แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - chatchay
|
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
|
87
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เป็นชาวพุทธ ควรเชื่อเรื่อง เทวดา ผี วิญญาณ แบบไหนถึง จะถูกคะ
|
เมื่อ: มีนาคม 19, 2012, 07:33:59 am
|
เป็นชาวพุทธ ควรเชื่อ ดังนี้ ครับ
[181] ศรัทธา 4 (ความเชื่อ, ความเชื่อที่ประกอบด้วยเหตุผล - faith; belief; confidence)
1. กัมมสัทธา (เชื่อกรรม, เชื่อกฎแห่งกรรม, เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง คือ เชื่อว่าเมื่อทำอะไรโดยมีเจตนา คือ จงใจทำทั้งรู้ ย่อมเป็นกรรม คือ เป็นความชั่วความดีมีขึ้นในตน เป็นเหตุปัจจัยก่อให้เกิดผลดีผลร้ายสืบเนื่องต่อไป การกระทำไม่ว่างเปล่าและเชื่อว่าผลที่ต้องการจะสำเร็จได้ด้วยการกระทำ มิใช่ด้วยอ้อนวอนหรือนอนคอยโชค เป็นต้น - belief in Karma; confidence in accordance with the law of action)
2. วิปากสัทธา (เชื่อวิบาก, เชื่อผลของกรรม, เชื่อว่าผลของกรรมมีจริง คือ เชื่อว่ากรรมที่ทำแล้วต้องมีผล และผลต้องมีเหตุ ผลดีเกิดจากกรรมดี ผลชั่วเกิดจากกรรมชั่ว - belief in the consequences of actions)
3. กัมมัสสกตาสัทธา (เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน, เชื่อว่าแต่ละคนเป็นเจ้าของ จะต้องรับผิดชอบเสวยวิบากเป็นไปตามกรรมของตน - belief in the individual ownership of action)
4. ตถาคตโพธิสัทธา (เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า, มั่นใจในองค์พระตถาคต ว่าทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ ทรงพระคุณทั้ง 9 ประการ ตรัสธรรม บัญญัติวินัยไว้ด้วยดี ทรงเป็นผู้นำทางที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์คือเราทุกคนนี้ หากฝึกตนด้วยดี ก็สามารถเข้าถึงภูมิธรรมสูงสุด บริสุทธิ์หลุดพ้นได้ ดังที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญไว้เป็นแบบอย่าง - confidence in the Enlightenment of the Buddha)
ศรัทธา 4 อย่างนี้ มีมาในบาลีเฉพาะข้อที่ 4 อย่างเดียว (เช่น องฺ.สตฺตก. 23/4/3; A.III.3 เป็นต้น) ว่าโดยใจความ ศรัทธา 3 ข้อต้น ย่อมรวมลงในข้อที่ 4 ได้ทั้งหมด อนึ่ง ในข้อ 3 มีข้อธรรมที่มาในบาลีคล้ายกัน คือ กัมมัสสกตาญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน - knowledge that action is one's own possession) เช่น อภิ.วิ. 35/822/443; Vbh.328.พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖ http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=181
