ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง  (อ่าน 7055 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

axe

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 187
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ม.ค. พ.ต.ท.บุญยัง บุญเอี่ยม สารวัตรเวร สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุเด็กถูกรถทับ มาเสียชีวิตในโรงพยาบาลกำแพงเพชร จึงรีบไปตรวจสอบพบนายบุญลือ ตันใจ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 10 ต.อ่างทอง อ.เมืองกำแพงเพชร ยืนหน้าเศร้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แล้วให้การว่าเป็นพ่อบุญธรรมของเด็กน้อยที่เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.มณฑา ศรีสมพงษ์ อายุ 1 ขวบ 6 เดือน

สอบสวนนายบุญลือ ให้การว่า ที่บ้านเป็นลานมันสำปะหลัง และขายของชำหน้าบ้าน ขณะตนกำลังนำสินค้าลงจากรถปิกอัพอีซูซุ ทะเบียน กข 9259 กำแพงเพชร บริเวณหน้าบ้าน เมื่อลงของหมดแล้ว ก่อนขึ้นรถยังเห็นลูกสาวอยู่ในบ้าน จากนั้นได้ขึ้นรถไปติดเครื่องยนต์แล้วขับถอยหลังออกจากหน้าบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงดังคล้ายรถทับอะไรบ้างอย่าง จึงจอดรถลงมาดู ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างลูกสาวนอนอยู่ที่พื้นท้ายรถมีเลือดไหล และกะโหลกยุบ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทัน   

ด้าน นางประภัสสร ศรีสมพงษ์ ภรรยานายบุญลือ ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายให้การว่า ก่อนเหตุลูกสาวอยู่ในบ้าน ก็ไม่รู้ว่าวิ่งออกไปตอนไหน ตนอยู่ในบ้านพอได้เสียงดัง จึงออกมาดูปรากฎว่าหัวใจแทบสลาย เมื่อเห็นลูกถูกรถทับนอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพ่อบุญธรรม กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเด็กน้อยเคราะห์ร้ายเป็นลูกสาวของนายวิเชียร ศรีสมพงษ์ กับนางณัฐพร โพธิ์ศิริ ต่อมานายวิเชียรจมน้ำเสียชีวิต แล้วนางณัฐพรไปมีสามีใหม่ นางประภัสสร ซึ่งเป็นน้องสาวของนายวิเชียร จึงนำผู้ตายเอามาเลี้ยงด้วยความรักและเมตตา เพราะตัวเองไม่มีลูก.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=114951
บันทึกการเข้า
หนุ่มหล่อ ใจดี AXE

chutina

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 99
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 12, 2011, 09:32:44 pm »
0
อ่านแล้วรู้สึก เด็กมาก ๆ เลยคะ นึกถึงถ้าเป็นลูกของเราด้วย หัวใจแทบสลาย

พออ่านเรื่องนี้จบรู้สึก น้ำตาหยด เลยคะ

ขอให้เธอผู้จากไป จงมีสุคติในภพใหม่ ชาติใหม่ ที่ดีกว่าเิดิมนะคะ
 :'(
บันทึกการเข้า

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


เมื่อวันที่ 19 ม.ค.  ร.ต.อ.เกรียงไกร แสงยศ พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.ประชาธิปัตย์ ว่ามีเด็กถูกรถชนถูกส่งมารักษาตัวและเสียชีวิตไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พบศพ ด.ช.ศิริมงคล หรือน้องอาท ศิริสาร อายุ 1 ปี 3 เดือน สภาพศพมีร่องรอยถูกล้อรถทับที่กลางหลัง จนกระดูกสันหลังและ ซี่โครงหักหลายซี่ โดยมี นางอรุณ ศิริสาร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่2 ต.คลองเกตุ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี แม่ของ ดช.ศิริมงคล และญาติๆยืนร้องไห้อยู่ข้างศพ
               

