ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝึกกรรมฐาน จำเป็นต้องเลิก ฟังเพลง ดูทีวีละคร หนัง หรือ ไม่คะ ?  (อ่าน 5236 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kallaya

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 112
  • ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ถ้ามองเห็นทุกข์.........
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
0
ฝึกกรรมฐาน จำเป็นต้องเลิก ฟังเพลง ดูทีวีละคร หนัง หรือ ไม่คะ ?

 เวลาชักชวน เพื่อนเพื่อร่วมฝึกภาวนา ทุกคนก็มักจะพูดว่า

 "ฉันยังฟังเพลง ดูหนัง ดูละคร อยู่ ยังไม่พร้อม หรอกเรื่องภาวนา"

 เมื่อได้ยินดังนี้ ในใจ ก็รู้สึก ท้ออยู่เหมือนกัน ว่า แล้วเราจะมอบธรรมะ ให้เพื่อนได้อย่างไร ?

เพราะแค่เริ่มชวน ฉัน ก็ใจกระเด็นแล้ว ....

  แท้ที่จริง ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสแสดงเหมาะแก่ใครกันแน่ เน้อ

 นึกไปแล้ว ใจก็ท้อถอย... 

  จะปฏิบัติภาวนา ต่อไป ก็มองเห็นลูก เห็นสามี ที่ยังต้องดูแล

  เลยมาคิดอยู่ว่า นี่ฉันพากเพียรไปทำไม เพื่ออะไร ?

  แท้ที่จริง ธรรมะของพระพุทธเจ้า ไม่เหมาะแก่ชาวโลก หรือ ไม่ ?

  หรือ ว่าเป็นเพราะอะไร กันแน่ ....>?

 :73: :41: :73:

  :014: :035: :035: :035:
บันทึกการเข้า
ปัจจุบันสำคัญที่สุด อดีตก็ช่างมัน อนาคตก็ช่างมัน ถ้าเราทำปัจจุบันไว้ดี

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ภาพจากhttp://download.buddha-thushaveiheard.com/

  ความเข้าในหลักศาสนาพุทธของแต่ละคนต่างกัน ไม่ค่อยมีพระเทศน์เรื่องการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน

  ธรรมของพระพุทธเจ้าทวนกระแสโลก เป็นธรรมที่ลึกซึ้งยากที่ปุถุชนจะเข้าใจ จนพระพุทธเจ้ายังท้อใจว่า
  จะสอนดีรึเปล่า

  แต่ธรรมชาติก็สร้างมนุษย์ให้มีจิตที่เหมาะสม เหมาะแก่การขัดเกลาเพื่อเข้าสู่นิพพาน เมื่อเทียบมนุษย์กับเทวดา หรือพรหมแล้ว จิตของมนุษย์แปรปรวนมากกว่า เห็นไตรลักษณ์ได้ง่าย


เพียงแต่ว่า มรรคมีองค์ ๘ เป็นทางเฉพาะตัว ทุกคนต้องสร้างเอง การเดินอยู่ในมรรค มุ่งหน้าสู่นิพพานนั้น
 มีระยะทางของมันอยู่ ปัญหามีอยู่ว่า เราไม่รู้ว่า เราเดินถึงไหนแล้ว อีกนานเท่าไหร่จะถึงที่หมาย

แม้พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถจะนำพาทุกคนให้เข้าสู่นิพพานได้ทั้งหมด ท่านตรัสไว้ก่อนปรินิพพานว่า
 "แม้ตถาคตก็เป็นเพียงผู้บอกทาง"


 การศึกษาศีล สมาธิ ปัญญา เป็นสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อยๆ ขอให้ศึกษาข้อธรรมในมรรคให้ดีเถอะ
ดูว่าคุณมีพร้อมหรือบกพร่องตรงไหนบ้าง

การปฏิบัติธรรม ทำได้ทุกลมหายใจ หากเรารู้จักแบ่งเวลาในชีวิตประจำวันเป็นส่วนๆ
ง่ายๆครับ แค่เวลาเข้าห้องน้ำสองสามนาที คุณก็สามารถบริกรรมพุทโธได้แล้ว
ทำสมาธิชั่ว ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ก็ได้บุญแล้วครับ อย่าดูหมิ่นว่าบุญน้อยจักมาไม่ถึง
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า


   ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่า มีประมาณน้อย จักไม่มาถึง
   แม้หม้อน้ำย่อมเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลง ฉันใด
   ผู้ฉลาดสั่งสมบุญ แม้ทีละน้อยๆย่อมเต็มได้ด้วยบุญ  ฉันนั้น




   การดูหนัง ฟังเพลง อะไรๆทำนองนี้ อยากทำก็ทำไป ปฏิบัติธรรมไปนานๆเข้าคุณจะมีสติ และระลึกได้ว่า
ควรทำหรือไม่อย่างไร อยากให้เข้าว่า ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับ ธรรมชาติได้สร้างขั้นตอนไว้แล้ว
อย่าได้กลัวว่าจะไปไม่ถึง


    "หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้
   ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป
   เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

    :49: :s_hi: ;)

ภาพจากhttp://download.buddha-thushaveiheard.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2011, 10:04:11 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

fan

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผู้ฝึกกรรมฐาน จะละได้เอง คะ

  นาน ๆ ไป ก็จะเป็น ไม่ฟัง เป็นนิสัย คะ


  ช่วงที่ดิฉันฝึกแรก ๆ เคยติดละคร ก็ดูอยู่ พอฝึกไป ฝึกไป ๆ ก็เริ่มไม่อยากดู แม้กระทั่งข่าวสาร อะไรก็ไม่อยากรู้ ๆ แต่ว่า อยากนั่งกรรมฐาน คะ และ นอนก็ภาวนาไป สุดท้ายทุกวันนี้ ก็อยุ่ในสภาวะ ไม่ดู ไม่ฟัง เขาดูกัน ก็ไม่ดู กับเขา นะคะ

  ดังนั้น ไม่ต้องวิตก กังวล กับเรื่องนี้ นะคะ

  จรณะ 15 ประการ ย่อมเกิดแก่ผู้ภาวนาเอง โดยธรรมชาติคะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยครับ ถ้าเราไม่ได้ ถือศีล 8 ขึ้นไปแล้ว ก็ไม่ต้องระวังเรื่องนี้ หรอกครับ เมื่อถึงเวลา เราจะรุ้เองครับว่าจะต้องหยุด ต้องงดครับ แต่ถ้ารักษา ศีล 8 ขึ้นไปแล้ว ต้องงดครับ ไม่ใช่ควรงด นะครับ ต้องงดเลยนะครับ

  เพราะการดู การเล่น ที่เป็นข้าศึกต่อกุศล จะทำให้เราภาวนาได้ช้าลง นะครับ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

Lux

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 113
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ส่วนตัว ชอบฟังเพลง อยู่นะคะ และชอบร้องด้วย

 จนบางครั้งเวลาจะภาวนา ก็จะรู้สึกว่า ขัดกับนิสัยที่ชอบ คะ

 เอาเป็นว่า แบ่งเวลาดีกว่านะคะ จะภาวนาก็แบ่งเวลาไว้ จะฟังเพลงก็แบ่งเวลาไปอีกต่างหาก คะ

  :s_hi: :88: :58: :bedtime2:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุข แม้แบบชาวโลก
อยากให้ทุกคนไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ในการภาวนา
อยากหนอ .... ก็ทุกข์หนอ ใช่หรือไม่จ๊ะ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ฝึกกรรมฐาน จำเป็นต้องเลิก ฟังเพลง ดูทีวีละคร หนัง หรือ ไม่คะ ?