|
|
|
92
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อยากถามว่า คนที่สลบ จิตออกจากร่างหรือไม่ ? ( ตลกหรือไม่ครับ ที่ถามอย่างนี้ )
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2012, 09:55:28 am
|
เคยได้รับยาสลบ ตอนผ่าตัด ในชีวิตสองครั้ง ครั้งแรก ก็ไม่รู้หมดความรู้สึกไปเมื่อไร ตื่นขึ้นมา ก็สลึม สะลือ แต่ในระหว่างที่หลับ ทุกคนจะบอกว่า พูดเพ้อ เรียกชื่อแฟนอยู่ตลอดเวลา ครับ แสดงว่ารักมาก ห่วงมาก อันนี้เป็นไปตามที่เขาเล่าให้ฟังนะครับ ยาสลบมีผลทำให้ให้จิตเพ้อได้นะครับ จำชื่อได้ว่า พยาบาลเรียกให้ฟังว่า ดัมกุ้ง แต่สำหรับผมเอง นั้นไม่มีความรู้สึกใดๆ ในระหว่างที่สลบ ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่มีความฝัน มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ตาค้างตอนสลบคือ เป็นอย่างนั้น ครั้งที่สอง นี้ถ้าจะให้ยาแบบอ่อน ๆ ครับเพราะมีความรู้สึกตัวว่า ตัวเองพูดอะไรออกไป กับ หมอ พยาบาล ซึ่งหมอ และ พยาบาล ก็เหมือนจะคุยด้วยแล้วก็คุยโต้ตอบด้วย อันนี้หลับประมาณ 1 ชั่วโมง พยายามลุกขึ้นนั่ง ตามที่พยาบาล บอก และที่สำคัญที่สุด พยายามจะนั่งกรรมฐาน รอบนี้ฝึกกรรมฐานแล้ว คือ จะเข้าไปสู่สภาพที่นั่งกรรมฐาน คือ ฟังจากพยาบาลและคนเข็นเตียงคุยกันบอกว่า ตัวผมเองหลังจากโดนยาแล้ว สิ่งที่พยายามกระทำก็คือ การสวด และ นั่งกรรมฐาน ที่สำคัญหลับไม่มีสติ แต่โต้ตอบกับพยาบาลหมอพยาบาล คุยกันเป็นเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องวิธีการนั่งกรรมฐาน สรุปว่ารอบที่สองนี้ ไม่รู้ว่าให้ยาอ่อนหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ จำได้ว่าพูดเรื่องอะไร แต่ไม่รู้ว่าหมอผ่าอะไรออกไปบ้าง ที่สำคัญมีความรู้สึกว่าต้องนั่งกรรมฐานให้ได้ ดังนั้นสรุปได้เบื้องต้นของผมว่า ระหว่าง ที่โดนยาสลบเพื่อที่จะผ่าตัดนั้น วิญญาณมิได้ออกจากกายแน่นอนอันนี้สำหรับผมนะครับ ส่วนการฝึกกรรมฐาน มีผลต่อสภาพยามจิตที่ไม่สามารถประคองกายได้ สังเกตจากครั้งแรก ผมไม่รู้อะไรเลย แต่มีอาการเพ้อ ๆ แบบชาวโลก โดยเฉพาะเรื่องความรักเมีย และลูก สำหรับการผ่าตัดครั้งที่สอง นั้นสามารถคุยธรรมะ และ รู้เรื่อง และ เป็นเรื่องเดียวที่รู้เรือง ในการผ่าตัดครั้งนั้นและที่สำคัญจิตพยายาม ประคองกายเข้าสู่สมาธิด้วยท่ามาตรฐาน ซึ่งสามารถทำสำเร็จหลังจากการผ่าตัดผมสามารถนั่งในท่่านั่งสมาธิจนตื่น ก็เล่าได้เท่านี้นะครับ 
|
|
|
94
|
เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ถูกบอกเลิกจากแฟนแล้ว ยังถูกใส่ร้ายต่ออีก
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2012, 12:44:49 am
|
ผู้ชายบอกเลิกผู้หญิง ผมเองส่วนตัวไม่เคยบอกเลิกผู้หญิงครับ ทุกครั้งผมจะเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกครับเนื่องด้วยงานที่ทำส่วนมากจะไม่มีเวลาไปเที่ยวได้แบบเขาครับ งาน อส. ช่วงเทศกาลนั้น ก็ต้องคอยบริการเพื่อนพี่น้องประชาชน บางครั้งรับแฟนไปเที่ยว สักพัก วอ เข้ามา ต้องขับรถไปรับ ศพ มา รพ. ผู้หญิงบางคนก็กลัว บางคนก็รำคาญชีวิตของผม ก็เลยบอกเลิกผมไปไม่ต่ำกว่า 10 กว่ารายแล้วครับ แต่ทุกรายนั้นเีพียงจีบกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเพศสัมพันธ์ เพราะผมเป็นคนศึกษาธรรม รักษาศีลครับ อยากจะบอกว่า ผู้ชายที่คุณกล่าวมานั้น ถ้าราวีคุณอยู่อย่างนั้น แสดงว่าเขาต้องแค้นอะไรบางอย่างอยู่นะครับ คุณอาจจะทำอะไรไม่ถูกต้องลองถามกันดูหน่อยดีหรือไม่ครับ ว่าคุณทำผิดอะไร ถึงได้ราวีอยู่อย่างนี้ ยังไงก็เคยรักกันมาน่าจะมีคำตอบอะไรให้ประเมิน และ แก้ไขได้บ้าง นอกเสียจากเขายังตัดใจจากคุณไม่ได้นี่แหละครับ สำคัญ แต่เอาเป็นว่า ทำใจให้สงบ มาถูกห้องแล้วครับ ภาวนากรรมฐานดีกว่า ครับอย่าเสียเวลากับเรื่องราวไร้สาระ เลยครับ เพราะไม่ใช่เป็นทางพ้นทุกข์ มีรักอีก ก็ทุกข์อีก เดี๋ยวก็ถูกทิ้งอีก ลองเก็บตัวรักษาศีล 5 สักปี ดีหรือไม่ครับ ผมลองเสนอเผื่อผลบุญที่รักษาศีล นั้นจะช่วยให้ดีขึ้น ครับ 
|
|
|
99
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: QA "ไม่ชอบขั้นตอน การอธิษฐาน กรรมฐาน คะ คือ ภาวนากรรมฐานเลย มีผลเสียอย่างไรคะ"
|
เมื่อ: มกราคม 06, 2012, 02:01:41 am
|
การปฏิบัติธรรมมีลำดับขั้นตอน จากง่ายไปยาก จากพื้นฐานไปจนขั้นสูง
ผู้ปฏิบัติธรรมควรพิจารณาเวทนาในเวทนา
อาศัย “ความทุกข์แบบไม่มีกิเลส” เพื่อละ “ความทุกข์แบบมีกิเลส”
อาศัย “ความสุขแบบไม่มีกิเลส” เพื่อละ “ความสุขแบบมีกิเลส”
อาศัย “ความวางเฉยแบบไม่มีกิเลส” เพื่อละ “ความวางเฉยแบบมีกิเลส”
อาศัย “ความสุขแบบไม่มีกิเลส” เพื่อละ “ความทุกข์แบบไม่มีกิเลส” อาศัย “ความวางเฉยแบบไม่มีกิเลส” เพื่อละ “ความสุขแบบไม่มีกิเลส”
อาศัย “ความเป็นผู้ไม่มีตัณหา” เพื่อละ “ความวางเฉยแบบไม่มีกิเลส”
จากคุณ : ชนาธิป - พุทธแท้
|
|
|
100
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: QA "ถ้า อานาปานสติ เป็น มหาสติปัฏฐาน สมบูรณ์แล้ว ทำไมต้องเรียน กรรมฐานอื่น ๆ..."
