ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตื่นแผ่นดินไหว "กาญจน์-พังงา"  (อ่าน 2333 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Jojo

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 237
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ตื่นแผ่นดินไหว "กาญจน์-พังงา"
« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 04:30:00 pm »
0
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7137 ข่าวสดรายวัน


ตื่นแผ่นดินไหว "กาญจน์-พังงา"



พัง งาตื่นสึนามิอพยพหนีกันวุ่น หลังแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ในมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันตกของเกาะนิโคบาร์เมื่อกลางดึก ส่วนวันที่ 13 มิ.ย.เกิดแผ่นดินไหวหลายจุดทั้งที่ญี่ปุ่น และ ตำบลด่านแม่แฉลบ ใกล้เขื่อนศรีนครินทร์ ผู้ช่วยผอ.เขื่อนยันไม่มีผลกระทบ เขื่อนมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์

วันที่ 13 มิ.ย. เอพีรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.2 ริกเตอร์ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ห่างจากกรุงโตเกียว 240 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงกรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง แต่ไม่เตือนภัยสึนามิและยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและความเสียหาย ด้านบริษัทไฟฟ้าโตเกียวแจ้งว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งที่จังหวัดฟูกุชิมะยังคงเดินเครื่องตามปกติหลังเกิดแผ่นดินไหว

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 ริกเตอร์ จากเหตุแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันตกของเกาะนิโคบาร์เมื่อเวลา 01.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ห่างจากเมืองมิชาบนหมู่เกาะ นิโคบาร์ไปทางตะวันตก 155 กิโลเมตรและลึกลงไป 34 กิโลเมตร ทำให้ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกที่ฮาวายประกาศเตือนภัยสึนามิในเอเชียใต้ แต่ต่อมาลดระดับเหลืออินเดียประเทศเดียว แม้ไม่มีรายงานเบื้องต้นความเสียหาย แต่มีรายงานว่าชาวเมืองพอร์ต แบลร์ เมืองเอกของหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ต่างตื่นตระหนกและวิ่งหลบหนีออกจาก บ้านเรือน

สำหรับผลกระทบในไทยจากเหตุแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดียนั้น ภายหลัง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ คาดว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่ม 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของไทย ในช่วงวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับคำเตือนของศาสตราจารย์จอห์น แมคคลอสคีย์ สถาบันวิจัยนิเวศวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์ เหนือ ว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิอีกครั้ง จากแผ่นดินไหวทางเหนือระหว่างเกาะนิโคบาร์และเกาะอันดามัน ใกล้ชายฝั่งประเทศไทย ประกอบกับเป็นช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัวกันระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย. ทำให้ราษฎรและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นจุด เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่บ้านน้ำเค็ม หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ราษฎรและนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันอพยพย้ายหนีไปอยู่ในพื้นที่สูงหรือบ้าน ญาติๆ เพื่อให้รอดจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้บรรยากาศเงียบเหงาอย่างหนัก

ขณะที่มีการจัดชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังและสังเกตการณ์ระดับน้ำทะเล รวมถึงเหตุการณ์ผิดปกติที่หมู่บ้านน้ำเค็มตลอด 24 ชั่วโมง มาตั้งแต่คืนวันที่ 11 มิ.ย.

เวลา 22.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. เกิดข่าวลือว่าจะเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าถล่มชายฝั่งทะเล จ.พังงา ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณชายทะเล ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงภัย จ.พังงา ต่างแตกตื่นอพยพหนีตายกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะที่หมู่บ้านทับตะวัน หมู่ที่ 7 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ชาวไทยใหม่หรือชาวมอแกน รวมทั้งราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 100 ครอบครัวพากันหวาดกลัว และอพยพหอบลูกจูงหลานหนีออกจากบ้านเรือนมาอยู่บนถนนเพชรเกษม ช่วงกิโลเมตรที่ 778 เพื่อรอดูสถานการณ์ บ้างก็หอบข้าวของพร้อมลูกหลานขึ้นรถยนต์ รถสามล้อพ่วงอย่างจ้าละหวั่น

นายรั้น ขวัญประชา อายุ 67 ปี ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ญาติของตนที่อยู่บ้านน้ำเค็มโทรศัพท์มาบอกว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์ขึ้นได้ใน เวลาดังกล่าว ตนเองและครอบครัวและหลานๆ จึงได้พากันหลบหนีออกมาโดยที่ไม่ได้ถามไถ่ไปว่าข่าวดังกล่าวเกิดมาจากไหน ประกอบกับพนักงานของบริษัทซีพีซึ่งเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงลูกกุ้งอยู่ชายหาด ทับตะวันหลังหมู่บ้านกว่า 60-70 คนวิ่งหนีตายออกมา ทำให้ชาวบ้านต่างปลุกกันและอพยพออกมาดังกล่าว

ต่อมาในเวลา 02.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่หมู่ที่ 5 บ้านบางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชายทะเล นักท่องเที่ยวต่างชาติ และพนักงานโรงแรมส่วนหนึ่งวิ่งหนีตายขึ้นที่สูงบริเวณน้ำตกโตนช่องฟ้ากว่า 200 คน เนื่องจากทราบข่าวว่าได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นในมหาสมุทรอินเดียและอาจ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขึ้นได้

นางจารึก นาวาล่อง ราษฎรหมู่ที่ 5 บ้านบางเนียง ต.คึกคัก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นผู้คนตกใจกันมากเพราะมีบรรดาแฟนฟุตบอลที่ชมการแข่ง ขันฟุตบอลโลกรอบดึกทราบข่าวจากตัววิ่งทางทีวีว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นและอาจ เกิดคลื่นยักษ์ขึ้นได้ จึงโทรศัพท์บอกต่อๆ กันไปจนทำให้ต้องมีการอพยพหนีกัน

