อนุโมทนา สาธ ครับ

 

อ่านแล้วเหมือนตนเองพลาดอะไรไปบางอย่าง
อนุโมทนา สาธุครับ


 

ตอนนี้ใช้งานได้ไวมากครับ

 

[ผมว่า คนที่ทำงานในด้านการเผยแผ่ พระศาสนา นั้นน่าชื่นชมนะครับ เพราะว่าต้องมีกำลังสูบงมากกว่าการภาวนา แต่เคยฟังพระอาจารย์ มาว่าผู้ภาวนาส่วนใหญ่ มักจะฟุ้งซ่านในการทำความดี เป็น อุทธัจจะสังโยชน์ ดังนั้นผู้ปฏิบัติภาวนาในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ พึงสำรวมจิต ระวังใจ ปฏิบัติตามคำสั่งของครูอาจารย์ เคยฟังว่า การเผยแผ่วิชากรรมฐาน เป็นหน้าที่ของครูอาจารย์ ลูกศิษย์อย่างเราเพียงสนับสนุนปัจจัย สี่ ที่ควรสนับสนุนเท่านั้น เพราะบางคนฟุ่้งซ่านเกินไปถึงกับไปตั้งสำนักโดยไม่ขออนุึญาตจากครูอาจารย์ และทำให้เกิดความเสียหายตามมา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเป็นกรรมฐาน ที่นับเนื่องด้วยการปฏิบัติ หากลูกศิษย์ไม่ปฏิบัติก้ไม่มีทางเข้าใจในส่วนนี้ ส่วนวิชากรรมฐาน เริ่มแรกคือ การปรับธาุตุ กับพอกพูน ธาตุรู้ คือ พระลักษณะ และ พระรัศมี ธา่ตุรู้ควรจะต้องรู้ส่วนนี้ก่อน ทุกคนมีทุกธาตุ การชอบธาตุไหน ก็แล้ว แต่สถานการณ์ นะครับ บางครั้งหนาว ก็ชอบธาตุไฟ บางครั้งร้อน ก็ชอบธาตุน้ำ ธาตุลม ธาุตุอากาศ เป็นต้น]

ผมว่า คนที่ทำงานในด้านการเผยแผ่ พระศาสนา นั้นน่าชื่นชมนะครับ เพราะว่าต้องมีกำลังสูบงมากกว่าการภาวนา แต่เคยฟังพระอาจารย์ มาว่าผู้ภาวนาส่วนใหญ่ มักจะฟุ้งซ่านในการทำความดี เป็น อุทธัจจะสังโยชน์ ดังนั้นผู้ปฏิบัติภาวนาในสายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ พึงสำรวมจิต ระวังใจ ปฏิบัติตามคำสั่งของครูอาจารย์

     เคยฟังว่า การเผยแผ่วิชากรรมฐาน เป็นหน้าที่ของครูอาจารย์ ลูกศิษย์อย่างเราเพียงสนับสนุนปัจจัย สี่ ที่ควรสนับสนุนเท่านั้น เพราะบางคนฟุ่้งซ่านเกินไปถึงกับไปตั้งสำนักโดยไม่ขออนุึญาตจากครูอาจารย์ และทำให้เกิดความเสียหายตามมา

     กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเป็นกรรมฐาน ที่นับเนื่องด้วยการปฏิบัติ หากลูกศิษย์ไม่ปฏิบัติก้ไม่มีทางเข้าใจในส่วนนี้

     ส่วนวิชากรรมฐาน เริ่มแรกคือ การปรับธาุตุ กับพอกพูน ธาตุรู้ คือ พระลักษณะ และ พระรัศมี ธา่ตุรู้ควรจะต้องรู้ส่วนนี้ก่อน
   
     ทุกคนมีทุกธาตุ การชอบธาตุไหน ก็แล้ว แต่สถานการณ์ นะครับ
   
       บางครั้งหนาว ก็ชอบธาตุไฟ บางครั้งร้อน ก็ชอบธาตุน้ำ ธาตุลม ธาุตุอากาศ เป็นต้น

   มาบ่นเป็นเพื่อน เท่านี้ครับ และอนุโมทนา กับความมั่นคงในวิชากรรมฐาน ครับ

   


   
   

ก็โพสต์ ตอบบ้าง ถ้าิคิดว่าตอบได้

 ส่วนใครตอบได้ดีกว่า ก็ อนุโมทนา สาธุ ครับ

 ต้องลดมานทิฏฐิ ครับ / การแจกธรรมทาน เป็น ทานที่เลิศ กว่าทานทั้งปวงแล้วครับ
   ในห้องนี้ผมอนุโมทนา กับไม่กี่ท่านครับ