|
เมื่อ: มกราคม 06, 2012, 01:58:46 am
|
504 อานาปานสติกับสติปัฏฐาน ๔
ปัญหา การเจริญอานาปานสติเกี่ยวข้องกับสติปัฏฐาน ๔ อย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุหายใจออกยาว รู้ชัดว่าหายใจออกยาว หรือเมื่อหายใจเข้ายาว รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว สมัยนั้นภิกษุชื่อว่าเห็นภายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสเสียได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเรากล่าวว่าลมหายใจเข้าออกนี้เป็นกายประเภทหนึ่ง “ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุย่อมตั้งใจสำเหนียกว่าเราจักกำหนดรู้ปีติหายใจเข้า-ออก เราจักกำหนดรู้สุขหายใจเข้า-ออก สมัยนั้นภิกษุย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวลาอยู่เพราะเหตุไร เพราะเรากล่าวว่า การใส่ใจด้วยดีในลมหายใจเข้า-ออกเป็นเวทนาอย่างหนึ่ง “ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุย่อมสำเหนียกว่าเราจักกำหนดรู้จิตหายใจเข้า-ออก เราจักทำให้จิตบันเทิงหายใจเข้า-ออก เราจักตั้งจิตมั่นหายใจเข้า-ออก สมัยนั้นภิกษุย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิต...ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเรากล่าวว่า การเจริญอานาปานสติสมาธิ จะมีได้แก่ผู้มีสติหลงลืมและขาดสติสัมปชัญญะ “ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุตั้งใจศึกษาว่าเราจักพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงหายใจเข้า-ออก...เราจักพิจารณาเห็นวิราคธรรมหายใจเข้า-ออก...เราจักพิจารณาเห็นนิโรธหายใจเข้า-ออก...สมัยนั้น ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่....”กิมิลสูตร มหา. สํ. (๑๓๕๘-๑๓๖๑ ) ตบ. ๑๙ : ๔๐๙-๔๑๑ ตท. ๑๙ : ๓๗๔-๓๗๖ ตอ. K.S. ๕ : ๒๘๗-๒๘๘ http://www.84000.org/true/504.html
|
|
|
110
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: รวม งานบุญ ทอดกฐิน ปี 2554
|
เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 06:25:35 pm
|
อนุโมทนา กับข่าวสาร งานทอดกฐิน ตามสถานที่ วัดต่าง ๆ ครับ ถึงคนไทย จะประสบภัยกันอยู่ งานบุญ ก็ยังคงมีอยู่ มิได้ขาดไปจากใจ ครับ สั่งสมบารมี ครับ ครูอาจารย์ สอนไว้ กรรมฐาน จะพร้อมหรือไม่ อยู่ที่การสั่งสมบารมีมาด้วยครับ 
|
|
|
114
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: รวม งานบุญ ทอดกฐิน ปี 2554
|
เมื่อ: กันยายน 28, 2011, 10:14:30 am
|
