ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความไม่สบายใจ ที่เกิดขึ้น ในกรรมฐานมีความจัดการอย่างไรครับ  (อ่าน 3991 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

poepun

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บางครั้ง ชีวิตถูกกระทบด้วยเรื่อง รอบด้าน หลายอย่าง หลายประการ ทำให้รู้สึก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ก็มีหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะปลอบใจตนเองด้วยธรรมะ ข้อคิด คติธรรม แต่หลายครั้งก็ไม่สามารถทำให้ใจที่ลุ่มร้อนอยู่นั้นสงบลงได้ ก็อยากทราบวิธีการดำิเนินพระกรรมฐาน ทีได้ผลที่สุดในการคลายความลุ่มร้อน หรือ ความไม่สบายใจนี้ลงได้ ครับ

ขอบคุณครับ

 :c017: :25:
บันทึกการเข้า

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เบื้องต้น ก็ต้องขอบอกว่า คนที่มีความไม่สบายใจ นั้นกำลังเสวยวิบาก คือความทุกข์ จึงเกิดความอึดอัด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย สติไม่นิ่ง คิดซ้ำคิดซาก จนจิตแปรปรวนส่งผลทางกาย

   วิธีแก้ปัญหา ก็คือ ไม่สบายใจเรื่องอะไร ก็หัดนำเรื่องนั้นมาพิจารณา ว่ามีหนทางแก้ไข หรือ ไม่ หรือ จิตเป็นห่วง หวงว่า นี่เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนเราอยู่ใช่หรือไม่ ?

   ถ้ารู้ตัวแล้ว หายใจเข้าออก ยาว ๆ ช้า ๆ และ ภาวนาปล่อยวางทางจิตก่อนว่า

     รูป ไม่ใช่เรา รูป ไม่ใช่ของเรา รูป ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา เป็นเพียงสักว่า รูป เป็นต้น

     ทำการนึกอย่างนี้ เดี่ยวจิตก็คลายจากทุกข์ชั่วคราว เมื่อจิตคลายจากทุกข์ ชั่วคราว เพราะปล่อยวางด้วยอำนาจ ธรรมสติ แล้ว ก็พึงเจริญภาวนา พุทโธ ลงไปผนวกที่สูญนาภี หรือ ฐานจิต

     ถ้าทำมาถึงตรงนี้ จิตจะประณีตขึ้น เพราะฉันทะสมาธิ เกิด ปราโมทย์ ในสมาธิ เกิด ก็พึงเจริญธรรมเรื่อง ธาตุ ไว้ให้มากขึ้น เดี๋ยวจิตก็จะคลายความกังวลทั้งหลายลงมองเห็นตามความเป็นจริง ได้ว่า ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ด้วยใจเอง

     เจริญธรรม

      ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นวิธี ที่พระอาจารย์ มักจะสอนไว้ในเรื่องการปล่อยวาง ในการปฏิบัติประจำที่ได้ฟังอยู่นะคะ

แต่สงสัยอยู่ว่า ทำไมตอนที่เป็นทุกข์ ทำไมจึงเจริญภาวนาโดยตรงไม่ได้ คะ

่ขอบคุณ พระอาจารย์ และ เพื่อน ๆ ทีมงานทุกท่านด้วยคะ

 :25:

บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น

prayong

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 72
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
นั่นสินะคะ ตอนเป็นทุกข์ น่าจะภาวนาได้มากกว่า ตอนเป็นสุข เพราะคนเป็นทุกข์ จึงหันมาปฏิบัติธรรมกันไม่ใช่หรือคะ ดังนั้นคนเป็นทุกข์ ก็น่าจะเห็นธรรมมากกว่า คนที่เป็นสุข ใช่หรือไม่คะ

   ดังนั้นเมื่อเรามีความทุกข์ อยู่การภาวนาก็น่าจะมีความก้าวหน้า ด้วยใช่หรือไม่คะ

 ก็สงสัยเช่นเดียวกันคะ ถ้าพิจารณาจาก อริยสัจจะ 4 ประการ

  :25: :25: :25:

 
บันทึกการเข้า

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากเรียน ถาม พระอาจารย์ และ  เพื่อนสมาชิก บางครั้งเราวิตกกังวล เหมือนคนคิดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ พะวักพะวงกับ เรื่องต่าง ๆอันนี้จะัแก้ไขในกรรมฐาน อย่างไรดี คะ ?

  คือ มีเรื่องกังวลมากในการใช้ชีวิตประจำวัน เวลาภาวนา มันก็ไม่อยากทำ ซะดื้อ  ๆ คะ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การวิตก กังวล เป็นเรื่องปกติ บางครั้งก็มิได้เกิดจากการที่จิตข้องเกี่ยว กับกิเลส แต่เป็นเพราะบางครั้งกังวลกับผลที่จะออกมาว่า จะทำให้ใครเดือดร้อน เราเดือดร้อน คนรอบข้างเดือดร้อน เป็นสภาวะของคนที่มีศีล เป็นสภาวะที่อึดอัด ได้

แต่อย่างไรเสีย
ความวิตก กังวล ก็เป็นฝ่ายโมหะ เพราะมีความไม่รู้แจ้งเป็นสภาวะปิด จึงทำให้จิตต้องคิด ซ้ำซาก ผลจากวิตก กังวล ยังส่งผล ต่อกายด้วย เช่นบางครั้ง กินได้น้อย นอนได้น้อย มีภาวะกระสับกระส่าย พูดง่าย ๆ จิตเสวยอารมณ์เป็นทุกข์ ไว้ ไม่เป้นสุข วิธีคลายวิตกกังวล

ความวิตกกังวล จะหมดไปได้ด้วยปัจจุบัน เพราะความวิตกกังวลนั้นเป็น อนาคต คือ คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เป็นต้น

1.สำหรับบุคคลทั่วไป ต้องกลับมาใช้กรรมฐาน ประเภท อารักขกรรมฐาน เช่น มรณานุสสติ เมตตานุสสติ พุทธานุสสติ กายคตาสติ เป็นต้น  ถ้าจิตมีกำลังสมาธิเป็นทุนอยู่แล้ว ให้ ตั้งที่ อานาปานสติ

2.สำหรับศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ให้ใช้เวลาในการท่องคาถาพญาไก่เถื่อนให้มากขึ้น เมื่อไม่สบายใจขึ้นมาก็กำหนดคาถาขึ้นมาท่องไปเรื่อย ๆ จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน ก็ท่องไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น

เมื่อจิตคลายความวิตกกังวล ได้บ้างแล้ว ก็เข้าเจริญกรรมฐาน ตามขั้นตอน ตามระดับกรรมฐาน ของตนเอง


เจริญธรรม

 ;)






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2012, 07:10:12 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