ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - ดรุณี
หน้า: [1] 2
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอความร่วมมือ สมาชิก เพื่อสำรวจสถานะ ของสมาชิก เพื่อ ธรรมวิจยะ ให้เหมาะสม เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2016, 01:31:29 am
อยากฝึกกรรมฐาน ให้เก่ง แต่ ก็ยังเรียน และ อายุน้อยอยู่คะ

 like1 st12
2  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมส่ง ส.ค.ส. 2558 แบ่งปันความสุข ซึ่งกัน และกัน กันเถิด เมื่อ: ธันวาคม 17, 2014, 11:39:44 am
3  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับ กองผ้าป่า ช่วยเหลือ สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน ปี 2557 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2014, 09:21:28 am
 st11 st12
4  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ปณิธาน ในการภาวนา และการเผยแผ่ พระธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 09:58:19 am
 st11 st12
5  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / Re: โปรแกรม พระไตรปิฏก ฉบับ มหาจุฬา เวอร์ชั่นที่ 1 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 06:04:26 pm

ไปดาวน์โหลดได้จริง ๆ ที่กระทู้นี้ คะ ชัวร์ แน่นอน

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=9347.0
6  เรื่องทั่วไป / ประกาศ โฆษณา ธุรกิจชาวธรรม / Re: เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก<ราคาถูกสุดๆ> เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 05:55:29 pm
น่าสนใจนะคะ ถ้าบอกว่า เป็นสมาชิกเว็บ มัชฌิมา แล้วลดราคาพิเศษลงไปด้วยอีกสัก 10 เปอร์เซ็นต์ ก็น่าไปดูนะคะ

  :s_hi: :58:
7  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เรียนเชิญ ส่งภาพ ส.ค.ส. ดิจิตอล ส่งความสุข ส่งท้ายปี 2555 ต้อนรับปี 2556 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 05:34:09 pm
8  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ขอเชิญท่าน ผู้รู้ อธิบาย คำว่า อรหัง กับคำว่า สัมมาอรหัง ด้วยคะ เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 12:14:49 pm
อนุโมทนา คะ อ่านแล้ว เกิดความเข้าใจมากจริง ๆ คะ

 สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :25: :25:
9  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อนุโมทนา กับผู้สนับสนุน notebook ให้แก่ สนง.ส่งเสริมกรรมฐาน 15 ก.ค.55 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 11:35:52 am
อนุโมทนา สาธุ คะ มีกำลังใจมากเลยนะคะ
เป็นเราเสียดายเงินจังคะ ถ้าจะทำคงไม่ถึงหลักพันคะ
 
  แต่อ่านกระทู้มา อย่างน้อยก็ต้องทำบุญด้วยการอนุโมทนา เมื่อเห็นคนอื่นทำความดี ห้ามอิจฉา

  :s_hi: :58: :49:
10  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นั่งกรรมฐาน พอภาวนาไปสักพัก แล้วจะปวดท้องคะ แก้อย่างไรดีคะ เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 11:34:03 am
นั่งกรรมฐาน พอภาวนาไปสักพัก แล้วจะปวดท้องคะ แก้อย่างไรดีคะ
เรียนถามคะ จะเป็นทุกครั้งที่นั่งภาวนากรรมฐาน แล้วมีความรู้สึกว่า ปวดมวนท้องคะ เหมือนจะคลื่นไส้

รู้สึกลำบาใจมากคะ เลยเปลี่ยนแต่กำหนดจิตรู้ตาม เท่านั้นคะ

  :c017: :25:
11  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ธรรมสาระวันนี้ "มุนี 6 ประเภท ท่านเลือกเป็น ก็ต้องบำเพ็ญบารมีให้ตรง" เมื่อ: มิถุนายน 14, 2012, 12:22:01 pm
อนุโมทนา เจ้าคะ อันนี้อานแล้วพอจะเข้าใจ คะ

ขอบคุณมากคะ ที่พระอาจารย์ยังออกบทความ

 อยากจะสอบถาเพิ่มคะ ว่า

    อาคารมุนี ต้องทำอย่างไรบ้าง คะ มีคุณสมบัติ ในการภาวนาอย่างไรบ้าง คะ

  :c017: :25:
12  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เป็นคนกลัว ผี มาก ๆ ตอนกลางคืน ไม่กล้าอยู่คนเดียวคะ มีวิธีแก้อย่างไรคะ เมื่อ: เมษายน 19, 2012, 07:58:20 am
เป็นคนกลัว ผี มาก ๆ ตอนกลางคืน ไม่กล้าอยู่คนเดียวคะ มีวิธีแก้อย่างไรคะ

คือจะรู้สึกกลัว มาก ๆ เลยถ้าอยู่คนเดียว ในสถานที่ไม่รู้จักคะ

 :'(
13  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: โดนกีดกัน เพราะฐานะผมยากจนกว่าเขา ( ไม่รู้ขอคำปรึกษาถูกที่ หรือ ไม่ ) เมื่อ: เมษายน 15, 2012, 11:27:25 pm
คุณ ลูกคิด น่าจะมีความสุข แล้วนะครับ เพื่อนชาวธรรม ให้คำแนะนำกันหลายท่าน
ที่สำคัญในช่วงสงกรานต์นี้ ยังขยันขันแข็ง ค้าขาย อีก เอาใจช่วยนะคะ ..... จากเพื่อน ๆ ที่เป็นห่วงคะ

  :25:
14  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: แฟนผมโดนผีเข้าบ่อย แก้ไขยังไงดีครับ เครียดมาก เมื่อ: เมษายน 15, 2012, 11:25:56 pm
คุณ Admax ตอบได้ประัทับใจมากคะ
 :25: :58: :88:
15  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ตำนานพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 09:28:08 am
อนุโมทนา คะ  น่าติดตามมาก ๆ คะ

 :25:
16  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: 12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 09:23:39 am
 :c017: ขอบคุณจ้า

 :25:
17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 22 วิธีลดกรรมให้เบาลง อยากรู้ต้องอ่านเผื่อจะช่วยคุณได้ เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 09:23:19 am
1. กรรมที่ไม่มีลูก
กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น
พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น
ลดกรรม
ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา
ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือมูลนิธิเด็กอ่อน

2. เจ็บป่วยบ่อย
หรือเป็นโรคร้าย
กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์
ลดกรรม
ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา
ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา
กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา
หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด
ของที่สารธารณะ
ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย
เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพระ บริจาคเงินในกล่อง ซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย
กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น
มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

5.สูญเสียคนใกล้ชิด
กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา
ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ
งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน
ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา
 