หากจิตตั้งมั่นในกิจพระกรรมฐานแล้ว หนัง,เพลง,ละคร ก็จะเป็นอสาระไปโดยปริยายครับ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเสแสร้งต่อเรา เป็นนิวรณธรรมให้เคลิ้มเพลินเสมือนหนึ่งนั้นจริงแสร้งเราให้เขลาดู หดหู่ เคลิ้มไปในจินตวิปลาสขวางตนเอง
คือ เมาในสัญญา วิพากย์วิจารณ์ให้ซ่านเคลิ้มไปในสัญญานั้นถือเป็นผิดศีลข้อห้านะครับ


"ฉันยังฟังเพลง ดูหนัง ดูละคร อยู่ ยังไม่พร้อม หรอกเรื่องภาวนา"
 เมื่อได้ยินดังนี้ ในใจ ก็รู้สึก ท้ออยู่เหมือนกัน ว่า แล้วเราจะมอบธรรมะ ให้เพื่อนได้อย่างไร ? เพราะแค่เริ่มชวน ฉัน ก็ใจกระเด็นแล้ว ....

ใจของผู้คนที่ขาดภาวนาล้วนหยาบ กระด้างขืน ก็ไม่แปลก! ด้วยจิตที่ไม่คุ้นเคยในอารมณ์อันปราณีต สิ่งเฉพาะหน้าที่เห็นเป็นได้มีอยู่นั้น จึงเป็นความสุขที่ขวนขวายได้ก่อน เขาหรือเธอจึงพาลปฏิเสธอย่างนั้นได้ อย่าท้อ อย่าโทษ และโกรธ ก็บอกบุญกรรมการผ้าป่า/กฐิน กันไปก่อนก็แล้วกัน ครับ

นึกไปแล้ว ใจก็ท้อถอย...จะปฏิบัติภาวนา ต่อไป ก็มองเห็นลูก เห็นสามี ที่ยังต้องดูแล

ผู้รู้ภาวนาคือ ผู้รู้ ผู้เข้าใจ ในวิถีที่เป็นจริงของชีวิตตนและคนอื่น การรู้จักโน้มน้าว ชักนำ ผู้คนมาสู่วิถีภาวนาเป็นกุศลใหญ่ ซึ่งก็ยากแต่ก็ต้องกระทำโดยเริ่มที่เรา ให้เรายืนเป็นไม้ใหญ่เขาถลาเซมาเมื่อนั้นเราสำคัญ ครับ ขอเพียงเข้าใจ
อย่าอ้างลูกผัวเท่ากับตัวปฏิเสธ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 19, 2011, 06:32:58 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ส่วนตัว ชอบฟัง และ ชอบร้อง ด้วย จนบางครั้งเวลาจะภาวนา ก็จะรู้สึกว่า ขัดกับนิสัยที่ชอบ คะ

แสร้งคำข่ม จมล่มหนอง (ปากตัว)

     ปากแสร้งเปื้อนหลบร้าง          เร้นหนี
ผ่อนผลัดไม่พาที                      ข่มแย้ง
ล้วนเขลาจิตหยาบมี                 เทียมสุข
แท้พร่องพลาดขลาดแจ้ง        นิ่งด้วยภาวนา.


                                                         ธรรมธวัช.!
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตอบแบบไม่เกรงใจ นะจ๊ะ

ก็คือ ถ้าต้องการให้จิต ตั้งมั่นได้ไว ต้องปิดโลกภายนอก ไม่ต้องไปรับทราบ เพื่อยินดี ยินร้าย

ปัญหาของเสียง จำเป็น ต้องยุติ

ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เรื่องเสียงจัดเป็นปฏิปักษ์ ขั้นที่หนึ่ง ดังนั้นศิษย์ทุกคนที่มาภาวนา
จึงต้องผ่านการเข้าสะกด มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างกันไป จนกว่าจะไม่หวั่นไหวกับเสียง มีจิตแน่วแน่

ดังนั้น เพลง ก็จัดเป็นเสียง จะฟังไพเราะ หรือ ไม่ไพเราะ ก็เป็นเสียงทั้งหมด

  ถ้าคุณฝึกกันได้ ถึง มนายตนะ คุณไม่จำเป็นต้องไปฟังเสียงเพลง เพราะเสียงธาตุ ต่าง ๆนั้น ล้วนแล้วน่าฟัง
มากกว่า เสียงเพลง เพราะเสียงธาุตุ เมื่อคุณรับฟัง จิตคุณจะรู้แจ้ง และ เห็นตามความเป็นจริง

เจริญธรรม

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