ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร  (อ่าน 11661 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย ladyEdnaMode และ คลิปรายการเจาะข่าวเด่น ช่อง 3

          ประเด็น ร้อนในวงการศาสนาขณะนี้คงไม่พ้นเรื่องที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก กรณีที่มีคลิปแม่ชีทศพร แม่ชีชื่อดังแห่งวัดพิชยญาติการามวรวิหาร ได้แนะนำญาติโยมผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาปรึกษาในวัดให้ไปนอนกับเด็กหนุ่ม 2 ครั้ง เพื่อแก้กรรมในอดีตให้หมดไป ซ้ำยังให้เด็กหนุ่มคนดังกล่าวเข้ามาจับแก้ม แสดงพฤติกรรมชู้สาวต่อหน้าธารกำนัลที่มาฟังธรรมจากแม่ชีเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนที่นั่งฟังธรรมอยู่กลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน

          นอกจากนี้ แม่ชีทศพร ยังได้แนะนำลูกศิษย์คนอื่น ๆ ที่มาฟังธรรมในวัดให้แก้กรรมในวิธีต่าง ๆ ซึ่งวิธีส่วนใหญ่ที่แม่ชีทศพรแนะนำกลับดูส่อไปถึงเรื่องทางเพศซึ่งดูไม่ สมควรอย่างมาก จนทำให้พุทธศาสนิกชนหลายคนที่เห็นคลิปดังกล่าวถึงกับทนไม่ไหวร้องเรียนไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

          ล่าสุด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)  กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ จึงได้เดินทางมาพบแม่ชีทศพร เพื่อสอบถาม เพราะเห็นว่าสิ่งที่แม่ชีทศพรพูดกลางที่สาธารณะเช่นนี้เป็นเรื่องที่ผิดหลัก ศาสนา การบอกให้ผู้หญิงไปนอนกับผู้ชาย ดูไม่ใช่การแก้กรรม แต่ยิ่งเป็นการเพิ่มกรรมมากกว่า จึงต้องการให้แม่ชีทศพรชี้แจงเรื่องดังกล่าว

          ทั้งนี้ แม่ชีทศพร ได้ชี้แจงว่า แต่ละวันมีคนมาปฏิบัติธรรมร่วมพันคน ซึ่งแม่ชีก็ได้สอนเรื่องกฎแห่งกรรม สอนให้ญาติโยมรักษาศีล ให้ทานมาถึง 14 ปีเต็ม และการที่พูดเช่นนี้ก็ไม่ได้มีเจตนาอื่น แต่เป็นการสอนระดับชาวบ้านจึงต้องพูดภาษาเช่นนี้ ทั้งนี้การแก้กรรมอาจทำไมได้ แต่เมื่อมาเปิดกรรมจะช่วยให้สบายใจขึ้นระดับหนึ่ง และยอมรับว่า ได้พูดเรื่องที่ให้ญาติโยมไปนอนกับผู้ชายแก้กรรมจริง เพราะผู้หญิงคนนี้วจีกรรมที่ไปว่าผู้ใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปนอนกับผู้ชายจริง เพียงแต่บอกให้ลูกศิษย์ผู้ชายมาอยู่ใกล้ ๆ ญาติโยมที่มีกรรม และให้จับมือ กอด เท่านั้นเอง และในความจริงเขาก็ไม่ได้ไปนอนด้วยกัน แต่ถ้าหากสังคมกังวลเรื่องคำสอนของแม่ชี ก็รับปากว่าจะนำไปปรับปรุง

          แม่ชีทศพร กล่าวต่อว่า สำหรับคลิปคำสอนต่าง ๆ ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูปกว่า 300 ตอน แม่ชีตัดต่อเอง เพื่อบอกเล่าชีวิตและความทุกข์ของชาวบ้านที่มายังวัดพิชยญาติการาม จึงอยากให้มองหลาย ๆ มุม เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนามาโดยตลอด และทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาให้ใครเสียหาย ซึ่งถ้าหากแม่ชีพูดสิ่งใดผิดพลาดไป กระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนา ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียก็ยินดีออกจากศาสนา แต่ขอยืนยันว่า แม่ชีรักพระรัตนตรัยยิ่งชีวิต

          ด้านนายนิพิฏฐ์ กล่าวภายหลังฟังคำชี้แจงของแม่ชีทศพรว่า ตนได้ขอให้แม่ชีทศพรปรับวิธีสอน และการใช้คำ เพราะดูหมิ่นเหม่ สื่อไปทางลามกอนาจาร และขัดต่อหลักศาสนา ซึ่งหากยังเกิดขึ้นอีกก็ต้องหาดำเนินการลงโทษตามหลักต่อไป

          ขณะที่พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร  กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นหากมองจากข้อเท็จจริงแล้วถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งจะได้ตักเตือนแม่ชีทศพรให้ระมัดระวังคำพูดต่อไป แต่เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการขาดความยั้งคิดในการพูดจากับคน ทั่วไป


          ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ตนได้กราบนมัสการพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร และได้หารือเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเจ้าอาวาสได้ไปว่ากล่าวตักเตือนแม่ชีทศพรแล้ว ซึ่งแม่ชีก็ยอมรับผิด และขอโทษ ทั้งนี้ยอมรับว่า พฤติกรรมของแม่ชีไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนา แต่ยอมรับว่า มีคนไทยจำนวนมากยังมีความเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่ ซึ่งการกระทำของแม่ชี เชื่อว่า เป็นกลอุบายที่ทำให้คนที่มีความทุกข์ ได้สบายใจและหันไปทำความดี

          ส่วนการที่แม่ชีแนะนำหญิงสาวคนหนึ่งนำหอยไปติดที่ประตู เชื่อว่าเป็นการแก้เคล็ด แต่ยอมรับว่า วิธีการสอนของแม่ชีหมิ่นเหม่ในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่ชีทศพรขอโทษแล้วก็ให้อภัยได้ เพราะที่ผ่านมา แม่ชีทศพรก็ได้สนับสนุนงานในด้านของพระพุทธศาสนาไว้มากมาย


          สำหรับแม่ชีทศพร มีชื่อเดิมก่อนบวชว่า มาลินี ชัยปกรณ์ ปัจจุบันอายุ 53 ปี ได้บวชชีพราหมณ์อยู่ที่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร และมีญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาแวะเวียนมาฟังธรรมจากแม่ชีทศพรที่วัดอยู่เป็น ประจำ โดยเชื่อว่า แม่ชีสามารถสแกนกรรมและแก้กรรมเก่าของตัวเองให้ได้ ซึ่งเพราะเรื่องการแก้กรรมนี่เอง ทำให้แม่ชีทศพรมีผลงานหนังสือเกี่ยวกับเรื่องสแกนกรรมหลายเล่ม



ที่มา  http://www.pilok4u.com/read.php?tid=3793
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

สายฟ้า

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 06:42:28 pm »
0
คำสอนมีหลายระดับ ผู้ฟังก็มีหลายประเภท บางคนชอบดูดวง สะเดาะเคราะห์ แก้กรรม ฟังธรรม ภาวนา เป็นต้น
แตกต่างกันที่จริต จะให้ถูกใจทุกกลุ่ม ก็เป็นไปไม่ได้ แม่ชีก็ทำงานแบบของท่าน

  ดังนั้น เรื่องผิดถูก ต้องไปถามเจ้าตัวที่แก้วันนั้น ยอมทำตามแล้ว แก้ได้หรือไม่ ?