6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย
กรรมจาก
เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน
ลดกรรม
พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด
กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์
และศาสนา
ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน
ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายฟรี

8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร
กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ
ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ
เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย
กรรมจาก
ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ
ลดกรรม
ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต
หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน
กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช
ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1
เดือน 1 พรรษา แล้วแต่ จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8
ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่างสม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

11. ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ชาดเสน่ห์
กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย
ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดี
ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี
ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว
กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี
ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น
พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี

13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค
กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน
หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก
ลดกรรม
บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด
หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป
กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน
ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน
ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ
กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ
ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา
แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

16. อาภัพคู่ ร้างคู่
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่
เช่น แจกันคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น

17. ได้คู่ที่เลวร้าย
ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์
กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย
กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง
ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม
กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม
ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน
กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น!
ลดกรรม
สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน
อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆ เดือน

21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ
กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

22. มีคดีความ
กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ
ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆ ละ 7 วัน
 
 
อนุโมทนากับผู้ที่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม นะครับ สาธุ....
18  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สัมปชานมุสาวาท..."การพูดเท็จทั้งที่รู้ตัว" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 12:43:46 pm
รู้สึกว่า เคยได้ยินเรื่องนี้ใน มหาราหุโรวาทสูตร ด้วยใช่หรือไม่คะ

  อยากทราบกรรมที่ กระทำลงไปแล้วอย่างนี้ มีโทษกรรมอย่างไรบ้างคะ

   :s_hi:
19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สำหรับคนที่หากินบนผ้าเหลืองจะได้รับผลกรรมอย่างไรค่ะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2012, 10:55:36 am
นั่นสิเนอะ ถ้ากล่าวลอย ๆ อย่างนี้เป็นเรื่องเสียหายนะจ๊ะ

  เพราะพระที่ดี ๆ ก็มีจำนวนเยอะ ๆ นะจ๊ะ อย่างเว็บนี้ พระอาจารย์ ก็สละกำลังทรัพย์ส่วนตัวนะจ๊ะสร้างเว็บให้
 
  ต้องว่ากันเป็นเรื่อง ๆ นะจ๊ะ
  ไม่งั้นจะกลายเป็นกระทู้ล่อเป้า

 

  ปกติ เราจะถามคำถามประเด็น ทั่วไป แต่เกี่ยวกับตัวเรา นะคะ
20  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทุกคนมีวิธีควบคุมความโกรธอย่างไร เมื่อถูกบุพการีทำร้าย ? เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 03:06:18 pm
สวัสดีค่ะ...เข้าใจความรู้สึกของคุณเลยค่ะ  คนที่เป็นอย่างนี้ยิ่งถ้าเราไปเตือนเขาๆจะยิ่งดังไปกันใหญ่ เจอแบบนี้ก็น่าปวดหัว  คุณต้องอดทน อดกลั้น  ทำใจให้ได้ ถ้าเดินหนีได้ก็เดินหนีไปก่อน  เรื่องทุกเรื่องยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลง เพียงแต่รอเวลาเท่านั้น มองให้เป็นเรื่องเล็กๆ อย่าเครียดน่ะค่ะ ขอให้คุณมีความสุขค่ะ
21  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / หนังสือกายคตาสติ ของท่านอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 03:04:06 pm
มีให้ดาวโหลดแล้ว - หนังสือกายคตาสติ ของท่านอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว


สี่สีทั้งเล่มครับ ครบทุกหน้า print สีออกมาเย็บเล่มไว้ก็ได้ครับ ไฟล์ PDF แค่ 10MB

http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=422&type=

 :25:
22  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ตามดูลมหายใจ ไม่ได้ มีแต่จะเข้าไปสภาวะ กึ่งหลับ กึ่งตื่น ต้องแก้อย่างไรครับ เมื่อ: มกราคม 18, 2012, 02:57:58 pm
นำมาเสริมคะ


วิธีเจริญอานาปานสติจนจิตตั้งมั่นทะลุแนวต้าน จนเกิดอัปปนาสมาธินั้น
เริ่มด้วยหายใจเข้า และหายใจออกตามที่ตัวของท่านนั้นชอบ

แต่ละคนอาจชอบต่างกันไป บางคนชอบหายใจเข้าจนสุดแล้วค่อยระลึกรู้
และหายใจออกจนสุดแล้วค่อยระลึกรู้

บางคนชอบระลึกรู้ตลอดเส้นทางเดินลมเข้า และระลึกรู้ตลอดเส้นทางเดินลมออก

บางคนคอยระลึกรู้อยู่ที่ปลายจมูกเพียงตำแหน่งเดียว ลมเข้าปลายจมูกก็รู้ ลมออกที่ปลายจมูกก็รู้

บางคนหายใจเข้าก็ท่องคำว่าพุทในใจเบาๆ หายใจออกก็ท่องคำว่าโธในใจเบาๆ

บางคนหายใจเข้าจนสุดก็ท่องคำว่าพุทในใจเบาๆ หายใจออกจนสุดก็ท่องคำว่าโธเบาๆ

บางคนคอยระลึกรู้อยู่ที่ปลายจมูกเพียงตำแหน่งเดียว พอสูดลมเข้าปลายจมูกก็ท่องคำว่าพุทในใจเบาๆ
พอปล่อยลมออกที่ปลายจมูกก็ท่องคำว่าโธในใจเบาๆ

ท่านจะทำวิธีใดก็ได้ แต่ขอให้ทำแล้วสบายจิต สบายใจ หายใจสะดวก รู้สึกสบาย

หายใจไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ลมหายใจของท่านจะค่อยๆเบาลง บางลง ละเอียดขึ้น

จุดนี้หลายท่านประสบปัญหาเรื่องคำบริกรรมหาย เดือดร้อนใจว่าพุทโธหาย
หรือลมหายใจเข้าหาย ลมหายใจออกหาย

ไม่ต้องกังวลใจหรือฟุ้งซ่านไป เป็นเรื่องธรรมดาที่ทำไปๆ ลมหรือคำบริกรรมจะหาย

ถ้า ณ ขณะนั้น ท่านรู้สึกสบาย หรือรู้สึกเย็นในโพรงจมูก หรือรู้สึกเย็นในลำคอหรือในช่องปาก ขอให้ท่านเปลี่ยนไปให้ความสนใจ ณ จุดที่ท่านรู้สึกว่าเย็น รู้สึกว่าสบาย