สอบ สวน นางอรุณ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เป็นคนขับรถทับ น้องอาท เองโดยก่อนเกิดเหตุ ตนซึ่งมีอาชีพรับซื้อ-ขายของเก่า หลังจากได้ตระเวนรับซื้อของเก่ามาจนเต็มคันรถแล้ว ได้ขับรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บน 7925 ลพบุรี เดินทางมายังบริษัท บ่อไทยพลาสติก จำกัด เลขที่ 27/1หมู่ 10 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อนำของเก่าที่รับซื้อมาไปขาย โดยนำ น้องอาท นั่งมาในรถด้วย เมื่อมาถึงบริษัท ดังกล่าว ก็ได้ทำการถอยรถเข้าไปยังจุดที่ลงของ ระหว่างที่รอลงของอยู่นั้น ก็อุ้มลูกชายลงมาจากรถให้เดินเล่น เมื่อลงของเสร็จแล้วทางพนักงานของบริษัทก็บอกให้ขับรถออกไปจอดยังจุดจอดด้าน นอก เพื่อเปิดทางให้รถคันอื่นถอยเข้าไปลงของบ้าง  ตนจึงเดินไปเลื่อนรถ ก็มีคนงานร้องตะโกนว่าชนเด็กๆ ตนเองจึงหยุดรถและลงมาดูก็พบว่าร่าง น้องอาท ถูกทับดังกล่าว ลูกชายคงคิดว่าตนกำลังจะกลับบ้าน จึงรีบวิ่งมาหา จนถูกรถชนและทับจนเสียชีวิตดังกล่าว
   

ด้าน ร.ต.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ในเบื้องต้นนั้นได้สอบปากคำ นางอรุณ แม่ของ น้องอาทไว้ก่อน และจะได้ประสานงานไปยังท้องที่ สภ.คูคต ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนศพ น้องอาท นั้นมอบให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์รังสิต) เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ก่อนจะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุสลตามประเพณีต่อไป.

 ที่มาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=420&contentID=116425
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สุดยื้อ ชีวิตน้องออม เหยื่อเข้าเกียร์ผิด เพื่อนร่ำไห้ระงม
    \"น้องออม\" เหยื่อรถชน เพราะแม่เข้าเกียร์ผิดจังหวะ ช็อกเสียชีวิตก่อนเข้าห้องผ่าตัด หลังช็อก 2 ครั้งติดๆ ขณะญาติเผย หลานสาวใฝ่ฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตส

    ความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชน น.ส.หัทยา ปัญญาสุวรรณ อายุ 17 ปี หรือน้องออม นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนนารีรัตน์ จ.แพร่ อัดก๊อบปี้คาเสาโรงรถภายในบ้านเลขที่ 68 บ้านสบู หมู่ 5 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ อาการสาหัสและแพทย์ต้องตัดม้ามและขาข้างขวาทิ้ง หลังจากโดนแรงกระแทกของรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซูเปอร์ซาลูน สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กข 3172 แพร่ ที่นางโสภา ปัญญาสุวรรณ ผู้เป็นแม่ ใส่เกียร์รถอัตโนมัติผิดจังหวะระหว่างที่กำลังจะส่ง น.ส.หัทยา ไปโรงเรียน

    ล่าสุดเมื่อเวลา 20.05 น. วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายว่า น.ส.หัทยาได้เสียชีวิตแล้ว ท่ามกลางความเสียใจของบรรดาญาติและเพื่อนที่ทราบข่าว ต่างพากัน ไปยืนอออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินตึกศักยกรรม ซึ่งเป็นห้องที่ น.ส.หัทยา นอนพักรักษาตัว โดยไม่ปรากฏว่ามีมารดาของน้องออมอยู่ในกลุ่มของญาติแต่อย่างใด

    พยาบาลเวรประจำห้องฉุนเฉิน กล่าวว่า วันนี้ทางคณะแพทย์ที่รักษาน้องออมได้เตรียมนำน้องออมเข้าทำการผ่าตัดใหม่อีก ครั้งในเวลา 22.00 น. แต่ปรากฏว่าน้องออมเกิดมีอาการช็อก และเสียชีวิตไปก่อน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำศพของน้องออมไปเก็บยังห้องเก็บศพแล้ว เพื่อเตรียมให้ทางแพทย์ทำการผ่าชันสูตรศพอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต

    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน น.พ.สานิตย์ ชากฤษณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ และ น.พ.ภานุมาศ ขวัญเรือน แพทย์ประจำโรงพยาบาลแพร่ ได้เข้ามาเยี่ยมดูอาการของ น.ส.หัทยา

    น.พ.สานิตย์ กล่าวว่า ได้ทำการรักษาหลายส่วน ทั้งม้ามแตก เลือดออกในโพรงช่องปอด กระดูกเชิงกรานแตก ไตได้รับบาดเจ็บ โดยที่คณะแพทย์ได้รักษาไปแล้วคือ เจาะปอด ตัดม้ามและข้อตะโพกข้างขวาออก เนื่องจากแตกละเอียด แต่ทั้งนี้หลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้รับ น.ส.หัทยา เข้ารักษานั้น อาการเสียเลือดมากจนเกิดภาวะช็อก สมองขาดออกซิเจน ทำให้ไม่รู้สึกตัว จึงให้เลือดไปทั้งหมด 50 ยูนิต อาการช็อกก็ดีขึ้น

    นางโสภายังมีอาการโศกเศร้า และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่บรรยากาศที่โรงเรียนนารีรัตน์ นักเรียนชั้น ม.4/1 ได้จับกลุ่มและร้องไห้ระงมตั้งแต่ช่วงเช้า และมีนักเรียนบางส่วนทยอยมาเยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.หัทยา โดยมานั่งรวมกันที่หน้าห้องฉุกเฉิน ศัลยกรรม ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลแพร่ ท่ามกลางเสียงร้องไห้เช่นเดียวกัน

    น.ส.กัญจนา สร้อยเพชร นักเรียน ม.4/1 เพื่อนร่วมห้อง กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น สำหรับ น.ส.หัทยา เป็นคนร่าเริง เป็นคนน่ารัก เรียนหนังสือเก่ง ชอบแสดงละคร ใฝ่ฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตส อยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ น.ส.หัทยาปลอดภัยและหายเป็นปกติโดยเร็ว

    นายพิทักษ์ บุณยเวทย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนารีรัตน์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนทราบข่าวถึงอาการของ น.ส.หัทยา ที่ได้รับอุบัติเหตุ จึงได้เตรียมในเรื่องของการจัดหาวีลแชร์ไว้ หากอาการหายดีแล้ว และนักเรียนชั้น ม.4 ที่ว่างเรียนก็จะอนุญาตให้ไปดูอาการที่โรงพยาบาลแพร่ ส่วนเด็กนักเรียนร่วมชั้นตั้งแต่เกิดเหตุได้จับกลุ่มนั่งร้องไห้กัน เพราะเสียใจเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเป็นเรื่องที่ไม่เจตนา และการให้ความช่วยเหลือทางโรงเรียนได้จัดเตรียมนักเรียน เพื่อบริจาคเลือดกรุ๊ปเอ หาก น.ส.หัทยาจำเป็นต้องใช้ทุกเวลา

    ด้านญาติของ น.ส.หัทยา รายหนึ่งกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำใจลำบาก ไม่นึกว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ น.ส.หัทยาตั้งเป้าไว้สูงอยากเป็นแอร์โฮสเตส ชอบการแสดงออก เคยเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ขณะนี้มารดาของ น.ส.หัทยา เสียใจมาก ซึ่งเกรงว่าจะเป็นอะไรไปอีกคน

    เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแพร่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้แพทย์ด้านจิตเวชต้องให้การดูแลนางโสภา ปัญญาสุวรรณ แม่ของน้องออมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนางโสภาอยู่ในอาการโศกเศร้าและเครียดอย่างหนัก อีกทั้งยังสับสนเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ลูกได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเกรงว่าจะถูกสังคมประนาม และวิตกว่าจะถูกตำรวจดำเนินคดี โดยนางโสภาได้บ่นกับญาติว่าหากน้องออมเสียชีวิตจะฆ่าตัวตายตามลูกไป ญาติจึงได้มาปรึกษาแพทย์พร้อมนำตัวมาอยู่ในความดูแลของแพทย์ด้านจิตเวช เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
http://skcop.net/images/stories/videos/rear_children.flv


บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 01:21:27 am »
0
หลายท่าน ที่ใช้รถยนต์ และมีเด็กๆ อยู่ที่บ้าน ให้ลองพิจารณาดูคลิบที่ผมนำเอามาฝากกันดูครับ  เมื่อปัจจุบันนี้  รถที่ออกมาวิ่งกันอยู่ในท้องถนนทุกวันนั้น นิยมรถที่ยกสูง  เพราะว่าใช้งานได้หลากหลาย แม้กระทั่ง คนที่ไม่มีความจำเป็นที่ใช้ประโยชน์จากความสูงของรถ ก็ยังนิยมที่จะซื้อออกมาใช้กัน เพราะมันดูสวยงาม และสง่า สร้างความภูมิฐานให้กับผู้ขับขี่ เมื่อมีใครพบเห็น

 

ครับ  แต่เหรียญก็มีสองด้านเสมอ

เมื่อประมาณ สองเดือนก่อน ผมเลิกงานตอนประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ที่โรงพัก  ก็จะขับรถกลับบ้าน  ฝนก็ตกหนักมาก  เมื่อติดเครื่องยนต์เสร็จ ก็เข้าเกียร์ถอยหลัง ปรากฏว่า เซนเซอร์ถอยหลัง ก็ส่งเสียงร้องตลอดเวลา เพราะว่า มันถูกน้ำฝน ทำให้ทำงานผิดพลาด ขณะนั้น ก็ไม่ได้คิดอะไร เข้าเกียร์ถอยหลัง.....ยาว

โครม....ตกใจสิครับ ผมชนอะไรเข้า  ลงจากรถไปดู ปรากฏว่าผมชนเสาตอม่อเข้าอย่างจัง  (เสาตอม่อนี้ แต่ก่อนไม่มี แต่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้) ผมค่อนข้างสับสน แต่ที่จริงแล้วกลัวถูกเมียด่า  ฮ่าๆๆ  ผมย้อนคิด ไป ผมเผลอเรอไปเอง  ไปคิดเอาเองตามความรู้สึกว่า ถนนมันโล่ง  (เพราะเคยถอยมาอย่างนั้นตลอด)

หลายวันผ่านไป ผมนั่งทบทวนเหตุการณ์  อืมๆ  ท้ายรถมันก็สูงนะ  แล้วลูกสาวของผมสองคนที่ซนยังกับลิงเนี่ย  หัวยังไม่พ้นท้ายรถเลย แสดงว่าเมื่อผมถอยหลังโดยใช้ความรู้สึกแบบเดิมๆ นี่ อาจจะต้องพลาด เหยียบลูกสาวตัวเองเข้าสักวัน กลายเป็นฆาตรกรไปซะ  เคยแต่จับคนอื่น ผมต้องมาโดนพิมพ์มือ ถูกแจ้งข้อหา "ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา" แล้วคนที่ตายนั้น คือลูกตัวเองเหรอเนี่ย


ว่าแล้ว ก็เข้าหาข้อมูลในกูเกิล  แล้วเอาเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนไม่รู้ แต่อาจจะพลาดพลั้ง เผลอเรอ หรือหลงลืมไปเพราะความเคยชิน

