ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเพื่อน ผมคนหนึ่ง ได้สรุปว่า การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุก..  (อ่าน 6202 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เมื่อเพื่อน ผมคนหนึ่ง ได้สรุปว่า เขาเองบรรลุธรรม สูงสุดในจักรวาล แล้ว
  จึงทราบว่า ไม่มีพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาใด ๆ ไม่มี บุรุษ บุคคล ไม่มี.... ( สารพัดจะไม่มีที่เขายก )

การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

  เพื่อนผมคนนี้ วัน ๆ ไม่ทำอะไร ได้แต่อยู่ที่บ้าน อัดกัญชา นอนตีพุง แล้วก็พูดอย่างนี้ครับ ไม่ทราบเพื่อนๆ สมาชิก มีความเห็นอย่างไร กับการเข้าถึงธรรม ของเขา

 :s_hi:
บันทึกการเข้า

nithi

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปล่อยเขาไปเหอะครับ .... อย่าไปยุ่งกับเขา เลย
 :25: :s_hi:
บันทึกการเข้า
ขุมทรัพย์แห่ง ความหลุดพ้น ปรากฏอยู่ที่พระไตรปิฏก อ่านพระไตรปิฏก มาก ๆ
 ก็จะเข้าใจหลักธรรมในพระพุทธศาสนาได้ ของจริงต้องตาม พุทธวัจนะ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็สรุปว่าเป็นความหลง และเป็น มิจฉาทิฏฐิ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปล่อยเขาไปเหอะครับ .... อย่าไปยุ่งกับเขา เลย
 :25: :s_hi:

  ปัญหาไม่ใช่ผมไปยุ่งกับเขา ครับ แต่เขามายุ่งกับผม เวลาผมชักชวนคนปฏิบัติธรรม ก็จะมาคอยนั่งพูดตะโกน โหวกเหวก ใกล้ และ คอยโพทะนาว่า ผมชักชวนคนไปนรกมากกว่า การภาวนาธรรม อะไรประมาณนี้ ถ้าทำตามเขาก็คือ ต้องยอมรับเขาเข้ากลุ่ม ก๊วนกัญชา นะครับ ซึ่งผมยอมรับไม่ได้

ก็สรุปว่าเป็นความหลง และเป็น มิจฉาทิฏฐิ

  ผมเข้าใจว่า เขาไม่ถึงธรรมภาวนา ครับ แต่เขาบอกผมว่า ครูอาจารย์ในปัจจุบัน เขาบรรลุแล้ว เสพอะไรก็ไม่ติด เช่น พระจี้กง ดื่มสุรา  หลวงตามหาบัว เคี้ยวหมาก หลวงปู่เณรคำ เคี้ยวหมาก บางครูอาจารย์ ก็สูบบุหรี่ เป็นซอง ๆ เขาบอกว่า พระอรหันต์ เหล่านี้ เขาเป็นพระอรหันต์ก็ ยัง เสพ ดื่ม เคี้ยว อยู่ ลำพังเขาเอง แค่กัญชา ก็ไม่ต่างกัน ครับ

    :73:
บันทึกการเข้า

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

 :s_hi:

    ขอตัดประเด็นเรื่อง คน ออกก่อน นะครับ เพราะผมคิดว่า ถ้าไปตอบเรื่องคน ไม่จบปัญหา เพราะอคติ ปุถุชนอาจจะทำให้เขวในคำถาม กัน

    ดังนั้นผม เอาประเด็น ที่คุณถามว่า

  การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

    ตรงนี้ใช่หรือไม่ครับว่า ต้องการคำตอบเบื้องต้นว่า

    1.ถูก หรือ ไม่ถูก

    2.ถ้าถูก ก็ ไม่ต้องอธิบาย

    3.ถ้าไม่ถูก ก็ต้องตอบแก้ให้ถูกต้องก่อนใช่หรือไม่ครับ

    ดังนั้นขอถามย้อนกลับไปว่า

      1. คุณคิดว่า ถูก หรือ ไม่ถูก  ก่อนครับ
      2. ถ้าถูก ก็ ต้องยอมรับ สิ่งที่เขาพูด ว่าถูก
          แต่การยอมรับ นี้เป็นการยอมรับ ธรรมะว่าถูก แต่ไม่ใช่ว่า ยอมรับพฤติกรรมของผู้พูดว่าจะถูก เพราะทุกวันนี้ มีการใช้พระธรรม เป็นเครื่องมือหากินอยู่รอดกันมากมาย ต่างวิธีการไป เช่นพระบางรูปแสดงธรรมได้ไพเราะหมดจด ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามที่ตนเองพูดสอนก็มีครับ เป็นต้น
         ดังนั้น ถูก คือการยอมรับ ว่าพระธรรม ถูก ไม่ใช่ยอมรับ ผู้พูดว่า มี พฤติกรรมที่ถูก นะครับ
      3.ถ้าไม่ถูก ให้อธิบายให้ฟังหน่อย ครับว่า ไม่ถูกอย่างไร ครับ

     มาร่วมสนทนาด้วยนะครับ

     :s_hi: :49:
     
   
บันทึกการเข้า

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

 :s_hi:

    ขอตัดประเด็นเรื่อง คน ออกก่อน นะครับ เพราะผมคิดว่า ถ้าไปตอบเรื่องคน ไม่จบปัญหา เพราะอคติ ปุถุชนอาจจะทำให้เขวในคำถาม กัน

    ดังนั้นผม เอาประเด็น ที่คุณถามว่า

  การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

    ตรงนี้ใช่หรือไม่ครับว่า ต้องการคำตอบเบื้องต้นว่า

    1.ถูก หรือ ไม่ถูก

    2.ถ้าถูก ก็ ไม่ต้องอธิบาย

    3.ถ้าไม่ถูก ก็ต้องตอบแก้ให้ถูกต้องก่อนใช่หรือไม่ครับ

    ดังนั้นขอถามย้อนกลับไปว่า

      1. คุณคิดว่า ถูก หรือ ไม่ถูก  ก่อนครับ
      2. ถ้าถูก ก็ ต้องยอมรับ สิ่งที่เขาพูด ว่าถูก
          แต่การยอมรับ นี้เป็นการยอมรับ ธรรมะว่าถูก แต่ไม่ใช่ว่า ยอมรับพฤติกรรมของผู้พูดว่าจะถูก เพราะทุกวันนี้ มีการใช้พระธรรม เป็นเครื่องมือหากินอยู่รอดกันมากมาย ต่างวิธีการไป เช่นพระบางรูปแสดงธรรมได้ไพเราะหมดจด ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามที่ตนเองพูดสอนก็มีครับ เป็นต้น
         ดังนั้น ถูก คือการยอมรับ ว่าพระธรรม ถูก ไม่ใช่ยอมรับ ผู้พูดว่า มี พฤติกรรมที่ถูก นะครับ
      3.ถ้าไม่ถูก ให้อธิบายให้ฟังหน่อย ครับว่า ไม่ถูกอย่างไร ครับ

     มาร่วมสนทนาด้วยนะครับ

     :s_hi: :49:
     
   


    เห็นด้วยครับ เพราะผมเองก็อยากถกประเด็น เรื่อง ที่พูดถูกหรือผิด ก่อนนะครับ

    การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

      1. คำตอบ ก็ คือ ไม่ถูก  ทั้งหมด อาจจะถูกเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ นะครับ ไม่ใช่ปฏิเสธว่า ไม่ถูกเสียทั้งหมด
      2. คำตอบ คือ ไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับ เพราะขัดกับหลักการของธรรม คือ ผู้ที่ถึงธรรม ควรเข้าถึงการละกิเลส การละสิ่งเสพติด ก็ควรเป็นส่วนหนึ่งของการละกิเลส ครับ
      3. การปฏิบัติที่แท้จริง นั้น ต้องผ่านไปเป็นลำดับ มีการเข้าถึงไปตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา ภูมิธรรมไปตามลำดับ การบรรลุธรรม ก็ต้องเข้าผ่านไปตามลำดับ การผ่านตามลำดับ ก็คือ ภาวนาและปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ดังนั้น จะกล่าวว่าไม่มี เลยไม่ได้ เพราะรูปนามที่เป็นกายขันธ์ ก็ยังมีอยู ที่ไม่มีเป็นเพียงแต่การบรรลุธรรม ที่เรียกว่า คลายอุปาทาน ความยึดมั่น ถือมั่น ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ซึ่งจากการศึกที่เว็บนี้มาระดับนี้เรียกว่า พระโสดาบัน เท่านั้น