      ที่โพสต์ ได้ดี มีเนื้อหา ที่่สุด ก์คือ พระอาจารย์ ครับ แต่ท่านโพสต์น้อยครับ
     ที่โพสต์ ได้ อรรถ มาก ก็คือ คุณ nathaponson
     ที่โพสต์ เปิดเผยอารมณ์ และกลอน ดี ก็ คือ คุณ tawatchai173
     ที่โพสต์ ได้หลากอรรถรส เรือง ทั่วไป ต้องยกให้ คุณ หมวยจ้า ( อันนี้หายไปไหนเอ่ย ? )
     ที่โพสต์ ตอบแล้วอ่านสนุก ก็ หลวงพี่เฉย ( หายไปเหมือนกัน )
     ที่โพสต์ ตอบได้ดี และ คงเนื้อหา ไว้ก็มีอีกหลาย ท่าน ครูนภา ครูอาริสา ครูประสิทธิ์ nongya np2706 suchin_tum ISARAPAP sompong komol lastman nopadol

     ที่โพสต์ แล้วชอบมาก ๆ คือ Utapati ( แต่ก็หายไปเช่นกัน หรือ จะหมดอายุขัยแล้ว )
     ที่มีเนื้อหา ให้ชาวบ้านอีกคนคือ ลุง kittisak

     ที่ยังไม่ได้กล่าวมายังมีอีกหลายท่าน ครับ
     ถ้าโพสต์งานบุญ ผมชอบ คุณ paisalee ครับ ค่อนข้างจะรวบรวมงานได้ดีครับ
     ถ้าพูดถึงตอบปัญหา ชีวิต ผมชอบ พวกผู้หญิงตอบ นะครับ ตอบดีเกินคาด

     แหมกล่าวไปไม่หมดแน่ ๆ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม กันต่อไปนะครับ

   
 

อนุโมทนา ครับ

 จริง ๆ แล้วผมว่า คนโพสต์ หายากจริง ๆ นะครับ

   

 

อนุโมทนา ครับ

 

[http://www.watprasartsit.comวัดปราสาทสิทธิ์]

http://www.watprasartsit.com
วัดปราสาทสิทธิ์


วัดปราสาทสิทธิ์
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 326 หมู่ 5 ตำบล ประสาทสิทธิ์
อำเภอ ดำเนินสะดวก  จังหวัด ราชบุรี   70210

ติดต่อ  สำนักงาน วัดปราสาทสิทธิ์

โทร.- ๐๘๑-๙๔๒-๗๔๘๒

โทรสาร.- ๐๓๒-๓๖๐-๒๓๕

E-Mail : watprasartsit@hotmail.com

[ขอเชิญญาติโยมร่วมปฏิบัติธรรมถือศีลจาริณี (ศีล ๘) ในวันมาฆบูชา ในวันที่ ๕ – ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ วัดปราสาทสิทธิ์ ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี โดยใน วันจันทร์ ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๙ เริ่มพิธีบวช โดยพระครูประภัสสรวรคุณ (เจ้าอาวาส วัดปราสาทสิทธิ์)]

ขอเชิญญาติโยมร่วมปฏิบัติธรรมถือศีลจาริณี (ศีล ๘) ในวันมาฆบูชา

ในวันที่ ๕ – ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ณ วัดปราสาทสิทธิ์ ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
โดยใน วันจันทร์ ที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๙

เริ่มพิธีบวช โดยพระครูประภัสสรวรคุณ (เจ้าอาวาส วัดปราสาทสิทธิ์)



http://www.watprasartsit.com/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A8%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%93/

อนุโมทนา ครับ ขออนุญาต ช่วยปรับวรรคตอนให้ใหม่ นะครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ
 

อนุโมทนา สาธุ ครับ คิดถึงครับ
 วัดนี้ไปอยากหรือไม่ครับ ที่มาเลเซีย

 อนุโมทนากับภาพครับ ที่นำมาให้ชมครับ

 

อนุโทนา กับพระอาจารย์ ทีกรุณา ตอบครับ ผมได้ถามเรื่องนี้ไปนานมากแล้วนะครับ นึกว่าพระอาจารย์ จะไม่ตอบ อีกนะครับ ( รู้สึกน้อยใจ ) แต่มาคิดไปคิดมาต้องตามอ่าน กระทู้ทุก ๆ วันก็จะรู้ว่า มีการตอบใน เว็บ แทนบ้างไม่ได้ตอบจดหมายกัน ตรง ๆ ( ผมก็คิดมากครับ )

  สาธุ ครับ

   

ทำไม ผู้ปฏิบัติธรรมภาวนา ต้องหนี่หายกันไป หัวซุกหัวซุน ?

  คือผมสังเกตุนักปฏิบัติธรรม ที่ผมเคารพเลื่อมใส ส่วนมากมัก จะประสบความลำบาก บ้างก็ถูกกล่าวหาเป็นบ้า บ้างก็ถูกขับไล่ บ้างก็หายตัวไปอย่างลึกลับ

  พอได้นึกถึงอย่างนี้ ก็เกิดความสงสัยว่า ทำไม และ ทำไม ? why ?
  ฤา ว่าธรรมของพระพุทธเจ้า ที่ถ่ายทอดไว้นั้น เมื่อปฏิบัติแล้ว ก็ไม่สามารถใช้ได้จริง ไม่ว่าหลักชุมชม หลักธรรมทั้งปวง ที่ล้วนอธิบายมากันมานี้ เพื่ออะไร ?

