ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบว่าการสวดมนต์ "ท่องตรง" และ "ท่องย้อน" ให้ผลต่างกันอย่างไรคะ? พอดีเพิ่งไ  (อ่าน 4249 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sutida7saengsri

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ในละคร นางเอกจะท่องมนต์  "รัง วา ทะ.............พะ พะ โอม"
แล้วทำให้ได้ย้อนกลับไปอดีต ที่นี้พวกเพื่อนๆจะพยายามช่วยกันพานางเอกกลับมาสู่ปัจจุบัน
เลยช่วยกันท่องย้อน "โอม พะ พะ.............ทะ วา รัง"
เทคนิคการแทงบอลออนไลน์ให้ได้เงิน
คือที่ถามนี่ไม่ใช่ว่าอยากจะกลับไปสู่อดีตนะคะ 555
แต่สงสัยน่ะค่ะ พอดีเราเคยท่อง อิติปิโสฯ มาตั้งแต่เด็ก
พอดีมีคนแนะนำว่าให้หัดท่องย้อนทวน ...โสปิติอิ เราก็หัดท่องไป
แต่ถามใครก็ไม่มีใครบอกเลยว่าทำไมถึงต้องท่องย้อน หรือให้ผลให้คุณต่างกันอย่างไรน่ะค่ะ
เว็บพนันบอลไม่ผ่านเอเย่นต์
ไม่ทราบพอมีใครแนะนำได้บ้างไหมคะ?
บันทึกการเข้า

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มารออ่าน คำตอบ เหมือนกัน

 :49:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



สู่ฝันนิรันดร

สู่ฝันนิรันดร เป็นละครพีเรียดของผู้จัด ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา แนวดราม่าโรแมนติก ของบริษัท ฮู แอนด ฮู จำกัดเป็นบทประพันธ์ของรัตนสยาม บทโทรทัศน์ โดยอาจารย์นลินี สีตะสุวรรณ ผู้เขียนบทท่านนี้ได้เขียนบทละครให้ทางช่อง 3 มายาวนาน โดยเฉพาะกับคุณไก่ วรายุธที่ได้ร่วมงานกันมาหลายเรื่องแล้ว กำกับการแสดงโดยผู้กำกับอารมณ์ดี ชูเคอะ ชูศักดิ์ สุธีรธรรม

สู่ฝันนิรันดร เป็นละครแนวย้อนยุค สลับปัจจุบัน ซึ่งได้ หมิว ลลิตา ศศิประภา มารับบทพัชร์เฟื่อง ช่างภาพสาวมือหนึ่งในยุคปัจจุบัน ผู้เป็นที่รักของใครหลายๆ คน แต่ถูกเจ้าสัวมหาเศรษฐีผู้หนึ่งใช้วิธีเจ้าเล่ห์ ทำให้ย้อนอดีตไปยังสมัยกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร และได้พบเจอกับหลวงพิพิธราชเสนา ที่รับบทโดย นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช และในเรื่องนี้ยังได้วิลลี่ แมคอินทอช มาร่วมแสดงด้วยในบทกวิน



เรื่องย่อ

ตามหาแม่เฟื่อง : หลักฐานทางวัตถุคือ เสื้อผ้า นาฬิกา และบัตรเคลือบพลาสติก เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าสัวเจิมศักดิ์ ราชเสนา คหบดีผู้มั่งคั่งวัย 75 ปี ผู้หนึ่ง ต้องตามหาผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อส่งกลับไปอดีต ตามบันทึกที่ได้เขียนไว้ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งเป็นคำสั่งของบรรพบุรุษที่ตกทอดกันมา เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นต้นตระกูลของราชเสนา ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีตระกูลนี้ ถ้าหาสตรีผู้นั้นไม่เจอ

วันหนึ่งช่างภาพสาวที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนในบันทึก มาปรากฏกายต่อหน้าเจ้าสัวเจิมศักดิ์และ พีรพัฒน์ หลานชาย โดยบังเอิญ แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าสัวเจิมศักดิ์สนใจ คือชื่อของเธอที่ถูกเรียกว่าเฟื่อง เหมือนในบันทึก เจ้าสัวเจิมศักดิ์หมดสติ ไปต่อหน้าต่อตาพัชร์เฟื่อง ในขณะที่พัชร์เฟื่องก็ตกใจไม่น้อย นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พัชร์เฟื่องต้องเจอกับเหตุการณ์ประหลาด เธอเริ่มฝันถึงชายโบราณผู้หนึ่ง ที่มาเรียกเธอด้วยเสียงนุ่มๆ ว่า แม่เฟื่อง...