       ก็เบื้องต้นเท่านี้นะครับ ดังนั้น ขอท่านผู้รู้ทุกท่าน ชี้นำกันต่อนะครับ

   :c017:     
บันทึกการเข้า

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

    เห็นด้วยครับ เพราะผมเองก็อยากถกประเด็น เรื่อง ที่พูดถูกหรือผิด ก่อนนะครับ

    การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

      1. คำตอบ ก็ คือ ไม่ถูก  ทั้งหมด อาจจะถูกเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ นะครับ ไม่ใช่ปฏิเสธว่า ไม่ถูกเสียทั้งหมด
      2. คำตอบ คือ ไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับ เพราะขัดกับหลักการของธรรม คือ ผู้ที่ถึงธรรม ควรเข้าถึงการละกิเลส การละสิ่งเสพติด ก็ควรเป็นส่วนหนึ่งของการละกิเลส ครับ
      3. การปฏิบัติที่แท้จริง นั้น ต้องผ่านไปเป็นลำดับ มีการเข้าถึงไปตามลำดับ เริ่มตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา ภูมิธรรมไปตามลำดับ การบรรลุธรรม ก็ต้องเข้าผ่านไปตามลำดับ การผ่านตามลำดับ ก็คือ ภาวนาและปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ดังนั้น จะกล่าวว่าไม่มี เลยไม่ได้ เพราะรูปนามที่เป็นกายขันธ์ ก็ยังมีอยู ที่ไม่มีเป็นเพียงแต่การบรรลุธรรม ที่เรียกว่า คลายอุปาทาน ความยึดมั่น ถือมั่น ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ซึ่งจากการศึกที่เว็บนี้มาระดับนี้เรียกว่า พระโสดาบัน เท่านั้น

       ก็เบื้องต้นเท่านี้นะครับ ดังนั้น ขอท่านผู้รู้ทุกท่าน ชี้นำกันต่อนะครับ

   :c017:     

     1. ดังนั้นจะเห็นว่า ประเด็น จริง ๆ คือ ผู้ถามเห็นว่า ถูกก็มีส่วนหนึ่ง แต่ไม่ถูกทั้งหมด จากที่ผมอ่านข้อความ ก็คือ
      การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเพียง สุญญตา คือ ความว่างเปล่าเท่านั้น ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี .... และ ก็ไม่มี ...

    ขอถอดประเด็น ดังนี้ ครับ

   1.  การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
   2.  ทุกอย่างเป็น สุญญตา คือความว่างเปล่า เท่านั้น
   3.  ในที่นี้ความว่างเปล่า ยกตัวอย่างว่า ไม่มีศาสนา ไม่มีพุทธ ไม่มี และก็ไม่มี
 
   ผมจับ 3 ประเด็นนี้ ก็ยังไม่ได้ขอตอบ หรือ ถูก หรือ ผิด แต่ขอแสดงความเห็น ไปตามหัวข้อนะครับ

       1.  การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
          อันนี้ไม่น่าจะใช่ การปฏิบัติ ก็คือ การทำตามอริยะมรรค มีองค์ 8 ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ ครับ ดังนั้นกล่าวว่าการปฏิบัติแท้จริง ไม่มีอะไรทั้งสิ้นนั้นเป็นคำพูดที่ยังไม่ถูก เพราะการปฏิบัติที่แท้จริงต้องประกอบ ด้วย สัมมาทิฏฐิ เป็นต้น สัมมาสมาธิ เป็นที่สุด

        2.ทุกอย่างเป็น สุญญตา คือความว่างเปล่า เท่านั้น
           อันนี้ผมว่า เป็นหลุดโลก แบบโลกียะวิสัย เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่ เข้า ใจ อรูปกรรมฐาน เป็น นิพพานกัน เช่น เวิ้งว้างว่างเปล่า หาประมาณมิได้ ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ไม่มีอะไรใด ๆ เลย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ อากาสนัญจายนะฌาน อากิญจัญญาตนะฌาน วิญญานัญจายตะฌาน และ เนวนาสัญญายตะฌาน ซึ่ง อรูปฌานทั้ง 4 ให้ความรู้สึกต่อจิตว่า ไม่มีอะไร เป็นเพียงแต่ความเปล่า ซึ่ง ไม่ใช่ความหมายของคำว่า สุญญตา

          สุญญาตา เป็นผล จากการที่จิตเห็นธรรม ทั้งหลายทั้งปวง ว่าเป็น อนัตตา
          การเห็นว่าเป็น อนัตตา คือ ตา เห็ฯ รูป สักว่า นั่นคือรูป ว่างจากเรา ว่างจากของเรา ว่างตัวตนของเรา เป็นต้น การเห็นว่าเป็นสักว่า ไม่ใช่เรา คือ คลายยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นเรา ของเรา ทางจิตอย่างนี้

        3.พระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสว่า เราเป็นพุทธะ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า เราไม่ได้เป็นอะไร ตลอด 45 ปี พระองค์ตรัสเรียกพระองค์ว่า ตถาคต สัมมาสัมพุทธะ พุทธะ ศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย ครูผู้สอนเทวดาและมนุษย์ ดังนั้นจะป่วยการไปกล่าวกับบุคคลที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ว่าเราไมได้เป็นอะไร นั้นทำไม เพราะทุกคนเป็นตามที่ควรจะเป็น เพราะความเป็น นั้นเป็นสัจจะ แต่ภายในความไม่เป็นไม่ต้องกล่าวเพราะมองไม่เห็น ต้องภาวนาเท่านั้นถึงจะเห็น นะครับ

      ก็คงช่วยในคำตอบได้ไม่มาก ก็ขอให้ท่านผู้รู้ท่านอื่นมาแสดงเหตุผลกันต่อไปนะครับ

    :s_hi: :49:

