สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: เฉินหลง ที่ สิงหาคม 31, 2011, 09:10:22 am



หัวข้อ: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: เฉินหลง ที่ สิงหาคม 31, 2011, 09:10:22 am
สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว

ถ้าคุณจับหลักให้ถูก และทำให้เป็นสมาธิจริง ๆ สัก 3 นาที ก็มีผลแล้วครับ 5 นาที ก็ได้กำลังดี

ถ้าเราทำสมาธิแม้เพียง 5 นาทีแบบถูกต้อง ก็เหมือนกับ รีเซตสมอง เกิดความสดชื่นรวมจิตใหม่ขึ้นมาได้ไม่น้อยเลย

ผม สังเกตในสมัยที่ผมอ่านหนังสือเรียน จะมีบางช่วงที่เราคิดว่า อ่านไม่ไหวแล้ว อ่านไปก็ไม่เข้าหัว  อย่างน้อยต้องนอนก่อนคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยอ่านใหม่  จากการที่คิดว่าเราจะนอนก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อนั้นเพราะอ่านไปก็ไม่ เข้าหัวแล้ว ถ้าเราทำสมาะิแค่เพียง 5 นาทีก็มีผลเท่ากับเรานอนไปแล้วหนึ่งคืนเลยทีเดียวในเรื่องนี้ สามารถกลับมาอ่านต่อได้แบบการเริ่มต้นใหม่เลยทีเดียว

ทีนี้การทำ สมาธินั้น อย่างน้อยเราต้องตั้งความมุ่งหมายไว้ก่อนทำสมาธิ ว่าเราจะทำสักเท่านั้นเท่านี้นาที คือเปรียบเหมือนวางแผนไว้ก่อนทำ  อย่าทำแบบเลื่อนลอยคืออยากจะทำก็ทำและไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำสักกี่นาที กันแน่ แบบนี้พอไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พอเริ่มมีอกุศลเข้ามากระตุ้น เช่น ง่วง เหงา หาวนอน ก็จะเบื่อหน่ายแล้วพลันจะวางเป้าหมายเดิมไป


อย่าง ไรก็ตาม จะเปลี่ยนมาเป็นการสวดมนต์ให้มากขึ้นก็ได้ การสวดมนต์ เพื่อให้ได้ประโยชน์ในทางสมาธิด้วยในทางสติด้วยก็ได้  ก็เอาสติสมาธิรับรู้คำที่บริกรรมนั้น ไม่ว่าจะบริกรรมออกเสียงหรือบริกรรมในใจก้ได้ทั้งนั้น  หากเมื่อก่อนเราบริกรรมไปแบบนกแก้วนกขุนทองคือท่องตามความจำ    มาตอนนี้เปลี่ยนใหม่คือให้ใส่ใจมากขึ้น เอาสติไปจับในคำก็ได้ ในเสียงก็ได้ ในความหมายก็ได้ หรือในจังหวะการขยับปากก็ได้  คือเราสามารถฝึกสติหรือสมาธิกับกริยาใดๆของร่างกายหรือของจิตเราก้ได้ ตรงนี้จะมีประโยชน์มากครับ

เช่นเราท่องชิณบัญชร เราก็เอาสติไปจับที่คำที่เราท่อง หรือจับที่ความหมายก็ได้ ตรงนี้มันทำกันยาก ก็ทำได้ถือว่าเริ่มมีพัฒนาการด้านสติที่ดีขึ้นแน่นอนครับ เพราะหลายๆคนเคยทำมาอย่างนี้ นอกจากจะได้ผลตามอนิสงค์แห่งการสวดแล้ว ที่เป็นผลที่เห็นชัดเจนจริงๆคือ  ได้ผลด้านสติ และแน่นอนสมาธิก็จะมาควบคู่กันด้วย

การใช้สติมาจับเมื่อสวด ดร.บุญชัย เจ้าของโรงเรียน FAST ENGLISH สอนแนะนำเป็นประจำ ซึงท่านก็เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากคนหนึ่งเลยทีเดียว