ขอให้ท่านให้ความสนใจไปกับรู้สึกเย็น ชื่นใจ สุข สบาย ณ ตำแหน่งดังกล่าวให้มากๆ
ยิ่งรู้สึกมากยิ่งดี ยิ่งล้นจิตล้นใจยิ่งดี อย่ากลัวว่าการให้ค่า ใ้ห้ความสนใจกับความสุขความสบายจะทำให้สติหาย
เพราะสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ สติไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่สมาธิพละเด่นชัดกว่าเท่านั้น
เหมือนตอนกลางวันดวงดาวไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่สู้แสงอาทิตย์ที่เด่นชัดกว่าไม่ได้เท่านั้น

หรือหากไม่ปรากฏความเย็นสบาย แต่ปรากฏอารมณ์ปีติทางใจแทน ก็ให้ท่านใส่ใจในอารมณ์ปีติที่เกิดขึ้นทางใจ
ขอให้ระลึกนึกถึงแต่อารมณ์ปีติทางใจนั้นให้มากๆ ขอให้รู้สึกแช่มชื่น แจ่มใส
ยินดี ปรีดา ให้มากๆ อารมณ์ปีติทางใจที่ว่านี้ มีลักษณะอารมณ์เหมือนกันกับเวลาที่เราทำบุญ ตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรมนั่นเอง

ถ้าไม่ปรากฏทั้งความเย็นชุ่มชื่น ความสบาย หรืออารมณ์ปีติทางใจ
ก็ขอให้ปล่อยจิตไปตามลมหายใจไปเรื่อยๆ จนกว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิด
อย่าไปตรึงจิตไว้ อย่าไปคอยกระตุกจิตกลับมา ให้ปล่อยไปเรื่อยๆ สบายๆ

ถ้าไม่เกิดจริงๆ ขอให้ลองยิ้มที่มุมปากในขณะที่หลับตาอยู่ นั่นแหละอารมณ์ปีติ
อารมณ์มันเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องกลัวคำครหาว่าบ้า นั่งหลับตาอยู่ดีๆก็ยิ้มที่มุมปาก

ถ้ายิ้มที่มุมปากแล้วยังไม่เกิดปีิติ ก็ให้ระลึกนึกถึงช่วงเวลาที่เราได้เคยทำบุญ
ช่วงเวลาที่เราเคยใส่บาตร เคยกราบพระ เคยสวดมนต์ไหว้พระ แล้วปีติจะเกิดซ้ำ

ขอให้เจริญสิ่งเหล่านี้ให้มากๆ มากระดับที่พองฟู จนล้นจิต ล้นใจ ไม่กัก ไม่กั้นเอาไว้

ไม่ต้องคอยพะวงว่าเมื่อไหร่จิตจะรวม เมื่อไหร่จิตจะตั้งมั่น ขณะนี้เวลาผ่านไปเท่าไร
นานแค่ไหนแล้ว รอบตัวตอนนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง ไม่ต้องคอยพะวงว่าลมหายใจหายไปหรือยัง คำบริกรรมหายไปหรือยัง หายก็หาย

และเมื่อหายก็อย่าได้ตกใจไม่มีใครตายขณะนั่งสมาธิ
ถ้านั่งไป นั่งไป แล้วเจอแต่ความว่างๆ นิ่งๆ ตื้อๆ ตันๆเหมือนอยู่ในภวังค์
ก็ขอให้ลืมตาแล้วเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ต้นคือเริ่มหายใจเข้าช้าๆ หายใจออกช้าๆ

หรือถ้ารู้สึกว่าหัวโต หัวพอง ตัวโต ตัวพอง หรือรู้สึกแปลกๆ ก็ให้ลืมตาแล้วเริ่มทำใหม่

ส่วนมากคนที่ทำแล้วเหมือนเดินย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้ฌานสักที
เพราะไม่ปล่อยจิตไปตามความสบาย ไม่ปล่อยจิตไปตามความสุข เพราะมักกลัวว่าจะไร้สติ

สติคือการระลึกนึกถึงแต่อารมณ์ที่เป็นกุศล ความสุขและความสบายที่เกิดจากการทำสมาธิเป็นอารมณ์ของกุศล
ดังนั้นการปล่อยจิตให้ระลึกรู้แต่ความสุขความสบายในสมาธิตามความเป็นจริง
ก็คือการเจริญสติ

ส่วนการรู้สึกตัวทั่วพร้อมคือการเจริญสัมปชัญญะ สัมปชัญญะคือการรู้สึกตัว
สติคือความระลึกได้

สัมปชัญญะมักเกิดตามหลังสติ บ่อยครั้งเราจึงมักเข้าใจว่าการรู้สึกตัวตลอดเวลา
คือการได้สติ หรือมีสติ

คนมักกลัวว่าถ้าปล่อยจิตไปกับความสุข ความสบาย จะกู่ไม่กลับ จะไร้สติ
แต่พอจิตเปี่ยมล้นด้วยปีติจนถึงจุดหนึ่งนั้น ปฐมฌานจะเกิด
อารมณ์มันจะพลิกกลับ คือจิตจะตั้งมั่นขึ้น หรือรวมลง สติจะเกิดชัด แจ่มใส
แช่มชื่น มีพลัง สว่างไสวรุ่งโรจน์ ผ่องใสไพโรจน์
หลังออกจากฌานแล้วจะรับรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริง และรู้ตัวทั่วพร้อม

เบากาย เบาใจ พิจารณาสิ่งใดก็แคล่วคล่องว่องไว ไม่ฟุ้งซ่านรำคาญใจ
ขณะเข้าฌานมักมีนิมิตผุดขึ้นตรงหน้า เหมือนลอยอยู่ด้านหน้าตรงเปลือกตา
นิมิตในอานาปานสติจะต่างกันไปในแต่ละครั้ง บางทีเหมือนหมอก เหมือนเมฆ
บางทีเหมือนสร้อยเพชร บางทีเหมือนดวงดาว หรือดวงจันทร์ บางทีเหมือนดวงแก้ว

และจะรู้ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมานั้น นิวรณ์ทั้ง 5 ไม่เคยดับได้สนิทเหมือนครั้งนี้
ความลังเลสงสัยจะหมดไป ความกลัวจะไม่มี

คนที่ติดสุขจากฌานโดยมาก มักติดผรณาปิติ
แต่ถ้าได้ตติยฌาน ละปิติได้เมื่อไร อาการติดใจในผรณาปิตินี้ก็จะหายไปเอง
และได้ความยินดีในความสงบมาแทนที่ความสุข
หรือมีอุเบกขาวางเฉยเป็นกลางไม่ยินดีและไม่ยินร้ายได้ในท้ายที่สุด

