ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม อยู่สูตร นี้นะครับ  (อ่าน 2409 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


**************************************************
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม

บุคคลคิดแล้วจึงกระทำกรรมด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ

เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ผัสสะเป็นเหตุเกิดแห่งกรรม

ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือ กรรมที่ให้วิบากใน
นรกก็มี กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี เปรตวิสัยก็มี มนุษย์โลกก็มี เทวโลกก็มี

วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามี ๓ ประการ คือ
กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน ๑ กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิด ๑ กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป ๑

ความดับแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ความดับแห่งกรรมย่อมเกิดขึ้นเพราะความดับแห่งผัสสะ

อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล คือ สัมมาทิฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ เป็นปฏิปทาให้ถึงความดับแห่งกรรม

**************************************************
นิพเพธิกสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  บรรทัดที่ ๙๖๑๑ - ๙๗๕๓.  หน้าที่  ๔๑๘ - ๔๒๔
บันทึกการเข้า

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


  พระสูตร นี้ชัดเจนเรื่องสูตร โปรดดูภาพประกอบกันนะจ๊ะ

     ผัสสะ มาจากเวทนา  มี สุข  ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์

     กรรม คือ เจตนา อาศัย กาย วาจา ใจ
            ( อันที่จริง วาจา จัดเป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้ด้วยวัตถุ  แต่อักษร ก็จัดเป็นวาจา เช่นกัน )

     วิบาก ส่งผลให้ตามกรรม

    ที่เห็นได้ คือ สภาวะธรรม ที่เป็นปัจจุบัน ก็คือ กุศลจิตเป็นฝ่ายบวก จิตมีสุข กุศลจิต เป็นฝ่ายลบ จิตมีทุกข์                         

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 01, 2013, 10:54:43 am โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา