ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553  (อ่าน 10013 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ที่มาภาพและข้อมูล

http://www.moohin.com/trips/chiangrai/maekajan/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 10, 2010, 03:30:20 pm โดย sompong »
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: น้ำพุร้อน เชียงราย เวียป่าเป้า ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:21:42 pm »
0


ชิมน้ำเต้าหู้ญี่ปุ่น ปาท่องโก๋ยักษ์ ที่เชียงราย

          ทริปนี้หมูหิน.คอมอยู่ที่จังหวัดเชียงรายครับ  เชียงรายนับว่าเป็นจังหวัดที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นชาวเชียงราย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ยิ่งช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ ผู้คนต่างเดินทางเข้ามาในเมืองเพื่อจับจ่ายซื้อของ หรือหาที่พักในยามค่ำคืน ตลอดสองฝั่งริมถนนบรรพประการ คึกคักเต็มไปด้วยเหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่มาออกร้านขายของ ไม่ว่าจะเป็นร้านกับข้าว ร้านชา กาแฟ ขนมหวาน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ร้านที่สะดุดตาหมูหิน.คอมมากที่สุด ก็คือ ร้านน้ำเต้าหู้ญี่ปุ่น ปาท่องโก๋ยักษ์ ที่ตั้งอยู่หน้าร้านสหรส บนถนนบรรพประการแห่งนี้ครับ

http://www.moohin.com/trips/chiangrai/giantdeepfrieddoughstick/
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: น้ำพุร้อน เชียงราย เวียป่าเป้า ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:23:11 pm »
0



เที่ยวแบบบูรณาการที่วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย

               ทริปนี้หมูหิน.คอม พาเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงรายครับ วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองเชียงราย มาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งโบราณสถาน และโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ควรคู่แก่การศึกษาและอนุรักษ์ไว้แก่ชนรุ่นหลัง ทริปนี้หมูหินเลยอาสาพาเรียนรู้ที่วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงรายครับ

http://www.moohin.com/trips/chiangrai/watphakaew/
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: น้ำพุร้อน เชียงราย เวียป่าเป้า ครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:25:54 pm »
0


พระธาตุดอยเวาแม่สาย

วัดพระธาตุดอยเวา เป็นวัดอันเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา พระธาตุที่เชื่อกันว่า มีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยเวานั้น ตั้งอยู่บนยอดดอยเวา แต่พระอุโบสถและเขตสังฆาวาสจะอยู่ที่เชิงดอย ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไปนมัสการ ซึ่งข้างบนเป็นจุดชมทัศนียภาพสองฝั่งสาย สามารถเห็นทัศนียภาพได้รอบทิศ

http://www.moohin.com/trips/chiangrai/doiwow-maesai/
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: น้ำพุร้อน เชียงราย เวียป่าเป้า ครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:27:07 pm »
0

  โครงการ ๑๐ ปี
อุโบสถวัดร่องขุ่น ( ภาพจากนิมิต )
"งานสร้างศิลป์เพื่อแผ่นดิน"
ของ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
(จิตรกรชื่อดัง)

http://www.moohin.com/033/033m022.shtml
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: น้ำพุร้อน เชียงราย เวียป่าเป้า ครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:29:33 pm »
0

