภิกษุผู้นำบิณฑบาตเข้าไปถวายรูปเดียว, ภิกษุใดเข้าไปเฝ้าพระองค์ ต้องให้แสดงอาบัติ
ปาจิตตีย์.

   อ. พระสงฆ์ในเขตพระนครสาวัตถี จักทราบทั่วกันตามกติกาของตน. พวกข้าพระ-
พุทธเจ้าจักไม่แต่งตั้งสิกขาบทที่พระองค์มิได้ทรงบัญญัติ และจักไม่เพิกถอนสิกขาบทที่ทรงบัญญัติ
ไว้ จักสมาทานประพฤติในสิกขาบทตามที่ทรงบัญญัติไว้.

   ภ. ดีแล้ว ดีแล้ว อุปเสน, ไม่ควรแต่งตั้งสิกขาบทที่เรายังมิได้บัญญัติ หรือไม่ควร
เพิกถอนสิกขาบทที่เราบัญญัติไว้ ควรสมาทานประพฤติในสิกขาบท ตามที่เราได้บัญญัติไว้.
เราอนุญาตให้พวกภิกษุผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร ถือบิณฑบาตเป็นวัตร ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร เข้าหา
เราได้ตามสะดวก. ฯลฯ


พระพุทธเจ้า บอกว่า "ให้สมาทานสิกขาบทของพระองค์" ครับ

  :25:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ เมษายน 27, 2011, 05:57:22 am
ศีล คือ ความปกติกาย วาจา คร้า..

ศีล เป็นหนึ่ง ในไตรสิกขา

ดังนั้น เราพึงรับศีลไปปฏิบัติคร้า.. พึงสมาทานไว้ทุกเวลาคร้า..

 :58:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: whanjai ที่ เมษายน 27, 2011, 12:57:58 pm
ไม่สมาทาน ไม่ได้คะ

  เพราะการสมาทาน ศีล เปรียบเหมือน ความตั้งใจ ที่จะรักษา คะ

 แต่ปัญหา อยู่ที่ใจเราไม่แกร่ง และละเิมิด ศีล ไปบ้าง นี่ต่างหากคะ ควรทำอย่างไร

เมื่อก่อนเคยสงสัย กับคำว่า ศีลขาด เพราะการละเมิด

  แต่เพราะสติ สัมปชัญญะ เราไม่พอ การละเมิด ก็มีความเป็นไปได้คะ ดังนั้น เมื่อศีลขาด หรือ ละเมิดศีล แล้ว

ให้ตั้งสติ เริ่มต้นสมาทานใหม่ คะ ต้องทำจนกว่า จะเป็นพระโสดาบัน คะ


 :)


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ เมษายน 28, 2011, 06:28:24 am
มีบางท่านบอกว่า ตื่นขึ้นมาและก่อนนอนต้องสมาทานศิลเพื่อเราจะได้อานิสงส์  แต่ถ้าหากว่าเราอยู่เฉยๆแล้วคิดถึงว่าจะพูดต้องควรละวัง แบบระลึกไว้เสมอ แต่ไม่ได้สมาทาน  ได้ไหมครับ

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTEn4s1Z0zDh5xWxKM_jg1f7aHKheF8-bZW71cruCd9IyeYMu0u)

หากใคร่ครวญเสียอย่างนั้นแล้ว ก็สวดมนต์ช่วงเย็นสมาทานศีลก่อนนั่งภาวนาเพียงนี้ก็น่าจะพอ มีพระพุทธ พระ

ธรรมเป็นสักขี ขาดเพียงสงฆ์ก็เอาไว้ไปวัดค่อยว่ากัน การสมาทานก่อนนั่งภาวนาอานิสงส์ศีลก็คุ้มเราถึงเช้าคง

ไม่ต้องวิตกย้ำศีลตอนเช้าก็ได้ เพียงวันละครั้งอย่างที่กล่าวก็ล้นเหลือครับ




http://is01.net/dbook/index.php/our-book-dbookis01net?page=shop.product_details&category_id=16&flypage=flypage.tpl&product_id=39


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ เมษายน 28, 2011, 06:50:03 am
ศีล ทำให้ได้ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และ นิพพานสมบัติครับ

การสมาทานศีล แม้เพียงแค่นึกภาวนา หรือตั้งใจจะมีศีล ได้ยินพระอาจารย์เคยพูดว่า

ภพชาติ ตัดลงแล้วอย่างน้อย 3 ชาติ ในระหว่าง ปฏิสนธิจิตครับ

 :25:


หัวข้อ: Re: ไม่สมาทานศิลได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ เมษายน 29, 2011, 05:57:36 am
เป็นชาวพุทธ ควรสมาทานศีล ทุกครั้งที่มีสติ

ศีล มิใช่ สิกขาบถ แต่ศีลคือการสำรวมกาย วาจา ไม่ให้เบียดเบียนตนเองง หรือ ผู้ือื่น

ศีล เป็นความหมดจดเริ่มต้นของจิต

ดังนั้นพึงสมาทานศีล คือ รับไปปฏิบัติทุกเวลา จะทำให้โลกนี้มีความสงบได้

ชาวโลกอยู่สุขสงบเย็นได้ เพราะ ศีลธรรม ๆ เป็นคุณสมบัติของมนุษย์

ทุกวันนี้ที่โลกเราแย่เพราะกำลังขาด ศีลธรรม

 ;)