ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตะลึง!! ไปตามๆ กัน เมื่อ “แจ๊ส-สรวีย์ นัดที” กลายสภาพจากสาวประเภทสองไปบวชพระ  (อ่าน 1445 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ตะลึง!! ไปตามๆ กัน เมื่อ “แจ๊ส-สรวีย์ นัดที” กลายสภาพจากสาวประเภทสองไปอยู่ในสมณสงฆ์ ผ่าซิลิโคนออกจากอกแล้ว
ประกาศ “บวชไม่สึก” กลายเป็น “พระแจ๊ส” อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
หลายคนตกอกตกใจ หันมาตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของพระภิกษุสงฆ์ว่ามาตรฐานการอนุญาตให้บวชอยู่ตรงไหนกันแน่?
เพราะเท่าที่เข้าใจมาโดยตลอด ผู้นุ่งเหลืองห่มเหลืองในศาสนานี้ต้องเป็น “ผู้ชายทั้งแท่ง” เท่านั้น
       
       
       ก่อนจะเข้าสู่ทางเดินแห่งธรรม ผู้ขอบวชจะต้องตอบคำถามพระอุปัชฌาย์ผ่านบทสวดก่อน
ด้วยคำถามนี้ “ปุริโสสิ (เธอเป็นผู้ชายเต็มร้อยหรือไหม?)” หากผู้ถูกถามมั่นใจ ก็จะต้องตอบกลับไปว่า “อามะภันเต”
ซึ่งแปลว่า “ใช่” แต่หากในใจไม่ได้รู้สึกอย่างที่กล่าวรับออกไป ก็จะถือเป็นมุสา (พูดปด)
ส่งผลให้การบวชนั้นไร้ความศักดิ์สิทธิ์และเป็นโมฆะไปโดยปริยาย
       
       
       ไหนจะข้อสงสัยเรื่อง สาวประเภทสองเข้าข่าย “บัณเฑาะก์” ซึ่งผิดเพศและผิดกฎของการบวชตามพระธรรมวินัยหรือไม่?
จึงทำให้ประเด็นการออกบวชของพระแจ๊สยิ่งร้อนแรง มีผู้คนมากมายออกมาวิจารณ์ ด่าทอ ต่อว่า
มากกว่าจะยอมอนุโมทนาบุญไปเสียแล้วในตอนนี้ ส่วนความจริงที่แท้ว่ากรณีนี้เหมาะสมหรือไม่?
ผิดหลักศาสนาและจะทำให้ชายผ้าเหลืองเสื่อมลงอย่างที่หลายคนแสดงความคิดเห็นไว้หรือเปล่า?
ดร.อำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยินดีช่วยชี้แจงแถลงไข
       
       
       “บทกล่าวก่อนบวชด้วยภาษาบาลีจะมีคำพูดที่ถามว่า เป็นมนุษย์มั้ย เป็นโรครังเกียจมั้ย ติดหนี้ติดสิน
ติดคดีอะไรมั้ย เป็นบัณเฑาะก์หรือเปล่า ถ้าตอบคำถามแล้วมีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสม
พระอุปัชฌาย์ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ผู้รับผิดชอบการบวช จะอนุญาตให้บวชได้ เพราะท่านได้รับการอบรมมาอย่างดี
เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าพฤติกรรมแบบไหนบวชได้หรือไม่ได้ มีกฎเกณฑ์อยู่ ส่วนคนอื่นๆ หรือเราเองที่เป็นปุถุชน
พูดถึงเรื่องบวชได้แค่แสดงความคิดเห็นไป แต่ไม่มีสิทธิบอกว่าได้หรือไม่ได้”
       
       ส่วนกรณีของพระแจ๊สนั้น ไม่ถือว่าเข้าข่าย “บัณเฑาะก์” อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันเอาไว้
เพราะบัณเฑาะก์ตามพระธรรมวินัยระบุไว้ หมายถึงคนที่มี 2 เพศอยู่ในคนเดียวกัน ซึ่งเป็นทางด้านรูปกาย
ทำให้ไม่อาจแยกได้ว่าตกลงแล้วเป็นชายหรือหญิง แต่พระแจ๊สยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ
ทั้งยังผ่าซิลิโคนออกจากหน้าอกแล้ว จึงถือได้ว่าเป็น “ชายแท้” สามารถบวชได้ไม่ถือเป็นการอาบัติแต่อย่างใด
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