เมื่อได้ปฐมฌานจะสามารถทำสมาธิได้นานไม่ง่วง ไม่หลับ
มีสติมหาศาล
ไม่ฟุ้ง ไม่หิว ไม่ปวดไม่เมื่อย ถ้าปวดเมื่อยอยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ตำแหน่งที่ถูกยุงกัดจนคันก็หายไปเหมือนไม่เคยถูกยุงกัด

ที่ว่ามีสติรู้ตัวทั่วพร้อม คือ เป็นผู้รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักประมาณ
เมื่อออกจากฌานใหม่ๆ นิวรณ์จะยังไม่เกิด ช่วงนี้เหมาะสำหรับการเจริญวิปัสสนาอย่างยิ่ง เพราะยืน เดิน นั่ง นอน ก็สักแต่ว่า...อย่างแท้จริง
ทำสิ่งใดๆลงไปก็ทำไปตามเหตุและผลโดยปราศจากความยึดมั่นถือมั่น

เป้าหมายและประโยชน์ของการได้ฌาน ก็คือเพื่อให้วิปัสสนาญาณเกิดง่าย
เหมือนดังน้ำที่หายขุ่นและตกตะกอนแล้ว ย่อมส่องเห็นได้ชัด
หรือเหมือนกระจกเงาที่มัวเมื่อเช็ดและขัดถูจนใสย่อมส่องมองเห็นได้ชัดถนัดตา

วิตกกับวิจาร ก็คือการยกจิตขึ้นรับอารมณ์ปีติ หรือการน้อมจิตเข้าหาอารมณ์ปีิติ
หรือโผเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับอารมณ์ปีติ ไม่ใช่ความคิด หรือการตรึกตรอง
เหมือนดังนกจะบินสู่ท้องฟ้ากว้าง ก็ต้องกางปีกออกแล้วโผขึ้นสู่ฟ้า
หรือเหมือนการจะทำให้ไฟลุกโพลงก็ต้องเป่าลมเข้าหากองไฟหรือพัดลมเข้าไป

ช่วงที่ยังได้ปฐมฌาน ต้องหมั่นประคองปีติ โดยยกจิตขึ้นพิจารณาหรือรองรับปีติ
หรือเข้าหาปีติ เมื่อเข้าหาจนมีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียวแล้วปีติจะลุกโพลงขึ้นและเกิดต่อเนื่อง มากขึ้น เหมือนนักโต้คลื่นต้องหมั่นเลี้ยงตัวทรงตัวอยู่บนเกลียวคลื่น

ถ้าได้ฌานจริง หลังออกจากฌานและเจริญวิปัสสนา่ต่อ
วิปัสสนาญาณจะเกิดไวมาก และต่อเนื่อง รุนแรง รวดเร็ว สามารถขึ้นสู่วิปัสสนาญาณชั้นสูงๆได้ไว ความแตกดับของรูปและนามปรากฏพร้อมกันได้อย่างมากมาย รุนแรง เห็นทุกข์เห็นโทษเห็นภัยเห็นความน่ากลัวน่าเบื่อหน่ายของรูปและนามได้ชัดเจน

สิ่งที่ต้องระวังอย่างหนึ่งคือเมื่อนิวรณ์กลับมาเป็นปกติ ให้ระวังมานะความถือตัว
ให้ระวังความถือตัวว่าเก่งกว่าผู้อื่นหรือเหนือกว่าผู้่อื่น หรือชำนาญกว่าผู้อื่น

ให้รู้เท่าทัน อย่าให้มานะเติบโต เพราะเวลาทำฌานไม่ได้ เพราะประมาทหรือเพราะละทิ้งการทำสมาธิเกิน 3 วัน จะกลับไปทำอีกครั้งจะทำยากหรือลำบากมากขึ้น
ยิ่งทิ้งไว้เป็นสัปดาห์ยิ่งยากกว่าเดิม และจะเกิดโทมนัสมากกว่าคนทั่วไปว่าเคยทำได้ถึงอัปปนาสมาธิแต่ทำไมกลับทำไม่ได้เหมือนเดิม

ช่วงเวลาที่ตกต่ำ หรือทำไม่ได้ ให้พิจารณาความเสื่อมดังกล่าวว่าเป็นอนิจจัง
ทุกขัง อนัตตา ให้พิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยงและสภาพที่ไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามความปราถนาของเรา เ็ป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
พลิกสมถะให้เป็นวิปัสสนาโดยพิจารณาตามหลักไตรลักษณ์

แต่โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เคยได้ฌาน เขาจะไม่เริ่มตั้งต้นนับ 1 ใหม่
เขาจะใช้วิธีระลึกนึกถึงอารมณ์ที่เคยได้ในขณะที่เข้าฌาน
ถ้าจำอารมณ์ได้ ก็จะเข้าฌานได้ง่าย ได้ไว ไม่ต้องไปเริ่มหายใจเข้า หายใจออก
แต่ถ้าทิ้งร้างไว้นานก็จะลืม จะจดจำอารมณ์ไม่ได้

ถ้ามีใครทักท้วง คัดค้าน หรือสบประมาท ก็อย่าได้หวั่นไหว หรือขัดเคืองใจ
เพราะความลังเลสงสัย ความไม่มั่นใจ หรือปฏิฆะความขุ่นเคืองเหล่านี้เป็นนิวรณ์
เป็นเครื่องกั้น เป็นสิ่งกีดขวาง ที่ทำให้จิตไม่สงบตั้งมั่น
ถ้าทำได้จริง ก็ต้องทำซ้ำได้ ด้วยวิธีเดิม และได้อารมณ์แบบเดิมทุกครั้ง

หมั่นเข้าให้ได้ง่าย ได้ไว
อย่ารีบร้อนที่จะขึ้นไปสู่ฌานชั้นสูง ทำของเดิมให้ชำนาญเป็นขั้นๆไปก่อน
จะละองค์ฌานชั้นล่างๆได้ต้องพิจารณาให้เห็นความหยาบหรือความไม่ประณีตขององค์ฌานชั้นล่างๆ ค่อยๆละไปทีละตัว ตัวไหนทำให้รู้สึกว่ายังสงบไม่พอให้ละไปทีละตัว ยึดเอกัคคตาเป็นเสาหลัก วางอุเบกขาในองค์ฌานชั้นล่าง คือไม่ยินดี

ที่สำคัญคือ อย่าอยากได้ อย่าเร่งเวลา อย่าบังคับตัวเองว่าเข้าครั้งนี้ต้องได้ฌานชั้นนั้นชั้นนี้ ให้ใส่ใจกับอารมณ์ปัจจุบัน และให้ใส่ใจกับอารมณ์ปัจจุบันมากกว่าสนใจดูนิมิต
ถ้าดูนิมิตมากกว่าใส่ใจกับอารมณ์ปัจจุบัน นิมิตจะหาย
อารมณ์ของฌานก็จะหายตามไปด้วยเพราะไม่ใส่ใจประคองอารมณ์ให้สม่ำเสมอ

จากคุณ    : คืนวันอันแสนดี
23  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ร่วมอวยพร ส่งความสุข ด้วยการ์ด ดิจิตอล ต้อนรับปี 2555 / 2012 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2011, 09:35:01 am
24  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การปฏิบัติธรรม คือ การไม่เห็นแก่ตัว นะจ๊ะ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 01:01:14 pm
ทำเท่านี้ หรือ เพื่อ พระนิพพาน จัดเป็นการสร้างบารมีก่อน ใช่หรือไม่คะ
เหมือนกับสร้าง ทาน  ศีล และ ภาวนา

25  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เพื่อนสมาชิก มีความรู้สึกว่าเว็บ มัชฌิมา ตอนนี้ขาดอะไร หรือไม่จ๊ะ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 12:58:18 pm
คือ ถ้าส่วนตัว ก็มองว่า ขาด พระสงฆ์ มาช่วยตอบคำถามบ้าง นะคะ
เพราะเกรงว่า เดี๋ยวกลายเป็นว่า จะถูกมองว่า เราเก่งกว่าพระสงฆ์ ผู้ทรงปริยัติ

ยังชอบติดตาม มหาจรูญ ท่านชอบทำโหวต .....

 :25:
26  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / มีผู้กล่าวว่า รอยพระพุทธบาท ที่อยู่ในประเทศไทย นั้นเป็นรอยที่สร้างมาทั้งหมด เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 11:59:52 am
มีผู้กล่าวว่า รอยพระพุทธบาท ที่อยู่ในประเทศไทย นั้นเป็นรอยที่สร้างมาทั้งหมด

  ซึ่งไม่ได้เป็นรอยที่เกิดจากพระพุทธเจ้า จริง ๆ อยากทราบว่าในพระไตรปิฏก ได้กล่าวเรื่อง รอยพระพุทธบาทนี้ไว้อย่างไร บ้างมีประวัติในพระไตรปิฏก สนับสนุน หรือไม่

   :s_hi: :13:
27  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ไม่ได้ยินเสียง วิทยุ RDN 3 วันแล้วคะ เมื่อ: กันยายน 21, 2011, 12:12:07 pm
เมื่อสักครู่ ได้ฟัง เหมือนเสียงพระอาจารย์ ออกอากาศสด ใช่หรือไม่ คะ ปกติไม่ค่อยได้ฟังเสียงพระอาจารย์มาตั้งนาน แล้วคะ

   :25: :13:
28  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นิยตโพธิสัตว์ หรือ พระโพธิสัตว์ ที่ได้รับพยากรจากพระพุทธเจ้าแล้ว เมื่อ: กันยายน 18, 2011, 11:02:53 am
นิยตโพธิสัตว์ หรือ พระโพธิสัตว์ ที่ได้รับพยากรจากพระพุทธเจ้าแล้ว


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.photoontour9.com

จะ กล่าวคือบารมีท่านเต็มแล้วถึงขั้นปรมัตถ ท่านจะไม่ลาพุทธภูมิอีกแล้ว บารมีที่เต็มถึงขั้นปรมัตถ ซึ่งคือชีวิตก็สละได้นั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้พระโพธิญาณไม่คลาดเคลื่อน

ปรมัถ ทาน บารมี แม้ชีวิต หรือลูกเมีย ก็สละเป็นทานได้ จึงไม่มีสิ่งใดจะสำคัญไปกว่าพระโพธิญาณ แม้ต้องสละสิ่งใดเพื่อพระโพธิญาณ ท่านก็ยอม
ปรมัถ ศึล บารมี แม้ชีวิต ก็สละได้ แต่ไม่ยอมศีลขาด จึงทำให้อุปสรรคที่จะขวางพระโพธิญาณ ที่ใหญ่ ๆ แทบไม่มีอีกแล้ว
ปรมัถ เนกขัมมบารมี แม้ชีวิต ก็สละได้ จึงไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้ท่านไขว้เขวออกนอกทางแห่งพระโพธิญาณอีก
ปรมัถ ปัญญาบารมี เพราะปัญญาขั้นสูงสุด เห็นแจ้งแทงตลอด ว่าพระโพธิญาณเท่านั้นที่จะนำพาตัวเองและผู้อื่นพ้นได้ จึงไม่มีสิ่งใดที่ปารถนาอีกแล้วนอกจากพระโพธิญาณ
ปรมัถ วิริยะบารมี เพราะความเพียรที่สร้างสมมาเป็นมหัศจรรย์ เหนื่อมนุษย์ และเทวดาทั้งปวง ด้วยความเพียรอันชีวิตก็สละได้นี้แต่จะไม่ยอมล้มเลิกถ้าไม่ถึงจุดหมาย พระโพธิญาณ จึงเป็นที่เที่ยง
ปรมัถ ขันติ บารมี เพราะความอดทน อันเป็นปรมัถ เป็นคุณสมบัติแห่งพระพุทธเจ้า และด้วยขันติปรมัตถนี้ จึงไม่มีอุปสรรคใด ๆ ในเส้นทางที่เหลือจะทำให้ ลาพุทธภูมิได้อีก
ปรมัถ สัจจะ บารมี การมีสัจจะขั้นปรมัถหากปารภที่จะทำแล้วแม้ตายก็จะต้องทำให้สำเร็จจงได้ ด้วยคุณสมบัตินี้พระโพธิญาณ​ เป็นที่หวังได้เที่ยงแท้
ปรมัถ อฐิษฐานบารมี เพราะ การมุ่งตรงทาง มีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน แม้ชีวิตก็ไม่กลัวที่ต้องเสีย ด้วย การมุ่งตรงต่อเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นมหัศจรรย์ เช่นนี้ พระโพธิญาณ เป็นที่หวังได้เที่ยง
ปรมัถ เมตตา บารมี เพราะความเมตตา ต่อตนเองและสัตว์อื่น โดยไม่มีเงื่อนไข ใด ๆ และไม่มีประมาณอย่างแท้จริง จึงรู้ได้ว่าไม่มีญาณใด ๆ นอกจาก พระโพธิญาณเท่านั้นที่จะพาตนเองและสัตว์ข้ามไปได้ จึงไม่มีวันเปลี่ยนใจอีก
ปรมัถ อุเบกขา บารมี ด้วย อุเบกขา แห่งจิตอัน เป็นปรมัตถ แม้การเกิด จะเป็นทุกมหัน แต่ ทุกจะไม่สามารถทำให้จิตนี้ หมองได้อีก ด้วยอำนาจแห่งปรมัตถอุเบกขา ที่เพียร ฝึกหัดมาดีแล้ว พระโพธิญาณ จึงเป็นที่เที่ยง

