หัวข้อ: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: ส้ม ที่ กันยายน 01, 2011, 10:27:15 am พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต ๓. อกัมมนิยวรรค
๓. อกัมมนิยวรรค หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน [๒๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมไม่ควรแก่การใช้งานเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมไม่ ควรแก่การใช้งาน (๑) [๒๒] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญแล้วย่อมควรแก่การใช้งานเหมือน จิตนี้ จิตที่ได้เจริญแล้วย่อมควรแก่การใช้งาน (๒) [๒๓] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ ประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มาก (๓) [๒๔] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มาก (๔) [๒๕] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ไม่ได้เจริญไม่ปรากฏชัดแล้วย่อมเป็น ไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญไม่ปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไป เพื่อมิใช่ประโยชน์มาก (๕) [๒๖] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อ ประโยชน์มากเหมือนจินี้ จิตที่ได้เจริญปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มาก (๖) [๒๗] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ไม่ได้เจริญไม่ทำให้มากแล้ว๑ ย่อมเป็น ไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญไม่ได้ทำให้มากแล้วย่อมเป็น ไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มาก (๗) [๒๘] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไป เพื่อประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ มาก (๘) [๒๙] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ไม่ได้เจริญไม่ทำให้มากแล้วย่อมนำ ทุกข์มาให้เหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญไม่ได้ทำให้มากแล้วย่อมนำทุกข์มาให้ (๙) [๓๐] เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมนำสุขมา ให้เหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมนำสุขมาให้ (๑๐) อกัมมนิยวรรคที่ ๓ จบ หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: ศรีสุพรรณ ที่ กันยายน 02, 2011, 10:04:35 am พยายามอ่าน วิเคราะห์ ตามนะคะ เพราะ อ่านแล้ว ก็ยัง งง ๆ กับสำนวน คะ
1. เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมไม่ควรแก่การใช้งานเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมไม่ควรแก่การใช้งาน ( ข้อนี้คือไม่ได้เจริญภาวนา ) 2.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ได้เจริญแล้วย่อมควรแก่การใช้งานเหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญแล้วย่อมควรแก่การใช้งาน ( ข้อนี้คือ จิตที่มีการภาวนา ) 3.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มาก ( เมื่อไม่ภาวนา ก็ไม่มีประโยชน์ ) 4.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มาก ( เมื่อภาวนาก็มีประโยชน์ ) 5.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เจริญไม่ปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญไม่ปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มาก ( ไม่ภาวนาก็ไม่ปรากฏชัด ) 6.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มากเหมือนจินี้ จิตที่ได้เจริญปรากฏชัดแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มาก ( เมื่อภาวนาก็ปรากฏชัด ) 7.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เจริญไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญไม่ได้ทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์มาก ( การภาวนา ถ้าไม่ทำให้บ่อย ) 8. เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มากเหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มาก ( เมื่อเจริญบ่อยก็ย่อมสมควร ) 9. เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เจริญไม่ทำให้มากแล้วย่อมนำทุกข์มาให้เหมือนจิตนี้ จิตที่ไม่ได้เจริญไม่ได้ทำให้มากแล้วย่อมนำทุกข์มาให้ ( เมื่อไม่เจริญภาวนาก็ย่อมมีความทุกข์ ) 10.เราไม่เห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมนำสุขมาให้เหมือนจิตนี้ จิตที่ได้เจริญทำให้มากแล้วย่อมนำสุขมาให้ ( เมื่อเจริญก็ย่อมได้ความสุข ) สรุป จากที่อ่านมานะคะ คือ ผู้ที่ภาวนา ต้องให้ภาวนาให้บ่อย ถึงจะได้ความสุข คะ พยายาถอดใจความ ที่กล่าวว่าพระไตรปิฏก ที่อ่านยาก อยู่ คงเพราะเหตุีนี้ คะ :s_hi: :13: หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: montra ที่ กันยายน 02, 2011, 11:20:10 am อ่านตาม ก็ยัง มึน ๆ เหมือนกัน อ่ะ แต่ พอเข้าใจ กับบทสรุป คะ
ถ้าพระไตรปิฏก สำนวนอ่าน ง่าย ๆ ก็จะดี นะคะ :25: หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 02, 2011, 08:30:07 pm (http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/25/images/224009_picwebShow.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ ชื่ออังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต เป็นสุตตันตะปิฎกเล่มที่ ๑๒ ๓. ทรงแสดงว่า ไม่ทรงเห็นธรรมะอื่นแม้ข้อหนึ่ง ที่ถ้าไม่อบรมแล้ว ก็ใช้งานไม่ได้ เหมือนจิต. แล้วทรงแสดงจิตอีก ๙ ลักษณะ คือ ธรรมะที่อบรมแล้ว ย่อมใช้งานได้, ไม่อบรมแล้ว เป็นไปเพื่ออนัตถะ ( ความพินาศ ), อบรมแล้ว เป็นไปเพื่ออัตถะ ( ประโยชน์), ไม่อบรมแล้ว ไม่ปรากฏแล้ว เป็นไปเพื่ออนัตถะใหญ่, อบรมแล้ว ปรากฏแล้ว เป็นไปเพื่ออัตถะใหญ่, ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว เป็นไปเพื่ออนัตถะใหญ่, อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว เป็นไปเพื่ออัตถะใหญ่ , ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว นำทุกข์มาให้, อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว นำความสุขมาให้ ธรรมะแต่ละข้อนี้ไม่มีอะไรเสมอเหมือนจิต. อ้างอิง พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน (อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ) http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/12.html (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/12.html) ขอบคุณภาพจากwww.bangkokbiznews.com (http://[url=http://img.kapook.com/image/health/maditation.jpg]http://img.kapook.com/image/health/maditation.jpg[/url]) พระไตรปิฎก(บาลีสยามรัฐ) เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต [๒๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมไม่ควรแก่การงาน เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมไม่ควรแก่การงาน ฯ [๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ย่อมควรแก่การงาน เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ย่อมควรแก่การงาน ฯ [๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมนำทุกข์มาให้ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมนำทุกข์มาให้ ฯ [๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ฯ จบวรรคที่ ๓ อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๙๔ - ๑๒๗. หน้าที่ ๕ - ๖. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=94&Z=127&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=94&Z=127&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=22 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=22) ขอบคุณภาพจากhttp://img.kapook.com ผมนำข้อความในพระไตรปิฎก ฉบับประชาชนกับฉบับบาลีสยามรัฐ มาใ้ห้อ่านเปรียบเทียบกัน อยากทำความเข้าใจเนื้อหาในพระไตรปิฎก เบื้องต้นให้อ่านอรรถกถา หรือไม่ก็ ให้ไปอ่านพระไตรปิฎก ฉบับประชาชน ตามลิงค์นี้ครับ http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/ (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/) ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่าน ;) :49: :25: หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ กันยายน 02, 2011, 08:34:29 pm ต้องลองอ่าน หลาย ๆ ฉบับ ครับ แต่ คุณศรีสุพรรณ วงเล็บ ไว้ทำให้เข้าใจไวมากขึ้น ครับ
อ่านแล้ว ก็ไม่มึนตามครับ รู้สึกว่า ต้องพึ่งคนสรุปสำนวนหน่อย อนุโมทนา กับทุกท่านครับ ที่ช่วยกันชี้แนะ..... :25: :25: :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสุข ที่ กันยายน 03, 2011, 05:21:27 pm อ่านแล้วได้ ความรู้เพิ่มมากครับ
ขอบคุณ กับ การแสดงความคิดเห็นของทุกท่าน ขอรับ :25: :c017: หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 10:11:13 am อันที่จริงที่กล่าวมาเป็นส่วน หนึ่ง ในห้องที่ 2 ของพระพุทธานุสสติ กรรมฐาน
คือห้อง พระยุคคลหกประการ กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา กายควรแก่การงาน จิตควรแก่การงาน ในห้องพระยุคลธรรม 6 ประการ นั้นมีความพิศดารใน การฝึกอีกนะจ๊ะ ไม่สามารถเปิดเผยอรรถาธิบายตรงนี้ให้ได้นะจ๊ะ เพื่อให้เข้าใจ ธรรม อันเป็นคู่ เมื่อมีกลาวแสดงธรรม จะกล่าวธรรมเป็น คู่กัน เพราะจะเข้าใจง่าย [๒๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมไม่ควรแก่การงาน เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมไม่ควรแก่การงาน ฯ [๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ย่อมควรแก่การงาน เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ย่อมควรแก่การงาน ฯ อันนี้ กล่าวถึง จิตไม่อบรม ( ฝึกภาวนา ) ไม่ควรแก่การงาน จิตที่อบรม ย่อมควรแก่การงาน [๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ อันนี้ กล่าวถึง ธรรมใด ๆ จิตไม่อบรม ย่อมไม่เป็นเพื่อประโยชน์อันใหญ่ จิตที่ฝึกอบรม ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อันโหญ่ [๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ปรากฏแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ จิตที่ไม่ฝึกอบรม ไม่ปรากฏแล้ว ย่อมไม่เป็นเพื่อประโยชน์อันใหญ่ จิตที่ฝึกอบรมแล้ว ปรากฏแล้ว ยอ่มเป็นไปเพื่อประโยชน์อันใหญ่ [๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ [๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างใหญ่ ฯ จิตที่ไม่อบรม ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมไม่เป็นเพื่อประโยชน์อันใหญ่ จิตที่อบรม ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์อันใหญ่ [๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมนำทุกข์มาให้ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่ไม่อบรมแล้ว ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมนำทุกข์มาให้ ฯ [๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ เหมือนจิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตที่อบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ฯ จิตที่ไม่มีการฝึกอบรม ไม่ทำให้มากแล้ว ย่อมนำทุกข์มาให้ จิตที่มีการฝึกอบรม ทำให้มากแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ทั้งหมดนี้ ให้ความสำคัญ ตีความ ได้ คำว่า ธรรม ใด ๆ ที่กระทำแล้ว ย่อมให้ความสำัคัญลง ไปที่ จิต การอบรมธรรมใด ๆ ลงไปต้องให้ความสำคัญลงไป กับ จิต เพราะจิต เป็นที่เสวย เวทนา คือ ทุกข์ คือ สุข เพราะจิต ย่อมทำให้พร้อมแก่การงาน เพราะจิตย่อมทำให้ปรากฏ เพราะจิตย่อมทำให้มากได้ด้วยธรรม เพราะจิตย่อมทำให้เกิดประโยชน์ ดังนี้ ผู้ฝึกภาวนา ธรรม ใด ๆ พึงให้ คุณค่า ของธรรม ลงไปสู่ จิต เป็นประการแรก เจริญธรรม ;) หัวข้อ: Re: หมวดว่าด้วยจิตที่ไม่ควรแก่การใช้งาน เพราะปราศจากสมาธิ เริ่มหัวข้อโดย: mongkol ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 12:52:15 pm อ้างถึง ในห้องพระยุคลธรรม 6 ประการ นั้นมีความพิศดารใน การฝึกอีกนะจ๊ะ ทำไมจึงเปิดเผยไม่ได้ ครับ ถ้าผมมีความสนใจ จะอย่างไรครับ ถึงจะทราบครับ :smiley_confused1: |