อนุโมทนาดัวยครับ มีข้อมูล หลากหลายวัดจริง ๆ อันที่จริงหลังจากออกพรรษา 1 เดือน วัดทั่วประเทศก็ทอดกฐินกันทั้งหมดและครับ เพราะพุทธานุญาต ว่าไว้ให้เท่านั้น ดังนั้นก็แน่นอนวัดต่าง ๆ ก็ต้องเลือกวันอาทิตย์ ที่จะแย่หน่อยก็จังหวัดที่ประสพอุทกภัยอยู่นั้น จะคลี่คลายได้ทันหรือไม่ ? ปี้นี้ พิธีทอดกฐินหลวง ทางชลมาถ วัดอรุณราชวราราม นะครับ อย่าลืมกันนะครับ วันไหนผมจำไม่ได้ ครับ
|
|
|
116
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พิษณุโลก-พระ-เณร กรอกกระสอบทรายกั้นน้ำท่วมวัดใหญ่
|
เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 08:55:45 am
|
 เมื่อคืนวันที่ ๑๑ นี้ ชาวบ้านอำเภอชุมแสงรอลุ้นด้วยใจระทึกว่าระดับน้ำจะท่วมสูง ขนาดไหน เมื่อน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบริเวณหน้าโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว และน้ำไหลแรง ส่วนบนถนนสาย นครสวรรค์ชุมแสงผ่านบึงบรเพ็ด น้ำท่วมลึก หลายจุดตลอดสาย รถล้อเล็ก ต่ำไม่สามารถวิ่งผ่านได้ น้ำไหลแรงเท่ากับว่าใช้ การไม่ได้แล้ว ผมกลับมาจากรับผ้าป่าผ่านเส้นทางสายนั้นต้องค่อย ๆ ไต่ไปทีละน้อย อาศัยรถสูงพอขยับไปได้ แต่ใช้เวลานานมาก แนะนำว่า ถนนเส้นนครสวรรค์ชุมแสงผ่านบึงบรเพ็ด ไม่เหมาะจะเสี่ยงเดินทางแล้วครับ
|
|
|
117
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ระวัง!!!โดนหลอก ละเมิดลิขสิทธิ์ ( สำหรับผู้มีอาชีิพเปิดบริการ IT )
|
เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 08:53:50 am
|
ระวัง!!!โดนหลอก ละเมิดลิขสิทธิ์ tag:ภัยสังคม ระวังโดนหลอก – ละเมิดลิขสิทธิ์
การละเมิดลิขสิทธิ์กำลังฮิต เป็นที่จับตาในสังคม จึงมีกลุ่มคนที่คิดค้นอาชีพจับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้นมาค่ะ
ดังนั้น ใครมีญาติหรือเพื่อนที่โดนรังแก ข่มขู่สารพัด หรือยังไม่โดนรังแก ข่มขู่สารพัด ก็โปรดอ่าน....นะค่ะ
เพราะการจับของแท้จากเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรง ทำเพื่อให้คนหันมาใช้ของแท้ ไม่ใช่ทำเพื่อเรียกเงินเกินจริงจากเหยื่อ
กลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้มีสิทธิ์ในลิขสิทธิ์นั้นๆ แต่ไปสมัครเพื่อไปไถเงินคน
และถ้าทำตามกฎมันก็ไถเงิน รายได้ที่ได้รับก็จะน้อยมาก
จึงไม่เล่นตามกฎหมาย แต่หันมาใช้วิธีการไถเงินและข่มขู่เรียกเงิน หรือเรียกสั้นๆ ว่าการไถเงิน
พฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเป็นภัยสังคมเชียวละ และมีบุคคลที่โดนข่มขู่เรียกไถเงินไปทั่วประเทศ มาแล้ว โดยที่ผู้เสียหายจะโดนไถเงินรายละ 10000-50000 บาท
พฤติการณ์ของพวกนี้
1 เริ่มด้วยการตั้งบริษัทจำกัด แล้วรวบรวมขอซื้ออำนาจดำเนินคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จากเจ้าของลิขสิทธิ์จริงเท่าที่ทำได้ เช่นเพลง กระเป๋า น้ำหอม เกม การ์ตูน โดยบริษัทเหล่านี้จะอ้างคุณธรรม ตั้งเพื่อปราบผู้ละเมิดลิขสิทธิ์
