ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเจริญ มรณานุสสติ สู่ มรณะสัญญา มรณะสัญญา ย่อมส่งผลให้ถึง.....  (อ่าน 5364 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0



เมื่อเจริญ มรณานุสสติ สู่ มรณะสัญญา

   วันนี้จักได้ปรารภธรรม สำคัญในกองกรรมฐาน ที่เป็นฝ่ายอารักขกรรมฐาน บ้าง ในบรรดากรรมฐาน ที่เป็นฝายอารักขกรรมฐาน สำหรับอาตมา นั้นได้ยินมาตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร มี 4 กรรมฐาน คือ

     1. พุทธานุสสติ กรรมฐาน
     2. เมตตานุสสติ กรรมฐาน
     3. มรณานุสสติ กรรมฐาน
     4. อสุภะ กรรมฐาน

     กรรมฐาน สวนอื่นวันนี้ จะไม่ขอพูดถึง แต่จะพูดถึงกรรมฐานเดียว นั่นก็คือ มรณานุสสติ กรรมฐาน

    มรณานุสสติ กรรมฐาน นั้น เป็นกรรมฐานที่เจริญสติ ระลึกถึงความตาย เป้าประสงค์หลัก ก็คือ เพื่อให้ผู้ภาวนา นั้นมีสติอยู่ในปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่าน แส่หากิเลสเข้าตัว ผล สำหรับกรรมฐาน นั้น คือความไม่ประมาท อันความไม่ประมาท นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า เป็นหนทาง สู่ประตูแห่ง ความม่ตาย ( พระนิพพาน )

    การเข้าใจอย่างนี้ ก็เป็นเชิงความเข้าใจแบบนักปราชญ์ ผู้ที่กำลังศึกษา พระกรรมฐานส่วนใหญ่ ก็จะเข้าอย่างนี้กันทั้งหมด แต่ไม่สามารถเข้าใจในระบบจริง ๆ ของกรรมฐานได้ ถ้าไม่เข้าไปฝึกเจริญใน มรณานุสสติ กรรมฐาน

    แต่ก่อนที่จะได้ชี้แจงเกี่ยวกับด้านการปฏิบัติ นั้น จะพูดถึงโทษของการเจริญ มรณานุสสติ เสียก่อน

    มรณานุสสติ เมื่อบุคคลธรรมดาสามัญได้เจริญ เข้าไปแล้ว ย่อมปรากฏโทษ แก่ชีวิต คือการไม่ขวนขวาย ต่อความเป็นอยู่รอบตัว เพราะตระหนักว่า เดี๋ยวเราก็ตายแล้ว จะหาไปทำไม ? จะมีไปทำไม ? จะทำไปเพื่ออะไร ? อย่างนี้เป็นต้น  โทษจริง ๆ ก็คือ การขวนขวายน้อยสำหรับคนที่จะเรียน ก็จะพาลไม่เรียน คนที่แสวงหา ก็พาลหยุดแสวงหา แล้วก็ถึงขั้นหยุด กลายเป็นคนขี้เกียจไปก็มีอยู่ เห็นมามาก

     นี่เป็นโทษของผู้ที่ฝึก มรณานุสสติ กรรมฐาน ที่เป็นคนธรรมดา สามัญ เป็นปุถุชน

     ดังนั้นกรรมฐาน นี้ไม่เหมาะกับคนทั่วไป ในสาย กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นกรรมฐาน อนุสสติอันนี้ ผู้ที่จะฝึกต้องผ่าน กองกรรมฐาน มาอย่างน้อย 3 กอง คือ พระพุทธานุสสติ อานาปานสติ กายคตาสติ ดังนั้น มรณานุสสติ จึงไม่ได้เป็นคุณธรรมของผู้ที่เป็น ปถุชนเลยแต่ จะเป็นคุณธรรม ของพระโสดาบันขึ้นไป เช่นเดียวกับ อุปสมานุสสติ ( การระลึกนึกถึงพระนิพพาน ) ดังนั้น มรณานุสสติ ไม่ใช่เป็นกรรมฐาน ที่สามารถฝึกได้แบบกองเดียว

     นี่เป็นแบบพื้นฐาน ทั่วไป

     ที่นี้มากล่าวถึงการฝึก มรณานุสสติ แบบของพระอริยะ สายเจโตวิมุตติ กันบ้าง การฝึกมรณานุสสติ เป็นเรื่องที่ต้องระวัง เพราะเมื่อ พระอริยะที่มีคุณธรรม ในการเข้าฌาน ออกฌาน แล้วด้วย มีปุพเพนิวาสานุสสติญาณด้วย การฝึกมรณานุสสติ ย่อมส่งผลให้เกิด มรณะสัญญา ( ความจำได้ถึงขณะที่ดวงจิตดับ ) ซึ่ง มรณะสัญญา ย่อมส่งผลให้แก่ดวงจิตปัจจุบัน ได้เห็นธรรม และได้เห็นทุกข์ ไปด้วยกัน

     อันธรรมดา เมื่อพระโยคาวจร และ พระอริยะ พระโสดาบันขึ้นไป เมื่อเจริญถึง มรณานุสสติ และเข้าถึง อุคคหนิมิตรด้วยญาณ และ ด้วยสามารถแห่งญาณ ที่เป็น ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ( ระลึกชาติได้ ) ย่อมทำให้ระลึกนึกถึง ขณะที่เสียชีวิต แต่ละชาติได้ เมื่อระลึกนึกถึง ขณะที่เสียชีวิต แห่งแต่ละชาติได้ ย่อมจดจำอารมณ์ ในขณะที่เสียชีวิตได้แต่ละชาติ เมื่ออารมณ์ที่จดจำได้นั้น ย่อมมีผลกระทบ กับพระโยคาวจรที่ไม่ใช่พระอริยะ พระโสดาบันขึนไป เพราะจะทำให้เกิดความทุกข์ เนื่องด้วย มรณะสัญญา ให้อารมณ์เช่นเดียวกับที่เคยเสียชีวิตมาแต่ละชาติ พระโยคาวจร ที่ไม่บรรลุเป็นพระโสดาบัน ย่อมถึงแก่ความทุกข์ เพราะ มรณะสัญญา ที่ปรากฏนั้น ในอารมณืนั้น เพราะแต่ละชาติ ย่อมมีการเสียชีวิต ที่เป็นทั้งปกติ และ ไม่ปกติ บางชาติ ก็เสียชีวิตอย่างสงบ แต่บางชาติ ก็เสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุ แต่ผู้เจริญไม่สามารถที่จะเลือกจดจำได้เป็นบางชาติ เพราะ มรณะสัญญา เมื่อเกิดยอ่มส่งอารมณ์ ทั้งหมด

      ดังนั้น ครูอาจารยจึงไม่สอน มรณานุสสติ ให้แก่ ผู้ที่เข้าศึกษาใหม่ แต่จะสอนเมื่อผ่านกองกรรมฐาน คือ พระพุทธานุสสต และ อานาปานสติ หากเป็นพระโยคาวจร ประเภทไม่ใช่พระอริยะย่อมสามารถแก้อารมณ์ ที่ปรากฏนั้น ด้วยสติ และ ปัญญา ในสองกองกรรมฐานแรกได้ เพื่อไม่ให้เป็นทุกข์โทษ

     แต่ถึงจะกล่าวว่า มรณะสัญญา ส่งผลแบบนั้นแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดได้กับทุกคน เพราะอันว่า ปุพเพนิวาสานุสสติญาณนั้น ไม่ได้เป็นธรรมที่จะมีได้แก่ทุกบุคคลที่ได้ฝีกพระกรรมฐาน ในสาย ฌานลาภีบุคคล ดังนั้นผู้ฝึกส่วนใหญ่ ก็จึงฝึกได้แค่ มรณานุสสติ เท่านั้นไม่ส่งผล ไปถึง มรณะสัญญา จริง ๆ

     ส่วนตัวแล้ว การได้เห็น และเข้าไปประจักษ์ ในอารมณ์แห่งความตาย ความรู้สึกที่กำลังจะตาย และความรู้สึกที่ดวงจิตดับนั้น เป็นคุณธรรม แห่งธรรมสังเวช ที่จะได้ละลาจาก สังขารกันเสียที หากพระอนาคามี ผู้ดับกามราคะ และ ปฏิฆะ ลงเสียได้ ๆ เจริญ มรณานุสสติ ย่อมทำลายอวิชชา ได้ไวยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า มรณานุสติ เป็นคุณธรรม ส่งเสริม พระกรรมฐาน ขึ้นสูงเพราะย่อมทำให้ จิตของผู้ฝึกไม่ซัดส่าย แส่ไปในเรื่องที่ไม่สมควร