องค์เก่า จัดสร้างบูรณะโดย ครูบาศรีวิชัย

องค์ใหม่ บูรณะโดยกรมศิลป์

พระธาตุดอยตุง นับเป็นโบราณสถานอันเก่าแก่แห่งหนึ่งในภาคเหนือ ตามประวัติตำนานได้กล่าวไว้ว่า พระมหากัสสะปะเถระเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ได้อาราธนาอัญเชิญเอายังพระบรมสารีริกธาตุกระดูกไหปลาร้า(พระรากขวัญเบื้องซ้าย) ของพระพุทธเจ้า มามอบถวายแด่พระเจ้าอุชุตราชเจ้าผู้ครองนครนาคพันธ์โยนกชัยบุรี รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์สิงหนวติ เป็นประธานพร้อมด้วยมุขมนตรีเสวกอำมาตย์ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระองค์ ได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุขึ้นมาบรรจุสร้างขึ้น ณ ที่ดอยดินแดง (คือดอยตุงปัจจุบัน) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1454 ต่อมาอีก 100 ปี มีพระอรหันต์องค์หนึ่งชื่อว่า พระมหาวชิรโพธิเถร ได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุมามอบถวายให้พระเจ้ามังรายะนะธิราช แล้วจึงได้พร้อมใจกันนำเอาพระบรมธาตุขึ้นบรรจุสร้างใหม่ขึ้นมาอีกองค์หนึ่งบนดอยตุง พร้อมได้ปฏิสังขรณ์องค์เดิม จากนั้นมาก็ไม่ปรากฏหลักฐานรายนามผู้บูรณะปฏิสังขรณ์ ลุถึง พ.ศ.2470 ครูบาศรีวิชัย นักบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งลำพูนพร้อมด้วยคณะศรัทธาชาวพุทธได้ทำการปฏิสังขรณ์องค์พระเจดีย์ พระวิหาร พระประธาน กาลเวลาผ่านพ้นมานานวิหารและพระประธานก็ถูกภัยธรรมชาติครอบงำชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ส่วนองค์พระเจดีย์นั้นยังมีรูปทรงปกติดีอยู่ ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2499 ได้มีอุบาสิกาผู้หนึ่งอยู่ในจังหวัดพะเยา ชื่อว่า นางทองคำ ฮั้นตระกูล ได้มีกุศลเจตนาอันยิ่งใหญ่ ทำการลงรักปิดทองพระเจดีย์ทั้ง 2 องค์ ให้เหลืองอร่ามไปทั่ว ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2500 องค์สรภาณมธุรส(บ๋าวเอิง) เจ้าอาวาสวัดสมานัมบริหาร กทม. พร้อมด้วยอุบาสิกา ทองคำ ฮั้นตระกูล ได้ทำการก่อสร้างอุโสถขึ้นหนึ่งหลังพร้อมทั้งพระประธานในอุโบสถ พระสาวก หมอชีวกโกมารภัจ ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ.2507 ก็ได้มีการดำริในการที่จะบูรณะองค์พระธาตุดอยตุงครั้งใหญ่ ซึ่งได้ใช้เวลาเตรียมการและหาทุนต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายปี ลุถึง พ.ศ.2514-2516 จึงได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จไป 1 องค์ พระธาตุ 2 วิหารหลวงที่ประดิษฐานพระประธานสิงห์หนึ่งเชียงแสน 3 พระประธานสิงห์หนึ่ง ซึ่งได้กราบทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จมาเป็นองค์เททอง
   ในการบูรณะครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงองค์พระเจดีย์กันใหม่ ออกแบบโดยอาจารย์ประกิต(จิตร์) บัวบุศน์ องค์พระเจดีย์บุด้วยกระเบื้องโมเสดสีทอง มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป 8 ซุ้ม มีฉัตรประดับทั้ง 4 มุมดังที่เห็นปรากฎวันนี้ ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2525 ได้มีอุบาสกคนหนึ่งชื่อ ไศลยนต์ ศรีสมุทร์ เจ้าของและผู้จัดการตลาดแม่สาย ได้มีกุศลเจตนาอันแรงกล้า ได้ทำการเทลานพระธาตุและพร้อมกันนั้นทางวัดก็ได้ทำการก่อสร้างรั้วรอบบริเวณ ลานพระธาตุอีกโสดหนึ่ง
   สำหรับท่านที่ขึ้นมานมัสการพระธาตุนั้น ท่านจะสังเกตุเห็นว่าวัดพระธาตุดอยตุงนั้นจะมีบริเวณ 2 เขตด้วยกันคือ ชั้นบนนั้นจะเป็นเขตพุทธาวาส นับเอาตั้งแต่ประตูวัดที่มียักษ์นั่งถือขวานอยู่นั้นขึ้นไป ท่านห้ามไม่ให้ใครทำสกปรกรุงรัง เช่น ถ่ายหนัก ถ่ายเบา เพราะห้องน้ำไม่มี จากที่ประตูวัดลงมา 1 กิโลเมตร เป็นเขตสังฆาวาส เป็นที่อยู่พำนักของพระสงฆ์องค์เณรและประชาชนทั่วไป
ก่อนขึ้นมานมัสการพระธาตุ กรุณาจอดรถเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนที่วัดน้อย 1 กิโลเมตร
   คำไหว้พระธาตุดอยตุง : นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ....(สามจบ) พิมพา ธะชัคคะ ปัพพะเต นะจุฬาธาตุ จิรัง มะหาคะมา นะมามิหัง อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ(สามจบ)
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:33:00 pm »
0



