ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อกับแม่ ชอบเล่นการพนัน และชอบกินเหล้า เมามาก็จะทะเลาะ ตบตี กลุ้มใจมาก  (อ่าน 3660 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

tippawal

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 10
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือ หนู มีพ่อ กับ แม่ ที่ชอบเล่นการพนัน และกินเหล้า พี่หนีไปมีครอบครัว หมดแล้ว ส่วนหนูก็ต้องทำงานด้วย เรียนด้วย เพื่อเลี้ยงคนทั้งสอง เหนื่อยกายถูกรังแกก็มี เนื่องด้วยงานก็เครียดพอสมควร ยังพอทน เพราะต้องหาเงิน แต่เหนื่อยใจตรงที่ พ่อกับ แม่ ทุบตีกัน ก็ทำลายเข้าของ ที่อุตส่าห์หาซื้อมาด้วยความยากลำบาก เมื่อวานนี้ถูกทำลาย วิทยุไปหนึ่งเครื่อง รู้สึกเศร้าใจ ว่าควรทำอย่างไรดี รอทั้งคู่สร้างเมามาแล้ว แทนที่จะสงสารหนู กับพูดจาประชดประชันว่า ของแค่นี้ทำเป็นคิดเล็กคิดน้อยกับ พ่อแม่

    หนูควรทำอย่างไรดีคะ นอนร้องไห้และ อยากหนีพ่อกับแม่ ไปบวชเป็นชีอยู่วัด หรือ ไปไกล ๆ แต่ใจก็สงสารคะ ควรทำอย่างไรดีคะ หนูถึงจะหมดกรรม หมดเวรตรงนี้เสียที

    :'( :'( :'( :'( :'( :'(
บันทึกการเข้า

axe

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 187
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คิดว่า ต้องใช้ความอดทน นะครับ อย่างไรเสีย ก็เป็น พ่อและ แม่ ของเราครับ ความกตัญญู เป็นสิ่งที่ต้องได้ซึ่งความอดทน ส่วนมากเด็กดี ๆ ที่ผมพบก็จะได้พ่อแม่ี อย่างนี้เป็นส่วนใหญ่ครับ ส่วนผู้เป็นพ่อ และแม่ กว่าจะไปสำนึกได้ก็ตอนที่ไม่มีอะไร หมดเนือ้หมดตัว และเดินกันไม่ไหวแล้วนั่นแหละคะ กงเกวียนกงกรรม ก็เป็นอย่างนี้ครับ

  ผมว่า ขั้นที่ 1
     ลองจากกันไปสักพัก ก็ดีนะครับ เพราะพวกพี่ ๆ ไปกันหมดแล้ว ( ตรงนี้ต้องตัดใจสักหน่อย ) นอกเสียจากว่า คุณไม่รู้จะไปไหน นั่นแหละที่สำคัญ มันอยู่ตรงนี้ เพราะส่วนใหญ่ ครอบครัวแบบนี้ ก็จะหาเพื่อนได้ยาก ไม่ค่อยมีคนคบด้วยความจริงใจ หรือ อยากเอาตัวเข้ามาเกี่ยว

     ถ้าคุณไปไม่ได้ สิ่งสำคัญที่ สุด ความอดทน ต้องมีมาก ๆ ประกอบกับปัญญา การเอาตัวรอดซึ่งคุณต้องอาศัยความฉลาด ซึ่งมีอะไรให้คุยหลังไมค์กับผมเลยนะครับ เพราะเห็นว่าเป็นชาวลพบุรี ด้วยกันเผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ครับ

      :s_hi: :s_hi: :s_hi:
บันทึกการเข้า
หนุ่มหล่อ ใจดี AXE

tippawal

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 10
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
หนูลองแล้วคะ

ที่อยากจะหนี จากทุกคนไป แต่ ด้วยอายุยังน้อยอยู่คะ (ปีนี้ยังเรียนอยู่ ม4 คะ )
ก็กลัวว่า จะมีกรรมมารับมากกว่า

แต่ยังตัดใจทิ้ง พ่อ ทิ้ง แม่ ไม่ได้คะ เพราะกลัวบาปกรรมคะ
ตอนนี้ได้แต่ ข่มใจด้วยธรรมะ แล้วยอมรับ ชะตาชีวิตแบบนี้ไปก่อนคะ ยังคิดหา วิธีไม่ออกคะ

ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็น ให้ หนู คะ

 :c017: :'( :'( :'(
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
หนูลองแล้วคะ

ที่อยากจะหนี จากทุกคนไป แต่ ด้วยอายุยังน้อยอยู่คะ (ปีนี้ยังเรียนอยู่ ม4 คะ )
ก็กลัวว่า จะมีกรรมมารับมากกว่า

แต่ยังตัดใจทิ้ง พ่อ ทิ้ง แม่ ไม่ได้คะ เพราะกลัวบาปกรรมคะ
ตอนนี้ได้แต่ ข่มใจด้วยธรรมะ แล้วยอมรับ ชะตาชีวิตแบบนี้ไปก่อนคะ ยังคิดหา วิธีไม่ออกคะ

ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็น ให้ หนู คะ

 :c017: :'( :'( :'(

    หนูเอา"ธรรม"เป็นที่พึ่งน่ะถูกแล้ว
    "อดทน อดกลั้น" ก็เป็นข้อธรรมเบื้องต้นที่จะนำไปสู่ความสุขในเบื้องปลาย


    หนูต้องเอาการเรียนมาก่อน รักษาสุขภาพกายและใจให้ดี
    ความประพฤติของพ่อแม่จะเป็นอย่างไร เราไม่มีหน้าที่ไปเปลี่ยนการกระทำของท่าน
    เราต้องหา"กุศโลบาย" หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า พูดให้น้อย พูดเท่าที่จำเป็น


    หาเวลาสวดมนต์นั่งสมาธิ สิ่งนี้สำคัญมาก การสวดมนต์นั่งสมาธิจะให้จิตของหนูประภัสสร
    จิตประภัสสร คือ จิตผุดผ่องว่างจากอุปกิเลสชั่วคราว
    จิตประภัสสรจะช่วยให้หนูมีสติมีสมาธิ คิดแก้ปัญหาต่างๆได้


    ผมมีบทความน่าอ่านมอบให้เป็นกำลังใจให้หนู

    "ความสำเร็จของศีลและสมาธิ มีเหตุมาจากขันติ(อดทน)"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5098.0

    "อย่ายอมนะ อดทนเอาไว้"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5472.0

    "ขันติ เป็นตบะอย่างยิ่ง"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5731.0

      :49::58: :58: :58: :49:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ขันติ ความอดทน ในชีวิตประจำวัน

สวัสดีทุกท่านครับ
ช่วง นี้อากาศร้อนครับ คนใจร้อนกันก็มาก ร้อนกาย อยู่ในห้องปรับอากาศ ดื่มน้ำเย็นๆ อาจพอช่วยได้ ร้อนใจ เพราะไฟกิเลส จะดับได้ด้วยคุณธรรมสำคัญข้อหนึ่งคือ ขันติ ความอดทน

ความอดทนเป็น คุณธรรมสำคัญที่เป็นเครื่องประคองจิตใจไม่ให้ท้อถอย เมื่อประสบความลำบากตรากตรำหรือความทุกข์ยาก อดทนต่อสู้รู้รักษาจิตใจให้เป็นปกติ ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียว ในเมื่อประสบอารมณ์ร้ายยั่วโทสะ


ต้องอดทนห้ามใจมิให้แสดงกิริยาวาา หยาบคายออกมาให้คนอื่นเห็น ทำให้ไม่น่ารัก น่าเคารพนับถือ ไม่ยอมแพ้อุปสรรคทั้งภายในและภายนอก เป็นกำลังใจให้สามารถต่อสู้กับกิเลสทั้งหลายให้สงบราบคาบ ดังพุทธภาษิตว่า

" ความอดทน คือความอดกลั้นเป็นตบะอย่างยิ่ง" (ขันติ ปรมัง ตโป ตีติกขา)

ในชีวิตประจำวัน คนเราย่อมได้รับความทุกข์กาย ทุกข์ใจอยู่เป็นประจำ มากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย การแก้ไข ต่อสู้ปัญหา ชีวิตที่เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะเอาชนะได้ มีความสุขความเจริญ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ กล้าเผชิญกับปัญหา สู้งานจนสำเร็จ แม้บางครั้งจะพบกับสิ่งที่ตนเองไม่ชอบใจ ก็ต่อสู้กับกิเลสภายในใจไม่ให้จิตเศร้าหมอง นำธรรมะมาฝากครับ

ประเภทของความอดทน

ความอดทนที่มนุษย์ควรพัฒนาให้เกิดขึ้นนั้น เพื่อยกระดับจิตให้เข้มแข็งสามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพได้ 4 ประเภท สองประเภทแรก เป็นขันติธรรมดา ส่วนสองประเภทหลังเป็นอธิวาสขันติ ได้แก่

1.อดทนต่อความลำบากตรากตรำ ไม่แสดงอาการย่อท้อง เมื่อทำหน้าที่การงาน
2.อดทนต่อความเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่แสดงอาการทุรนทุรายจนเกินเหตุ รู้จักระงับอารมณ์ต่อความเจ็บป่วย
3.อดทนต่อความเจ็บใจ เมื่อถูกกระทบกระแทก ดูถูกดูหมิ่น ก็อดกลั้นไว้ในใจ
4.อดทนต่ออำนาจกิเลส เมื่อถูกกิเลสครอบงำจิตทำให้เกิดความอยาก ก็ทนต่อความอยากได้


การฝึกความอดทน

มีคำโบราณว่า " อยากรู้ต้องหมั่นอ่าน อยากชำนาญต้องหมั่นทำ อยากจำต้องหมั่นดู " หมายความว่าทุกสรรพสิ่งไม่ว่าวิทยาการ ศิลปะ ความคล่องตัว ความชำนิชำนาญ ความสามารถเป็นต้น ย่อมต้องอาศัยการฝึกฝน ทำแล้วทำเล่า ดูแล้วดูเล่า ทบทวน ตรวจสอบ บันทึกผลดี ผลเสีย ความอดทนก็เช่นเดียวกันจะเกิดมีได้เพราะกระบวนการดังนี้