หลังจากที่สร้างบารมีมาจนได้รับคำพยากรแล้วนี้ ช่วงสร้างบารมีช่วงหลังจะเป็นช่วง หาสาวก มากกว่า นางแก้วคู่บารมี พระพุทธบิดา พระพุทธมารดา ก็ ปรากฏตัวช่วงนี้ ดังที่เห็นได้จากเรื่องราวของสุเมธ ดาบส

อันว่าด้วยบารมีที่เต็ม จะปรากฏตัวที่ไหน หรือ ทำสิ่งใด ก็เป็นความยิ่งใหญ่ มหัศจรรย์ ใครเห็นก็ปรารถนาที่จะเป็นสาวก เนื่องด้วย ใครพบเห็นก็ประทับใจในจริยา มั่นใจได้ว่า ท่านผู้นี้จะไม่คลาดจากพระโพธิญาณเป็นแน่ จึงต่างพากันปารถนาจะเป็นสาวกของท่าน

จากคุณ    : vajra_guru
29  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สมาธิชั่ว "ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น" เมื่อ: กันยายน 02, 2011, 09:29:48 am
แสดงว่า ถ้าเราปฏิบัติ สมาธิ แม้เพียงเล็กน้อย ก็ได้อานิสงค์ ผลบุญแล้ว
ถ้าเราทำมาก ๆ ขึ้น อานิสงค์ ก็ต้องมากขึ้นด้วยใช่หรือไม่คะ

  :25:
30  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / หลวงพ่อชา สุภัทโท เรื่องกุญแจภาวนา เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 01:35:56 pm
หลวงพ่อชา สุภัทโท เรื่องกุญแจภาวนา
ศีลและสมถะต้องทำให้มาก
เรื่อง ศีลเรื่องธุดงควัตรพวกเราต้อง พยายามปฏิบัติ พวกญาติโยมก็เหมือนกันถึงปฏิบัติอยู่บ้านก็ตาม พยายามให้มีศีลห้า กายวาจาของเราพยายามให้เรียบร้อย พยายามดีๆ เถอะค่อยทำค่อยไป
การ ทำสมถะนี่ อย่านึกว่าไปทำครั้งหนึ่งสองครั้งแล้วมันไม่สงบก็เลยหยุดยังไม่ถูกต้อง ทำนานอยู่นะ ทำไมจึงนาน คิดดูสิเราปล่อยมานี่กี่ปี เราไม่ได้ทำมันว่าไปทางโน้นก็วิ่งตามมัน มันว่าไปทางนี้ก็วิ่งตามมัน ทีนี้จะมาหยุดให้มันอยู่เท่านี้เดือนสองเดือนจะให้มันนิ่งมันก็ยังไม่พอ
คิด ดูเถิดเรื่องการทำจิตใจ ให้เราเข้าใจว่าสงบในเรื่องสงบในอารมณ์ ทีแรกพอเกิดอารมณ์ใจไม่สงบใจวุ่นวายทำไมจึงวุ่นวาย เพราะมีตัณหาไม่อยากให้คิดไม่อยากให้มีอารมณ์ ความไม่อยากนี่แหละตัวอยาก คือวิภวตัณหา ยิ่งไม่อยากเท่าไรมันยิ่งชวนกันมา "เราไม่อยากมันทำไมจึงมา ไม่อยากให้มันเป็นทำไมมันเป็น"
นั่น แหละเราอยากให้มันเป็นเพราะเราไม่รู้จักใจเจ้าของ แหมเล่นอยู่กับพวกนี้กว่าจะรู้ตัวว่าผิดก็นานโขอยู่ คิดๆ ดูแล้วโอเราไปเรียกมันมามันจึงมา ไม่อยากให้มันเป็นอยากให้มันสงบไม่อยากให้มันฟุ้งซ่านนี่แหละความอยากทั้ง แท่งละ
31  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: สดุดี มหาราชินี เนื่องด้วยในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.2554 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2011, 11:55:04 am
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12สิงหาคม 2554

เพื่ออัญเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันแม่แห่งชาติปี 2554ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ความว่า


"เพลงชาติไทยเตือนไทยไว้เช้าค่ำ ให้จดจำจารึกใจไว้ทุกส่วน
 จะดำรงคงไทยได้ทั้งมวล ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี"

http://news.voicetv.co.th/thailand/15570.html
32  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ในเวลาทำงาน สามารถจะภาวนา กรรมฐาน ได้หรือไม่คะ เมื่อ: สิงหาคม 08, 2011, 12:09:58 pm
บางครั้งก็รู้สึกว่า กรรมฐาน เป็นเรื่องที่ทำได้ บางครั้ง ก็รู้สึกว่าทำยาก
มีหลายคน มักพูดว่า กรรมฐาน ปฏิบัติที่ไหนก็ได้

 แต่ครั้นพอเริ่มทำจริง ๆ ลองภาวนาในที่ทำงานดูกลับรู้สึกว่า เป็นเรื่องยากมากคะ

อยากทราบว่า เพื่อน ๆ ที่ภาวนากรรมฐาน ในที่ทำงานได้ดี นั้นมีิวิธีการภาวนากรรมฐาน กันแบบไหน คะ

ช่วยหน่อยนะคะ

อยากทำได้บ้าง คะ

 :25:
33  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ในพระสูตร พระไตรปิฏก นั้นมีพระอรหันต์ รูปใดที่ลงไปโปรดสัตว์นรก บ้างคะ เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 10:42:34 am
ในนพระไตรปิฎกมี แต่ไม่ปะติดปะต่อเท่าไร ยกมาเป็นบางส่วน

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 239
        ก็ท่านได้แม้โดยการมาก่อนอย่างนี้.  ก็ข้อนี้เป็นความช่ำชองของ
พระเถระ.   พระเถระไปนรก   อธิษฐานความเย็น   เพื่อให้เกิดความ
เบาใจ     แก่สัตว์ทั้งหลายในนรก    ด้วยกำลังฤทธิ์ของตนแล้ว   เนรมิต
ดอกปทุมขนาดเท่าล้อ  นั่ง  ณ  กลีบปทุม  แสดงธรรมกถา.  ท่านไป
เทวโลก    ทำทวยเทพให้รู้คติแห่งกรรม    แล้วแสดงสัจจกถา.    เพราะ
ฉะนั้น ท่านจึงได้   โดยเป็นผู้ช่ำของชำนาญอย่างนี้.

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 95
เดียรถีย์ที่รู้เรื่องก็พากันตอบว่า
ขอรับ   พวกข้าพเจ้าทราบ   ลาภและสักการะเกิดขึ้นเพราะอาศัยพระเถระ
รูปหนึ่ง  ชื่อมหาโมคคัลลานะ    เพราะพระเถระนั้น    ไปเทวโลก    ถาม
กรรมที่พวกเทวดาทำแล้ว    ก็กลับมาบอกกับพวกมนุษย์ว่า   ' ทวยเทพทำ
กรรมชื่อนี้    ย่อมได้สมบติเห็นปานนี้.'    แม้ไปนรก   ก็ถามกรรมของหมู่
สัตว์ผู้เกิดในนรกแล้วกลับมาบอกพวกมนุษย์ว่า  'พวกเนรยิกสัตว์ทำกรรม
ชื่อนี้   ย่อมเสวยทุกข์เห็นปานนี้.'    พวกมนุษย์ได้ฟังถ้อยคำของพระเถระ
นั้นแล้ว  ย่อมนำลาภสักการะเป็นอันมากไป (ถวาย). ถ้าพวกเราจักสามารถ
ฆ่าพระเถระนั้นได้ไชร้.  ลาภและสักการะนั้น  ก็จักเกิดแก่พวกเรา. "

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๗ - หน้าที่ 589
คราวนั้น   พระมหาโมคคัลลานเถระ   อยู่ที่กาฬศิลาประเทศ   ข้างภูเขาอิสิคิลิ.
ก็ท่านพระมหาโมคคัลลานะนั้น  เที่ยวไปยังเทวโลกบ้าง  อุสสทนรกบ้าง  ด้วย
ความเป็นผู้ถึงที่สุดด้วยกำลังฤทธิ์.      ท่านเห็นอิสริยยศใหญ่ของพุทธสาวกใน
เทวโลก     เห็นทุกข์ใหญ่หลวงของติตถิยสาวกในอุสสทนรก     แล้วกลับมายัง
มนุษยโลก   แจ้งแก่มนุษย์ทั้งหลายว่า   อุบาสกคนโน้น    และอุบาสิกาคนโน้น
บังเกิดเสวยมหาสมบัติในเทวโลกชื่อโน้น    สาวกของเดียรถีย์คนโน้นกับคนโน้น
บังเกิดที่นรกเป็นต้น     ในอบายชื่อโน้น.    มนุษย์ทั้งหลายพากันเลื่อมใสใน
พระศาสนา   ละเลยพวกเดียรถีย์เสีย.   ลาภสักการะใหญ่หลวงได้มีแก่สาวกของ
พระพุทธเจ้า.   ลาภสักการะของพวกเดียรถีย์ก็เสื่อมลง.   พวกเดียรถีย์เหล่านั้น
จึงพากันผูกอาฆาตในพระเถระ  ว่า  เมื่อพระเถระนี้ยังมีชีวิตอยู่    อุปัฏฐากของ
พวกเราก็แตกแยก   ทั้งลาภสักการะก็เสื่อมลง    พวกเราจักฆ่าพระเถระให้ตาย

เห็นมีเรื่องแสดงความเห็นเช่นนี้ อยู่คะ

34  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / สัตว์นรกได้เห็น พระพุทธเจ้าได้เห็น มนุษย์ เทวดา เมื่อ: สิงหาคม 04, 2011, 10:37:29 am
สัตว์นรกได้เห็น พระพุทธเจ้าได้เห็น มนุษย์ เทวดา


มี ปรากฎในอรรถกถาธรรมบทว่าในขณะนั้นพระพุทธเจ้าจำพรรษาอยู่ในนครสาวัตถี พรรษาที่ ๒๕ ผู้คนในชมพูทวีปหันมาเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาทำให้นักบวชของลัทธิอื่น เกิดความอิจฉา เพราะเขาเหล่านั้นเดือดร้อนในการขาดผู้ค้ำจุนดูแล  และขาดลาภสักการะ จึงทำการกลั่นแกล้งพระพุทธศาสนาโดยประการต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องฤทธิ์พระองค์และเหล่าสาวกของพระองค์เอง ศาสนาอื่นปลุกปั่นจนพระองค์ทรงห้ามเหล่าสาวกทั้งหลายแสดงฤทธิ์ พระองค์ก็งดแสดงฤทธิ์เช่นกัน จึงทำให้ศาสนามีจุดที่จะทำให้ลัทธิอื่นโจมตี เช่น อาจารย์ทั้ง ๖ และศาสนาเชน ทำการโฆษณาชวนเชื่อว่า พระพุทธศาสนานั้นมีพระพุทธเจ้า และสาวกสิ้นฤทธิ์หมดแล้ว อย่าไปนับถือเลยสู้พวกตนไม่ได้ยังมีฤทธิ์เหนือกว่า ควรจะมานับถือพวกตนดีกว่า พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า ขืนปล่อยไว้เฉยต่อไปโดยไม่ตอบโต้บ้าง อาจเป็นผลเสียต่อพระพุทธศาสนา

ดัง นั้นวันเพ็ญอาสาฬหะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ คือแสดงฤทธิ์เป็นคู่ ๆ ซึ่งก็มีปรากฎเพียงครั้งเดียว  ในครั้งนั้นทำให้ผู้คนที่เคลือบแคลงสงสัยในธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา หันมานับถือศาสนาอย่างมั่นคงอีกครั้ง ในวันรุ่งขึ้นแรม ๑ ค่ำ เดือนอาสาฬหะ เป็นวันอธิษฐานเข้าพรรษา พระพุทธเจ้าทรงประกาศจำพรรษาที่สรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตามธรรมเนียมที่พระพุทธเจ้าทำกันมา   พระพุทธเจ้าทรงลาบริษัทแล้วก็เสด็จขึ้นไปจำพรรษา ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพุทธมารดา โดยได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่มีชื่อว่า "พระสัตตปรณาภิธรรม" หรือพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์

พอครบเวลา ๓ เดือนของการโปรดพระพุทธมารดาด้วยพระอภิธรรมทั้ง ๗ ในวันเพ็ญเดือน ๑๑ ก็เสด็จกลับลงมายังโลกมนุษย์ ณ ที่ประตูเมือง สังกัสสนคร เสด็จลงทางบันไดแก้วทิพย์ ซึ่งตั้งระหว่างกลางของบันไดทองทิพย์อยู่เบื้องขวา บันไดเงินทิพย์อยู่เบื้องซ้าย และหัวบันไดทิพย์ที่เทวดาเนรมิตขึ้นทั้ง ๓ พาด บนยอดเขาพระสิเนรุราช อันเป็นที่ตั้งแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ส่วนเชิงบันไดตั้งอยู่บนแผ่นศิลาใหญ่ ใกล้ประตูเมืองสังกัสสนครและสถานที่นั้นประชาชนถือว่าเป็นศุภนิมิตรสร้างพระ เจดีย์ขึ้นเป็น "พุทธบูชานุสาวรีย์" เรียกว่า "อจลเจดีย์"
ท้าวสักกเท วราชพร้อมด้วยบริวารตามลงมาเสด็จทางบันใดสวรรค์จนถึงขั้นพิภพ พระพุทธเจ้าทรงใช้อิทธิฤทธิ์บันดาลให้โลกทั้ง ๓ มี เทวโลก , มนุษย์โลก , สัตว์นรก มองเห็นกันทั้งหมด จึงเรียกวันนั้นว่า "วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก"

พอ วันรุ่งขึ้นเป็นวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ผู้คนในชมพูทวีปพากันมาใส่บาตรพระสงค์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข การตักบาตรในครั้งนั้นได้นัดหมายกันมาก่อนเลยต่างคน ก็ต่างมาด้วยศรัทธา จึงทำให้คนมามากมาย เมื่อมีมามากทำให้ไม่ถึงบาตรพระภิกษุสงฆ์ จึงเอาข้าวของตนห่อหรือปั้นเป็นก้อน โยนใส่บาตรพระด้วยเหตุนี้ ต่อมาภายหลังจึงนิยมทำข้าวต้มลูกโยนใส่บาตรพระในวันเทโวณหณะ

การทำ บุญอันเป็นประเพณีที่นิยมกระทำกันมานานแล้วในวันออกพรรษา ซึ่งเรียกว่า " ตักบาตรเทโว" หรือเรียกชื่อเต็มตามคำพระว่า "เทโวโรหนะ" แปลว่าการหยั่งลงจากเทวโลก หรือการตักบาตรนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ตักบาตรดาวดึงส์" และการตักบาตรเทโวนี้ จะกระทำในวันขึ้น ๑๕ เดือน ๑๑ หรือวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ก็ได้สุดแท้แต่จะเห็นพร้อมกัน

การทำบุญ ตักบาตรเทโวนี้ ท่านจัดเป็นกาลนาน คือ หนึ่งปีมีหนึ่งครั้ง และการกระบุญเช่นนี้ โดยยึดถือว่าเป็นวันคล้ายกับวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก ตามตำนานดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
35  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พิจารณา ที่ตัวเอง อย่างไร ว่า กิเลสดับได้ หรือ กิเลส ยังเหลือ อยู่ เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2011, 08:55:55 am
อยากทราบว่าในการภาวนา กรรมฐานวิปัสสนา นั้น

เราพึงพิจารณา ที่ตัวเอง อย่างไร ว่า กิเลสดับได้ หรือ กิเลส ยังเหลือ อยู่

ในขณะที่เราภาวนา หรือ หลังจากการภาวนา

 :c017:
36  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เวียนเทียนในดินแดนที่ห่างไกล(คนไทยพลัดถิ่น) เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2011, 02:26:33 pm
ประทับใจ เช่นเดียวกัน คะกับชาว มาเลย์ คนไทย ที่อยู่ที่นั่นคะ
ยังมีวัฒนธรรม ไทยให้เห็นอยู่มากเลยคะ

 :25: :25: :25:
37  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เพื่อน ๆ สมาชิกธรรมทุกท่าน สมัยนี้ ฆราวาส ที่เป็นพระอรหันต์ ยังมีอยู่หรือไม่ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2011, 09:37:20 am
โดยส่วนตัว ไม่เชื่อ ว่าพระอรหันต์ จะมีในเพศฆราวาส แล้วนะคะ

เพราะลำพัง เฉพาะพระสงฆ์ เองก็ยังหายากเลยคะ .....

  ยิ่งในสมัยนี้ ไปถามพระสงฆ์แล้ว แม้พระสงฆ์เอง ก็ยังไม่คิดว่ามีพระอรหันต ในปัจจุบันเลยคะ

 ที่วัดเห็นมีแต่พระเรียนกันทั้งนั้น ก็เรียนถือกระเป๋า สะพายโน๊ตบุ๊ก แล้วก็สึกกันทั้งนั้น ไม่เห็นจะภาวนาอะไรเลยคะ

สรุป แล้ว ไม่เชื่อว่า มีพระอรหันต์ในเพศฆราวาส คะ แต่ ในพระสงฆ์ น่าจะยังมีอยู่ คะ

 :34:
38  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ขอข้อมูลเืรื่อง ทวีป 4 ที่ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2011, 09:34:14 am
อ่านแล้วอย่างกับนิยาย เลยนะคะ

ทำให้สงสัย ว่าจริง หรือไม่ ......


 :smiley_confused1:
39  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: วัดล้านขวด วัดที่สร้างจากขวดใช้แล้ว 2 ล้านใบ เมื่อ: มิถุนายน 25, 2011, 08:48:10 pm
เห็นวัดแล้วทึ่งเลยคะ เป็นวัด Recycle ตัวอย่าง จริง ๆ คะ
หลวงพ่้อท่านมีความพยายาม อย่างมากนะคะ กว่าจะสร้างได้แบบนี้ทั้งวัด

ขอบคุณ ผู้นำมาโพสต์ให้ทราบด้วยคะ
ได้ความรู้ ว่ายังมีวัดที่มีแนวการพัฒนาตัวอย่าง อยู่ จริง ๆ คะ

 :c017: :25:
40  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ฮือฮา!! พระพุทธรูป "ปากแดง" 8 องค์ ที่วัดช้างใหญ่ เจ้าอาวาสยังฉงน..... เมื่อ: มิถุนายน 25, 2011, 08:46:07 pm
น่าแปลกใจ เหมือนกัน ว่าพระสมัยอยุธยา ทำไมต้องทำปากสีแดง ด้วยเนอะ
ใครมีความรู้ด้านนี้ ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อย ได้ไหมคะ

 :c017:
หน้า: [1] 2