   สรุปทุกท่านมีความคิดอย่างไร ว่าผู้ปฏิบัติภาวนานั้น ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้คนทั่วไปได้ แสดงว่า หลักธรรมใช้ไม่ได้จริง หรือ ผู้ภาวนาทำไม่ได้จริง หรือมีเหตุอย่างไร
     
   ปัญหานี้ตั้งมาเพื่อ การขจัดปัญหา ที่คิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของผู้ปฏิบัติธรรม
   
   

น่าสนใจ มากนะครับ 

คิดว่า รอพระอาจารย์ตอบดีกว่า ครับ เพราะเท่าที่อ่านไม่ใช่ปัญหาที่เราจะตอบได้เลยสักปัญหาครับ

 

ถึงว่า เ้ข้าไม่ได้ ในช่วง นี้ พักเที่ยง พักงาน เฮ้อ
ขอบคุณ เว็บมาสเตอร์ ที่แก้ไขได้ไว

 

พระอาจารย์ สำรวจแล้ววางโครงการไปเมื่อไหร่ ครับ ส่วนนี้

 

พระอาจารย์ สำรวจเส้นทางนี้ไว้ จะปีแล้วนะครับ ยังไม่ได้พาศิษย์ ไปหรือครับ

 

อนุโมทนา ตรงนี้อีกครั้ง ครับ

 

อนุโมทนา กับคุณ tcarisa ด้วยครับปกติหัวข้อนี้ผมเข้ามาแล้ว ก็คิดว่า น่าหงุดหงิดเหมือนกันครับ คือไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็มีคนเข้ามาชมมากนะครับ ผมลอง login เข้ามาก็ผิดหวังเหมือนกัน ครับ ต้องไปเปิด Gallory โดยตรงเลยครับ แต่ช่วงหลัง มานี่ Gallory ไม่มีภาพอัพเดทครับ เพราะไปอยู่ www.madchima.net แล้วครับ ก็เห็นด้วยนะครับ

 