  ส่วนวิธีการ ที่แก้กันนั้น จะถูกต้องตามธรรมวิันัย ในพระพุทธศาสนา นั้นหรือไม่ ? เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 แต่ที่แน่ ๆ แม่ชีอวดอุตริมนุสธรรม ไม่มีความผิด ถ้าเป็นพระไปสแกนกรรม แบบแม่ชีป่านนี้ โดนสึกไปแล้ว

  อยู่ที่เหตุปัจจัย ของสถานการณ์
 :34:
บันทึกการเข้า

วรรณา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 158
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 06:44:53 pm »
0
เราว่าเรื่องนี้ น่าจะเกี่ยวกับการเมืองในขณะนี้ ด้วยนะ

เขมรกำลังถล่มไทย อยู่ น่าจะดูเรื่อง ชายแดนให้มากกว่านี้ หน่อยนะคะ

 :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 06:57:20 pm »
0
วิเคราะห์ดูแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
ที่พึ่งทางใจ แต่ละคนแตกต่างกันตามระดับสติปัญญา

 สำหรับ พวกภาวนากรรมฐาน เจริญวิปัสสนา ก็คงไม่เลือกไปแก้กรรมอย่างนั้นแน่ครับ
 :bedtime2:
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 07:06:06 pm »
0
เป็นประเด็นร้อนในพันทิพ คะ ตามอ่านได้คะ หลากหลายความคิด คะ

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10494375/Y10494375.html

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10494771/Y10494771.html

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10497248/Y10497248.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2011, 07:10:11 pm โดย ครูนภา »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 07:10:55 pm »
0
พระปิลินทวัจฉเถระ
ภิกษุผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดา


(อรรถกถาสูตรที่ ๗)

เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฏก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๔๒๘


ได้ยินมาว่า ครั้งพระปทุมุตตรพุทธเจ้า พระเถระนี้ เกิดในครอบครัวของผู้ที่มีโภคสมบัติมากในกรุงหงสวดี ฟัง

ธรรมเทศนาของพระศาสดา โดยนัยมีในก่อนนั่นแล เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุรูปหนึ่ง ไว้ในตำแหน่งเป็นที่

รักเป็นที่ชอบใจของเทวดาทั้งหลายปรารถนาตำแหน่งนั้น กระทำกุศลจนตลอดชีพ เวียนว่ายอยู่ในเทวดาและ

มนุษย์ ในพุทธุปบาทกาลนี้มาบังเกิดในครอบครัวพราหมณ์ในกรุงสาวัตถี ญาติทั้งหลายขนานนามท่านว่า

ปิลินทวัจฉะ สมัยอื่นต่อมา ท่านฟังธรรมเทศนาของพระศาสดาได้ศรัทธา บรรพชาอุปสมบทแล้วเจริญวิปัสสนา

บรรลุพระอรหัตแล้ว ท่านเมื่อพูดกับคฤหัสถ์ก็ดี ภิกษุก็ดี ใช้โวหารว่าถ่อย ทุกคำว่า "มาซิเจ้าถ่อย, ไปซิเจ้า

ถ่อย, นำไปซิเจ้าถ่อย, ถือเอาซิเจ้าถ่อย"
ภิกษุทั้งหลายฟังเรื่องนั้นแล้วก็นำไปทูลถามพระตถาคตว่า ข้าแต่พระผู้

มีพระภาคเจ้าธรรมดาพระอริยะ ย่อมไม่กล่าวคำหยาบ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาว่า พระอริยะทั้งหลายไม่กล่าวผรุสวาจา ข่มผู้อื่น ก็แต่ว่า ผรุสวาจานั้นพึงมีได้โดย

ที่เคยตัวในภพอื่น”


ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า พระเจ้าข้า พระปิลินทวัจฉเถระพยายามแล้วพยายามเล่าเมื่อกล่าวกับคฤหัสถ์ก็ดี กับ

ภิกษุทั้งหลายก็ดี ก็พูดว่า "เจ้าถ่อย   เจ้าถ่อย" ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าในเรื่องนี้มีเหตุเป็นอย่างไร พระผู้มีพระ