จากคุณ : มังกรจักรวาล
(http://www.yimwhan.com/board/data_user/bluedevils/photo/cate_1/r88_75.jpg)


หัวข้อ: Re: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: kosol ที่ สิงหาคม 31, 2011, 10:31:11 am
เึคยได้ยินมาว่า จิตเป็นสมาธิ แค่ ชั่วแล่น ของ ขณิกะสมาธิ ก็มี สวรรค์ เป็นที่พึ่งได้เลย

ก็คงจะเป็นอย่างที่ จขกท. กล่าวไว้

 แต่มีพระสูตร ยืนยัน คำพูดนี้บ้างหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้า ทรงตรัสอานิสงค์ แสดงไว้อย่างนี้

  :25:


หัวข้อ: Re: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 31, 2011, 12:31:34 pm
เึคยได้ยินมาว่า จิตเป็นสมาธิ แค่ ชั่วแล่น ของ ขณิกะสมาธิ ก็มี สวรรค์ เป็นที่พึ่งได้เลย

ก็คงจะเป็นอย่างที่ จขกท. กล่าวไว้

 แต่มีพระสูตร ยืนยัน คำพูดนี้บ้างหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้า ทรงตรัสอานิสงค์ แสดงไว้อย่างนี้

  :25:


(http://www.dmc.tv/forum/uploads/monthly_10_2007/post-3945-1191474244.jpg)

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต

เวลามสูตร


 [๒๒๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

          พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดีในตระกูลของท่าน ยังให้ทานอยู่บ้างหรือหนอ ฯ

...ฯลฯ.........ฯลฯ............ฯลฯ...

         ดูกรคฤหบดีทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่ามหาทานที่เวลามพราหมณ์ให้แล้ว ...

         การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุด แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท คือ

         งดเว้นจากปาณาติบาต ... และการที่บุคคลเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลาลัดนิ้วมือมีผลมากกว่าการที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม ฯ



อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  บรรทัดที่ ๘๓๓๖ - ๘๔๑๖.  หน้าที่  ๓๖๐ - ๓๖๓.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=8336&Z=8416&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=8336&Z=8416&pagebreak=0)
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=224 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=224)
ขอบคุณภาพจากwww.dmc.tv


   ผมจะไม่วิเคราะห์  ขอให้เพื่อนๆที่สนใจวิเคราะห์กันเองนะครับ
   "สมาธิเป็นบาทฐานของ การเจริญเมตตาและการเจริญวิปัสสนา"


     ;) :25: :49: :welcome:


        ลิงค์แนะนำ
   สมาธิชั่ว "ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5045.msg18351;topicseen#new (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5045.msg18351;topicseen#new)


หัวข้อ: Re: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ พฤศจิกายน 07, 2011, 09:49:03 am
สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ก็มีประโยชน์ เพราะเป็น กุศลจิ

 จะเสี้ยว จะวินามี ก็มีผลดีทั้งนั้น เพราะถ้ามีสมาธิ แสดงว่าอยู่ ฝั่ง สุขสมาธิ นะจ๊ะ เป็นกุศลที่ดี
 
 แต่จะให้ดี ให้มีทั้งวันทั้งคืน ก็จะดีมาก ๆ นะจ๊ะ

 เจริญพร

  ;)


หัวข้อ: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ สิงหาคม 22, 2012, 08:29:38 pm
แล้วอย่างนี้ การนั่งปฏิบัติกรรมฐาน

      ควรจะนั่งนานแค่ไหน ?

      นั่งนานแค่ไหนถึงจะเป็นการดี ?


หัวข้อ: Re: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ สิงหาคม 23, 2012, 02:37:47 am
นั่งนานแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า นั่งเท่าเดิม
 แต่ฝึกไปจนกว่าจะปราศจาก ปีติยุคล
 ฝึกให้เข้าสุขสมาธิ
 ก็ต้องค่อยคืบไป