@@@@@@

กวิน อาจารย์ประจำคณะโบราณคดี เพื่อนสนิทพัชร์เฟื่อง ได้ขอให้พัชร์เฟื่องไปช่วยให้คำแนะนำ เทคนิคการถ่ายภาพให้กับนักศึกษาของเขา ทำให้พีรพัฒน์ที่เป็นลูกศิษย์กวินได้พบกับพัชร์เฟื่องอีกครั้งและเขาก็ตกหลุกรักเธอเข้าอย่างจัง จนกวินรู้สึกไม่พอใจในพฤติกรรมของนักศึกษาคนนี้ และเริ่มขัดแย้งกับลูกศิษย์ของตัวเอง

เจ้าสัวเจิมศักดิ์ได้ออกอุบายว่าจ้างให้พัชร์เฟื่องมาถ่ายรูปบ้านเรือนไทยโบราณของเขา เจ้าสัวเจิมศักดิ์เริ่มเข้าแผนการทันที เริ่มจากพาพัชร์เฟื่องไปชมเรือนไทยและนำภาพเขียนบรรพบุรุษให้ดู ภาพที่เธอเห็นคือภาพชายโบราณที่เธอเคยฝันถึง เจ้าสัวเจิมศักดิ์มอบสร้อยพร้อมจี้หินสีดำให้พัชร์เฟื่อง หลังจากที่เธอทำงานให้เสร็จ โดยอ้างว่าตอบแทนที่เธอถ่ายรูปเรือนไทยของเขาออกมาดี พร้อมกับให้เธอพยายามท่องคาถากำกับอย่าได้ขาด บอกว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องรางป้องกันอันตราย

@@@@@@

แต่พีรพัฒน์กลับพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้าสัวเจิมศักดิ์พาพัชร์เฟื่องกลับไปยังอดีต เพราะด้วยความรักที่มีต่อพัชร์เฟื่องนั่นเอง แต่วันหนึ่งเฟื่องทำงานอยู่ใกล้ๆ กับวัดระฆัง และกำลังจะกลับบ้านกับกวิน เธอได้ยินเสียงสวดคาถา "โอมพะพะโลกะระทะวารัง" ตลอดเวลา และเข้าใจว่าเป็นเสียงสวดมาจากวัด แต่เมื่อนั่งในรถจะกลับบ้านก็ยังคงได้ยินเสียงสวดอยู่ เสียงดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และเฟื่องก็เผลอสวดคาถาตามจนเป็นเสียงเดียวกันไม่ยอมหยุด ฉับพลันเกิดเสียงเปรี้ยงลงมาที่รถกวิน หลังเหตุการณ์สงบกวินก็ต้องตกใจเมื่อหันมาไม่เจอเฟื่อง ซึ่งไม่รู้หายไปได้อย่างไร ทั้งที่รถยังปิดล็อก กวินร้องหาพัชร์เฟื่องจนสุดเสียง



นับเนื่องอดีตกาล : ภายในโบสถ์วัดบางหว้าใหญ่สมัยกรุงธนบุรีในปี 2312 พัชร์เฟื่องมาปรากฏกายอยู่ที่นี้ สร้างความตกตะลึงให้กับสังฆราชศรี และทุกคนในโบสถ์ เธอเงยหน้าขึ้นมาและได้พบกับชายโบราณที่เธอแอบหลงรูป หลวงพิพิธราชเสนา นั่นเอง เธอตกใจมากวิ่งหนีออกจากโบสถ์ไป แต่หลวงพิพิธราชเสนาได้กระชากร่างเธอสู่อ้อมแขนของเขา พัชร์เฟื่องกรีดร้องก่อนจะสิ้นสติไป หลวงพิพิธราชเสนาพาเธอมาฝากไว้กับพี่สาวคือ แม่สำลีที่เรือนสวนบางล่างที่อยู่ห่างจากผู้คน

พัชร์เฟื่องพยายามเล่าเรื่องว่าเธอมาจากอนาคตให้หลวงพิพิธราชเสนารับรู้ และพยามยามหาทางที่จะไปกลับไปที่วัดบางหว้าใหญ่เพื่อพบกับสังฆราชศรีให้ช่วยพาเธอกลับสู่ปัจจุบัน เฟื่องได้เจอกับ พระยาอนุชิตราชา จางวางกรมพระตำรวจ จางวางผู้นี้ชอบเธอในทันทีเมื่อพบกัน

วันหนึ่ง นายจัน หลานชายนิสัยไม่ดีของทองมาก สามีของนางสำลีได้ฉุด สาย บ่าวในเรือนไปเพื่อหวังจะข่มขืน แต่พัชร์เฟื่องแข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน และกลับกลายเป็นพัชร์เฟื่องที่เกือบจะพลาดท่าเสียทีให้กับนายจัน แต่หลวงพิพิธราชเสนาเข้ามาช่วยไว้ก่อน เหตุการณ์นี้สร้างรอยแค้นไว้ให้นายจันเป็นอย่างมาก ด้วยความรักและความเป็นห่วงทำให้หลวงพิพิธราชเสนาตัดสินใจที่จะพาพัชร์เฟื่องกับสายมาอยู่ที่เรือนมังคุด เรือนพักของตนที่พระนคร โดยให้สายคอยอยู่รับใช้พัชร์เฟื่อง

@@@@@@

พุดซ้อน ลูกสาว พระยาราชาเศรษฐี ซึ่งมีใจหมายปองหลวงพิพิธราชเสนาอยู่ไม่น้อย ได้แสดงความเป็นเจ้าของหลวงพิพิธราชเสนาอย่างออกนอกหน้า นางพุดซ้อนวางแผนให้ว่าหลวงพิพิธราชเสนาล่วงเกินตนทำให้ทุกคนเข้าใจผิด จนหลวงพิพิธราชเสนาต้องรับผิดชอบ หลวงพิพิธราชเสนาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ได้ดื่มเหล้าจนเมามายและเอ่ยปากบอกรักพัชร์เฟื่อง

ทางด้านยุคปัจจุบัน กวินและพีรพัฒน์จากไม่ชอบหน้ากัน ก็ได้ร่วมมือกันพยายามค้นหาพยานหลักฐาน ยืนยันว่าพัชร์เฟื่องยังไม่ตาย และค้นหาวิธีพาตัวเธอกลับมาให้ได้ พระยาอนุชิตราชาเทียวมาพาพัชร์เฟื่องบ่อยขึ้น และชวนออกไปเที่ยวข้างนอก สร้างความหึงหวงแก่หลวงพิพิธราชเสนาอย่างมาก จึงได้หลุดปากบอกหมั้นพุดซ้อนต่อหน้าพัชร์เฟื่องเป็นการประชด สร้างความเสียใจให้กับพัชร์เฟื่องเป็นอย่างมาก


@@@@@@

หลวงพิพิธราชเสนาไม่พอใจบ่าวไพร่ ที่ปล่อยให้พัชร์เฟื่องไปเที่ยวกับพระยาอนุชิตราชาตามลำพัง จึงได้เฆี่ยนตีบ่าวไพร่ พัชร์เฟื่องจึงเข้ารับหวายแทนจนบาดเจ็บ หลวงพิพิธราชเสนาตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าพัชร์เฟื่องจะทำถึงขนาดนี้และได้พยายามขอโทษ ทายาให้ และเอ่ยปากสารภาพรักกับพัชร์เฟื่อง พุดซ้อนเข้ามาเห็นภาพบาดตาบาดใจ จึงคิดวางแผนชั่วร้ายให้นายจันไปลวงพัชร์เฟื่องออกมาจากเรือนมังคุด เพื่อส่งไปขายให้นายจีนบุ้นเส็ง สายทาสที่จงรักภักดีขอตามมาด้วย

สายได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องนายที่รักจึงพลาดพลั้งโดนนายจันข่มขืนและทำร้ายปางตาย พัชร์เฟื่องถูกนำตัวไปลงเรือสำเภาของนายจีนบุ้นเส็ง แต่หลวงพิพิธราชเสนาและพระยาอนุชิตราชามาช่วยไว้ได้ทัน นายจันถูกจับ สารภาพว่านางพุดซ้อนคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่พุดซ้อนไหวตัวทันจึงได้โยนความผิดให้ เผื่อน บ่าวคนสนิทรับผิดแทน เผื่อนเสียใจกับการกระทำของนายที่รักเป็นอย่างมาก จึงตอกย้ำนางพุดซ้อนได้อย่างเจ็บแสบด้วยคำพูด ก่อนที่จะถูกจับไป

@@@@@@

พบพานสุขทุกข์ : เมื่อจบสิ้นเรื่องร้ายต่างๆ พระยาอนุชิตราชาบอกจะส่งคนมาสู่ขอพัชร์เฟื่อง แต่เธอตัดสินใจเลือกหลวงพิพิธราชเสนาเพราะรักมาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะมายังกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรอีกด้วย พัชร์เฟื่องมีลูกคนแรกเป็นเด็กผู้ชายชื่อ กิมจู และกำลังตั้งท้องอ่อนๆ เธอมีความสุขเป็นอย่างมากกับชึวิตที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกวินและพีรพัฒน์ทำพิธีสวดคาถาเรียกพัชร์เฟื่องกลับ เมื่อเสียงเรียกแห่งมิติเปิดขึ้นอีก พัชร์เฟื่องเอ่ยปากขานรับไปโดยที่ไม่รู้ตัว ในขณะที่เธอกำลังป้อนข้าวลูกชายที่กำลังอ้าปากรอรับข้าวจากมือแม่ เธอก็ถูกถึงกลับสู่ปัจจุบันในทันที ทั้งๆ ที่ข้าวยังอยู่ในมือ

เธอไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เธอต้องจากสามีอันเป็นที่รัก และลูกกิมจูอย่างกะทันหันแบบนี้ได้ เธอพยายามท่องคาถาให้กลับไป แต่หินศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นมิติเวลานั้นได้แตกกระจายไปแล้ว เจ้าสัวเจิมศักดิ์พาเธอไปยังเรือนมังคุด และได้นำเอาสมุดบันทึกที่หลวงพิพิธเขียนเรื่องราวไว้ หลังจากเธอจากมาในบันทึกนี้ได้บอกด้วยว่าถ้ามีลูกสาวให้ตั้งชื่อว่า แก้วกัลยา พัชร์เฟื่องกอดสมุดบันทึกไว้แนบกับอก เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ผ่านมาและพยายามยอมรับความจริงที่โหดร้าย



ขอบคุณข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/สู่ฝันนิรันดร
ขอบคุณภาพจาก : https://gossipstar.mthai.com/tv/drama/ch3/17194
https://writer.dek-d.com/watanabe-kaori/writer/viewlongc.php?id=530863&chapter=581
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

อ้างถึง
ข้อความโดย: sutida7saengsri
ในละคร นางเอกจะท่องมนต์  "รัง วา ทะ.............พะ พะ โอม"
แล้วทำให้ได้ย้อนกลับไปอดีต ที่นี้พวกเพื่อนๆจะพยายามช่วยกันพานางเอกกลับมาสู่ปัจจุบัน
เลยช่วยกันท่องย้อน "โอม พะ พะ.............ทะ วา รัง"

