พิมพ์

[raponsan]

วัดอินทรวิหาร สร้างมหามงคล สาธุชนกราบหลวงพ่อโต
สมเด็จโต อิริยาบทมรณภาพ - เข้าพิธีนพเคราะห์ 22 มิ.ย.นี้

หากใครจะกล่าวถึงเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหมรํสี) หรือสมเด็จโต ทำให้รำลึกถึงพระอมตเถราจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้รจนาพระคาถาชินปัญชรอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นผู้ริเริ่มสร้างหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
 
ทั้งนี้พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธาภรณ์ (ทองสืบ สจฺจสาโร) เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ กล่าวว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) พระอริยสงฆ์กรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีความผูกพันกับวัดอินทรวิหาร และองค์หลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สำคัญที่สุดก็คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ริเริ่มสร้างพระยืนขึ้นที่วัดนี้ เมื่อราวปี พ.ศ.2410
 

องค์เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อริยบทมรณภาพ

เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารกล่าวด้วยว่า องค์หลวงพ่อโต เป็นที่พึ่งของคนทั่วไป ไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ เพราะมีความเชื่อในอภินิหาร หรือความศักดิ์สิทธิ์ อีกนัยหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะองค์หลวงพ่อโตได้ประดิษฐาน ณ วัดอินทรวิหาร มาเป็นระยะเวลาช้านาน และเกิดจากความดำริของพระอมตเถราจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งท่านเป็นที่เคารพสักการะเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของทุกสถาบันและประชาชนโดยทั่วไป โดยท่านได้คำนึงถึงสถานที่แห่งนี้ว่า เป็นแหล่งที่ท่านได้มาอยู่อาศัยตั้งแต่ครั้งยังเล็กๆ จนมาหัดยืนหัดเดินได้ ก็เลยได้มาดำเนินการจัดสร้างพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตรโปรดสัตว์ขึ้น ณ วัดอินทรวิหารแห่งนี้
 
องค์หลวงพ่อโต นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญองค์หนึ่ง เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2410 ในสมัยรัชกาลที่ 4 การก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะในสมัยโบราณไม่มีเครื่องจักรกลช่วยทุ่มแรง ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ โต ต้องอาศัยแรงศรัทธาของญาติโยมที่เคารพศรัทธา และท่านฯ ยังนำกัณฑ์เทศน์ ซึ่งมีกะปิ น้ำปลา กล้วย อ้อย มะพร้าว ข้าวสาร ที่ญาติโยมถวายบูชาธรรม นำมาปรุงอาหารเลี้ยงผู้มาช่วยก่อสร้างองค์หลวงพ่อโต
 

พระเทพวิสุทธาภรณ์ (ทองสืบ สจฺจสาโร) เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารกับพิธีนพเคราะห์

ในการจัดสร้างฯ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้นำปัจจัยจากนิตยภัตและจากกิจนิมนต์ของท่าน ซึ่งได้รวบรวมไว้มาจ้างช่างก่อสร้างฐานราก โดยนำเอาไม้ตะเคียนทั้งต้นทั้งรากกระทุ้งให้แน่นและวางเป็นฐานรากซุง ที่นำมาเป็นรากฐาน โดยนำล่องแม่น้ำมาทางแพ โดยต้องสร้างเผาอิฐขึ้นเอง ช่างชาวจีนได้ทำการก่ออิฐถือปูนไปเป็นลำดับ จึงใช้เวลาการก่อสร้างนานมาก

บรรดาพุทธศาสนิกชนได้ทราบข่าวว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ กำลังสร้างพระใหญ่ จึงพากันสละเงิน คนมีฐานะดีก็สละมาก ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เดินทางดูการก่อสร้างอย่างจดจ่อในขณะนี้ ท่านจะมีอายุมากขึ้นแล้วก็ตาม ซึ่งสุขภาพร่างกายก็เสื่อมโทรมไปตามสภาพของสังขาร และผลจากการที่ท่านตรากตรำหนักเกินไป โดยมิได้ห่างคำนึงถึงสุขภาพ ไม่นานท่านจึงได้ถึงแก่มรณภาพ ในขณะที่มาดูแลการก่อสร้างองค์หลวงพ่อโต เมื่อตอนดึกของคืนวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2415 ณ ศาลาการเปรียญหลังเก่าของวัด ขณะที่การก่อสร้างองค์หลวงพ่อโต ดำเนินไปถึงพระนาภี (สะดือ) จากนั้นเจ้าอาวาสรูปต่อๆ ก็ได้ดำเนินการสร้าง จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2470 รวมระยะเวลาในการก่อสร้างถึง 60 ปีจึงแล้วเสร็จ
 

พระมหาเถระ พระเถระ สวดพระพุทธมนต์อุทิศถวายสมเด็จโต

จึงเป็นที่เชื่อกันของคนในยุคนั้นว่า ด้วยความผูกพันที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตได้สร้างหลวงพ่อโต และมรณภาพที่วัดอินทรวิหาร เชื่อว่าดวงวิญญาณของท่านสถิตอยู่กับองค์หลวงพ่อโต รวมกับเทพพยดาที่รักษาฉัตรหลวงพ่อโต โดยเมื่อครั้งหนึ่งได้มีการจัดงานฉลองได้มีผู้เห็นพระภิกษุชรา มาเดินอยู่ที่บริเวณองค์หลวงพ่อโตบ่อยๆ บางครั้งก็มีดวงไฟกลมโต ทอประกายแสงสว่างเรืองรอง คล้ายพระบรมสารีริกธาตุ ลอยวนอยู่ที่พระพักตร์ขององค์หลวงพ่อโตแล้วหายเข้าไปในบริเวณพระนภาฎ
 
องค์หลวงพ่อโตมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากมีผู้ใดนำบุตรธิดามาถวายเป็นลูกท่าน เด็กคนนั้นจะเลี้ยงง่ายโตไวปัญญาดี เฉลียวฉลาด โตขึ้นได้เป็นใหญ่เป็นโตกันมากมาย ความอัศจรรย์ขององค์หลวงพ่อโต เป็นที่กล่าวขวัญ จนมีคนมาสักการบูชากันมิได้ขาด มาขอศีลขอพร บ้างมาสักการบูชาเพื่อความสิริมงคลแก่ชีวิต บ้างก็มาเที่ยวทัศนศึกษา บ้างก็มาบนบานศาลกล่าวให้หลวงพ่อโตช่วยให้กิจการงานต่างๆ
 

สาธุชนจำนวนมากเข้าพิธีสวดนพเคราะห์ (ปีที่ผ่านมา)

เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการรำลึกและบูชาคุณความดีของเจ้าประคุณสมเด็จโต อาตมาพร้อมสาธุชน จึงได้ร่วมสร้างองค์เจ้าประคุณฯ อริยบทมรณภาพ ไว้ที่ศาลาสังฆานุสติเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้กราบไหว้ และปีนี้ ในวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2558 ทางวัดอินทรวิหารจึงได้จัดบำเพ็ญกุศลขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่เจ้าประคุณสมเด็จโตฯ โดย ช่วงเช้าร่วมถวายภัตตาหารแด่พระมหาเถระที่ได้อาราธนามา
     เวลา 10.00 น. อาราธนาพระมหา 2 เถระ สวดพระพุทธมนต์
     เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป

ช่วงค่ำจะมีพิธีสวดนพเคราะห์ เสริมดวงเสริมบารมีโดยเปิดโอกาสให้ญาติโยมจองขันครู เข้าพิธีสวดนพเคราะห์เสริมบารมี เสริมดวงนั้น ทางวัดทำอย่างสมบูรณ์เป็นการเสริมเพิ่มพลังจิตให้แก่ตนเอง เพื่อให้มีพลังจิตในการต่อสู้กับชีวิตที่เกิดมาแล้วนี้ ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ใครมีเคราะห์ มีโรค มีภัยก็มลายหายไป ญาติโยมที่มีจิตศรัทธาจะร่วมกับอุทิศถวายแด่เจ้าประคุณสมเด็จโต หรือจะร่วมพิธีสวดนพเคราะห์ และขณะนี้ทางวัดมีสถานที่คับแคบที่จอดรถไม่เพียงพอ เป็นที่ลำบากของญาติโยมทางวัดจึงดำริสร้างอาคารจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติโยม

ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค ติดต่อได้ที่สำนักงานเลขานุการเจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร.0-2282-3173
 

วัดอินทรวิหาร สร้างมหามงคลสาธุชนกราบหลวงพ่อโต

อนึ่ง ด้วยบารมีแห่งเจ้าประคุณสมเด็จโต ยังมีสถานที่ต่างๆ ร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่ท่านฯ ใน วันที่ 22 มิ.ย.นี้ เขตกรุงเทพฯ ที่ วัดใหม่อมตรส เขตพระนคร กรุงเทพฯ, วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ และที่อาคารอริยสัจสี่ ซ.เพชรเกษม 65 เขตบางแค กรุงเทพฯ โทร.0-24210489 และต่างจังหวัด ที่ วัดไชโยวรวิหาร, วัดสะตือ, อุทยานสมเด็จโต อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นต้น
 
ปิดท้ายด้วยธรรมควรคิดของ เจ้าประคุณสมเด็จโต “บุญเราไม่เคยสร้าง...ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า”...
 
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล

ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.banmuang.co.th/news/region/19428

[sompong]

ไปวัดอินทร์ ได้แค่ วัตถุมงคล แต่ กรรมฐาน ที่หลวงพ่อท่านปฏิบัติและใช้อยู่ หากพระคุยเรื่องนี้ไม่ได้ ที่มีสอนก็เป็นสาย มหาสติปัฏฐาน ยุบหนอ พองหนอ ไป

  แท้ที่จริง กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ กับหลวงพ่อโต มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ?

   นับว่า ปริศนา จับต้องไม่ได้ พอ ๆ กับ วัดระฆัง ก็ไม่มีกรรมฐาน ในสาย เก่า แสดงให้รู้

  กลายเป็นว่า มีแต่เครื่องลางของขลัง ไป หาแก่น ไม่ได้ ฉันนั้น