[ไม่รู้จะบอกยังไง ไม่ให้เป็นวิวาทะ.. ทั้งหมดที่เขียนต่อไปนี้ไม่ได้กล่าวหาจขกท. แต่ว่าอ่านแล้วมันคิดเห็นอย่างนี้นะคะคือการปฏิบัติธรรมจะให้เดินถึงที่หมาย เดินสบาย ไม่ติดขัด ต้องมีครูอาจารย์ ครูอาจารย์ต้องเก่งด้วยคือถ้าอาจารย์เก่ง จะติดสมถะสมาธิอะไรก็ติดไม่นานหรอก ท่านเขกหลุดหมดแหละ จะวิปัสนูอะไร ก็หลุดได้หมด เพราะพวกท่านผ่านมาก่อน ท่านแก้ไขให้เราได้เรื่องติดเพ่ง มันเป็นอาการปกติ คือตั้งใจเกินไป เครียดเกินไป จงใจเกินไป ในการภาวนา จิตไม่เป็นกลาง ใครๆ ก็เคยเป็น ถ้ามีครูชี้แนะก็หมดปัญหา การติดเพ่ง ไม่ใช่ติดฌาน.. เพราะทำฌานต้องให้ฌานติด ต้องติดฌานจึงจะได้ฌาน เมื่อได้ฌานแล้ว เขาเอาตัวฌานนั่นแหละมาละตัวเองการพัฒนาทางจิตมันจะทำลายตัวเองไปเรื่อยๆ เป็นขั้นๆ จนไม่มีอะไรเหลือ นี่คือหนทางของฌานลาภี ซึ่งก็ไม่ได้มีกันง่ายๆ จนกระทั่งเป็นสาธารณะ ถึงกับจะต้องบัญญัติเป็นคำเตือนภัย.. จนทำให้เกิดมิจฉาทิฐิในวงกว้าง กลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไปกลัวเสียตั้งแต่ยังไม่ได้หัดเพ่งเลย..คนเพ่งฌานจนไม่ไปไหน ร้อยนึงจะได้สักห้าคนหรือเปล่ายังไม่รู้ ฤาษีชีไพรมาเกิดก็มีมันวาสนาของเขา ถ้าหัดทำสมาธิแล้วเป็นเพ่งแบบฤาษี ยิ่งต้องหาครูสอนใหญ่เลย เพราะตัวเองแก้เองไม่ได้หรอก ถ้าแก้ได้เองก็คงไม่ติดนะ..วาสนาแบบฤาษี ก็ต้องเรียนรู้แบบฌานลาภี จะไปเรียนแบบสายปัญญามันก็ไม่ใช่จะก้าวหน้าได้ง่ายๆ อีกอย่างหนึ่ง หลายๆ ราย ติดสมถะ ติดเพ่งฌานจริงๆ ติดอยู่สิบยี่สิบปี เลยไปโทษวิธีการทำสมถะ ที่จริงเป็นวิบากของตนหรือเปล่า เป็นผลจากกรรมของตนหรือไม่ก็ไม่รู้อีก ติดเพ่งมาสิบปียี่สิบปี วันนึงแกะหลุด เลยมีความก้าวหน้า ก็หันกลับไปมองว่าที่ตัวทำมานั้นผิดๆ รู้ได้ยังไงว่าผิดที่วิธี ไม่ผิดที่ตนเองแต่จะเคยคิดบ้างไหมว่า ที่ติดมาก่อน นั่นคือขั้นตอนของการเรียนรู้ ของคนแต่ละคนที่มีเส้นทางมาไม่เหมือนกัน ก็เพราะผลจากที่ทำมาสิบยี่สิบปีนั่นแหละ เมื่อวันหนึ่งถึงเวลาของเขา เขาก็เจริญแตกออกจากเปลือก มันไม่ใช่ว่าที่ทำมามันผิดเสมอไป ธรรมให้ผลตามกาล เขามีฤดูการของเขา บางคนช้าบางคนเร็ว ไม่เหมือนกันขออ้างเอดิสันซึ่งทำการทดลองแล้วเสียหาย ล้มเหลวเป็นพันครั้ง มาสำเร็จเอาตอนพันหนึ่ง มีคนถามว่า ไม่ท้อถอยหรือที่ต้องล้มเหลวเป็นพันครั้ง เขาตอบว่า ไม่เลย เพราะว่าขั้นตอนการทดลองของเขามีพันหนึ่งครั้งต่างหาก ที่ผ่านมาทั้งหมดที่ล้มเหลว เป็นเพียงขั้นตอนของการเรียนรู้ เป็นบันไดพันขั้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงอาจารย์สอนว่า บัณฑิตไม่เหยียบใบลานแห้ง คือไม่ดูถูกของเก่า วิธีเก่า.. เราทำไม่ได้เอง เราติดเอง อย่าไปโทษวิธีการ ต้องโทษปัญญาของตัวเราเองที่มีน้อยไปเราเห็นว่าการเอาเรื่องติดเพ่งมาเตือนคนทั่วๆไป ที่ไม่มีความสามารถจะติดฌานได้เลย กลายเป็นวาทกรรม ทำให้คนกลัวฌาน เข้าข่ายปรามาสพระธรรมอีกนะคะ ทุกๆ วันจะต้องได้ยินคนบอกว่ากลัวติดเพ่ง กลัวติดสมถะ แต่ปัญหาที่มาสอบถามคือ ทำยังไงดี ทำสมาธิไม่ได้ ฟุ้งซ่านมากเลย.. อ้าว..ก็ยิ่งฟุ้งยิ่งต้องฝึกสมาธิซี สมาธิแบบสัมมาสมาธิน่ะ.. ไม่ใช่ฟุ้งแล้วเลยทำวิปัสสนา.. จะเหลืออะไรให้ "วิ" ล่ะเรายังเบื่อกับคำถามพวกนี้เลย เจอบ่อยๆ จนเบื่อ พอมีโอกาสก็ระบายซะหน่อยอยากจะให้เข้าใจว่า การเพ่งฌานเมื่อทำไปทีละขั้น สภาวะแต่ละขั้น มันละในตัวของมันเอง ไม่ใช่เรื่องต้องไปกลัวไปช่วยละเลย การละไม่ได้ในแต่ละขั้นคือติดสภาวะ ไม่ใช่ติดเพ่ง บางคนติดสุข เลยไม่ละก็มี แต่วิธีแก้ไขมันก็มีอยู่เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไรถ้าไม่ละวิตก ก็ไม่ได้วิจาร ถ้าไม่ละวิจารก็ไม่ได้ปีติ ไม่ละปีติก็ไม่ได้สุข ไม่ละสุขก็ไม่ได้เอกัคคตาจิตได้ฌาน 4 แล้วตัวตนแน่นปึ๊ก สมาธิแกร่งปั่ก ถ้าไม่ออกมาเจริญปัญญา ยังติดฌานชอบทำต่อไป ได้อรูปฌานที่ 1 มันก็ต้องละไอ้ตัวฌานแน่นปึกออก ถึงจะได้อรูป ทำต่อไปก็ละออกไปทีละชั้นๆ ไม่มีอะไรเหลือทำฌานให้ได้ถึง 8 มันก็ล่อนจ้อนแล้ว จะทำตัวที่ 9 ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าไม่ตายซะก่อนแต่ถ้าตายในฌานระดับนั้น ไปสุทธาวาส มีพระพุทธเจ้ามาแสดงธรรมบ่อยๆ ก็บรรลุได้เลย ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่เราก็ไม่เข้าใจว่าจะกลัวอะไรกันนักกันหนา.. อยากเป็นเทวดา แต่กลัวสวรรค์..ถ้ากลัวฌานก็ทำนอกชานก็ได้ วิปัสสนาแบบขณิกสมาธิก็ได้ แต่ไม่ใช่เราทำไม่ได้แล้วเราไปปรามาสวิธีการนั้นๆ ว่ามีข้อเสียอย่างนั้นอย่างนี้ ช่วยกันเผยแพร่ให้คนกลัวสมถะที่จริงถ้ากลัวก็ง่ายมาก ตามหาครูบาอาจารย์สิ อาจารย์เก่งๆ ยังมีมากมาย มีอยู่ทุกภาค ขอให้ตั้งใจเสาะหาเถอะ โดยเฉพาะอาจารย์สายวัดป่า เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง องค์ไหนก็ได้ เปิดเน็ตเสิร์ชหาดู เอาตัวไปกราบท่าน ไปปฏิบัติกับท่าน มันก็หมดปัญหาเรื่องความกลัว ท่านเก่งๆ ทั้งนั้น มีให้เลือกหลายวัยเลย ศรัทธาแนวไหนก็ไปหาแนวนั้น พระดีๆ มีอยู่ทั่วไทย..อ่านเองคิดเอง มันก็วนอยู่นี่แหละ ต่อให้ติดเพ่ง อ่านวิธีแก้ไข ใช่ว่าจะแก้ได้เสมอไป ส่วนใหญ่คนที่ติดเพ่ง ไม่รู้ตัวหรอก ผงเข้าตาตัวเอง จะเขี่ยออกเองได้ไง.. มันเป็นสภาวะที่ต้องให้คนอื่นช่วยเขี่ยค่ะ สภาวะติดเพ่งนี่น่ะ การอ่าน การฟังซีดี มันเหมาะสำหรับขั้นพื้นฐานของการปฏิบัติ เพราะเข้าถึงง่าย เราก็จะได้เริ่มปฏิบัติ แต่ถ้าปฏิบัติไปแล้ว มีสภาวะเกิดขึ้น บางทีการอ่านหรือซีดีมันไม่พอช่วย ควรจะได้เวลาออกตาหาครูอาจารย์ค่ะ ถ้าจะเอาจริงให้ได้จริงๆ ก็ต้องยอมเสีย เสียเวลา เสียเงินเดินทางบ้าง เสียความสบายส่วนตัวบ้าง แต่ได้ของจริงหมดอาจารย์รุ่นนี้แล้ว จะมาเสียใจภายหลัง.. คราวนี้จะไปตามหาก็ไม่มีให้หาแล้ว..แล้วอีกอย่างหนึ่งเกิดในยุคกลียุคอย่างนี้ เป็นเทวดาเป็นพรหมก็เอาเถอะ ไปถามได้เลย พระอาจารย์ทั้งหลายองค์ไหนองค์นั้น ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรจะกลัวน รกมากกว่านะคะจากคุณ : chaosy]