1.มีความอดกลั้น อดทนข่มใจ เช่น ถูกคนพาลด่า กระทบกระแทก ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ใส่ใจ ไม่ต่อปากต่อคำ

2.ไม่กล่าวร้ายโต้ตอบเมื่อถูกว่าร้าย ถ้าจำเป็นก็พูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่โต้ตอบ รักษาความสงบเสงี่ยมในการโต้ตอบ


3. ไม่ก่อทุกข์ให้กับตนเองและผู้อื่น การกล่าวกระทบกระแทกคนอื่น ทำให้คนอื่นโกรธ เสียหน้า ก่อเวรภัยให้กับตนเอง ผู้ถูกกล่าวหาก็เป็นทุกข์ ควรพูดด้วยจิตที่เมตตา

4.มองโลกในแง่ดี คนที่มีความทุกข์ย่อมมีความโลภ โกรธ หลง และมีความทุกข์มากกว่าเราเป็นคนที่ห่างไกลธรรมะ ดังนั้นควรอดทน เพราะเขามีความทุกข์มากกว่าเรา ควรเพิ่มกำลังใจและช่วยเขาให้พ้นทุกข์

5.ทำจิตใจให้เบิกบานผ่องใสด้วยเมตตา จะคิด ทำ พูดสิ่งใด ตั้งจิตเมตตาให้ทุกคนที่มติดต่อสัมพันธ์กับเรา จงมีความสุข ปราศจากความทุกข์

6.ทำเป็นคนหูหนวกตาบอด ดังภาษิตโบราณว่า ปิดหูซ้ายขวา ปิดตาสองข้าง ปิดปากเสียบ้างนั่งนอนสบาย


7.หลีกห่างถอนตัวจากสิ่งชั่ว เช่น การดื่มน้ำเมา การเล่นการพนัน ฯลฯ

8.อดทนเพื่อละสิ่งชั่ว พยายามทำความดี รักษากายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริตเป็นประจำ

9.รักษาไม่ให้เศร้าหมองสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เจริญเมตตาเป็นประจำ



ประโยชน์ของความอดทน

การปฏิบัติตามมงคลข้อนี้ทำให้เกิดคุณค่าและความสำเร็จแก่ตนเอง สังคมและสติปัญญาดังประการต่อไปนี้คือ

1.ทำให้เป็นคนหนักแน่น ไม่อ่อนแอ ท้อถอย กล้าเผชิญกับปัญหาชีวิตทุกชนิดได้
2.ทำให้บุคคลมีมารยาทที่ดีงาม ไม่วู่วาม มักโกรธ
3.ความอดทนช่วยพัฒนาคนให้เป็นบัณฑิต เป็นคนมีเสน่ห์น่ารัก
4.ความอดทนเป็นบ่อเกิดของศีล สมาธิ ปัญญา
5.ความอดทนเป็นเครื่องมือตัดต้นเหตุของความชั่วร้ายทั้งหลาย
6.ความอดทนช่วยให้บุคคลประพฤติพรหมจรรย์บรรลุธรรมได้รวดเร็ว


อ้างอิง เนื้อเรื่องเรียบเรียงจาก คณะกรรมการกองตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี


สุดท้ายขอสรุปลงด้วยพุทธศาสนสุภาษิต เพื่อเป็นคติเตือนใจว่า

ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตนทั้งแก่ผู้อื่น

ผู้มีขันติ ชื่อว่าเป็นผู้ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์และนิพพาน

ขันติ ย่อมตัดรากแห่งบาปทั้งสิ้น ผู้มีขันติชื่อว่าย่อมขุดรากแห่งความติเตียนและการทะเลาะกันได้

ผู้มีขันตินับว่ามีเมตตา มีลาภ มียศ และมีสุขเสมอ


ผู้มีขันติเป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย

ขันติเป็นประธานเป็นเหตุแห่งคุณ คือ ศีลและสมาธิ กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญ เพราะขันติเท่านั้น

ขันติเป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์ ขันติเป็นตบะของผู้พากเพียร

ขันติเป็นกำลังของนักพรต ขันตินำประโยชน์สุขมาให้

เสนาแม้หมู่ใหญ่ พร้อมด้วยพระราชารบอยู่ ไม่พึงได้ประโยชน์ที่สัตบุรุษผู้มีขันติพึงได้
(เพราะ) เวรทั้งหลายของผู้มีขันติเป็นกำลังนั้น ย่อมสงบระงับ



ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7636415/Y7636415.html
จากคุณ : ebusiness
ขอบคุณ http://www.jaisabai.com/index.php?app=daily_tamdee&fnc=detail&id=410
ขอบคุณภาพจาก http://buddhahistory.org,http://farm4.static.flickr.com,http://multiply.com
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