วัดถ้ำผาจม

          ตั้งอยู่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่า  โดยมีแม่น้ำสาย  เป็นเส้นแบ่งเขตแดนทั้งสองประเทศ  นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปที่แม่สาย  ส่วนใหญ่เมืองมาถึงตลอดแม่สาย  ก็จะเลยข้ามฝั่งไปประเทศพม่า  ที่เรียกกันว่าฝั่งท่าขี้เหล็ก  ไปเที่ยวซื้อของพื้นเมืองของที่ระลึกต่าง ๆ อันได้แก่  หินหยก  หยกของประเทศพม่า  เป็นหยกที่ดีที่สุดเพราะมีความเป็นมันวาว    อยู่ในตัวของมันพวกเครื่องประดับต่าง ๆ  เช่น พลอยทับทิม  ตัวแหวน  สร้อยข้อมือ  ซึ่งค่าแรงงานทางฝั่งพม่า  ไทยใหญ่ถูกกว่าทางกรุงเทพฯ  และยังมีสินค้าของประเทศจีน  ที่ผ่านเข้ามาจากคุงหมิง  มาทางเชียงตุงแล้วเข้ามาวางขายที่ตลาดท่าขี้เหล็กนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาแล้ว  ก็จะถ่ายรูปตรงป้ายที่เขียนว่า  “เหนือสุดยอดสยาม” เพราะบริเวณเขต ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย นั้นเป็นพื้นที่ส่วนที่สูงที่สุดของประเทศไทย  ฉะนั้นวัดถ้ำผาจม  จึงเป็นวัดที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศไทย
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:35:34 pm »
0
วัดพระธาตุผาเงา บ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย




วัดพระธาตุผาเงา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตก ตรงกันข้ามกับประเทศลาว ในหมู่บ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน ทางทิศใต้ของตัวอำเภอเชียงแสนประมาณ 3 กม.ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กม.

มี พื้นที่ทั้งหมด 743 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาเล็กๆ ทอดยาวลงมาตั้งแต่บ้านจำปี ผ่านบ้านดอยจันและ มาสิ้นสุดที่บ้านสบคำ แต่ก่อนเขาเรียกดอยลูกนี้ว่า “ดอยคำ”  แต่มาภายหลังชาวบ้านเรียกว่า “ดอยจัน”  ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา”

ความจริงก่อนที่จะย้ายวัดมาที่นี่ เดิมมีชื่อว่า “วัดสบคำ”  ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม

ที่มาเพิ่มเติม
http://www.greenwaytour.com/news_index.asp?id=NW080026
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:37:28 pm »
0
พระธาตุจอมกิตติ
ที่ตั้ง วัดพระธาตุจอมกิตติ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โทร. o- ๕๓๖๕- o๕๓๔ มีพระครูวิกรมสมาธิคุณเป็นเจ้าอาวาส


ประวัติพระธาตุ ตามตำนานกล่าวว่า กษัตริย์แห่งราชวงค์โยนกองค์ที่ ๒๔ คือ พระเจ้าพังคราช พร้อมด้วยโอรส คือ พระเจ้าพรมมหาราช ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากพระเถระเจ้าชาวโกศล เมืองสุธรรมาวดี นามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ รวม ๑๖ องค์ พระเจ้าพังคราชจึงทรงโปรดแบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็นขนาดใหญ่ ๑ องค์ ขนาดกลาง ๒ องค์ ขนาดเล็กอีก ๒ องค์ ประธานแก่พระยาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนาราย์ ซึ่งพระยาเรือนแก้วได้สร้างเจดีย์ประดิษฐานไว้ ณ. ดอยจอมทองที่เหลืออีก ๑๑ องค์ ทรงโปรดให้นำพระโกศแก้ว พระโกศเงิน มารองรับพระบรมธาตุ พระราชทานให้พระเจ้าพรหมมหาราชนำไปประดิษฐานไว้ที่ดอยน้อย หรือดอยจอมกิตติที่พระเจ้าสิงหนวัตนิ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์โยนกได้เคยบรรจุพระบรมสารีริธาตุ

อ่านต่อ
http://www.tourismchiangrai.com/cr/9jom/jom-kitti.php
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:39:55 pm »
0

แผนที่เส้นทาง ไหว้พระธาตุึ 9 แห่งของ จังหวัดเชียงรายครับ
บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:43:27 pm »
0


สามเหลี่ยมทองคำ อยู่ห่างจากอำเภอแม่สาย 28 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1290 เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกมาบรรจบกัน หรือที่เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย ลาว พม่า บริเวณนี้เคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ
ทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้มีความงดงามโดยเฉพาะยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอกด้านฝั่งพม่า และลาว นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า ค่าเช่าเรือประมาณ 300–400 บาท นั่งได้ 6 คน
ถ้าต้องการนั่งชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไปไกลถึงเชียงแสนและเชียงของ ก็สามารถหาเช่าเรือได้ แต่ค่าเรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องแม่น้ำโขงไปเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศจีน เช่น สิบสองปันนา คุนหมิง สามารถติดต่อกับบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดเชียงรายได้
หากต้องการจะชมทิวทัศน์มุมกว้างของสามเหลี่ยมทองคำบริเวณสบรวกและเพื่อนบ้าน ต้องขึ้นไปบนดอยเชียงเมี่ยง ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง

ที่มา:http://www.ezytrip.com/travel/images/10000/00700/000648.htm




บันทึกการเข้า

sompong

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 218
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนะนำ เที่ยวเชียงราย กันครับ ฤดูหนาวปี 2553
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 03:45:51 pm »
0






ดอยแม่สลอง ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 75 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง เป็นชื่อเรียกรวม ๆ ของชุมชนชาวจีนฮ่อแห่งกองพล 93 ที่ตั้งหลักแหล่งบนดอยแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันชุมชนชาวจีนบนดอยแม่สลองมีชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี ตั้งอยู่ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1,200 ม. อากาศเย็นสบายตลอดปี รายได้หลักมาจากการปลูกชาอู่หลง บ้านสันติคีรีเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชากรประมาณ 800 หลังคาเรือน มีทั้งวัด โบสถ์คริสต์ มัสยิด ระบบไฟฟ้า โทรศัพท์ และธนาคารทหารไทย ที่ให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบ

ข้อมูลทั่วไป

ดอย แม่สลองเป็นยอดดอยหนึ่งในเทือกเขาแดนลาว อยู่ในเขต อ.แม่ฟ้าหลวง มีความสูงประมาณ 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนยอดดอยแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชมหลายแห่งด้วยกัน เช่น พระบรมเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ตั้งอยู่เหนือหมู่บ้านไปตามถนนลาดยางประมาณ 4 กม. จะพบพระบรมธาตุสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2539 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จย่า ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรม ทรงล้านนาประยุกต์บนฐานสี่เหลี่ยมลดชั้น สูง 20 เมตร ฐานกว้างด้านละ 15 เมตร คุณสามารถชมวิวหมู่บ้านสันติคีรีได้อย่างสวยงามด้วยความสูงกว่า 1500 เมตร จากระดับน้ำทะเล บริเวณนี้จึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดของดอยแม่สลอง


ประวัติ

ดอย แม่สลองเป็นชุมชนของอดีตทหารจีนกองพล 93 สังกัดพรรคก๊กมินตั๋งของนายพลเจียงไคเช็ค ทำการรบอยู่ทางตอนใต้ของจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในจีน เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์นำโดยเหมาเจ๋อตุง ยึดอำนาจสำเร็จ พรรคก๊กมินตั๋งจึงถอยร่นไปปักหลักที่เกาะไต้หวัน กองพล 93 กลายเป็นกองกำลังพลัดถิ่น ถูกกดดันอย่างหนักจนถอยร่นเข้ามาในเขตพม่า แต่ถูกฝ่ายพม่าผลักดัน เกิดการปะทะกันหลายครั้งจนต้องถอยร่นมาจนถึงเทือกดอยตุงชายแดนไทย

