ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม  (อ่าน 2765 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

rainmain

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 323
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม
« เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2013, 01:10:10 pm »
0
244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม
http://www.84000.org/true/244.html

ปัญหา ฆราวาสผู้อยู่ครองเรือน มีทางจะทราบได้หรือไม่ว่าภิกษุองค์ไหนเป็นพระอรหันต์ ได้บรรลุมรรคผล ?

พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนคฤหบดี ท่านผู้เป็นคฤหัสถ์ บริโภคกาม อยู่ครองเรือน นอนเบียดเสียดบุตร บริโภคจันทน์จากแคว้นกาสี ทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเครื่องลูบไล้ ยินดีทองและเงินอยู่ พึงรู้ขอนี้ได้ยากว่า ภิกษุเหล่านี้เป็นพระอรหันต์ หรือเป็นผู้บรรลุอรหัตตมรรค (เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นพระอรหันต์ และอยากทำบุญให้ทานกับพระอรหันต์ ย่อมมีทางจะให้ได้ถูกต้องฉะนั้น)..... เชิญทานให้สังฆทานเถิด เมื่อท่านให้สังฆทานอยู่ จิตจักเลื่อมใส... เมื่อตายไปจักเข้าพึงสุคติโลกสวรรค์”

ทารุกัมมิกสูตร ฉ. อํ. (๓๓๐)
ตบ. ๒๒ : ๔๓๘-๔๓๙ ตท. ๒๒ : ๔๐๑-๔๐๒
ตอ. G.S. III : ๒๗๙

         เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  บรรทัดที่ ๙๒๐๑ - ๙๒๓๘.  หน้าที่  ๔๐๑ - ๔๐๒.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=9201&Z=9238&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=330
บันทึกการเข้า
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นกุศล และ กรรมฐาน เป็นมหากุศล นะครับ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: 244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2013, 10:48:31 am »
0
ไม่เข้าใจ ใน เรื่องที่โพสต์ หมายความว่า ไม่จำเป็นต้องรู้จัก พระอรหันต์ แต่เชิญ ให้ทานเป็นสังฆทาน ดีกว่า ประมาณนี้ใช่หรือไม่ เพราะมิใช่เป็นเรื่องที่ต้องไปทำความรู้จัก หรือ เข้าใจกั้น

 
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: 244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2013, 12:55:00 pm »
0


การตามรู้ตามดูว่าใครเป็นพระอรหันต์นั้นยากมาก ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนจะมีโอกาสได้ทำบุญกับพระอรหันต์คงไม่ต้องไปถาม เพียงเชิญชวนเข้าวัดฟังธรรมทำทานหรือสังฆทานยังเลี่ยงหนี ปากบอกว่าดีเนอะ! แต่ฉันไม่ไปด้วยหรอก ซึ่งก็ประมาณนี้เห็นเป็นประจำ หากจะกล่าวถึงธรรมถึงทานใดใดก็พิจารณาเอาลำพังตัวพอครับ ชื่อว่าอบายแล้วไม่รู้กูจะไปใครจะทำไม เรามีวาสนาตาสว่างบอกกล่าวหนทางเจริญร้อยคนได้เพียงหนึ่งถือว่าดีแล้ว ทุกวันนี้ผมมองที่ตัวเองพิจารณาตัวเองเอาตัวเองรอดไว้ก่อน ทำดีได้ชั่ว ปกติครับ ทำชั่วได้ดี คือวัฒนธรรมของคนยุคนี้ พระศาสนาเนื่องต่อจากนี้ไปที่เหลือไม่สำคัญที่คนพวกนี้ แต่มีเพียงคนส่วนน้อยกลุ่มน้อยที่พยุงอยู่ ซึ่งก็คือผู้ภาวนา ครูบาอาจารย์กล่าวว่ายุคนี้พอจะคุยรู้เรื่องเกินกว่านี้คงยากที่จะมาเกิดกล่าวสอนใดใดแล้ว



http://www.berrytheme.com/display/id/2277
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 17, 2013, 12:56:39 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28418
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: 244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2013, 11:35:50 am »
0