    อันบรรดาเรื่องราวทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมมีทั้งดี และ ไม่ดี ผู้ทียึดฝ่ายดี ย่อมกระทำเพื่อฝ่ายดี ผู้ที่ยึดฝ่ายชั่ว ย่อมกระทำตามฝ่ายชั่ว แต่ผู้เจริญ มรณานุสสติ นั้น ไม่ยึดทั้งดี และ ชั่ว มีแต่คำว่า ปล่อยวาง เท่านั้น เพราะผู้เจริญ มรณานุสสสติ ย่อมระลึกถึงอารมณ์แห่งความตาย ย่อมมองเห็น ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ความเสื่อมลาภ ความเสื่อมยศ ทุกข์ นินทา เป็นเพียงด้วความ ว่างเปล่า

    เมื่อความตายเข้ามาถึง ทุกสิ่งจะปรากฏเป็นเพียงดั่งความว่างเปล่า

    เหมือนบุคคลทำเข็มร่วงหล่นในมหาสมุทร ย่อมมีสติได้พลัน ไม่สามารถที่จะหาเข็ม หรือ งมเข็มในมหาสมุทร นั้นได้ ฉันใดก็ ฉันนั้น เมื่อ มรณะสัญญา ทำงาน จิต จะมองเห็นทุกสรรพสิ่งเป็นสิ่งที่ ว่างเปล่า ไร้การควบคุม ไร้ความเป็นเจ้าของ ที่แท้จริง

     ดังนั้นผลของการฝึก มรณานุสสติกรรมฐาน จะไปสู่ มรณะสัญญา และ ก็ สุญญตา ( ว่างเปล่าแล้ว )

     ธรรมที่จะปรากฏ สำหรับพระอริยะบุคคล ตั้งแต่พระโสดาบัน ก็คือ สุญญตาวิหารสมาบัติ เป็นต้นไป ดังนั้นการเข้าสู่ สุญญตาวิหารสมาบัติ ก็อาศัยธรรม ที่ชื่อว่า มรณานุสสติ ไปสู่ มรณะสัญญา และ สุญญตา นั่นเอง

     ดังนั้นผู้ฝึกกรรมฐาน ทุกท่านควรจะทราบข้อดี และ ข้อเสีย ของกองกรรมฐาน ไว้ เพื่อสนับสนุการเจริญพระกรรมฐาน ให้ไปถูกทิศ ถูกทาง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เกื้อกูลแก่การ ไปสู่ประตูอมตะ ( พระนฤพาน )

      ดังวิสัชชนา มาเห็นว่าพอสมควรแล้ว จึงขอยุติ การวิสัชชนา ไว้แต่เพียงเท่านี้
       เจริญธรร / เจริญพร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2015, 09:23:25 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

   ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บทธรรม นี้ ช่างลึกซึ้ง คะ เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเรื่อง มรณานุสสติ เพราะเวลาภาวนาแล้ว มันทำให้รู้สึกไม่อยากทำอะไร เลยคะ วันนี้เข้าใจแล้วคะ ว่าการฝึกกรรมฐานนี้ มีผลดี และ ไม่ดีอย่างไร

  ขอบคุณพระอาจารย์มากคะ

  :25: :25: :25: :25:
 st12 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ่านเรื่องนี้ไปหลายรอบ แล้ว คะ แต่พระอาจารย์ยังไม่ได้กล่าวถึง วิธีภาวนา

แต่ ถึงยังไม่รู้ ก็รู้สึกได้ ว่า มรณานุสสติ ที่เคยเจริญมานั้น ไม่ใช่แบบจริงเสียแล้ว ถึงว่าไม่ส่งอารมณ์ ทางด้านการปฏิบัติให้เลย แต่ข้อความของพระอาจารย์ ขนาดยังไม่แสดงวิธีการภาวนา เลย รู้สึกอ่านแล้ว น้ำตาจะไหล ให้ได้

   :25: :25: :25:
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า

saieaw

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 271
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า