คือที่ถามนี่ไม่ใช่ว่าอยากจะกลับไปสู่อดีตนะคะ 555

แต่สงสัยน่ะค่ะ พอดีเราเคยท่อง อิติปิโสฯ มาตั้งแต่เด็ก
พอดีมีคนแนะนำว่าให้หัดท่องย้อนทวน ...โสปิติอิ เราก็หัดท่องไป

แต่ถามใครก็ไม่มีใครบอกเลยว่าทำไมถึงต้องท่องย้อน หรือให้ผลให้คุณต่างกันอย่างไรน่ะค่ะ
ไม่ทราบพอมีใครแนะนำได้บ้างไหมคะ?

 ans1 ans1 ans1

ผมไม่ทราบว่า คุณสุธิดา ดูละครเรื่องไหน ผมนำเรื่องย่อละคร "สู่ฝันนิรันดร" มาให้อ่าน
จากละครดังกล่าวจะเห็นว่า นางเอกได้ท่องคาถา "โอม พะ พะ โล กะ ระ ทะ วา รัง" แล้วกลับไปในอดีตได้
แต่เวลากลับสู่ปัจจุบัน นางเอกไม่ได้ท่องคาถานี้ ที่กลับได้เพราะมีกลุ่มคนทำพิธีสวดคาถา ซึ่งไม่ทราบว่าสวดคาถาอะไร.? สวดอย่างไร.?(สวดถอยหลังรึเปล่า)

เมื่อนางเอกมาสู่ยุคปัจจุบันแล้ว พยายามจะสวดคาถา  "โอม พะ พะ โล กะ ระ ทะ วา รัง" อีกครั้ง เพื่อกลับไปอดีตอีกครั้ง แต่ทำไม่ได้ เนื่องจากคาถานี้ต้องใช้คู่กับ "หินศักดิ์สิทธิ์สีดำ" ที่เจ้าสัวเจิมศักดิ์มอบให้ แต่หินนั้นได้แตก ทำให้คาถานี้ใช้ไม่ได้ผล

ผมเองไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ เลยไม่ทราบรายละอียดมากนัก ตอบได้เท่านี้ครับ


@@@@@@

อย่างไรก็ตาม หากเอ่ยถึง "คาถาย้อนอดีต" คาถานี้มีอยู่ ตามภาพครับ




รายละเอียดของคาถานี้ จะนำเสนอในกระทู้ถัดไป
รวมทั้งอิติปิโสฯ ถอยหลัง ด้วยครับ รอกระทู้ถัดไป...
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



บทเดียวเอาอยู่.!! สวดอิติปิโส ถอยหลังกลับ แก้เคล็ดดวงตก ดวงถึงฆาต

ไม่ต้องไปสะเดาะเคราะห์ อานุภาพใหญ่ยิ่ง Horoworld แนะให้ท่องบท อิติปิโส ถอยหลัง จำไม่ยาก แก้เคล็ดคนดวงไม่ดี ดวงตก ดวงถึงฆาต บทเดียวอยู่หมัด บทอิติปิโส ถอยหลัง

เมื่อสมัยพุทธกาล มีเหล่าพระสงฆ์อยู่กลุ่มหนึ่งได้ออกธุดงค์ไปในป่าเขาแห่งหนึ่งซึ่งเป็นป่า ที่ว่ากันว่า ไม่มีนักบุญท่านใดอยู่ได้นาน เพราะมักจะมีเหล่าอสูรกายมาหลอกหลอน ให้ตบะพังจนสติแตกอยู่ร่ำไป พระสงฆ์กลุ่มนี้ได้ปักกรด และจำศีลอยู่ที่นั่น ซึ่งมีกันทั้งหมด 8 องค์

ตกกลางคืน เหล่าอสูรกายก็ออกฤทธิ์ ทั้งหัวเราะทั่วหุบเขา ทั้งแปลงเป็นผี ควักไส้พุง ตาถลน ทั้งหมดกลัวสุดขีดแต่ได้ตั้งสติและสวดมนต์ โดยเฉพาะอิติปิโส แต่พอสวด อสูรกายกลับกลายร่างเป็นยักษ์โล้น(ร่างแท้ๆ) ปัดกลดกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งหมดทุกท่านโกย โกยเถอะโยม

@@@@

และนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ได้ให้บทสวด อิติปิโส แต่ให้สวดถอยกลับ เพื่อไปปลดปล่อยยักษ์ตนนั้นที่หวงที่ เหล่าพระสงฆ์เหล่านั้น ก็กลับไปที่เดิม ตกกลางคืน มาอีกหนักกว่าครั้งที่แล้ว ทั้งพายุ ฝนทั้งฟ้าผ่า และมันกำลังจะกระทืบไปที่เหล่าพระสงฆ์กลุ่มนั้น ทั้งหมดห้อมล้อมและท่อง อิติปิโส ถอยหลัง ยักษ์ตนนั้น ปวดหัวทรมานอย่างแรง จนต้องอ้อนวอนให้พระสงฆ์กลุ่มนั้นหยุดท่องคาถานี้

หัวหน้าคณะได้ให้ยักษ์สาบานด้วยวาจาสัตย์ว่าต้องไม่ทำร้ายใครอีก และต้องจำศีลเพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารที่เป็นอยู่นี้ ยักษ์จึงตกลง และในที่สุดก็มาเป็นบทคาถาบทหนึ่งที่ไม่ใช่แค่คุ้มครองผู้สวด แล้ว ยังป้องกันภัยอันตรายทั้งหลาย ยามจำเป็นต้องพักในที่ที่เราไม่คุ้นเคย


@@@@@@

คาถาบทนี้มี 56 ตัว ให้ภาวนา 3 หรือ 7 คาบ ก่อนออกเดินทางไปสารทิศใดๆ จะแคล้วคลาดปราศจากทุกภัยพิบัติทั้งปวง

หากภาวนาได้ครบ 108 คาบ ติดต่อกัน จะมีตัวเบา เดินตัวปลิว เสกหรือสะเดาะเคราะห์ สะเดาะกุญแจ หรือโซ่ตรวนของจองจำทั้งปวงได้สิ้น

ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯ

สิทธิการิยะพระอิติปิโส ถอยหลัง ผู้ใดเล่าไว้คุ้มได้มากครันศัตรูนึกหวังมิได้กล้ำกราย เป็นเสน่ห์แก่เขา เข้าหาเจ้านายท้าวพระยาทั้งหลายมีจิตเมตตา ปรารถนาสิ่งใดนึกไว้ในใจดังคิด อย่าได้แคลงจิตคิดไปสู่อื่น ฝูงคนทั้งพื้นคงจะบูชาพระคาถานี้ อุปเท่ห์พิธีเหลือจะพรรณนา ปลุกเสกกายาได้สมดังใจ คงกระพันชาตรี ฤทธีมากมาย

@@@@@@

ขอท่านทั้งหลายจงหมั่นภาวนา จะกล่าวอุปเท่ห์พระอิติปิโสถอยหลัง ผู้ใดเรียนได้ไว้เป็นปิ ยังศัตรูนึกหวังบ่มิกล้ำกราย เป็นที่เสน่หาเทพารักษ์ทั้งมนุษย์หญิงชาย

     - สิ่งใดปรารถนาภาวนาอย่าคลายถ้วนร้อยแปด หมายทำเมื่อเที่ยงคืน คนรักนักหนาถือดังญาติกา ทั้งอายุยืน จะทำสิ่งไรตั้งใจอย่าขืนคืออย่าเป็นอื่น
     - บ่ายหน้าหนบูรพ์ไม้รักซ้อน แกะทำพระภควัม อย่าสูญใส่น้ำมันแช่เสกแปรเป็นคุณ
     - บ่ายหน้าหนบูรพ์จนพระลุกนั่ง ใช้เป็นเสน่ห์ล่องหนกำบังออกสงคราม
     - เจรจาท้าวพระยาปิยังฝูงชนทั่วทั้งรักนักรักหนา

    - ถ้าท่านจองจำตั้งจิตบริกรรมด้วยพระคาถามนต์น้ำหมากนั้น ๑๔ คาบ ตราถูกต้องขื่อคาหลุดลุ่ยบัดใจ ถ้าหาน้ำหมากมิได้ อาจารย์กล่าวไว้ใช้ร่ายเป่าไปขื่อคาอันแข็งอ่อนคือลนไฟ
    - เสกสิ่งใดๆกินคงกระพัน ๑๓ คาบหนา
    - ๑๕ คาบว่า ใช้เป็นจังงัง โดยท่านกล่าวมาเอาลิ้นดุนเพดาน ๑๕ คาบ อย่าคลาดเป่าไปอย่าคลากระทืบตีนออกมาอาวุธศาสตราลุ่ยหลุดจากมือ
    - มหาละลวยฤาเป็นได้เหมือนกันให้ร่ายเป่าไป ๑๑ คาบนั้นไซร้ เป่าไปสู่มันมันมาหาเรา
    - เขาผูกมัดขันชะเนาะ บ่ายหน้าจำเพาะสู่หัวเชือกเข้าถ้วนร้อยแปดเป่าสู่หัวเชือกเข้าลุ่ยหลุดแลนา


    @@@@

    - ถ้าจะลุยอัคคีเสกหมากกินดีเสกน้ำมันทา ๕ คาบ ให้ไว้ให้ใช้คาถาเสกน้ำมันทาไม่มีโภยภัย
    - ถ้าจะล้วงตะกั่วเสกน้ำมะกรูด ยกมือขึ้นไหว้เจ้าประคุณทูนหัวไม่มีอันตรายผิวจะแก้คุณเขาทำแล แม้คุณทั้งหลายยืนเหนือลมร่าย ๑๐ คาบ โดยหมายเป่าไปอย่าคลาหายสิ้นสูญพลัน
    - เมื่อทำรำลึกตรึกหาพระพุทธพระธรรมสังฆา ขอคุณบิดาทั้งพระมารดา คุณครูอุปัชฌาย์อยู่เหนือเกสา เสกหมากให้กินท่านรักนักหนา เสกน้ำล้างหน้าไม่มีโภยภัย ทั้งสองสิ่งนี้เสก ๔ คาบ ตราไม่ม้วยมรณา เทวดาดลใจ

