ภาวนา ในคำว่า สุภาวิตา มี ๔ คือ ภาวนา
ด้วยอรรถว่า ธรรมทั้งหลายที่เกิดในอานาปานสตินั้นไม่ล่วงเกินกัน ๑
ด้วยอรรถว่าอินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอันเดียวกัน ๑
ด้วยอรรถว่านำไปซึ่งความเพียรอันสมควรแก่ความที่ธรรมทั้งหลายไม่ล่วงเกินกัน และความที่อินทรีย์ทั้งหลายไม่ล่วงเกินกัน และความที่อินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอันเดียวกัน ๑
ด้วยอรรถว่าเป็นที่เสพ ๑ ( พึงจำภาวนา ๔ นี้ไว้ เพราะใช้ถึงที่สุด )
อรรถแห่งภาวนา ๔ ประการนี้ เป็นอรรถอันภิกษุนั้นทำให้เป็นดังยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง น้อมไป อบรมแล้ว ปรารภเสมอดีแล้ว ฯ
ธรรมทั้งหลายที่เกิดในอานาปานสติ นั้นไม่ล่วงเกินกัน เพราะเกิดที่จังหวะต่างกัน 4 สภาวะ คือ
1.สภาวะที่หายใจออก
2.สภาวะที่หายใจเข้า
3.สภาวะที่สติมีขณะหายใจออก
4.สภาวะที่สติมีขณะหายใจเข้า
ทั้ง 4 สภาวะเป็นสภาวะใน การภาวนาจริง ๆ ไม่ล่วงเกินกันเพราะเป็นสภาวะธรรมที่แตกต่างกัน
อันนี้กล่าวว่าเป็น ธรรมทั้งหลายที่เกิดในอานาปานสตินั้นไม่ล่วงเกินกัน
อินทรีย์ คือ ความเป็นใหญ่ทั้งหลายในสภาวะัธรรมทั้ง 4 นี้เป็นใหญ่แตกต่างกัน แต่มีกิจ 2 อย่างที่เหมือนกัน ในสภาวะทั้ง 4
1.สภาวะทั้ง 4 นั้นเป็น ธรรมเพื่อการมีชีิวิต เพื่อการประกอบขันธ์ทั้ง 5 ให้เป็นอยู่ ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา
2.สภาวะทั้ง 4 นั้นเป็น ธรรมเพื่อการนำมาซึ่ง อรหัตตผล เป็นที่สุด
อันนี้กล่าวว่า อินทรีย์ทั้งหลายมีกิจเป็นอันเดียวกัน
สภาวะธรรมทั้ง 4 และ อินทรีย์ทั้ง 2 นั้นเป็นสภาวะ เหตุ ปัจจัย ในการภาวนาธรรม
อันนี้จึงกล่าวว่า นำไปซึ่งความเพียรอันสมควรแก่ความที่ธรรม
สภาะธรรมทั้ง 4 และอินทรีย์ทั้ง 2 ความเพียรอันประกอบด้วยสภาวะธรรม เป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตเพราะชีวิต
มีได้ก็อาศัย สภาวะธรรมทั้ง 4 และ อินทรีย์ทั้ง 2
อันนี้จึงกล่าวว่า เป็นที่เสพ ๑
ข้อความจาก อานาปานสติปฏิสัมภิทามรรค หน้าที่ 30