ภาคเจ้าตรัสว่า   

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกล่าวเช่นนั้น แห่งบุตรของเราประพฤติจน เคยชินในปัจจุบันเท่านั้นก็หามิได้ แต่ใน

อดีตกาล บุตรของเรานี้ บังเกิดในครอบครัวแห่งพราหมณ์ผู้มักกล่าวว่า “ถ่อย” ถึง ๕๐๐  ชาติ ดังนั้นบุตรของเรา

นี้จึงกล่าวเพราะความเคยชินมิได้กล่าวด้วยเจตนาหยาบ จริงอยู่โวหารแห่งพระอริยะทั้งหลายแม้จะหยาบอยู่บ้าง ก็

ชื่อว่าบริสุทธิ์แท้เพราะเจตนาไม่หยาบไม่เป็นบาปแม้มีประมาณเล็กน้อยในเพราะการกล่าวนี้.”
ดังนี้แล้ว จึงตรัส

คาถานี้ในพระธรรมบทว่า


อกกฺกสํ  วิญฺ?าปนึ  คิรํ  สจฺจํ  อุทีรเย

ยาย   นาภิสเช   กิญฺจิ  ตมหํ  พฺรูมิ  พฺราหฺมณํ

              พึงกล่าวแต่ถ้อยคำที่ไม่หยาบ    ที่เข้าใจกันได้   ที่

              ควรกล่าว ที่เป็นคำจริง  ซึ่งไม่กระทบใคร  ๆ  เรา

              เรียกผู้นั้นว่า พราหมณ์.




ในปัญหากรรมของท่าน มีเรื่องที่จะกล่าวตามลำดับดังต่อไปนี้.


พึงทราบวินิจฉัยในสูตรที่ ๗   ดังต่อไปนี้.


         ด้วยบทว่า  เทวานํ   ปิยมนาปานํ  ทรงแสดงว่า   พระปิลันทวัจฉเถระเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้เป็นที่รัก

และเป็นที่ชอบใจของเทวดาทั้งหลาย
ได้ยินว่า เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่ทรงอุบัติ พระเถระนั้นเป็นพระเจ้า

จักรพรรดิ์ ทรงให้มหาชนตั้งอยู่ในศีลห้า ได้ทรงกระทำกุศลที่มุ่งผลข้างหน้าคือ สวรรค์ โดยมากเหล่าเทวดาที่

บังเกิดในฉกามาวจรสวรรค์ ๖ ชั้น ได้โอวาทของพระองค์นั่นแลตรวจดูสมบัติของตนในสถานที่ที่บังเกิดแล้ว นึก

อยู่ว่า เราได้สวรรค์สมบัตินี้เพราะอาศัยใครหนอ ก็รู้ว่า เราได้สมบัติเพราะอาศัยพระเถระ จึงนมัสการพระเถระ

ทั้งเวลาเช้าเวลาเย็น เพราะฉะนั้น ท่านจึงเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดาทั้งหลายก็คำว่า

ปิลินทะ เป็นชื่อของท่าน คำว่าวัจฉะ เป็นโคตรของท่าน รวมคำทั้ง ๒ นั้นเข้าด้วยจึงเรียกว่า "ปิลินทวัจฉะ" 


อยู่ย่อมาวันหนึ่ง พระเถระเข้าไปบิณฑบาตกรุงราชคฤห์พบผู้ชายผู้หนึ่งถือดีปลีมาเต็มถาด กำลังเข้าไปในกรุง จึง

ถามว่า

“เจ้าถ่อย ในภาชนะของแกมีอะไร”

ชายผู้นั้น คิดว่า สมณะรูปนี้กล่าวคำหยาบกับเราแต่เช้าเทียว เราก็ควรกล่าวคำเหมาะแก่สมณะรูปนี้เหมือนกัน จึง

ตอบว่า

“ในภาชนะของข้ามีขี้หนูซิท่าน.”

พระเถระพูดว่า

“เจ้าถ่อย มันจักต้องเป็นอย่างว่านั้น.”