2 บริษัทเหล่านี้จะหาตัวแทน (ก็คือการรับพนักงานบริษัทตัวเอง) ขึ้นมา
3 ตัวแทนเหล่านี้จะหาสมาชิกแบบขายตรงเลยค่ะ เรียกว่าผู้รับอำนาจช่วง
4 ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่ก็มีโรงพักบางแห่งไม่ให้ความร่วมมือกับพวกโจร
5 เดินสายจับแบบผิดกฎหมายค่ะทีละจังหวัด ย้ายไปเรื่อย โดยที่เดินสายวนเวียนกลับมาทุกๆ 3 - 6 เดือน
รายได้ของตัวแทนพวกนี้จะรวยมาก รายได้เกินจะคาดเดา แต่ที่พบเห็นคือสามารถออกรถป้ายแดงกันทุกคน BMW ก็มี
-บางกลุ่มออกรถแวนป้ายแดงราคา 6 ล้านก็มี
-หัวหน้าบางคนทำจนมีเงินฝากถึง 200 ล้านบาท
-ดังนี้จะเห็นว่าการตั้งบริษัทถูกกฎหมาย แต่ดูเจตนาการตั้งไม่ได้ทำเพื่อปราบหรือให้คนหันมาใช้ของแท้ แต่ทำเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
พฤติกรรมการข่มขู่รีดไถ
ตัวอย่าง 1 ข่มขู่เรียกไถเงินกับ โปรแกรม NICK KARAOKE
การไถเงินร้านซ่อมคอมพิวเตอร์
1 ไถแบบจับลิขสิทธิ์เพลงที่มีอยู่ใน โปรแกรม NICK KARAOKE
1.1 หน้าม้าจะมาตีสนิทร้านคอมพิวเตอร์ด้วยการนำคอมพิวเตอร์มาซ่อมก่อน 1 เครื่อง
1.2 อีก 2 - 3 วัน หน้าม้าจะนำเครื่องคอมมาอ้อนวอนให้ลงโปรแกรม NICK ตกลงนัดรับเครื่องกันโดยดี
1.3 วันรับเครื่อง พวกนี้จะจ้างตำรวจมา 2 คน(คนละ500) โดยตำรวจจะออกตัวว่าไม่ได้มาจับมาดูแลความสงบ
1.4 ไถเงิน 50000 บาทแล้วจะไม่เอาความผิด โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของเพลง 2 - 3 เพลง ในโปรแกรม NICK โดยตัวแทนลิขสิทธิ์ (โดยพวกนี้จะไปขอลิขสิทธิ์เพลงเก่าๆ ราคาถูกๆมา)
1.5 หากรายไหนหัวแข็งจะพาไปโรงพัก โดยตำรวจร้อยเวรจะกล่อมให้จ่าย (มันจะเลือกแจ้งความเวลาที่ร้อยเวร ที่ร่วมแก๊งเข้าเวร)
1.6 และเหยื่อจะโดนตำรวจขู่มากมาย เช่น ประกันเป็น 100,000 หรือ หากขึ้นศาลจะโดนปรับเป็นแสนๆ
ซึ่งจริงแล้ว ประกันจริง 50000 บาท และถ้าขึ้นศาลไม่ปรับค่ะเจ้าของร้านชนะแน่นอน
วิธีแก้ไขเบื้องต้น
- อย่าคุยกับบุคคลพวกนี้ ให้ไล่พวกนี้กลับไปเลยและคุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น แม้แต่โรงพัก เพราะมันไม่มีหมายศาล หมายค้น
- หากพวกเขาดื้อไม่กลับก็ปิดร้าน โทรตามพรรคพวกเพื่อน ๆ มากันมากๆหน่อยค่ะ
- ไม่ต้องไปจ่ายเงินให้เขาเด็ดขาด ถ้าจะจ่ายก็จ่ายให้พวกเขาไป 200 บาท ก็พอ และก็บอกว่าช่วยค่ารองเท้าสึก ให้รีบกลับบ้านไปไวไว ด้วย อย่ามายืนเกะกะแถวนี้ คนจะทำมาหากิน
- ถ้าพวกนี้โง่มาก ไม่รู้กฎหมายยังดื้อจะแจ้งความ คุณก็ไม่ต้องจ่าย เพราะคดีล่อซื้อแบบนี้ศาลยกฟ้องค่ะ
(แต่ส่วนใหญ่พวกนี้ไม่โง่ขนาดนั้น มันไม่ฟ้องศาลหรอกค่ะ ถ้าไม่จ่ายมันก็กลับไปเฉยๆ ต่อให้ฟ้องไปแล้ว พวกตัวแทนไม่มาขึ้นศาลหรอกนะคะ)
...............................