บันทึกการเข้า

nippan55

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


       1.  การปฏิบัติแท้จริง ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
          อันนี้ไม่น่าจะใช่ การปฏิบัติ ก็คือ การทำตามอริยะมรรค มีองค์ 8 ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ ครับ ดังนั้นกล่าวว่าการปฏิบัติแท้จริง ไม่มีอะไรทั้งสิ้นนั้นเป็นคำพูดที่ยังไม่ถูก เพราะการปฏิบัติที่แท้จริงต้องประกอบ ด้วย สัมมาทิฏฐิ เป็นต้น สัมมาสมาธิ เป็นที่สุด

        2.ทุกอย่างเป็น สุญญตา คือความว่างเปล่า เท่านั้น
           อันนี้ผมว่า เป็นหลุดโลก แบบโลกียะวิสัย เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่ เข้า ใจ อรูปกรรมฐาน เป็น นิพพานกัน เช่น เวิ้งว้างว่างเปล่า หาประมาณมิได้ ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ไม่มีอะไรใด ๆ เลย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ อากาสนัญจายนะฌาน อากิญจัญญาตนะฌาน วิญญานัญจายตะฌาน และ เนวนาสัญญายตะฌาน ซึ่ง อรูปฌานทั้ง 4 ให้ความรู้สึกต่อจิตว่า ไม่มีอะไร เป็นเพียงแต่ความเปล่า ซึ่ง ไม่ใช่ความหมายของคำว่า สุญญตา

          สุญญาตา เป็นผล จากการที่จิตเห็นธรรม ทั้งหลายทั้งปวง ว่าเป็น อนัตตา
          การเห็นว่าเป็น อนัตตา คือ ตา เห็ฯ รูป สักว่า นั่นคือรูป ว่างจากเรา ว่างจากของเรา ว่างตัวตนของเรา เป็นต้น การเห็นว่าเป็นสักว่า ไม่ใช่เรา คือ คลายยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นเรา ของเรา ทางจิตอย่างนี้

        3.พระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสว่า เราเป็นพุทธะ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า เราไม่ได้เป็นอะไร ตลอด 45 ปี พระองค์ตรัสเรียกพระองค์ว่า ตถาคต สัมมาสัมพุทธะ พุทธะ ศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย ครูผู้สอนเทวดาและมนุษย์ ดังนั้นจะป่วยการไปกล่าวกับบุคคลที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ว่าเราไมได้เป็นอะไร นั้นทำไม เพราะทุกคนเป็นตามที่ควรจะเป็น เพราะความเป็น นั้นเป็นสัจจะ แต่ภายในความไม่เป็นไม่ต้องกล่าวเพราะมองไม่เห็น ต้องภาวนาเท่านั้นถึงจะเห็น นะครับ

      ก็คงช่วยในคำตอบได้ไม่มาก ก็ขอให้ท่านผู้รู้ท่านอื่นมาแสดงเหตุผลกันต่อไปนะครับ

    :s_hi: :49:

    ขอบคุณมากครับ ที่มาสนทนา ด้วย
         1.การปฏิบัติแท้จริง คือ อริยะมรรค มีองค์ 8  อันนี้พอเข้าใจครับ
         2.แต่ว่า ผู้ที่กล่าวว่า ว่างเปล่า นั้นเป็น อารมณ์ ฌาน 5 - 8 นี้ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะผมเชื่อว่า ผู้ที่พูดกับผมนั้น ไม่ได้ ฌาน อะไรเลยครับ
         3.ข้อที่ สาม อ่านแล้ว เคลียร์ ครับ

       :c017: :25:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถ้าในการปฏิบัติ ไม่มีอะไร  ก็แล้วจะปฏิบัติอะไร 

   น่าจะเป็นว่า ปฏิบัติให้รู้ว่า ที่แท้ จริงๆแล้ว มันไม่ได้มีอะไร

   แล้วก็ที่ว่าไม่มีอะไร รวมถึงตอนนี้ ท่านก็ไม่มีกิเลสแล้วด้วยใช่ไหม ?
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าบรรลุธรรม เรียกว่า พระอรหันต์ ใช่หรือไม่คะ

   พระอรหันต์ ท่านไม่เสพสิ่งเสพติด อย่างกัญชา คะ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
มีสาระ ในการถก ปัญหา และประเด็นมาครับ อนุโมทนา ทั้งผู้ถามและผู้ตอบทุกท่านครับ
ช่วยกันครับ ยังไม่ต้องให้พระอาจารย์ มาออกแรง เถอะครับ ท่านดูแลเว็บ ก็เหนื่อยมากแล้ว ครับ

 อนุโมทนา สาธุ ครับ

  :25: :c017: :49:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา