ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธภาษิตประจำวันนี้ "ปราภวสูตร"  (อ่าน 3043 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
พุทธภาษิตประจำวันนี้ "ปราภวสูตร"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2011, 08:57:31 am »
0
[๓๐๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
             สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามสิ้น
ไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีอันงดงามยิ่ง ทำพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ยืนอยู่ ณ
ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
             [๓๐๔]    ข้าพระองค์มา เพื่อจะทูลถามถึงคนผู้เสื่อม และคนผู้เจริญ
                          กะท่านพระโคดม จึงขอทูลถามว่าอะไรเป็นทางของคน
                          เสื่อม ฯ
             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
                          ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่วเป็นผู้เสื่อม ผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ
                          ผู้เกลียดธรรมเป็นผู้เสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัด
                          ข้อนี้เถิดว่าความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๒
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนมีอสัตบุรุษเป็นที่รัก ไม่กระทำสัตบุรุษให้เป็นที่รัก ชอบใจ
                          ธรรมของอสัตบุรุษ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุ
                          นั้นแล เราจงทราบข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๒ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๓
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดชอบนอน ชอบคุย ไม่หมั่น เกียจคร้าน โกรธง่าย
                          ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบ
                          ชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๓ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๔
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดสามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือบิดาผู้แก่เฒ่า ผ่านวัย
                          หนุ่มสาวไปแล้ว ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุ
                          นั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๔ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๕
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดลวงสมณะพราหมณ์ หรือแม้วณิพกอื่นด้วยมุสาวาท
                          ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบ
                          ชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๕ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๖
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนมีทรัพย์มาก มีเงินทองของกิน กินของอร่อยแต่ผู้เดียว
                          ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบ
                          ชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๖ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๗
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดหยิ่งเพราะชาติ หยิ่งเพราะทรัพย์ และหยิ่งเพราะโคตร
                          ย่อมดูหมิ่นญาติของตน ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะ
                          เหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๗ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๘
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดเป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา และเป็นนักเลง
                          การพนันผลาญทรัพย์ที่ตนหามาได้ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
                          เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อม
                          นั้นเป็นที่ ๘ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๙
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ประทุษร้ายในภริยาของคนอื่น
                          เหมือนประทุษร้ายในหญิงแพศยา ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
                          เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อม
                          นั้นเป็นที่ ๙ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๐
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          ชายแก่ได้หญิงรุ่นสาวมาเป็นภริยา ย่อมนอนไม่หลับ เพราะ
                          ความหึงหวงหญิงรุ่นสาวนั้น ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
                          เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้น
                          เป็นที่ ๑๐ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๑
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดตั้งหญิงนักเลงสุรุ่ยสุร่าย หรือแม้ชาย เช่นนั้นไว้ในความ
                          เป็นใหญ่ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้น
                          เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๑ ฯ
                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๒
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          ก็บุคคลผู้เกิดในสกุลกษัตริย์ มีโภคทรัพย์น้อย มีความมักใหญ่
                          ปรารถนาราชสมบัติ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม บัณฑิตผู้ถึง
                          พร้อมด้วยความเห็นอันประเสริฐ พิจารณาเห็นคนเหล่านี้
                          เป็นผู้เสื่อมในโลก ท่านย่อมคบโลกที่เกษม (คนผู้เจริญ) ฯ
                          จบปราภวสูตรที่ ๖


             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๗๒๑๘ - ๗๒๙๑. หน้าที่ ๓๑๖ - ๓๑๙.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=7218&Z=7291&pagebreak=0 Aeva Debug: 0.0007 seconds.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2011, 10:05:53 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: พุทธภาษิตประจำวันนี้ ปราภวสูตร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2011, 09:02:13 am »
0
พระสูตร เป็นพระสูตรต่อเนื่อง จาก มงคลสูตร ซึ่ง บรรดาเทวดาทั้งหลายล้วนมีความสงสัยว่าพระพุทธเจ้า ตรัสแสดงมงคลสูตรแล้ว แต่ไม่แสดงสิ่งที่ตรงกันข้าม
( เทวดาขี้สงสัย แต่ต้องการทำพระสูตรเทศนาธรรมให้สมบูรณ์ )

จึงได้พากันมากราบบังคมทูล พระพุทธเจ้า ให้แสดง ปราภวสูตร ด้วย
 ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

รักหนอ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +22/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 369
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พุทธภาษิตประจำวันนี้ "ปราภวสูตร"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 07:00:38 am »
0
เรื่องนี้ก็น่าสนใจมาก หนทางแห่งความเสื่อมอันชนทั้งหลายไม่ใส่ใจ คะ
เป็นเรื่องที่เหมาะกับยุคนี้ จริง ๆ ยิ่งเห็นต่างประเทศด้วย ตอนนี้เหมือนจะกระพือสงครามกันมากขึ้น

คิดดูสิคะว่า หากประเทศนั้น ไม่ทำการกสิกรรม สร้างอาหารขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นการแย่งชิง ไงละคะ
เพื่อเอาชีวิตรอด ติดตามเรื่อง อียิปต์ ตามด้วย ลิเบีย อีก

บ้านเมืองเราอย่าให้เป็นอย่างเขาเลยนะคะ

สาธุ

 :41:
บันทึกการเข้า