ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชมภาพและคลิป ในหลวงเสด็จฯ วัดพระแก้ว  (อ่าน 1823 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ในหลวงเสด็จฯ วัดพระแก้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปวัดพระแก้ว ทอดพระเนตรจิตรกรรมฝาผนัง โดยสมเด็จพระเทพฯ ถวายการบรรยาย พร้อมทรงสักการะพระแก้วมรกต

            เมื่อเวลา 17.31 น. วันที่ 20 เมษายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทอดพระเนตรจิตรกรรมฝาผนังไทยเรื่องรามเกียรติ์ และทรงสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
 
             พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์สูทสีน้ำเงินสดทับฉลองพระองค์เชิ้ตสีฟ้าลายตาราง พระสนับเพลาสีดำ โดยมี รศ.คลินิก นพ.ดิเรก จุลชาต เป็นผู้ถวายการเข็นรถเข็นพระที่นั่ง ส่วน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ฉลองพระองค์สีเหลืองลายดอกไม้ พระสนับเพลาสีเหลืองสด เมื่อเสด็จฯ ถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูศรีรัตน์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนำทอดพระเนตร พร้อมถวายการบรรยายจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบพระระเบียง

 

            จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เข้าสู่พระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พร้อมกับทอดพระเนตรความงดงามภายในพระอุโบสถ ซึ่งประดับตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ตั้งแต่เพดานถึงพื้นกลางห้อง

            นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตในบุษบกทองคำ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ปางสมาธิ แกะสลักด้วยหยกมณีสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ หน้าตักกว้าง 48.3 เซนติเมตร สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร 66 เซนติเมตร และพระพุทธรูปสำคัญอีกจำนวนมาก

 

             จิตรกรรมฝาผนังของไทยส่วนมากเป็นพุทธประวัติ หรือทศชาติชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชาติปางก่อนของพระพุทธเจ้า ก่อนจะเสวยชาติเป็นกษัตริย์ และเสด็จออกผนวชจนตรัสรู้ ซึ่งการเขียนเรื่องราวดังกล่าวมักจะเขียนเป็นพุทธบูชา เพื่อให้ชาวพุทธทราบความเป็นมาของพระศาสดา แต่สำหรับภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ ที่มีเค้าโครงเรื่องราวเดิมจากรามายณะ อันเป็นวรรณคดีเก่าแก่ของอินเดีย

            เขียนครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ที่ทั้งสองพระองค์ทรงทำศึกต่อสู้กับพม่า เมื่อเริ่มสถาปนากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นราชธานีใหม่ๆ และสงครามครั้งใหญ่ๆ ที่ทรงเอาชนะได้ด้วยพระปรีชาสามารถ และความกล้าหาญ เช่น สงครามเก้าทัพที่ทุ่งลาดหญ้า


             ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ เนื่องจากภาพจิตรกรรมฝาผนังบางส่วนเริ่มชำรุด และซ่อมใหญ่อีกครั้งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และเพื่อเป็นการรักษางานจิตรกรรมฝาผนังไม่ให้สูญหาย กรมศิลปากรจึงทำการซ่อมครั้งใหญ่อีกครั้งเมื่อปี 2514 ตามหลักวิชาการสมัยใหม่ เพื่อให้ภาพจิตรกรรมคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศไปอีกยาวนาน และงดงามเป็นเอกลักษณ์ของภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบเก่าของไทยไว้ดังเดิม
 
             ในปี 2523 ก่อนจะมีการสมโภชพระนครครบ 200 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแม่กองอำนวยการในโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อให้มีความสวยงาม แข็งแรง และอนุรักษ์แบบแผนประเพณีไทยไว้ให้เป็นมรดกของชาติ ซึ่งทรงเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพระองค์แรกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ทรงรับพระราชกิจอันยิ่งใหญ่นี้
 



            สำหรับภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ได้เขียนเรียงร้อยต่อกันตลอดฝาผนังทั้ง 4 ทิศ จำนวน 178 ห้อง และแต่ละห้องจะมีโคลงสี่สุภาพจารึกบนแผ่นศิลาตามเสาอธิบายภาพประกอบ มีโคลง 4,984 บท นับว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีโคลงเล่าเรื่องเป็นคำกลอน และโครงที่เสาแต่ละต้น รวมทั้งมีภาพซึ่งเป็นเกร็ดแทรกของเรื่อง เช่น นารายณ์อวตาร นารายณ์อิศวร กำเนิดพาลี และยังมีภาพยักษ์ เช่น กุมภกรรณ ทศคีรีวัน ทศคีรีธร ตามประตูทางเข้าทั้ง 7 ประตูด้วย


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.komchadluek.net/detail/20120420/128402/ในหลวงเสด็จฯวัดพระแก้ว.html#source_video
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2012, 09:26:45 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