วันนี้ ผมเลยได้เทคนิคมาฝากครับ วิธีถอยหลังให้ปลอดภัย

   1. ลองเดินดูรอบรถก่อนที่จะถอย ว่ามีสิ่งกีดขวางหรือไม่ จดจำไว้
   2. ถ้ามีผู้ช่วย ให้ผู้ช่วยลงไปบอกทิศทางหรือให้สัญญาณกันก่อน
   3. วิธีการถอยที่ปลอดภัย ให้เปิดไฟหน้ารถ เพราะมันจะสะท้อนกับวัตถุต่างๆ ไปยังข้างหลังทำให้เรามองเห็นได้ง่ายขึ้น
   4. ท่าการขับรถถอยหลังที่ดี คือ เอามือซ้าย ไปพาดไว้ที่บริเวณพนักพิงเบาะคนนั่งด้านซ้าย แล้วเอี้ยวตัวมองไปข้างหลัง มือขวาบังคับพวงมาลัย  บังคับทิศทาง
   5. ระหว่างถอยควรดูกระจกส่องหลังควบคู่กันไปด้วย

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการถอยหลังรถได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ควรจะมีไว้ใช้ครับ

   1. สัญญาณเสียงเตือนว่ารถถอยหลัง  อันนี้ ผมชอบครับ เวลาเข้าเกียร์ถอย  จะมีเสียงค่อนข้างดัง  ที่เคยเห็นเขาใช้ก็เป็นเสียงไอพ่่น  เครื่องบิิน  เป็นการเตือนให้คนอื่นรู้ว่า  ข้าจะถอยแล้วนะ
   2. เซนเซอร์ถอยหลัง  จะแจ้งเตือนผู้ขับ เมื่อถอยหลัง จะมีเสียงดัง และเวลาถอยเข้าไปไกล้สิ่งกีดขวาง เสียงจะดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ  บางอันมีจอขึ้นให้ว่า ระยะห่างจากสิ่งกีดขวางเท่าใด แต่เซนเซอร์แบบนี้ มักมีข้อผิดพลาดโดยง่าย เช่น มีฝุ่น น้ำมาบังเซนเซอร์ หรือ เวลาถอยหลัง เซนเซอร์ไปวัดเอาที่พื้นดิน แทนที่จะวัดกับวัตถุกีดขวาง ทำให้แจ้งการทำงานผิดพลาด
   3. กล้องส่องหลัง  อันนี้ เห็นภาพชัดเจน แต่กล้องประเภทนี้ จะใช้เลนส์ที่มีมุมกว้างมากๆ  ทำให้สัดส่วนภาพผิดเพี้ยน คล้ายๆ กับเลนส์ fish eye ก็ต้องหมั่นฝึกฝนดูให้เคยชิน
   4. ผู้ช่วยครับ  ดีที่สุด



บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 01:25:01 am »
0
เห็นน้ำตาของคุณแม่ หมวยจ้า ก็รันทดกับการจากไปของน้อง คร้า..
แต่ถึงจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ก็ไม่สามารถที่เรียกชีวิตของน้องกลับมาได้

ถ้าเราสามารถย้อนเวลากลับมาได้ เหตุการณ์อย่างนี้ก็ควรจะแก้ไข แต่ความเป็นจริงเราไม่สามารถย้อนเวลากลับมาได้เราเอง จึงควรมองไปข้างหน้า และรวมกันหาวิธีป้องกันกันด้วยคร้า...

 :'( :'(
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

somchit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 71
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 01:28:20 am »
0
อ่านติดตามเรื่องนี้ แล้วก็เศร้าใจกับ พ่อ แม่ ที่สูญเสียครับ วิเคราะห์แล้ว

   ก็เพราะความประมาท นี้ส่วนหนึ่งเลยครับ

   เป็นกรรมของเด็ก ก็อีกส่วนหนึ่งครับ

 การเยียวยาจิตใจ ของ พ่อ แม่ ที่ประสพปัญหาตรงนี้ มีวิธีการอย่างไร
และ พ่อ แม่ ที่ทำให้ลูกตายเพราะความประมาทนี้ต้อง ได้รับโทษอย่างไร ?
 การเกิดก็เป็นทุกข์ จริง ๆ นะครับ พ่อ แม่ ที่มีน้ำใจให้ลูกเกิดมา ต้องรับความทุกข์ ทุกเรื่อง แล้วก็ตัองรับไปอย่างนี้
เรื่อย ๆ จนกว่าจะพ้นสังสารวัฏฏ์กัน

 :smiley_confused1: :03:
บันทึกการเข้า