นางจารึกกล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับหอหลบภัยสึนามิ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดพนัสนิคมหรือวัดบางเนียงนั้นไม่ปรากฏว่ามีผู้หนีขึ้นไป หลบภัยแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะไม่มีไฟส่องสว่างในเวลานั้นเลยทำให้ผู้ที่หนีภัยเลือกที่จะ หนีไปตามถนนลาดยางเพื่อขึ้นที่สูงไปทางน้ำตกโตนช่องฟ้ามากกว่า ซึ่งระยะทางจากถนนเพชรเกษมไปถึงน้ำตกนั้นประมาณ 3 กิโลเมตร

เช่นเดียวกับที่บ้านลำแก่น ซึ่งห่างจากบ้านบางเนียงไปตามถนนเพชรเกษมประมาณ 15 กิโล เมตร ซึ่งพื้นที่ขนานไปกับชายฝั่งทะเลอันดามัน นายชำนาญ หมายแร่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเมือง จ.พังงา กล่าวว่า ในเวลาประ มาณเที่ยงคืนได้มีชาวบ้านทับละมุ หมู่ที่ 5 ต.ลำแก่น ซึ่งอยู่ชายทะเลอพยพกันมาอยู่ที่วัดหลักแก่นริมถนนเพชรเกษมประมาณ 100 คน หลายคนบอกว่ามีเพื่อนๆ กันโทรศัพท์ไปบอกว่าอาจเกิดสึนามิขึ้นในเวลาดังกล่าว เลยพากันหนีออกมา ซึ่งตนในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ได้อำนวยความสะดวกในเรื่องห้องน้ำและที่หลับ นอนภายในวัดจนกระทั่งเช้าจึงมีการกลับเข้าไป

ทางด้านนายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา กล่าวว่า ช่วงเวลา 02.00 น. ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแจ้งให้ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในมหา สมุทรอินเดีย ห่างจาก จ.ภูเก็ต 300 กิโลเมตร วัดความสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริกเตอร์ แต่คาดว่าไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย เพียงให้มีการเฝ้าระวังเท่านั้นเอง ส่วนที่ชาวบ้านแตกตื่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ทางราชการจัดชุดเฝ้าระวังในพื้นที่ตลอดเวลา 3 วันที่ผ่านมาแล้ว พร้อมกับขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบเตือนภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่าชาวบ้านที่อพยพนั้นได้กลับเข้าบ้านแล้วบาง ส่วนในช่วงเวลาเช้าของวันนี้ แต่มีบางส่วนที่เป็นผู้ป่วยหรือคนชราลูกหลานยังให้คอยดูท่าทีอยู่ที่บ้านของ ญาติๆ ในพื้นที่สูง

จากกรณีที่เมื่อเวลา 15.19 น. ของวันที่ 13 มิ.ย.53 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยม วิทยา ได้แจ้งข่าวเกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะ เทือนได้ 3.7 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ดังนั้น เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 13 มิ.ย.2553 นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผวจ.กาญจนบุรี ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า "ทางเขื่อนศรีนครินทร์ได้รายงานให้จังหวัดกาญจนบุรีทราบว่า เกิดแผ่นดินไหวห่างจากสันเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 20 ก.ม. ในพื้นที่ตำบลด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในเบื้องต้นทราบว่าเขื่อนศรี นครินทร์ยังมั่นคงแข็งแรง ส่วนรายงานความเสีย หายในพื้นที่ได้สั่งการให้ทางอำเภอศรีสวัสดิ์ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่คาดว่า จะเป็นจุดศูนย์กลางว่ามีความเสียหายหรือมีผลกระทบใดๆ หรือไม่ เขื่อนยังมีความมั่นคงแข็งแรง 100%"

ส่วนทางด้านเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร เปิดเผยว่า "จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่บริเวณตำบลด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 30 กิโลเมตร ขนาด 3.7 ริกเตอร์ เมื่อเวลาประมาณ 15.19 น. ของวันที่ 13 มิ.ย. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนศรีนครินทร์ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งในบริเวณเขื่อน ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน จึงขอให้วางใจว่าเขื่อนศรีนครินทร์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทั้งนี้ เขื่อนศรีนครินทร์มีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำ เสมอ ตามหลักวิชาการ และตามมาตรฐานสากล เพื่อความมั่นใจทุกท่านสามารถดูสภาพตัวเขื่อนปัจจุบันได้ที่ http://cctvsnr.egat.com นอกจากนี้ เขื่อนศรี นครินทร์มีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนศรีนครินทร์ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินศรีสวัสดิ์ ที่มีนักวิชาการออกมาเตือนให้ระวังว่าจะเกิดการสั่นไหวได้ทุกเวลา

นายไพฑูรย์ มุสิกะโปดก นายอำเภอศรี สวัสดิ์ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 15.19 น. วันที่ 13 มิ.ย.2553 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.7 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณ ต.ด่านแม่แฉลบ จึงพร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุตำบลด่านแม่แฉลบ จากการสำรวจบ้านเรือนเบื้องต้นไม่ได้รับความเสียหาย จากการสั่นสะเทือนแต่อย่างไร

นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร เปิดเผยว่า จากเหตุ การณ์แผ่นดินไหวที่ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนศรีนครินทร์ ได้ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ 20 กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ขออย่าได้วิตกกับข่าว เขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำ เสมอตามหลักวิชาการ และตามมาตรฐานสากล สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์มีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

หน้า 1

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXhNREUwTURZMU13PT0=
บันทึกการเข้า
ฉันมาเพราะเธอนะ ยายกบ มาศึกษาธรรมะบ้าง ยินดีที่รู้จักทุกท่านคะ
ช่วยเมตตา แนะนำด้วยมิตรภาพ นะคะ