ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หากเรามีเวทนา เกิดขึ้น เช่น ปวดขา ปวดหลัง ปวดเหน็บ ควรทำอย่างไรคะ  (อ่าน 4134 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
หากเรามีเวทนา เกิดขึ้น เช่น ปวดขา ปวดหลัง ปวดเหน็บ ควรทำอย่างไรคะ

มีคำกล่าว ที่ทำให้ ลังเล และ สงสัยว่า

 ถ้าเราต้องทนอยู่นั้น เป็น การทรมานตนใช่หรือป่าว คร้า....

 แต่ถ้าเราเลิกลงไปนั้น เป็น การส่งเสริมสุขแบบเดิมใช่หรือป่าว คร้า...

ในความเห็นของเพื่อน ๆ สมาชิก ที่มีประสพการณ์นั้น ทำำอย่างไร เวลาพบเหตุการณ์อย่างนี้ ....

 :c017:
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
หากเรามีเวทนา เกิดขึ้น เช่น ปวดขา ปวดหลัง ปวดเหน็บ ควรทำอย่างไรคะ

ถ้าเราต้องทนอยู่นั้น เป็น การทรมานตนใช่หรือป่าว คร้า....

ในความเห็นของเพื่อน ๆ สมาชิก ที่มีประสพการณ์นั้น ทำำอย่างไร เวลาพบเหตุการณ์อย่างนี้ ....


          การนั่งบำเพ็ญเพียรภาวนานั้น เวทนาเลี่ยงได้ยาก สิ่งแรกต้องทนสู้กับเวทนาให้ได้ ก่อนนั่งปฏิบัติต้องมี

ความแน่วแน่กล่าวคือ มีสัจจะกับตนเองเป็นประการสำคัญ สิ่งที่ได้คือ สัจจะบารมี, อธิฐานบารมี, ขันติบารมี,

และ วิริยะบารมี ผมและเพื่อนสหายธรรมได้มีโอกาสไปใช้สถานที่ วัดถ้ำเขาวง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็น

วัดที่กลุ่มธรรมกายเข้าไปบุกเบิกเป็นสาขาวัด ผมและเพื่อนสหายธรรม ได้ตั้งสัจจะความเพียรนั่งภาวนาในถ้ำนาน

นับหลายชั่วโมงสู้กับเวทนาอย่างสุดสุด จนกายท่อนล่างเป็นเหน็บแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงบั้นเอว แต่ไม่ยอมเคลื่อน

ไหวสู้ให้ถึงที่สุดอยู่กับเวทนาอย่างนั้นจนกระทั่งไร้ความรู้สึกที่จะใส่ใจกับเวทนานั้น ทั้งหมดที่กล่าวคือ ผมต้องการ

แยกรูป (กาย) แยกนาม (เวทนา) ออกจากกันให้เหลือแต่อารมณ์ปล่อยวางว่างว่าง แต่ก็เป็นอทุกขมสุข เอาเป็น

ว่าสู้กับความเจ็บปวดกับตนเอง และครั้งต่อไปเราจะนั่งภาวนาได้ทนเข้าถึงปิติธรรมได้ในครั้งต่อไปก็เท่านี้ที่มอบไว้

แด่น้องหมวยนีย์ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2010, 06:35:28 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตั้งจิต กับมาที่ ฐาน จิต

อดทนไว้ จนกว่าจะครบเวลาที่จิต อธิษฐาน

  เช่น อธิษฐาน ให้จิตมั่นในพุทโธ กับ ฐานจิต  5 นาที 10 นาที 20 นาที 30 นาที 45 นาที 1 ชม 2 ชม

3 ชม 6 ชม 12 ชม 18 ชม 24 ชม เป็นต้น

มีคาถาอยู่ 4 ตัวเท่านั้นที่ช่วยได้
   อ ด ท น

    ต บ ะ


เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในการฝึกจิต ๆ จะมีความเข้มแข็ง ก็อยู่ 2 คำนี้แหละนะจ๊ะ

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การแก้เวทนา มี อยู่ 2 แบบในการภาวนา  คือ

       1. แก้ ด้วย สมถะกรรมฐาน สำหรับ ผู้มีิจิต แกร่ง จิต อันฝึกฝนมาดีแล้ว

         วิธีแก้ในสมถะ ก็คือ ภาวนาต่อไป ตามเวลา ที่อธิษฐาน ไว้  ในขณะนั้น ก็มี ธรรมสภาวะเกิดขึ้นเอง

          คือ  ขันติ กับ ตบะ สองอย่างนี้เป็น เดช ของ สมาธิ

       2. แก้ ด้วยวิปัสสนากรรมฐาน สำหรับ ผู้มีจิต อ่อนในสมาธิ ต้องแก้ด้วยการกำหนด สติ และ ปัญญา มอง

         เห็นตามความเป็นจริง ต่อสภาวะ ขณะนั้น เช่น การเรียนรู้ นาม ที่เกิด เรียน รูป ที่รับ

          ต้นตอ ของ เวทนา นั้น  เกิด ที่ไหน ?  ตั้งอยู่ ที่ไหน ? และ ดับลงไป ที่ไหน ?

          การเจริญสติ แก้อย่างนี้เรียกว่า  อนุโลมขันติ 


       การแก้อารมณ์ ทั้ง 2 ประการ ไปสู่ สัมมัตตนิยาม
       พึงอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม


     
 หลักวิปัสสนา ที่ควรอ่านและทราบ ของนักปฏิบัติกรรมฐาน เรียกว่า อนุปัสสนา 3
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1610.0
 

   เจริญธรรม

   ;) ;) ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2011, 10:16:44 am โดย patra »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