ไม่รู้จะบอกยังไง ไม่ให้เป็นวิวาทะ.. ทั้งหมดที่เขียนต่อไปนี้ไม่ได้กล่าวหาจขกท. แต่ว่าอ่านแล้วมันคิดเห็นอย่างนี้นะคะ


คือการปฏิบัติธรรมจะให้เดินถึงที่หมาย เดินสบาย ไม่ติดขัด ต้องมีครูอาจารย์ ครูอาจารย์ต้องเก่งด้วย

คือถ้าอาจารย์เก่ง จะติดสมถะสมาธิอะไรก็ติดไม่นานหรอก ท่านเขกหลุดหมดแหละ  จะวิปัสนูอะไร ก็หลุดได้หมด  เพราะพวกท่านผ่านมาก่อน ท่านแก้ไขให้เราได้


เรื่องติดเพ่ง มันเป็นอาการปกติ คือตั้งใจเกินไป เครียดเกินไป จงใจเกินไป ในการภาวนา จิตไม่เป็นกลาง  ใครๆ ก็เคยเป็น ถ้ามีครูชี้แนะก็หมดปัญหา 


การติดเพ่ง ไม่ใช่ติดฌาน..   เพราะทำฌานต้องให้ฌานติด ต้องติดฌานจึงจะได้ฌาน เมื่อได้ฌานแล้ว เขาเอาตัวฌานนั่นแหละมาละตัวเอง

การพัฒนาทางจิตมันจะทำลายตัวเองไปเรื่อยๆ เป็นขั้นๆ จนไม่มีอะไรเหลือ นี่คือหนทางของฌานลาภี ซึ่งก็ไม่ได้มีกันง่ายๆ  จนกระทั่งเป็นสาธารณะ ถึงกับจะต้องบัญญัติเป็นคำเตือนภัย..  จนทำให้เกิดมิจฉาทิฐิในวงกว้าง กลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไปกลัวเสียตั้งแต่ยังไม่ได้หัดเพ่งเลย..

คนเพ่งฌานจนไม่ไปไหน ร้อยนึงจะได้สักห้าคนหรือเปล่ายังไม่รู้ ฤาษีชีไพรมาเกิดก็มี
มันวาสนาของเขา ถ้าหัดทำสมาธิแล้วเป็นเพ่งแบบฤาษี ยิ่งต้องหาครูสอนใหญ่เลย เพราะตัวเองแก้เองไม่ได้หรอก  ถ้าแก้ได้เองก็คงไม่ติดนะ..


วาสนาแบบฤาษี ก็ต้องเรียนรู้แบบฌานลาภี จะไปเรียนแบบสายปัญญามันก็ไม่ใช่จะก้าวหน้าได้ง่ายๆ  อีกอย่างหนึ่ง หลายๆ ราย ติดสมถะ ติดเพ่งฌานจริงๆ ติดอยู่สิบยี่สิบปี เลยไปโทษวิธีการทำสมถะ ที่จริงเป็นวิบากของตนหรือเปล่า เป็นผลจากกรรมของตนหรือไม่ก็ไม่รู้อีก   ติดเพ่งมาสิบปียี่สิบปี วันนึงแกะหลุด เลยมีความก้าวหน้า ก็หันกลับไปมองว่าที่ตัวทำมานั้นผิดๆ  รู้ได้ยังไงว่าผิดที่วิธี ไม่ผิดที่ตนเอง


แต่จะเคยคิดบ้างไหมว่า ที่ติดมาก่อน นั่นคือขั้นตอนของการเรียนรู้ ของคนแต่ละคนที่มีเส้นทางมาไม่เหมือนกัน  ก็เพราะผลจากที่ทำมาสิบยี่สิบปีนั่นแหละ เมื่อวันหนึ่งถึงเวลาของเขา เขาก็เจริญแตกออกจากเปลือก  มันไม่ใช่ว่าที่ทำมามันผิดเสมอไป   ธรรมให้ผลตามกาล เขามีฤดูการของเขา บางคนช้าบางคนเร็ว ไม่เหมือนกัน


ขออ้างเอดิสันซึ่งทำการทดลองแล้วเสียหาย ล้มเหลวเป็นพันครั้ง มาสำเร็จเอาตอนพันหนึ่ง มีคนถามว่า ไม่ท้อถอยหรือที่ต้องล้มเหลวเป็นพันครั้ง เขาตอบว่า ไม่เลย เพราะว่าขั้นตอนการทดลองของเขามีพันหนึ่งครั้งต่างหาก  ที่ผ่านมาทั้งหมดที่ล้มเหลว เป็นเพียงขั้นตอนของการเรียนรู้ เป็นบันไดพันขั้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง

อาจารย์สอนว่า บัณฑิตไม่เหยียบใบลานแห้ง  คือไม่ดูถูกของเก่า วิธีเก่า.. เราทำไม่ได้เอง เราติดเอง อย่าไปโทษวิธีการ ต้องโทษปัญญาของตัวเราเองที่มีน้อยไป


เราเห็นว่าการเอาเรื่องติดเพ่งมาเตือนคนทั่วๆไป  ที่ไม่มีความสามารถจะติดฌานได้เลย กลายเป็นวาทกรรม  ทำให้คนกลัวฌาน เข้าข่ายปรามาสพระธรรมอีกนะคะ ทุกๆ วันจะต้องได้ยินคนบอกว่ากลัวติดเพ่ง กลัวติดสมถะ  แต่ปัญหาที่มาสอบถามคือ ทำยังไงดี ทำสมาธิไม่ได้ ฟุ้งซ่านมากเลย..  อ้าว..ก็ยิ่งฟุ้งยิ่งต้องฝึกสมาธิซี สมาธิแบบสัมมาสมาธิน่ะ.. ไม่ใช่ฟุ้งแล้วเลยทำวิปัสสนา.. จะเหลืออะไรให้ "วิ" ล่ะ




เรายังเบื่อกับคำถามพวกนี้เลย เจอบ่อยๆ จนเบื่อ พอมีโอกาสก็ระบายซะหน่อย



อยากจะให้เข้าใจว่า การเพ่งฌานเมื่อทำไปทีละขั้น สภาวะแต่ละขั้น มันละในตัวของมันเอง ไม่ใช่เรื่องต้องไปกลัวไปช่วยละเลย  การละไม่ได้ในแต่ละขั้นคือติดสภาวะ ไม่ใช่ติดเพ่ง บางคนติดสุข เลยไม่ละก็มี แต่วิธีแก้ไขมันก็มีอยู่เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร

ถ้าไม่ละวิตก ก็ไม่ได้วิจาร ถ้าไม่ละวิจารก็ไม่ได้ปีติ ไม่ละปีติก็ไม่ได้สุข ไม่ละสุขก็ไม่ได้เอกัคคตาจิต

ได้ฌาน 4 แล้วตัวตนแน่นปึ๊ก สมาธิแกร่งปั่ก ถ้าไม่ออกมาเจริญปัญญา ยังติดฌานชอบทำต่อไป ได้อรูปฌานที่ 1 มันก็ต้องละไอ้ตัวฌานแน่นปึกออก ถึงจะได้อรูป ทำต่อไปก็ละออกไปทีละชั้นๆ ไม่มีอะไรเหลือ

ทำฌานให้ได้ถึง 8 มันก็ล่อนจ้อนแล้ว จะทำตัวที่ 9 ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าไม่ตายซะก่อน

แต่ถ้าตายในฌานระดับนั้น ไปสุทธาวาส มีพระพุทธเจ้ามาแสดงธรรมบ่อยๆ  ก็บรรลุได้เลย ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่



เราก็ไม่เข้าใจว่าจะกลัวอะไรกันนักกันหนา..   

อยากเป็นเทวดา แต่กลัวสวรรค์..



ถ้ากลัวฌานก็ทำนอกชานก็ได้ วิปัสสนาแบบขณิกสมาธิก็ได้  แต่ไม่ใช่เราทำไม่ได้แล้วเราไปปรามาสวิธีการนั้นๆ ว่ามีข้อเสียอย่างนั้นอย่างนี้ ช่วยกันเผยแพร่ให้คนกลัวสมถะ


ที่จริงถ้ากลัวก็ง่ายมาก ตามหาครูบาอาจารย์สิ อาจารย์เก่งๆ ยังมีมากมาย มีอยู่ทุกภาค ขอให้ตั้งใจเสาะหาเถอะ โดยเฉพาะอาจารย์สายวัดป่า เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง องค์ไหนก็ได้ เปิดเน็ตเสิร์ชหาดู เอาตัวไปกราบท่าน ไปปฏิบัติกับท่าน มันก็หมดปัญหาเรื่องความกลัว ท่านเก่งๆ ทั้งนั้น มีให้เลือกหลายวัยเลย  ศรัทธาแนวไหนก็ไปหาแนวนั้น  พระดีๆ มีอยู่ทั่วไทย..


อ่านเองคิดเอง มันก็วนอยู่นี่แหละ  ต่อให้ติดเพ่ง อ่านวิธีแก้ไข ใช่ว่าจะแก้ได้เสมอไป ส่วนใหญ่คนที่ติดเพ่ง ไม่รู้ตัวหรอก  ผงเข้าตาตัวเอง จะเขี่ยออกเองได้ไง.. มันเป็นสภาวะที่ต้องให้คนอื่นช่วยเขี่ยค่ะ สภาวะติดเพ่งนี่น่ะ 

การอ่าน การฟังซีดี  มันเหมาะสำหรับขั้นพื้นฐานของการปฏิบัติ เพราะเข้าถึงง่าย เราก็จะได้เริ่มปฏิบัติ แต่ถ้าปฏิบัติไปแล้ว มีสภาวะเกิดขึ้น บางทีการอ่านหรือซีดีมันไม่พอช่วย ควรจะได้เวลาออกตาหาครูอาจารย์ค่ะ   ถ้าจะเอาจริงให้ได้จริงๆ ก็ต้องยอมเสีย เสียเวลา เสียเงินเดินทางบ้าง เสียความสบายส่วนตัวบ้าง แต่ได้ของจริง


หมดอาจารย์รุ่นนี้แล้ว  จะมาเสียใจภายหลัง.. คราวนี้จะไปตามหาก็ไม่มีให้หาแล้ว..


แล้วอีกอย่างหนึ่งเกิดในยุคกลียุคอย่างนี้ เป็นเทวดาเป็นพรหมก็เอาเถอะ  ไปถามได้เลย พระอาจารย์ทั้งหลายองค์ไหนองค์นั้น ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรจะกลัวน รกมากกว่านะคะ

จากคุณ    : chaosy

[Uploaded by gluayman]

ติดเพ่ง 1/4

http://www.youtube.com/watch?v=Fp2iIKasbpE&feature=player_embedded

!

ติดเพ่ง 2/4

http://www.youtube.com/watch?v=jpU0OxeA1Us

ติดเพ่ง 3/4

http://www.youtube.com/watch?v=hSwape_M-9k

ติดเพ่ง 4/4

http://www.youtube.com/watch?v=pOHrhla0nN0

Uploaded by gluayman

ไปพักผ่อน ทะเลครับ เพราะอยู่บ้านทุกวันอยู่แล้วครับ ให้รางวัลชีวิตสักครั้ง

 

คุณ lastman มีประสบการณ์ ผีหลอกด้วยนะครับ

ไม่น่าเชื่อคาถาที่ช่วยเหลือคือ พุทโธ กล่าวเท่านี้ ผีก็กลัว

 ความรู้ใหม่ครับ

 

 

อนุโมทนา ด้วยครับ

 

จะมีโครงการจัดไป วันไหนครับ มีความสนใจครับ
ยังไม่เคยไปเขตอิสาณ

 

