พิมพ์

[raponsan]

งานวิสาขบูชา-วิถีศรีลังกา ตระการตาพระนครศรีอยุธยา

ไทยและศรีลังกาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับอัครราชทูต เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2498 และยกระดับเป็นระดับเอกอัครราชทูตเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2504 ความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นไปอย่างราบรื่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยและศรีลังกามีความใกล้ชิดทางศาสนาและวัฒนธรรม เนื่องจากทั้งสองประเทศนับถือพุทธศาสนา และที่ผ่านมาไทยได้อัญเชิญกฐินพระราชทานไปทอดถวายที่วัดในศรีลังกาเป็นประจำทุกปี

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2555 นาย มหินทะ ราชปักษา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ได้เดินทางมาเยือนไทย โดยได้ร่วมพิธีเปิดงานวันวิสาขบูชาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรีของไทย เกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยศรีลังกาอยู่ในช่วงฟื้นฟูประเทศหลังเหตุการณ์ความไม่สงบได้สิ้นสุดลงเมื่อปี 2552 ปัจจุบันรัฐบาลศรีลังกาได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายความร่วมมือ เช่น การดำเนินโครงการบ้านพี่เมืองน้องระหว่างเมืองที่เป็นแหล่งมรดกโลกในศรีลังกากับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การแลกเปลี่ยนคณะนักแสดงศิลปวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนการเยือน และการจัดเทศกาลภาพยนตร์ศรีลังกาในประเทศไทย

นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ พลเอกชานต้า โกตเตโกด้า เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ประจำประเทศไทย จะจัดงานวันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค. 2556 ณ ลานด้านหลังวัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างยิ่งใหญ่เป็นพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา

ด้วยการจำลองการเฉลิมฉลองตามแนวทางของศรีลังกา ซึ่งมีการตกแต่งบรรยากาศอย่างตระการตาด้วยการจุดประทีปโคมไฟพุทธบูชาสว่างไสว จุดเด่นคือการนำปะรำแสดงพุทธประวัติขนาดใหญ่ 52x52 ฟุต พร้อมประดับไฟตกแต่งอย่างสวยงามจากศรีลังกามาจัดแสดง พระสงฆ์จาก 2 ประเทศ 99 รูป ร่วมกันสวดพุทธมนต์ในทำนองสรภัญญะ การแสดงศิลปวัฒนธรรม ดนตรี นาฏศิลป์พื้นเมืองและคณะนักแสดงที่เกี่ยวข้องทางด้านศาสนาจากศรีลังกามาร่วมงาน ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งจัดเทศกาลอาหารประจำชาติ การออกร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกจากศรีลังกา

พลเอกชานต้ากล่าวว่า "งานวิสาขบูชาที่ศรีลังกาถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ จัดติดต่อกัน 7 วัน 7 คืน มีการปล่อยนักโทษให้ได้รับอิสรภาพถวายเป็นพุทธบูชา ตั้งโรงทาน และประดับประดาธงทิว โคมไฟต่างๆ โดยเฉพาะแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ ศรีลังกา เรียกว่า Thorana จัดทำเป็นรูปเรื่องราวในพุทธประวัติเป็นชั้นๆ ไล่ระดับ พร้อมทั้งติดตั้งไฟประดับตกแต่งอย่างตระการตา การจัดงานร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ เป็นการจำลองบรรยากาศให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวศรีลังกาในการเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาซึ่งมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างจากไทย"

นายวิทยากล่าวว่า การจัดพิธีวิสาขบูชาในประเทศไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยตามหลักฐานจากหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ โดยพระสงฆ์ลังกาในยุคนั้นได้เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาท 'ลังกาวงศ์' และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนั้นได้สืบต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่คณะพระธรรมทูตไทยได้ไปฟื้นฟูพุทธศาสนาในศรีลังกาอันเป็นที่มาของ 'สยามวงศ์' และ 'สยามนิกาย' ที่เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสถานทูตศรีลังกา

ในส่วนของอยุธยาจะจัดการแสดงแสงเสียงและสื่อผสม ที่เป็นนาฏศิลป์ร่วมสมัยแนวพุทธธรรม ชุด "สารีริกธาตุบูชา มหาบารมี" การบรรเลงเพลง "อนัตตา" โดย นุภาพ สวันตรัจฉ์ ที่ผสมผสาน แนวดนตรีแบบไทยกับเครื่องดนตรีของอินเดีย-ศรีลังกาอย่าง 'ซีตาร์' และกลอง, การแสดงประกอบอุปกรณ์ไฟ โดยสมโภชน์ ทองหยวก จากไทยแลนด์ก๊อตทาเลนต์ ที่จะสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง

สำหรับวัดมหาธาตุซึ่งใช้ลานด้านหลังเป็นสถานที่จัดงานนั้น อยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดสำคัญที่ประดิษฐานพระ บรมสารีริกธาตุ ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธ ภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และ วัดนี้ยังเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีเศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งปกคลุมด้วยรากต้นโพธิ์อยู่ข้างวัดวิหารเล็ก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNakl4TURVMU5nPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE15MHdOUzB5TVE9PQ==

[kosol]

โดยพระสงฆ์ลังกาในยุคนั้นได้เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาท 'ลังกาวงศ์' และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนั้นได้สืบต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่คณะพระธรรมทูตไทยได้ไปฟื้นฟูพุทธศาสนาในศรีลังกาอันเป็นที่มาของ 'สยามวงศ์' และ 'สยามนิกาย' ที่เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน