ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเจริญ รูปฌาณ4 ชื่อว่าได้เจริญ กายคตาสติ  (อ่าน 1720 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
   เรียงลําดับพระกรรมฐานอันนับเนื่องใน  กายคตาสติ  เป็นกายานุปัสสนาสติกรรมฐาน
            พระพุทธเจ้า ตรัสว่า การเจริญอานาปานสติ ชื่อว่าได้เจริญกายคตาสติ
            พระพุทธเจ้า ตรัสว่า การเจริญอาการสามสิบสอง ชื่อว่าได้เจริญกายคตาสติ
            พระพุทธเจ้า ตรัสว่า การเจริญธาตุดิน นํ้า ลม ไฟ ชื่อว่าได้เจริญกายคตาสติ
            พระพุทธเจ้า ตรัสว่า การเจริญอสุภกรรมฐาน ชื่อว่าได้เจริญกายคตาสติ
            พระพุทธเจ้า ตรัสว่า การเจริญรูปฌาณ4 ชื่อว่าได้เจริญกายคตาสติ
                  เพราะเป็นพระกรรมฐาน ต่อเนื่องในอานาปานสติ จัดเป็น (กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
                   ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนหม้อกรองนํ้า มีนํ้าเต็มเปี่ยมเสมอขอบปากพอที่กาจะดื่มกินได้ อันเขาตั้งไว้บนเครื่องดองทันใดนั้น มีบุรุษมาถือเอาเป็นเครื่องตักนํ้า
                   ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสําคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นจะพึงได้นํ้าเก็บไว้หรือหนอ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุไรๆ ก็ตามเจริญกายคตาสติแล้ว ทําให้มากแล้ว มารย่อมไม่ได้ช่อง ไม่ได้อารมณ์
                    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไรๆก็ตาม เจริญกายคตาสติแล้ว ทําให้มากเเล้ว เธอย่อมเป็นผู้มีความสามารถในธรรมที่ควรทําให้แจ้ง ด้วยความรู้ยิ่ง อันเป็นแดนที่ตนน้อมจิตไป โดยการทําให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่งๆนั้นๆได้ ในเมื่อมีสติเป็นเหตุ  ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนหม้อกรองนํ้า มีนํ้าเต็มเปี่ยมเสมอขอบปาก พอที่กาจะดื่มกินได้ อันเขาตั้งไว้บนเครื่องรอง บุรุษมีกําลังมายังหม้อนํ้านั้นๆได้โดยทางนั้นๆหรือ
          ภิกษุ.ได้พระพุทธเจ้าข้า
          พ.ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันภิกษุไรๆ ก็ตามเจริญกายคตาสติแล้วทําให้มากแล้ว เธอย่อมถึงความเป็นผู้สามารถในธรรมที่ควรทําให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่ง อันเป็นแดนที่ตนน้อมจิตไปโดยการทําให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่ง นั้นๆได้ในเมื่อมีสติเป็นเหตุ
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนสระโบกขรณีสี่เหลี่ยมในภูมิภาคที่ราบ เขาพูนคันไว้ มีนํ้าเต็มเปี่ยมเสมอขอบปาก พอที่กาจะดื่มกินได้ บุรุษมีกําลังเจาะคันสระโบกขรณีนั้นทางด้านใดๆ จะพึงถึงนํ้าทางด้านนั้นๆได้หรือ
         ภิกษุ.ได้พระพุทธเจ้าข้า
             
                         ที่มา..จากหนังสือ หลักปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน
                                 ของ สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)
                                 เรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส คณะ5 วัดราชสิทธาราม
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์