๕๔. กัจจายนวรรค หมวดว่าด้วย พระกัจจายนะ เป็นต้น
๑. มหากัจจายนเถราปทาน ประวัติในอดีตชาติของพระมหากัจจายนเถระ
(พระมหากัจจายนเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า)
[๑] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้หมดตัณหา ทรงชนะสิ่งที่ใครๆ เอาชนะไม่ได้ทรงเป็นผู้นำ เสด็จอุบัติขึ้นแล้วในกัปที่ ๑๐๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ไป
[๒] พระองค์เป็นผู้แกล้วกล้า
มีพระเนตรเหมือนกลีบบัว
มีพระพักตร์ปราศจากมลทินดุจดวงจันทร์
มีพระฉวีวรรณดุจทองคำ
มีพระรัศมีเสมอด้วยแสงอาทิตย์
[๓] ดึงดูดดวงตาและดวงใจของสัตว์ไว้ได้
ประดับด้วยพระลักษณะอันประเสริฐ
ไม่ยึดถือถ้อยคำทุกชนิด
ผู้อันหมู่มนุษย์และเทวดาสักการะ
[๔] ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ทรงช่วยเหล่าสัตว์ให้ตรัสรู้
ทรงนำไปได้อย่างรวดเร็ว ทรงมีพระสุรเสียงไพเราะ
มีพระอุปนิสัยเนื่องด้วยพระกรุณา
ทรงแกล้วกล้าในท่ามกลางบริษัท
[๕] ทรงแสดงธรรมอย่างไพเราะ ซึ่งประกอบด้วยสัจจะ ๔ ทรงช่วยเหลือหมู่สัตว์ ที่จมอยู่ในเปือกตมคือ โมหะได้
@@@@@@@
[๖] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเป็นดาบส เที่ยวไปแต่ผู้เดียว อาศัยอยู่ที่ภูเขาหิมพานต์ กำลังไปยังมนุษยโลกทางอากาศก็ได้เห็นพระชินเจ้า
[๗] ข้าพเจ้าได้เข้าเฝ้าพระองค์แล้ว ฟังพระธรรมเทศนาของพระธีรเจ้า ผู้ทรงพรรณนาคุณอันยิ่งใหญ่ของสาวกอยู่ว่า
[๘-๙] ‘เราไม่เห็นสาวกอื่นบางรูปในธรรมวินัยนี้ เหมือนพระกัจจายนะนี้ ผู้ประกาศธรรมที่เราแสดงไว้โดยย่อให้พิสดารได้ ทำชุมชนและเราให้ยินดี เพราะฉะนั้น พระกัจจายนะนี้เป็นผู้เลิศในตำแหน่งที่เลิศนั้น ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงจำไว้อย่างนี้เถิด’
[๑๐] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้ฟังพระดำรัสที่รื่นรมย์ใจแล้ว เกิดความอัศจรรย์ใจ จึงไปยังป่าหิมพานต์นำกลุ่มดอกไม้มา
[๑๑] บูชาพระผู้เป็นสรณะของสัตว์โลกแล้วปรารถนาตำแหน่งนั้น ครั้งนั้น พระผู้เป็นที่อยู่แห่งสรณะทรงทราบอัธยาศัยของข้าพเจ้าแล้ว ได้ทรงพยากรณ์ว่า
[๑๒] ‘เธอทั้งหลายจงดูฤๅษีผู้ประเสริฐนี้ ซึ่งเป็นผู้มีผิวพรรณเหมือนทองคำที่ไล่มลทินออกแล้ว มีโลมชาติชูชันและมีใจเบิกบาน ยืนประนมมือนิ่งอยู่
[๑๓] ร่าเริง มีนัยน์ตาเต็มดี มีอัธยาศัยน้อมไปในคุณของพระพุทธเจ้า มีใจเบิกบาน ซึ่งเกิดแต่ธรรม มีรัศมีเรืองรองเหมือนถูกรดด้วยน้ำอมฤต
@@@@@@@
[๑๔] ข้าแต่พระมหามุนี ข้าพระองค์ได้ฟังคุณของพระกัจจายนะแล้ว จึงได้ยืนปรารถนาตำแหน่งนั้น ในอนาคตกาลของพระโคดมพุทธเจ้า
[๑๕] ฤๅษีผู้นี้มีนามว่ากัจจายนะ ตามโคตรเป็นธรรมทายาท เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต จักเป็นสาวกของพระศาสดา
[๑๖] เขาจักเป็นพหูสูต มีญาณยิ่งใหญ่ รู้อธิบายชัดแจ้ง เป็นมุนีจักถึงตำแหน่งนั้น ดังที่เราพยากรณ์ไว้’
[๑๗] ในกัปที่ ๑๐๐,๐๐๐ นับจากกัปนี้ไป ข้าพเจ้าได้ทำกรรมไว้ในครั้งนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๑๘] ข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน ๒ ภพ คือ (๑) ภพเทวดา (๒) ภพมนุษย์ คติอื่นข้าพเจ้าไม่รู้จักเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๑๙] ข้าพเจ้ารู้เฉพาะ ๒ ตระกูล คือ (๑) ตระกูลกษัตริย์ (๒) ตระกูลพราหมณ์ จะไม่เกิดในตระกูลที่ต่ำ นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธเจ้า
[๒๐] ในภพสุดท้าย ข้าพเจ้าเกิดเป็นพราหมณ์ปุโรหิต ของพระเจ้าจัณฑปัชโชต ในกรุงอุชเชนีที่รื่นรมย์
[๒๑] เป็นบุตรของพราหมณ์ชื่อว่า ติปีติวัจฉะ เป็นผู้ฉลาด เรียนจบพระเวท ส่วนมารดาของข้าพเจ้าชื่อว่า จันทนปทุมา ข้าพเจ้าชื่อว่า กัจจายนะ เป็นผู้มีผิวพรรณสวยงาม
[๒๒] ข้าพเจ้าถูกพระเจ้าแผ่นดิน ทรงส่งไปเพื่อพิจารณา(สืบข่าว) พระพุทธเจ้าได้เห็นพระผู้นำซึ่งเป็นประตูของโมกขบุรี (๑-) เป็นที่สั่งสมพระคุณ
____________________________เชิงอรรถ : (๑-) โมกขบุรี หมายถึง บุรี คือ พระนิพพาน
@@@@@@@
[๒๓] และได้ฟังพุทธภาษิตที่ปราศจากมลทิน เป็นเครื่องชำระล้างเปือกตมคือคติ ได้บรรลุอมตธรรมที่สงบระงับ
พร้อมกับบุรุษที่เหลืออีก ๗ คน
[๒๔] ข้าพเจ้าเป็นผู้รู้อธิบายในอมตบทที่ยิ่งใหญ่ของพระสุคต และมีมโนรถอันสำเร็จด้วยดี ได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งเอตทัคคะ
[๒๕] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ
[๒๖] การที่ข้าพเจ้ามาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว
[๒๗] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าก็ได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล
ได้ทราบว่า ท่านพระมหากัจจายนเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
มหากัจจายนเถราปทานที่ ๑ จบ
ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๓ ,หน้า : ๒๓๗ - ๒๔๐
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ ,พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] , ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
ขอบคุณ :
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=33&siri=121ขอบคุณภาพจาก :
http://www.internetuniversity999.com
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ , ๕๔. กัจจายวรรค
๑. มหากัจจายนเถราปทาน๕๓๑. อรรถกถากัจจายนเถราปทาน
พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๑ แห่งวรรคที่ ๕๔ ดังต่อไปนี้ :-
อปทานของท่านพระมหากัจจายนเถระมีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ.
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิดในตระกูลคฤหบดีมหาศาล พอเจริญวัยแล้ว วันหนึ่งได้ฟังธรรมในสำนักของพระศาสดา ได้เห็นภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งพระศาสดาทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งที่ (สามารถ) จำแนกเนื้อความที่พระศาสดาตรัสไว้โดยย่อให้พิสดารได้ แม้ตนเองก็ปรารถนาตำแหน่งนั้นบ้าง จึงตั้งปณิธานทำบุญมีทานเป็นต้นไว้เป็นอันมาก แล้วท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก.
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ได้เป็นวิทยาธร เที่ยวไปทางอากาศ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ซึ่งประทับนั่งในชัฏแห่งป่าแห่งหนึ่ง มีใจเลื่อมใสได้เอาดอกกรรณิการ์มาทำการบูชา.
ด้วยบุญอันนั้น เขาจึงกลับไปมาเฉพาะแต่ในสุคติอย่างเดียว.