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
๕. ทารุกัมมิกสูตร

     [๓๓๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ปราสาทสร้างด้วยอิฐใกล้นาทิกคาม ครั้งนั้น คฤหบดีชื่อทารุกัมมิกะ (พ่อค้าฟืน) เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
     ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า
     ดูกรคฤหบดี ทานในสกุล ท่านยังให้อยู่หรือ
     คฤหบดีชื่อทารุกัมมิกะได้กราบทูลว่า
     ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ยังให้อยู่และทานนั้นแล
     ข้าพระองค์ให้ในภิกษุผู้เป็นอรหันต์ หรือผู้บรรลุอรหัตมรรค
     ผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร ผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ฯ


     พ.  ดูกรคฤหบดี ท่านผู้เป็นคฤหัสถ์ บริโภคกาม อยู่ครองเรือน นอนเบียดเสียดบุตร บริโภคจันทน์แคว้นกาสี ทัดทรงดอกไม้ ของหอมและเครื่องลูบไล้ ยินดีทองและเงินอยู่
     พึงรู้ข้อนี้ได้ยากว่า ภิกษุเหล่านี้เป็นพระอรหันต์ หรือเป็นผู้บรรลุอรหัตมรรค


     ดูกรคฤหบดี ถ้าแม้ภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ถือตัว เห่อปากกล้า พูดพล่าม มีสติเลอะเลือน ไม่มีสัมปชัญญะมีใจไม่ตั้งมั่น มีจิตพลุ่งพล่าน ไม่สำรวมอินทรีย์ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้น
     ถ้าแม้ภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถือตัวไม่เห่อ ไม่ปากกล้า ไม่พูดพล่าม มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีใจตั้งมั่น มีจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง สำรวมอินทรีย์ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงได้รับสรรเสริญด้วยเหตุนั้น


    ถ้าแม้ภิกษุผู้อยู่ใกล้บ้าน เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้น 
    ถ้าแม้ภิกษุผู้อยู่ใกล้บ้าน เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงได้รับสรรเสริญด้วยเหตุนั้น





    ถ้าแม้ภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้น
    ถ้าแม้ภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ภิกษุนั้นพึงได้รับสรรเสริญด้วยเหตุนั้น


    ถ้าแม้ภิกษุผู้รับนิมนต์ เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้น
    ถ้าแม้ภิกษุผู้รับนิมนต์ เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงได้รับสรรเสริญด้วยเหตุนั้น

    ถ้าแม้ภิกษุผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้น
    ถ้าแม้ภิกษุผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงได้รับสรรเสริญด้วยเหตุนั้น


    ถ้าแม้ภิกษุผู้ทรงคฤหบดีจีวร เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ถือตัว เห่อ ปากกล้า พูดพล่าม มีสติเลอะเลือน ไม่มีสัมปชัญญะ มีใจไม่ตั้งมั่น มีจิตพลุ่งพล่าน ไม่สำรวมอินทรีย์ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงถูกติเตียนด้วยเหตุนั้น
    ถ้าแม้ภิกษุผู้ทรงคฤหบดีจีวร เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่านไม่ถือตัว ไม่เห่อ ไม่ปากกล้า ไม่พูดพล่าม มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะ มีใจตั้งมั่น มีจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง สำรวมอินทรีย์ เมื่อเป็นอย่างนี้ ภิกษุนั้นพึงได้รับสรรเสริญด้วยเหตุนั้น

    ดูกรคฤหบดี เชิญท่านให้สังฆทานเถิด เมื่อท่านให้สังฆทานอยู่ จิตจักเลื่อมใส ท่านนั้นเป็นผู้มีจิตเลื่อมใส เมื่อตายไป จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
    คฤหบดีชื่อทารุกัมมิกะ ทูลสนองว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้จักให้สังฆทานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ

    จบสูตรที่ ๕

_________________________________________________________
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=9201&Z=9238&pagebreak=0



อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ มหาวรรคที่ ๑
๕. ทารุกัมมิกสูตร

       อรรถกถาทารุกัมมิกสูตรที่ ๕               
       พึงทราบวินิจฉัยในทารุกัมมิกสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-
       บทว่า ทารุกมฺมิโก ได้แก่ อุบาสกคนหนึ่งมีอาชีพทางขายไม้.
       บทว่า กาสิกจนฺทนํ ได้แก่ จุณจันทน์ที่ละเอียด.
       บทว่า องฺเคน ได้แก่ ด้วยองค์ไม่เป็นคุณ คือด้วยองค์ที่เป็นคุณ (เฉพาะ) ในฝ่ายสุกธรรม.
       บทว่า เนมนฺตนิโก ได้แก่ เป็นผู้รับนิมนต์.
       บทว่า สํเฆ ทานานิ ทสฺสามิ คือ เราจักถวายแก่ภิกษุสงฆ์.

       อุบาสกนั้นครั้นกราบทูลอย่างนั้นแล้ว ก็ถวายบังคมพระศาสดาแล้วหลีกไป
       ครั้นแล้วในเวลาต่อมา ภิกษุผู้เป็นกุลุปกะของเขาจำนวน ๕๐๐ รูป ได้ถึงความเป็นคฤหัสถ์ (สึก).
       ภิกษุผู้เป็นกุลุปกะนั้น เมื่ออุบาสกเรียนว่า ภิกษุเหล่านั้นสึกหมดแล้ว ก็พูดว่า พวกอาตมาในที่นี้สึกหมดหรือ
       ดังนี้แล้ว ก็ทำใจให้เป็นกลางไม่ได้.
       พระศาสดาทรงหมายเอาเหตุนี้ จึงตรัสว่า เมื่อเธอถวายทานในสงฆ์ จิตจักผ่องใส ดังนี้.


               จบอรรถกถาทารุกัมมิกสูตรที่ ๕     


กุลุปกะ, กุลูปกะ “ผู้เข้าถึงสกุล”, พระที่คุ้นเคยสนิท ไปมาหาสู่ประจำของตระกูล, พระที่เขาอุปถัมภ์และเป็นที่ปรึกษาประจำของครอบครัว        
______________________________________________________
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=330
ขอบคุณภาพจาก http://news.dmc.tv/, http://my.inlovephoto.com/ , http://anchalee.in.th/




ไม่เข้าใจ ใน เรื่องที่โพสต์ หมายความว่า ไม่จำเป็นต้องรู้จัก พระอรหันต์ แต่เชิญ ให้ทานเป็นสังฆทาน ดีกว่า ประมาณนี้ใช่หรือไม่ เพราะมิใช่เป็นเรื่องที่ต้องไปทำความรู้จัก หรือ เข้าใจกั้น


       ans1 ans1 ans1

    ตามที่อ่านข้อความตามอรรถกถา อาจตีความได้ดังนี้
    อุบาสกชื่อทารุกัมมิกะ แต่ก่อนทำทานกับพระที่คุ้นเคย แต่พอพระที่คุ้นเคยพากันสึกไปหมด
    จิตที่เคยผ่องใส กลับไม่ผ่องใสเหมือนเดิม

    พระพุทธองค์ประสงค์ให้อุบาสกคนนั้น มีจิตผ่องใสเหมือนเดิม
    เลยไต่ถามและตรัสให้ถวายทานในสงฆ์ (สงฆ์หมายถึงภิกษุ ๔ รูปขึ้นไป)

    ข้อที่พระพุทธองค์ยกเอาภิกษุที่มีข้อวัตร ความสำรวมในอินทรีย์
    ในลักษณะที่พึงถูกติเตียน และพึงถูกสรรเสริญขึ้นมานั้น
    น่าจะหมายถึง ให้ถวายทานแด่ภิกษุที่พึงสรรเสริญ
    เพราะปุถุชนไม่อาจแยกแยะได้ว่า องค์ไหนเป็นอรหันต์หรือไม่
    จึงให้พิจารณาจากข้อวัตรและอื่นๆประกอบ หากเลื่อมใสศรัทธาแล้ว
    ก็ให้ถวายทานในสงฆ์นั้นๆ

     :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: 244 จะรู้จักพระอรหันต์ได้ไหม
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2013, 10:17:21 am »
0
ตราบใด ที่ยังมีผู้ปฏิบัติ ตามอริยมรรค อยู่ ตราบนั้นโลกนี้ จักไม่ว่างจากพระอรหันต์

   ข้อความใน มหาปรินิพพานสูตร ( หรือไม่ ) จำมาผิดอย่าว่ากันนะครับ

 :welcome:
บันทึกการเข้า