เมื่อพระเถระคล้อยหลังไป ดีปลีกกลายเป็นขี้หนูไปหมด เขาคิดว่า ดีปลีเหล่านี้ปรากฏเสมือนขี้หนู จะเป็นจริงหรือ

ไม่หนอ ลองเอามือบี้ดู ทีนั้นเขาก็รู้ว่าเป็นขี้หนูจริงๆ ก็เกิดความเสียใจอย่างยิ่ง เขาคิดว่า เป็นเฉพาะดีปลีเหล่านี้

เท่านั้นหรือ หรือในเกวียนก็เป็นอย่างนี้ด้วย จึงเดินไปตรวจดู ก็พบว่าดีปลีทั้งหมดก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เอามือ

กุมอกแล้วคิดว่า นี้ไม่ใช่การกระทำของคนอื่น ต้องเป็นการกระทำของภิกษุที่เราพบตอนเช้านั่นเอง พระเถระจักรู้

มายากลอย่างหนึ่งเป็นแน่ จำเราจะตามหาสถานที่ๆ ภิกษุนั้นเดินไป จึงจักรู้เหตุ ดังนี้แล้วจึงเดินไปตามทางที่พระ

เถระเดินไป ลำดับนั้น บุรุษผู้หนึ่งพบชายผู้นั้นกำลังเดินเครียด จึงถามว่า

“พ่อมหาจำเริญ เดินเครียดจริง ท่านกำลังเดินไปทำธุระอะไร.”    

เขาจึงบอกเรื่องนั้นแก่บุรุษผู้นั้น บุรุษผู้นั้นฟังเรื่องราวของเขาแล้ว ก็พูดอย่างนี้ว่า

“พ่อมหาจำเริญ อย่าคิดเลย จักเป็นด้วยท่านพระปิลินทวัจฉะ พระผู้เป็นเจ้าของข้าเอง ท่านจงถือดีปลีนั้นเต็ม

ภาชนะ ไปยืนข้างหน้าพระเถระ แม้เวลาที่พระเถระกล่าวว่า นั่นอะไรล่ะ เจ้าถ่อย ก็จงกล่าวว่าดีปลีท่านขอ

รับ.”   
 

พระเถระจักกล่าวว่า  “จักเป็นอย่างนั้นเจ้าถ่อย.” มันก็จะกลายเป็นดีปลีไปหมด ชายผู้นั้นก็ได้กระทำอย่างนั้น

แต่ต่อมาภายหลัง พระศาสดา ทรงทำเรื่องที่พระเถระเป็นที่รักที่พอใจของเหล่าเทวดาเป็นเหตุ จึงทรงสถาปนา

พระเถระไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นยอดของภิกษุสาวกผู้เป็นที่รักที่พอใจของเทวดาแล.
                                 

จบ อรรถกถาสูตรที่ ๗   





http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=4376&PHPSESSID=3e531221a24909e51d8c0518958ce53b
http://www.palungjit.com/tripitaka/default.php?cat=3200151
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2011, 08:11:55 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 07:11:19 pm »
0


แก้กรรม โดย พระพรหมคุณาภรณ์

บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 07:31:10 pm »
0
กลวิธีการสอนให้คนเป็นคนดี กลับเรื่องงมงาย ที่พึ่งของคนที่ยังต้องแสวงหาอยู่นั้นมีความสำคัญ

แม่ชีก็ทำงานในส่วนของคนชนหมู่นี้อยู่ สำหรับปัญญาชน อาจจะมองว่าเป็นเรื่อง อุตริ และ งมงาย

แต่ที่ผ่านมาแม่ชี ก็สร้างผลงานในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา หลายประการนะครับ

มองต่างมุม แม่ชี ยังมีความจำเป็นในหมู่ชนเหล่านี้อยู่

ที่ควรจะไปจัดการ ก็บรรดา ที่ตั้งตนเป็นอาจารย์ สอนพระพุทธศาสนา นอกทาง หรือ ตั้งตนเป็นศาสดา
หรือกล่าว ว่าตนเองเป็น พระศรีอาิริยเมตตรัย บ้าง พวกนี้ก็น่าจะต้องจัดการไปด้วย ถ้ามองตามปัญญา

แต่ความเป็นจริงทำไม่ได้ เพราะคนมีหลากหลาย บารมี จริต แตกต่างกัน นั่นหมายถึงปัญญาในทางธรรม ก็ต่างกันด้วยครับ จึงควรมองความจริง เฉพาะหน้า ไว้ด้วยครับ

 :67:
บันทึกการเข้า

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 07:34:44 pm »
0
กระทู้เรื่องเดียวกัน น่าจะรวมหัวข้อไว้นะครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3785.0

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3783.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2011, 07:39:29 pm โดย sakol »
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: แม่ชีทศพร ขอโทษ สอนญาติโยมแก้กรรมพิสดาร
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 28, 2011, 09:23:59 pm »
0



         ปัญหาสังคมผู้คนนั้นละเอียดอ่อนมาก เราไม่มีมาตรฐานอะไรมาวัดคนได้ชัดเจน เพราะทุกคนต่างล้วนอยู่

ด้วยภูมิปัญญาแห่งตนของตน การมีระบบระเบียบแบบแผนทางความคิดเป็นองค์รวมไม่ว่า การศึกษา การศาสนา

กฏหมาย ต่างล้วนมีบทบาทเป็นเอกเทศ หรือ จะกล่าวว่ามีหลักการที่ขัดแย้งและสอดคล้องกันก็ว่าได้ สิ่งสำคัญ

ณ เวลานี้อยู่ที่เรามองกันต่างมุม โดยเฉพาะกลุ่มชนปัญญาภิวัฒน์ทั้งหลายที่มีการศึกษาพยายามชี้นำสังคมไปใน

แนวที่ตนเห็นว่าถูก หรือ จะเรียกว่าปฏิเสธคติแนวคิดของกลุ่มชนรากหญ้า เกิดเป็นช่องว่างเปรียบเทียบแบ่งแยกผู้

คน หากแต่เนื้อแท้แล้วทุกคนเหมือนกันที่ กิน กาม เกียรติ อภิสิทธิ์ชนคนเหนือกว่าทางสังคมก็ขวนขวายเอา

เปรียบสังคมผู้คนที่ด้อยกว่า ปัญหาหนึ่งในสังคมเกิดขึ้นเราช่วยกันคิดช่วยกันดูก็สมควรอยู่ แต่อย่าหมายที่จะหัก

หาญกันเพียงเพื่อผลประโยชน์หรือความเห็นแก่ตัว เราแก้ปัญหากัน ณ วันนี้ใช่ว่าจะแก้ได้ทั้งหมดทุกเรื่อง ทุก

วันนี้สังคมไทยเราแตกแยกทางความคิดต่างวิ่งหาทางออกเพื่อตนเพียงตนขาดหลักแนวทางดำเนินชีวิตที่เรียกว่า

พ้นทุกข์ ซึ่งความเป็นจริงต่างล้วนแตกต่างกันทางภูมิปัญญาจึงขวนขวายเพียงเพื่อพ้น แต่อย่าหมายทำลาย

ศรัทธาบีบทางเลือกที่เหลืออยู่น้อยนิดให้เกิดความเกลียดชังกันอันจะเป็นการสร้างเส้นแบ่งที่ในความเป็นจริงแล้ว

เอกภาพและองค์รวมทางความคิดที่จัดสรรโดยภาครัฐทำไม่ได้จริง แม้วันนี้ความเป็นจริงหลายๆอย่างมันพิสูจน์ให้

เห็นอยู่ครับ


                                                                                                                     
                                                                                                                                                         ธรรมธวัช.!




http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=285469
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2011, 09:56:45 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา