ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตัณหาผูกมัดใจ : บ่วงผูกคอ ปอผูกศอก ปลอกผูกตีน  (อ่าน 5049 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ตัณหาผูกมัดใจ : บ่วงผูกคอ ปอผูกศอก ปลอกผูกตีน
โดย หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

“คำสมัยก่อนโบราณอาจารย์เจ้า ท่านสอนมนุษย์ไว้ว่า ตัณหารักลูกเหมือนเชือกผูกคอ ธรรมดาเชือกผูกคอ เวลาเขาผูกสัตว์ก็ตาม หรือว่าผูกคอคนก็ตาม มันก็ไปไหนไม่ได้ เชือกมันรัดไว้ ก็ไปได้แค่ช่วงเชือกยาวสั้นเท่าไร มันก็อยู่ได้ในระยะนั้น มันวนเวียนอยู่ในนั้น เรียกว่าตัณหารักลูกเหมือนเชือกผูกคอ

ตัณหารักผัวรักเมียนี้เหมือนปอผูกศอก ไม่ว่าใครเมื่อยังไม่มีผัวไม่มีเมียก็อยากได้ มันก็เป็นตัณหามันจะผูกศอก กิเลสมันจะมัดศอก ธรรมดาคนมัดศอก มัดเท้า มัดตีนนั้น ยิ่งร้ายกว่าเชือกผูกคออีก ตัณหารักผัวรักเมียเหมือนปอผูกศอก เหมือนเชือกผูกศอก ใส่โซ่ไว้

ตัณหารักวัตถุข้าวของเหมือนปลอกซุกตีน ปลอกซุกตีนก็คือว่า มัดตีนนั่นเอง หรือว่าช้างตัวมันใหญ่ เขาใส่ปลอกตีนมันมัดตีนมันไว้ คำว่ามัดตีนก็ไปไม่ได้เหมือนกัน”



คัดลอกจาก
http://www.thaitempl..ma_seem03.phtml
larndham.org/index.php?/topic/29876-ใครตอบได้-ช่วยบอกทีนะครับ/page__st__3
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

patra

  • RDNpromote
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรมรรค
  • *
  • ผลบุญ: +100/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 971
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ตัณหาผูกมัดใจ : บ่วงผูกคอ ปอผูกศอก ปลอกผูกตีน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 20, 2017, 10:17:57 pm »
0
 st12 st11
บันทึกการเข้า
ข้าพจ้า สนับสนุนการเผยแผ่ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตัณหาผูกมัดใจ : บ่วงผูกคอ ปอผูกศอก ปลอกผูกตีน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 21, 2017, 07:51:42 pm »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