ฝ่าย พม่าได้ร้องเรียนไปยังสหประชาชาติเมื่อปี พ.ศ. 2496 และมีมติให้อพยพกองกำลังพลัดถิ่นไปยังประเทศไต้หวัน แต่ทหารสังกัดนายพลหลี่เหวินฝาน และนายพลต้วนซีเหวินราว 3 หมื่นคน ทำเรื่องขอลี้ภัยในประเทศไทย เนื่องจากไม่แน่ใจในอนาคต เพราะไต้หวันเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ รัฐบาลไทยอนุญาตโดยจัดสรรให้ทหารของนายพลหลี่เหวินฝานไปอยู่ที่ถ้ำง้อบ อ. ฝาง จ. เชียงใหม่ ส่วนทหารสังกัดนายพลต้วนซีเหวิน 15,000 คน อยู่บนดอยแม่สลอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 เพื่อใช้เป็นกันชนกับชนกลุ่มน้อย ทำให้ดอยแม่สลองในยุคแรกเป็นดินแดนลี้ลับต้องห้าม มีปัญหายาเสพติดและกองกำลังติดอาวุธมาตลอด ทางการไทยได้พยายามแก้ปัญหา โอนกองกำลังเหล่านี้มาอยู่ในความดูแลของกองบัญชาการทหารสูงสุด

ดอย แม่สลอง มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ อนุสรณ์สถานชาวไทยเชื้อสายจีนอดีตทหารจีนคณะชาติ จัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาต่าง ๆ เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 30 บาท ต่างชาติ 50 บาท และในราวต้นเดือนมกราคม ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง ชิมชารสดีและอาหารจีนยูนนาน

แหล่งท่องเที่ยว ณ  ดอยแม่สลอง


พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี

                 ตั้งอยู่บนยอดดอยสูงสุดของแม่สลอง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 กม. พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดที่ระดับความสูง 1,500 ม. เหนือหมู่บ้านสันติคีรี ห่างจากหมู่บ้าน 4 กม. มีถนนลาดยางตัดขึ้นไปยังพระบรมธาตุฯ แต่ถนนสูงชัน คดเคี้ยวมาก พระบรมธาตุฯ สร้างแล้วเสร็จเมื่อราวปี พ.ศ. 2539 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เป็นเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์ บนฐานสี่เหลี่ยมลดชั้น สูงประมาณ 30 ม. ฐานกว้างด้านละประมาณ 15 ม. ประดับกระเบื้องสีเทา มีซุ้มจระนำด้านละสามซุ้ม เรือนธาตุประดับพระพุทธรูปยืนสี่ทิศ องค์ระฆังประดับแผ่นทอง แกะสลักลวดลาย ใกล้กับองค์เจดีย์เป็นวิหารแบบล้านนาประยุกต์ที่ตั้งของพระบรมธาตุฯ เป็นจุดสูงสุดของเทือกดอยแม่สลอง จึงชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยเฉพาะในยามเย็น ขณะเดียวกันองค์พระธาตุยังเด่นเป็นสง่า มองเห็นแต่ไกล เป็นสัญลักษณ์อีกอย่าง ของดอยแม่สลอง

สุสานนายลต้วน  ซี  เหวิน

ผู้ นำทหารจีนฮ่อแห่งกองพันที่ 5 กองพล 93 เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมเยียน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมขึ้นไปเคารพศพนายพลด้วน ตัวสุสานสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหมด แท่นหินอ่อนบรรจุร่างนายพลต้วนซีเหวิน อยู่ภายในศาลาเก๋งจีนขนาดใหญ่ สีขาว พื้นปูหินอ่อน ด้านหลังแท่นบรรจุศพ มีภาพถ่ายเก่าแก่เกี่ยวกับประวัติและผลงาน ด้านหน้าเป็นลาดเนิน มีตัวอักษร "ต้วน" ภาษาจีน สีทองบนพื้นสีฟ้า สุสานนายพลต้วน ตั้งอยู่บนเนินเหนือหมู่บ้าน ระดับความสูงประมาณ 1,300 ม .แยกขึ้นไปทางด้านข้างคุ้มนายพลรีสอร์ต ประมาณ 1 กม. สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2523 บริเวณที่ตั้งสุสานยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ของดอยแม่สลองได้อย่างกว้างไกล สามารถมองเห็นบ้านสันติคีรีในหุบต่ำลงไปเบื้องล่าง เป็นจุดชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ดีจุดหนึ่ง ด้านหน้ามีร้านชาสองร้าน ซึ่งจะเชิญชวนให้ผู้มาเยือนได้ทดลองชิมชา

อนุสรณ์สถานวีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติ                                                             

ตั้ง อยู่ที่ บ้านสันติคีรี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง   จ.เชียงราย   สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงประวัติศาสตร์ว่า ที่บ้านสันติคีรีเป็นหมู่บ้านของอดีตทหารจีนคณะชาติ (ทจช.ก๊กมินตั๋ง) กองพล 93 ได้ช่วยราชการไทยต่อสู้และปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ดอยหลวง ดอยขาว และดอยผาหม่น จ.เชียงราย พ.ศ.2514-2528 และพื้นที่เขาย่า จ.เพชรบูรณ์ ในปี 2524 จากการสู้รบดังกล่าวอดีตทหารจีนคณะชาติได้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพเป็น จำนวนมากรัฐบาลไทยจึงกำหนดสถานะให้อดีตทหารจีนและคณะชาติเหล่านั้น เป็นผู้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศไทย และให้แปลงสัญชาติเป็นไทยได้ ซึ่งทำให้อดีตทหารจีนคณะชาติเหล่านี้ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเป็นอย่างมาก อนุสรณ์สถานดังกล่าวออกแบก่อสร้างและตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมจีน ข้างในเป็นที่รวบรวมข้อมูล ประวัติความเป็นมาของชุมชนแม่สลอง ประวัติของคณะทหารจีนคณะชาติ ความเหนื่อยยาก การตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทย และมีห้องสมุดที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้เป็นหลักฐานอ้างอิง มีการจัดแสดงภาพถ่ายประวัติศาสตร์ความเป็นมา รูปภาพ และสิ่งสำคัญต่างๆ บนดอยแม่สลองที่ได้เกิดขึ้นในอดีต โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าชมได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. เสียค่าบำรุงอนุสรณ์สถาน ฯ คนไทย 30 บาท คนต่างชาติ 50 บาท โทร. 053-765114


เที่ยว ไร่ชา                 

ตั้ง อยู่ที่หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย บ้านสันติคีรีเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่มีการผลิตชากันมาก และได้รับการพัฒนาให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวสวนชา OTOP ผลิตภัณฑ์ชาที่จำหน่ายก็ได้ผ่านการคัดสรรให้เป็นสินค้าสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ชาที่ถูกใจนำไปฝากคนใกล้ ชิดได้เช่นกัน บ้านสันติคีรีนี้มีกลุ่มผลิตชาหลายกลุ่มได้แก่ กลุ่มชาวังพุดตาล บริษัทใบชาโชคจำเริญ จำกัด และกลุ่มสวนชาดอยตุง ซึ่งอยู่ที่ ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ขี่ม้าชมธรรมชาติ

บริการ ขี่ม้าชมไร่ชา ผ่านหมู่บ้านชาวเขา คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่าอย่างใกล้ชิด และยังมีโปรแกรมท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมายมาย


แหล่งซื้อของฝาก

สินค้า ประเภทพืชไร่เมืองหนาว ชา กาแฟ ลูกท้อ ลูกบ๊วย ไวน์ เครื่องยาและเครื่องปรุงอาหารต่าง ๆ จากเมืองจีน รวมถึงเครื่องประดับจากชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อหาติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้ ราคาสินค้าจัดว่าไม่แพงนักเมื่อเทียบกับคุณภาพสำหรับสินค้าที่ขึ้นชื่ออย่าง ยิ่งของดอยแม่สลอง ได้แก่ใบชาพันธุ์ต่าง ๆ มีร้านขายใบชาเปิดให้  นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชิมอยู่หลายร้าน ร้านชิมชาเหล่านี้ส่วนมากไม่ไร่ชาและโรงอบชาเป็นของตนเอง


การเดินทาง ขึ้นดอยแม่สลองมี 2 ทาง

เส้น ทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงรายไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านอำเภอแม่จันเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1089 ( แม่จัน ? ท่าตอน ) กิโลเมตรที่ 856 ผ่านน้ำพุร้อนป่าตึง บ้านห้วยหินฝน ถึงสามแยกกิ่วสะไต กิโลเมตรที่ 55 เลี้ยวขวาขึ้นดอยแม่สลองประมาณ 15 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2  ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านอำเภอแม่จัน ไปยังอำเภอแม่สายถึงกิโลเมตรที่ 10 สามแยกศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา เลี้ยวขวาสู่ทางหลวง 1338 ไปพระตำหนักดอยตุง เลี้ยวซ้ายไปทางหลวง 1234 ผ่านบ้านอีก้อ ถึงสามแยกกิโลเมตรที่ 9 เลี้ยวซ้าย ขึ้นดอยอีก 16 กิโลเมตร


สภาพภูมิอากาศ   

ดอยแม่สลองมีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ย อยู่ระหว่าง 15 -20 องศาเซลเซียส
ช่วงอากาศหนาวจัด อยู่ในระหว่างเดือน ธันวาคม - มกราคม อุณหภูมิจะลดลง อยู่ระหว่าง 4 - 6 องศาเซลเซียส ในเวลากลางคืน
ช่วงอากาศร้อนสุด อยู่ในระหว่างเดือน เมษายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25-32 องศาเซลเซียส โดยประมาณในเวลากลางวัน
อากาศ ที่เย็นสบายไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัด อยู่ในระหว่างเดือน มิถุนายน - พฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 15 - 20 องศาเซลเซียส โดยประมาณ

ฤดูการท่องเที่ยว   ทุกฤดูกาล ช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือน พฤศจิกายน ? มกราคม สวยงามที่สุด

เทศกาล และกิจกรรม ดอยแม่สลองมี เทศกาลที่น่าสนใจมากมาย
- เทศกาลดอกซากุระบาน อยู่ในระหว่างเดือน  มกราคม-กุมภาพันธ์
- เทศกาลปีใหม่ชนเผ่า  อยู่ในช่วงทุกๆ สิ้นปี
- เทศกาลตรุษจีน  อยู่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์
- เทศชมงานมหัศจรรย์ชา ซากุระบาน อาหารชนเผ่า ดอยแม่สลอง


       งานมหัศจรรย์ชาดอยแม่สลอง จัดขึ้นช่วงเดือน ธันวาคม จนถึงเดือน มกราคม ณ บริเวณอนุสรณ์สถานวีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอแม่ฟ้าหลวงร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก กำหนดจัด "งานมหัศจรรย์ชา ซากุระบาน อาหารชนเผ่า ดอยแม่สลอง" ประจำปีขึ้น ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม-4 มกราคม ของทุกปี ณ บริเวณอนุสรณ์สถานวีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติ บ้านสันติคีรี(ดอยแม่สลอง) ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย มีการจัดนิทรรศการ จำหน่ายใบชารสดี การแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า ประกวดอาหารชนเผ่าและอาหารที่ประกอบจากใบชา ประกวดเทพธิดาใบชา ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การแสดงแสงสีเสียง(การแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชนเผ่า) บนดอยแม่สลอง 6 ยุคสมัย นอกจากนี้ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ส่งท้ายปีเก่า จะมีการจุดพลุ ปล่อยโคมลอย และเช้าวันที่ 1 มกราคม จะมีการทำบุญตักบาตรใบชาพระสงฆ์ มีขันโตก 9 มงคล

สถานที่พักกางเต็นท์ 6 แห่ง

1. จุดชมวิว เจ้าของกิจการ คุณสุรพล สายเพชรก่อสกุล
เลขที่ 70/1 หมู่ที่ 6 ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย 57110
โทรศัพท์ 053-710-024
กางเต็นท์ได้จำนวน 30 หลัง ราคาหลังละ 100 บาท / หลัง / วัน
 
2. โรงเรียนบ้านสันติคีรี โทรศัพท์ 053-765-250
3. โรงเรียนบ้านสันติคีรีวิทยาคม โทรศัพท์ 053-765-248-9
4. โรงเรียนบ้านใหม่สันติ โทรศัพท์ 053-765-051
5. บ้านอังหล่อ เจ้าของกิจการ คุณอาเชียน โทรศัพท์ 053-765-415
6. องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก โทรศัพท์ 053-765-129

ข้อมูลเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก โทร.053-765129
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
โทร / แฟ็กซ์ 053-765129
โฮมเพจ / เว็บไซต์ : ไม่ระบุ
แหล่งข้อมูล เชียงรายโฟกัส ดอทคอม/ www.chiangraifocus.com
บันทึกการเข้า