    - อนึ่งเล่าหนา ขอดชายผ้าไว้ผูกเป็นหัวพิรอด ๑๗ คาบใส่หัวเป็นประเจียด ภาวนาเดินไปขึ้นลงที่ไหนคนไม่เห็นเรา
    - ปัดพิษงูตะขาบแมลงป่อง ๓ ที คงกระพันชาตรี ๑๙ คาบหนา
    - แม้นเขาตามไปจงหักกิ่งไม้เสกขวางมรรคา เสกสิ่งไรๆตามใจปรารถนา ศัตรูตามมาแคล้วคลาดไปไกล อนึ่งท่านว่าไว้ ให้เอาใบไม้รู้นอน ๗ สิ่ง เถ้าตายโหงตายห่าไปบัดพลีมาวันภุมมาเสารี เสกคาถานี้ ๑๐๘ คาบหนา พาตัวเดินไปเข้าในหลังคา ฝูงชนทั่วหน้าพากันหลับใหล



ขอบคุณข้อมูลจาก khawjing.com
ขอบคุณเว็บไซต์ : https://today.line.me/th/pc/article/บทเดียวเอาอยู่+สวดอิติปิโส+ถอยหลังกลับ+แก้เคล็ดดวงตก+ดวงถึงฆาต-vP9aJE 
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


คาถานี้เรียกว่า "คาถาย้อนอดีต"

วันหนึ่งที่แหล่งตัดหินบุผาดวงมาลย์ (ให้เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ บล็อค พานทอง...นครที่สาปสูญ)  ได้พาปู่บุญมาไปดูก้อนหินที่เป็นภาพสลักซึ่งค้นพบเป็นภาพแรก ครั้งแรกของป่าภูเพ็ก


ภาพสลักลงหินภาพแรกที่พบในแหล่งตัดหินบุผาดวงมาลย์

ที่ภาพสลักนั้น เป็นลายสกัดลงไปในหิน ท่านจึงใช้คาถาย้อนนี้ถอนไปดูอดีตว่า หินที่มีลายสลักนี้ คือ อะไร  ปรากฎว่า ในหินก้อนเดียวนั้น ได้สลักอักขระ คาถาไว้หลายอย่าง ซึ่งตามนุษย์อย่างฤาษีเอก อมตะ ผู้น้อยด้อยวาสนาปัญญาไม่อาจมองเห็นได้

คาถาที่ใช้ย้อนดูอดีตกาลเวลา เพื่อสอบถามดวงวิญญาณผู้ที่สลักคาถานั้น คือ คาถาย้อนอดีต ถ้าในพระพุทธศาสนา เราคงเรียกฌาณสมาบัตินี้ว่า "อตีตังสญาณ"  ตัวคาถาเป็นรหัสลับให้เข้าไปหาจุดนั้นโดยเร็วไวยิ่งขึ้น

หมายเหตุ : ใครเห็นคาถาแค่นี้ก็ท่องได้ แต่จะเกิดฌาณสมาบัติย้อนดูได้หรือไม่ ก็แล้วแต่บารมีของแต่ละผู้คน  ศรัทธาความเชื่อแต่ละคนไม่เท่ากัน ส่วนตัวฤาษีเอก อมตะ เป็นเพียงนำเสนอ เพื่อมิให้องค์ความรู้สูญหายไปตามกาลเวลาเท่านั้น ยังไม่อาจส่องอะไรได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องติดต่อมา

แต่ถ้าหากท่านที่เกิดแก้ปัญหาแปลกๆ ในชีวิตไม่ได้จริงๆ ลองติดต่อไปที่ ปู่บุญมา 084-390-7891



ขอบคุณที่มา : http://woravit11999.blogspot.com/2012/05/blog-post_25.html
Mandala and Mantras (ยันต์และคาถา) ยันต์และคาถา ที่ได้จากการศึกษากับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และการบำเพ็ญภาวนา คูบาอาจาร
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
หลวงพ่อพุธ


"หลวงพ่อพุธ" ยืนยัน สวดพระคาถา "อิติปิโส" อานุภาพยิ่งใหญ่มาก แนะเคล็ดวิธี ทำถูกต้อง อานิสงส์ยิ่งใหญ่เหลือล้น..

เชื่อหรือไม่.? “หลวงพ่อพุธ” เผยเคล็ดลับไว้ การท่องบทอิติปิโสแบบนี้? สามารถนำมาทำน้ำมนต์ พร้อมแก่รักษาโรคได้ อานุภาพมากล้นจริงๆ

การสวดมนต์ นอกจากจะเป็นการเคารพบูชาพระรัตนตรัย และรักษาธรรมเนียมปฏิบัติของพุทธศาสนาแล้ว ยังมีความเชื่อกันว่า คนที่สวดมนต์เป็นประจำสม่ำเสมอ จะมีสติปัญญาดี จิตใจนิ่งสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน และมักจะประสบพบเจอแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต และบ่อยครั้งที่เรามักได้ยินเรื่องราวความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์จากพุทธศาสนิกชนมากมาย ที่ครั้งหนึ่งชีวิตตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ไม่ว่าจะเจ็บป่วยทางกายหรือทางใจอย่างแสนสาหัส

แต่ด้วยจิตสงบนิ่งจากการหันหน้าพึ่งพระธรรม ตั้งใจเพียรภาวนา และสวดมนต์ ก็สามารถผ่านพ้นภาวะวิกฤตนั้นมาได้ ดังเช่นคำ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี กล่าวไว้ว่า “สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน”


@@@@@@

ในการปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างอื่น ใครจะว่าอะไรวิเศษวิโส อะไรก็ เชิญท่านว่าไปเถอะ เราก็เอาสวด “อิติปิโส” ของเรา อันเดียวเท่านั้น สวดไปๆ จิตมันสงบเป็นสมาธิเอง บทสวดมนต์นี่ เราสวดทุกวันๆ ถึงแม้ว่ารู้สึกว่าจิตของเรา ไม่มีสมาธิก็ตาม มันจะค่อยฝังลงในส่วนลึกของจิต มันจะฝังเข้า ไปในจิตใต้สำนึก

ภายหลังมานี่ ถ้าเราสวดต่อเนื่องกัน ถึงตี ๒ ตี ๓ ตี ๕ ตี ๗ นี่ ต่อไปเราไม่ต้องสวดมนต์ ถ้าเวลากะทันหันนี่ สวดแล้วจะทำอะไร เช่น จะทำน้ำมนต์ หรือว่าลูกหลานเจ็บป่วย เราสำรวมจิตปั๊บ นึกถึง พุทโธๆๆๆๆ เป่าพรวดลงไป บางทีก็หาย เราสวดทุกวันๆ อิทธิพลมันเข้าไปฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก บทสวดมนต์นี่ สวดทุกวันๆๆๆ นี่ มันเพิ่มความขลังความ ศักดิ์สิทธิ์

@@@@@@

เราไม่ได้สวดมนต์เพื่อขลัง เพื่อศักดิ์สิทธิ์ แต่ความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นผลพลอยได้ เพราะฉะนั้น อิติปิโส สวดทุกวันๆๆ แม้แต่เพียงวันละจบเท่านั้น มันก็ยังมีผล ทีนี้ สมมติว่าญาติโยมทั้งหลายพากันยึดมั่นในการสวด พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วก็เมตตาพรหมวิหาร ถ้ายังแถม รักษาศีล ๕ ด้วย ยิ่งดี เราสามารถที่จะทำอะไรดีๆ ได้เหมือนพระ บางทีอาจจะดีกว่าพระเสียด้วยซ้ำไป

ทั้งนี้ บทสวดมนต์ ยอดนิยมมากมายล้วนแต่มีอานิสงส์ในทางความเชื่อแตกต่างกัน แต่ว่ากันว่า สวดอิติปิโสเท่าอายุ หรือ สวดอิติปิโสเท่าอายุและเพิ่มไปอีก 1 บท
   - จะช่วยต่อดวงชะตาให้ยืนยาว
   - ป้องกันภูติผีปีศาจ
   - แคล้วคลาดจากโรคภัยต่าง ๆ และอุบัติเหตุ
   - จิตใจเข้มแข็ง
   - ปัญญาดี
   - หลับสบาย
   - มีสมาธิ
   - เทวดารักษา
   - เป็นคนมีเสน่ห์และเป็นที่รัก

เนื่องด้วยการ สวดอิติปิโสเท่าอายุ เปรียบเสมือนปฐมบทแห่งการบูชาคุณ หรือการถวายพระพรพระศาสดาในศาสนาพุทธนั่นเอง




บทสวดมนต์อิติปิโสฯ แต่ละตัวอักษรจะมีความย่อของ 1 บท

เช่น อิ = 1 บท , ติ = 1 บท ดังตัวอย่างด้านล่าง

“อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (สวดเท่าอายุเกินอายุหนึ่งจบ)

@@@@

๑. #อิ. อิฏโฐ สัพพัญญุตัญญานัง อิจฉันโต อาสะวักขะยัง อิฏฐัง ธัมมัง อะนุปปัตโต อิทธิมันตัง นะมามิหัง
(อิ แปล จงหมั่นภาวนา ป้องกันศัสตรา ห่อนต้องอินทรีย์ ทำให้แคล้วคลาด นิราศไพรี สิริย่อมมี แก่ผู้ภาวนา)

๒. #ติ. ติณโณ โย วัฏฏะทุกขัมหา ติณณัง โลกานะมุตตะโม ติสโส ภูมี อะติกกันโต ติณณะโอฆัง นะมามิหัง
(ติ แปล ถึงบทนี้ไซร้ หมั่นภาวนาไว้ กันภัยนานา ภูตผีปีศาจ มิอาจเข้ามา ทั้งปอปทั้งห่า ไม่มาหลอกหลอน)

๓. #ปิ. ปิโย เทวะมะนุสสานัง ปิโยพรหมานะมุตตะโม ปิโย นาคะสุปัณณานัง ปิณินทริยัง นะมามิหัง
(ปิ แปล ภาวนานึก สติตรองตรึก อย่าทำใจร้อน สารพัดเมตตา อย่าได้อาวรณ์ ครูแต่เก่าก่อน เคยได้ใช้มา)

๔. #โส. โสกา วิรัตตะจิตโต โย โสภะนาโม สะเทวะเก โสกัปปัตเต ปะโมเทนโต โสภะวัณณัง นะมามิหัง
(โส แปล ภาวนาทุกวัน ตามกำลังวัน ป้องกันอันตราย ทุกข์ภัยพิบัติ สารพัดเหล่าร้ายศัตรูทั้งหลาย แคล้วคลาดห่างไกล)

๕. #ภะ. ภะชิตา เยนะ สัทธัมมา ภัคคะปาเปนะ ตาทินา ภะยะสัตเต ปะหาเสนโต ภะยะสันตัง นะมามิหัง
(ภะ แปล จงภาวนา กันโรคโรคา ไข้เจ็บทั้งหลาย ศัตรูมุ่งมาด มิอาจทำได้ พินาศยับไปด้วยพระคาถา)

@@@@

๖. #คะ. คะมิโต เยนะ สัทธัมโม คะมาปิโต สะเทวะกัง คัจฉะมาโน สิวัง รัมมัง คะตะธัมมัง นะมามิหัง
(คะ แปล ถ้าหมั่นภาวนา โรคภัยโรคา ไม่มาย่ำยี จะค่อยบรรเทา หากโรคเก่ามี มิช้ากายี สิ้นทุกข์สุขา)

๗. #วา. วานา นิกขะมิ โย ตัณหา วาจัง ภาสะติ อุตตะมัง วานะ นิพพาปะ นัตถายะ วายะมันตัง นะมามิหัง
(วา แปล บทนี้ดีล้ำ ภาวนาซ้ำๆ ป้องกันศัตรู เหล่าโจรอาธรรม์ พากันหนีอู้ ไม่คิดต่อสู้ออกได้หายไป)

๘. #อะ. อะนัสสา สะกะสัตตานัง อัสสาสัง เทติ โย ชิโน อะนันตะคุณะสัมปันโน อันตะคามิง นะมามิหัง
(อะ แปล ให้ภาวนา กันเสือช้างมา ทำร้ายรบกวน เป็นมหาจังงัง สิ้นทั้งชบวนจระเข้ประมวล สัตว์ร้ายนานา)

๙. #ระ. ระโต นิพพานะสัมปัตเต ระโต โย สัตตะโมจะเน รัมมาเปตีธะ สัตเต โย ระณะจัตตัง นะมามิหัง
(ระ แปล ภาวนาไว้ คุณคนคุณไสย สารพัดพาลา ใช้ป้องกันได้ มิให้เข้ามาถูกต้องกายา พินาศสูญไป)

๑๐. #หัง. หัญญะติ ปาปะเก ธัมเม หังสาเปติ ปะรัง ชะนัง หังสะมานัง มะหาวีรัง หันตะปาปัง นะมามิหัง
(หัง แปล ให้ภาวนา ในเมื่อเวลา เข้าสู่สงคราม ข้าศึกศัตรู ใจหู่ครั่นคร้ามไม่คิดพยายาม ทำร้ายเราแล)

@@@@

๑๑. #สัม. สังขะตาสังขะเต ธัมเม สัมมา เทเสสิ ปาณินัง สังสารัง สังวิฆาเฏติ สัมพุทธันตัง นะมามิหัง
(สัม แปล ภาวนาตรึก ช่างดีพิลึก ท่านให้รำพัน เมื่อจะเข้าสู่ เหล่าศัตรูสรรพหมดสิ้นด้วยกัน พ่ายแพ้ฤทธิ์)

๑๒. #มา. มาตาวะ ปาลิโต สัตเต มานะถัทเธ ปะมัททิโต มานิโต เทวะสังเฆหิ มานะฆาฏัง นะมามิหัง
(มา แปล ภาวนาไว้ ถ้าหมั่นเสกไซร้ ทุกวันยิ่งดี แก้คนใจแข็ง มานะแรงมีใจอ่อนทันที ไม่เย่อไม่หยิ่ง)

๑๓. #สัม. สัญจะยัง ปาระมี สัมมา สัญจิตะวา สุขะมัตตะโน สังขารานัง ขะยัง ทิสวา สันตะคามิง นะมามิหัง
(สัม แปล สำหรับบทนี้ ตำรับกล่าวชี้ ว่าดีจริงจริง สำหรับเสกยา ปัญญาดียิ่งสุดจะหาสิ่ง ใดมาเปรียบปาน)

๑๔. #พุท. พุชฌิตวา จะตุสัจจานิ พุชฌาเปติ มะหาชะนัง พุชฌาเปนตัง สิวัง มัคคัง พุทธะเสฏฐัง นะมามิหัง
(พุท แปล ภาวนาไป เสนียดจัญไร มิได้พ้องพาน อุปสรรคไรไร ก็ไม่คะคานแสนจะสำราญ ให้หมั่นภาวนา)

๑๕. #โธ. โธติ ราเค จะ โทเส จะ โธติ โมเห จะ ปาณินัง โธตะเกลสัง มะหาปุญญัง โธตาสะวัง นะมามิหัง
(โธ แปล ภาวนาไว้ กันเสือช้างได้ ทั้งสุนัขหมา ใช้ป้องกันภัย สัตว์ร้ายนานาไม่อาจเข้ามาย่ำยีบาทา)


@@@@@@

อย่างไรก็ดี การสวดมนต์ ไม่ว่าจะบทใดคาถาใดก็ตาม สิ่งที่ผู้ปฏิบัติได้ประโยชน์แน่นอนคือ สมาธิจากจิตที่สงบนิ่ง ดังนั้น อย่ามุ่งหวังผลพวงจากการสวดมนต์ เพราะสวดมนต์ต้องสวดด้วยปัญญา อย่าสวดเพียงเพื่อศรัทธา มนต์นั้นถึงจะแสดงผล



ที่มา : http://www.welovemyking.com
ขอบคุณ : https://www.tnews.co.th/contents/312954
Publish 2017-04-22 10:08:32
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2019, 10:09:05 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า