ตัวอย่างที่ 2
ข่มขู่ไถเงิน แบบจับลิขสิทธิ์โปรแกรม WINDOWS/MICROSOFT OFFICE/PHOTOSHOP
ไถแบบจับลิขสิทธิ์โปรแกรม WINDOWS/MICROSOFT OFFICE /PHOTOSHOP และอื่นๆ ที่ทางร้านลงให้ลูกค้า
เนื่องจากร้านซ่อมคอมซ่อมคอมให้ชาวบ้านธรรมดา โดยคิดค่าซ่อมครั้งละ 200-500 บาท จึงไม่อาจให้ชาวบ้านซื้อโปรแกรมแท้ให้กับเครื่องที่มาซ่อมได้ หากซื้อของแท้ ค่าซ่อมอาจจะสูงถึง 100,000 – 200,000 บาท ก็ได้
พวกโจรจึงคิดวิธีหากิน
วิธีการ
2.1 เอาคอมมาให้ลง windows และโปรแกรมที่ลิขสิทธิ์แพงๆ โดยอ้างว่าซื้อ PC มาจากห้างแบบไม่มี OS (ซึ่งเป็นการอ้างโง่ๆ ชาวบ้านที่ไหนจะโง่ซื้อคอมจอดำๆไม่มีwindowsมาใช้เน๊อะ)
2.2 เอาคอมเก่ามาให้ลง windows และโปรแกรมที่ลิขสิทธิ์แพงๆ
23 เข้าจับเหมือนเดิมเรียกเงิน 50,000 บาท ไถแบบจับลิขสิทธิ์เพลงที่มีอยู่ใน NICK KARAOKE เลยละค่ะ
วิธีแก้ไขเบื้องต้น
- หากมีคนนำคอมใหม่ที่บอกว่า ไม่มี windows มา ขอให้ลงwindowsและโปรแกรม ก็ปฏิเสธอย่าลงให้เด็ดขาด
- ให้ทำเอกสารซ่อมไว้ และเขียนชื่อโปรแกรมที่เครื่อง PC จำเป็นต้องมี/ให้ลูกค้าติ๊กในช่องว่าเคยมีโปรแกรมเหล่านั้น และเขียนชัดเจนว่าทางร้านทำการซ่อมให้ใช้ได้เหมือนเดิม และส่วนโปรแกรมพิเศษต่างๆให้ลูกค้าเขียนเอง หากมีคนนำคอมเก่ามาให้ลง ก็ให้ลูกค้ากรอกแบบฟอร์มนั้น และให้ลูกค้าเซ็นชื่อ
- อย่าคุยกับพวกนี้ ไล่กลับไปเลย คุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น แม้แต่โรงพัก เพราะพวกเขาไม่มีหมายศาล หมายค้น
- หากพวกเขาดื้อไม่กลับ คุณก็ปิดร้าน โทรตามพรรคพวกมามากๆ เหมือนเดิม
- หากตำรวจพื้นที่นั้น ไม่รู้กฎหมายว่าคดีแบบนี้ศาลยกฟ้อง จับเจ้าของร้าน ให้เตรียมเงินประกัน 50,000 บาท อย่ายอมจ่ายเงินเด็ดขาด
คดีแบบนี้ 99% การเข้าจับไม่มีหมายศาลค่ะ เพราะเมื่อขึ้นศาล ศาลก็ยกฟ้องค่ะ
|
|
|
118
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เด็ก ป.6 ร.ร.แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ผงะ!ถ่ายรูปเพื่อนเป็นที่ระลึกก่อนอำลา
|
เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 08:45:50 am
|
 เด็ก ป.6 ร.ร.แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ผงะ!ถ่ายรูปเพื่อนเป็นที่ระลึกก่อนอำลาแยกย้ายศึกษาต ่อ เจอแขนปริศนายาวเหมือนแขนเปรต ไม่มีข้อศอกโผล่กลางภาพ ครูประจำชั้นบอกมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นบ่อย คาดจะมีการทำบุญโรงเรียนเร็วๆนี้ ... วันที่ 11 ก.ย. ที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.เพ็ญ พบเด็กถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ แล้วมีแขนปริศนาโผล่ออกมาจากภาพถ่ายมีความยาวคล้ายแข นผีเปรต ทำให้มีการส่งต่อภาพกันไปทั่วในหมู่เด็กนักเรียนด้วย กัน จึงได้เดินทางไปที่โรงเรียนพิสูจน์ สอบถามเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 กำลังเรียนวิชาภาษาไทย ด.ช.เอ นามสมมุติ ได้นำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพ ด.ช.บี นามสมมติ เพื่อนในห้องเรียน เนื่องจากจะเก็บเอาไว้ดูหลังแยกย้ายกันไปศึกษาต่อชั้ นมัธยมศึกษา โดย ด.ช.บี ไม่อยากถ่าย เนื่องจากเป็นคนขี้อายจึงได้นำร่มมาบังหน้า หลังจาก ด.ช.เอถ่ายภาพเสร็จ ได้เปิดดูถึงกับตกใจ เพราะภาพที่ถ่ายออกมานั้นมีแขนปริศนาโผล่ออกมาด้วย ซึ่งดูแล้วไม่เหมือนแขนของคน เพราะมีความยาวมากและไม่มีข้อศอก โดย ด.ช.เอ ยืนยันว่า ขณะถ่ายภาพทุกอย่างปกติไม่มีแขนใครหรือคนไหนอยู่ด้วย เลย จาก นั้น ด.ช.เอ จึงได้นำโทรศัพท์มือถือไปที่ร้านถ่ายรูป เพื่ออัดภาพขยายออกมาดู จากนั้นนำมาให้ครูและเพื่อนๆในโรงเรียนดูกัน หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์กันว่า ไม่ใช่แขนของคนแน่ เพราะดูยังไงก็ไม่เหมือนส่วนจะเป็นภาพตัดต่อ หรือไม่บางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อ จากนั้นข่าวก็แพร่กระจายไปทั่ว โดยมีการส่งภาพถ่ายเข้ามือถือส่งต่อกันไปเรื่อยๆ จนมีคนรู้ไปทั่วเกือบทั้งอำเภอ ขณะที่ครูประจำชั้น เปิดเผยว่า ในส่วนตัวเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ยอมรับว่าที่โรงเรียนมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอ ยู่หลายครั้ง แต่ไม่ขอพูดในลายละเอียดลงไปมากกว่านี้ เพราะเกรงว่าจะเสียชื่อเสียงของโรงเรียน ซึ่งในแต่ละปีที่โรงเรียนก็มีการทำบุญทุกปี เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ทราบว่าจะมีการทำบุญกันอ ีกครั้งในเร็วๆนี้.
|
|
|
119
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม เราต้อง พึ่งวัตถุมงคล กันคะ
|
เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 09:05:57 pm
|
ทำไม เราต้อง พึ่งวัตถุมงคล กันคะ เฮ้อ แล้วคนที่ไม่พึ่ง วัตถุมงคล จะพึ่งแต่ธรรมะ อย่างเดียว ในสมัยนี้ผมเห็นแล้ว ไม่เห็นจะได้ความสักคนเลยครับ บางครั้งการภาวนา ที่ขาดศรัทธา ก็จะไม่สามารถ ถึงแก่นสาร ที่เรียกว่า สภาวะธรรม จริง ๆ ได้หรอกครับ การที่ปฏิเสธ วัตถุมงคล ก็เป็นกลาย ปฏิเสธ เรื่อง ญาณ 10 กลาย ๆ ปฏิเสธิ เรื่อง ฌาน 1 - 8 ด้วย ปฏิเสธ การเข้า นิโรธสมาบัติ สัญญาเทวยิตนิโรธ ด้วย และบางครั้งคนที่ปฏิเสธ เรื่องนี้ ก็เฉไฉ ปฏิเสธ พระไตรปิฏก ในส่วนของญาณ ตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้า ด้วย สุดท้ายก็ไม่เหลือ อะไรแล้ว ครับ เพราะไม่เชือ ใน การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่ พวกนี้ ( บรรดาเพื่อน ๆ ผม ที่ร่วมภาวนาธรรมในแนวสวนโมก ) ก็จะปฏิเสธ ภพ ชาติ แบบ ตายเพราะ กายแตก ว่าไม่มี จะเชื่อแต่เพียง สภาวะ ก็ประมาณนี้ เรื่องของความเชื่อ กับความเข้าใจ ความศรัทธา นั้นคงต้องพัฒนา กันอีกมาก ครับ เป็นไปตามบารมีสั่งสมครับ ดังนั้น วัตถุมงคล ยังมีความจำเป็นกับคนอีกระดับ หนึ่ง กับอีกระดับ ก็ไม่มีความจำเป็นครับ ส่วนตัวเราไม่มีความจำเป็น นั้น ก็ไม่ใช่ว่าไม่นับถือ ถ้าอย่างนั้นเวลา คุณ กราบ พระพุทธเจ้า นั้นคุณคงไม่ต้องยกมือจริงๆ ครับ ส่งแต่ใจอย่างเดียวก็น่าจะพอ
|
|
|
|