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ เขาได้บังเกิดในเรือนอันมีสกุล ในกรุงพาราณสี เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว ได้เอาแผ่นอิฐทองคำมีค่าราคาแสนหนึ่ง ทำการบูชา ณ ที่สุวรรณเจดีย์สำหรับบำเพ็ญกัมมัฏฐาน ได้ตั้งความปรารถนาไว้ว่า
"ด้วยผลแห่งบุญอันนี้ ขอให้สรีระของข้าพระองค์จงมีวรรณะดุจทองคำ ในที่ที่ได้บังเกิดแล้วๆ เถิด"
ตั้งแต่นั้นมาก็ได้ทำแต่กุศลกรรมจนตลอดชีวิตแล้ว ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลกตลอดพุทธันดรหนึ่ง.
@@@@@@@
ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดในเรือนปุโรหิตของพระเจ้าจัณฑปัชโชต ในกรุงอุชเชนี ในวันตั้งชื่อเขา มารดาคิดว่า ลูกของเรามีสีกายดุจทองคำ เขาถือเอาชื่อของตนเองมา (แต่เกิด) ดังนี้จึงตั้งชื่อเขาว่ากัญจนมาณพทีเดียว.
เขาเจริญวัยแล้ว เล่าเรียนจบไตรเพท พอบิดาล่วงลับดับชีวิตแล้ว ก็ได้รับตำแหน่งปุโรหิตแทน ว่าโดยอำนาจโคตรเขาปรากฏแล้วว่า กัจจายนะ.
ต่อมาพระเจ้าจัณฑปัชโชตได้ทรงสดับว่า พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น จึงส่งเขาไปหาด้วยพระราชดำรัสว่า ท่านอาจารย์ ท่านจงไปที่พระอารามนั้นแล้ว ทูลนิมนต์พระศาสดามาในวังนี้ ท่านปุโรหิตนั้นมีตนเป็นที่ ๘ เข้าไปเฝ้าพระศาสดา.
พระศาสดาได้ทรงแสดงธรรมแก่ปุโรหิตนั้นแล้ว. ในเวลาจบพระธรรมเทศนา ท่านปุดรหิตพร้อมกับคนทั้ง ๗ ได้ดำรงอยู่ในพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ๔.
ท่านได้บรรลุอรหัตผลแล้วอย่างนี้ ระลึกถึงบุรพกรรมของตนได้เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน ดังนี้.
คำนั้นมีเนื้อความดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังนั่นแล.
@@@@@@@
ลำดับนั้น พระศาสดาทรงเหยียดพระหัตถ์ตรัสว่า พวกเธอจงเป็นภิกษุมาเถิด.
ในขณะนั้น พวกภิกษุเข้านั้นได้มีผมและหนวดยาวประมาณ ๒ องคุลี ทรงบาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ ได้เป็นคล้ายพระเถระบวชมา ๖๐ พรรษา พระเถระทำประโยชน์ของตนให้สำเร็จแล้วอย่างนี้ (วันหนึ่ง) จึงกราบทูลพระศาสดาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้าจัณฑปัชโชตปรารถนาจะไหว้พระบาท และฟังธรรมของพระองค์ พระเจ้าข้า.
พระศาสดาตรัสว่า กัจจานะ เธอนั่นแหละจงไปในวังนั้น เมื่อเธอไปถึงแล้ว พระราชาจักทรงเลื่อมใส.
พระเถระมีตนเป็นที่ ๘ ได้ไปในพระราชวังนั้น ตามพระบัญชาของพระศาสดา ได้ทำให้พระราชาทรงเลื่อมใสแล้ว ได้ประดิษฐานพระศาสนาไว้ในอวันตีชนบทเรียบร้อยแล้ว จึงได้กลับมาเฝ้าพระศาสดาอีก.
ด้วยอำนาจความปรารถนาในครั้งก่อนของตน ปกรณ์ทั้ง ๓ คือ กัจจายนปกรณ์ มหานิรุตติปกรณ์ และเนตติปกรณ์ จึงได้ปรากฏแล้วในท่ามกลางสงฆ์.
ต่อมา ท่านได้รับสถาปนาจากพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงสันโดษไว้ในตำแหน่งที่เลิศ ด้วยพระดำรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหากัจจานะเป็นเลิศกว่าสาวกทั้งหลายของเรา ผู้จำแนกเนื้อความที่เรากล่าวไว้โดยย่อ ทำให้พิสดารได้ ดังนี้แล้ว ท่านก็อยู่ด้วยความสุขอันเกิดแต่พระอรหัตผลแล.
จบอรรถกถามหากัจจายนเถราปทาน ขอบคุณที่มา :
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.1&i=121ขอบคุณภาพจาก :
https://i.ytimg.com/