เห็นด้วยครับ เพราะช่วงเทศกาล นั้นคนส่วนใหญ่ จะกลับบ้านครับ

 

อนุโมทนา ครับ สำหรับ พวกผมชาว กทม ซึ่งกำลังตั้งหลักกันอยู่ ก็สนใจนะครับ

แต่คงต้องเร่งฟื้นฟู ที่พักอาศัยกันก่อนนครับ เมื่อมีโอกาสคราวต่อไป น่าจะได้ร่วมครับ

 อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

คืออยากทราบว่า ถ้ามีบุคคลได้เรียนกรรมฐาน กับ พระที่มีมาสอนในฝัน นี้ครับเป็นไปได้หรือไม่ครับ
แล้วอย่างนี้ ใครจะช่วยรับรองได้ครับว่า ที่เรียนมานั่น ถูกหรือผิด ครับ

 

สระบุรี ผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดนำคณะสงฆ์ลงเรือมอบถุงยังชีพวัดที่ถูกน้ำท่วม

http://videolink.nationchannel.com/data/11/2011/10/16/7BbBia8jgkgjckgaaBjj8.mp4

กมลรัฐ(เสรี)/สระบุรี089-9052714

      เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2554 พระครูศรีวรกิจจารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร และ พระครูสุภธรรมคุณ เจ้าคณะอำเภอบ้านหมอ เจ้าอาวาสวัดมะขามเรียง นำคณะสงฆ์ลงเรือไปมอบสิ่งของ ใน วัดบ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และ วัดบางขวัญ , วัดมหาโลก อยู่ใน อ.บ้าน รวมทั้งชาวบย้านที่มาอาศัยวัดอยู่ ที่ประสบอุทกภัย และตามวัดต่างๆ ใน อ.บ้านหมอ ที่ประสบอุทกภัย ตามมติคณะสงฆ์โดย พระธรรมปิฏก เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี และจะทยอยมอบช่วยเหลือตามวัดต่างๆ ในอำเภอต่างๆที่ประสบอุทกภัย

http://77.nationchannel.com/video/180677/

คนที่ ขาดความศรัทธา ส่วนมากที่ผมเจอในห้องศาสนาพันทิพ ที่โพสต์อย่างนี้ จะเป็นพวกต่างศาสนาครับ
เคยสืบไป ๆ นัดเจอกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คนในศาสนาพุทธครับ มีการโพสต์เป็นทีมครับ

อันที่จริง เรื่อง พระพุทธประวัติ นั้นถ้าจะให้ยืนยันอะไร ก็ต้องพึ่งพระไตรปิฏกนะครับ เพราะอะไรนะหรือครับ

เพราะพระไตรปิฏกนั้น กำเนิดจากพระอรหันต์ ถึง 3 ยุคนะครับ ยุคมาปลาย ๆ เรานี้ก็น่าจะเป็นพระบัณฑิตมากกว่า ไม่ใช่พระอรหันต์ ดังนั้นในช่วงปลาย ๆ อาจจะมี สิ่งที่เรียกว่า อรรถกถา อธิบายแตกต่างกันต่างไป ครับ


 เรื่องของการโปรดพระพุทธมารดา นั้นระบุนามนะครับ ว่า คือ อดีต พระนางสิริมหามายา นะครับ สถานที่คือ ดาวดึงส์เทวโลก เรื่องของ เทวโลกนั้น มีปรากฏในพระสูตรที่ 1 เลยนะครับ คือ ธัมมจักรกัปวัตนสูตร

  ดังนั้นผมยังมีความเชื่อ ที่พระพุทธเจ้าโปรดพระพุทธมารดาบน เทวโลกครับ ธรรมะที่แสดงล้วนแล้วเป็นธรรมที่ชาวเทพ น่าจะฟังเข้าใจมากกว่า ชาวโลก เพราะตัดเรื่อง ฤทธิ์ ต่าง ๆ ออกไป ดัดเรื่อง ศรัทธา ออกไป เพราะเทวดา ย่อมประจักษ์แจ้งในสิ่งนี้ดีอยู่แล้วครับ

  ควรอ่านตอน ยมกปาฏิหาริย์ ประกอบด้วยนะครับ เพราะเป็นช่วงที่เกี่ยวเนื่องกันของพระพุทธเจ้านะครับ

 

อนุโมทนา ครับ

 

[http://www.thammapedia.comธรรมะพีเดีย]

http://www.thammapedia.com
ธรรมะพีเดีย

รวบรวมคำแปล คำอธิบาย ดีมาก ๆครับ
แต่ถึงจะดีอย่างไร คำอธิบาย ก็สั้นคำ ผมอ่านแล้วก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจอยู่ดีครับ

แนะนำครับ

ปัญจทวาร กับ ปัญจมโนทวารวัชชนะ ใช่อันเดียวกันหรือไม่ ครับ
เพราะอ่านแล้ว ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจกับ ศัพท์เช่นนี้เช่นกัน