เพื่อผดุง พระพุทธศาสนา ป้องกันไม่ให้คนชั่ว เผยแพร่ธรรมในทางที่ผิดครับ

 

ขอรหัสด้วยครับ

 

 

จะบูรณะ ก็ต้องมี งบ ครับ ถ้าเอียง ก็ หลายล้าน นะครับ

 

 
  อนุโมทนา สาธุ ด้วย ครับ

 

ถ้าอธิบาย เพิ่มเติม ว่าทำไม แต่ เพื่อ วสี มันรู้สึกสั้นไปนิด ครับ

 คือ คุณประโยชน์ การออกจากสมาธิ ที่ถูกต้อง และ การออกจาก สมาธิ ที่ผิดวิธี มันจะเกิดอะไร ครับ

 

 

ผมว่า อ่านเรื่อง อื่น ๆ ในบอร์ดไปก็ได้ นะครับ
เพราะผมอยากให้พระอาจารย์ ปล่อยวิชากรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ให้หมดครับ
ยิ่งอ่าน ยิ่งลึกซึ้งครับ

    

 
 พี่เอก เรา กล่าวถูกต้อง เลยครับ

 

จะ หนี กรรม พ้น หรือ ไม่ ?

โปรดติดตาม ตอนต่อไป ......


 

 

  น่าจะเป็น บุญ คนละแบบ นะครับ
  ไปร่วมงานบวช เป็น บุญแบบ อนุโมทนา ที่เห็นเขาทำความดี
   อันนี้จำกัดกาลเวลา   

  บุญจากการภาวนา
  เป็นบุญแบบส่วนบุคคล ไม่จำกัดกาลเวลา

  สรุปแล้ว มากน้อย วัดกันไม่ได้ เพราะระหว่างที่ไปร่วมงานบวช เราก็สามารถ ทำสมาธิภาวนาได้เช่นกันในขณะนั้น เพราะเป็นบุญไม่จำกัดกาลเวลา พิจารณาแล้ว บุญจากการภาวนา ย่อมต้องมากกว่า นั่นเอง

 

พระสารีบุตร ผมว่าเป็น พระบ้านนะครับ
  ท่านนิพพาน ที่บ้าน และไปอยู่บ้าน บ่อย ๆ นะครับ
  เป็น พระอัครสาวก ทีแปลก ๆ ไปอีกรูป คือ ชอบอยู่ กับตระกูล ตามประวัติ ท่านไม่ทิ้งตระกูล เคยอ่านในประวัติพระราหุล กล่าวว่าท่านพาไปหามารดาท่าน จน พระราหุล เรียกว่า ย่า ด้วย

  นี่ขนาดพระอริยะ อัครสาวก ไปโปรดมารดา ก็ตอนที่จะตายจากกัน นะครับ
  อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็คงยากนะครับ
  กล่าวว่า สอนพ่อ สอนแม่ สอนพี่ สอนน้อง สอนญาติ นั้นยากมาก
 
   

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เห็น บทความ ของพระอาจารย์ นะครับ และ ก็ สมาชิก ที่ติดตามกันมา ก็หายไปเลย อย่างคุณ ธลีธวัช เดี่ยวนี้ เลิกแต่งกลอน แล้ว หรือ ครับ

   คิดถึง ทุกท่าน นะครับ
 

นี่แสดงให้เห็นว่า องค์กรสงฆ์ ไม่ได้ดูแล พระที่อาพาธกันเอง นะครับ อันนี้ชัดเจนมาก คือ ถ้าเป็นพระลูกวัดผมได้ยินมาจากวัดใกล้บ้านเรานี่ คือ ไม่ว่าท่านจะมีผลงานช่วยงานวัดขนาดไหนก็ตาม ถ้าป่วยถึงกับขั้นนอนแล้วทำอะไร ไม่ได้แล้ว ก็จะติดต่อเรียกญาตให้มารับตัว โดยให้ลาสิกขาบถ ไปอยู่กับญาติที่ดูแล

    ฟ้งมาแล้วแปลก วัดและพระสงฆ์ ควรจะต้องดูแลกันให้ถึงที่สุด นะครับ หากรูปใดเสียชีวิตสมบัติทุกชิ้นก็เป็นของวัด แต่ทีอย่างนี้ ไล่ลาสิกขาบถ เหมือนหมู เหมือนหมา เป็นวัว เป็นควาย มันแสดงให้เห็นว่า องค์กรสงฆ์จริง ๆ แล้วหา สงฆ์ที่ดีดูแลกันจริง ๆ อย่างที่ว่า แผ่เมตตาไม่ได้

    ดังนั้นผมเลยมองว่า คำสอน พระสงฆ์ปัจจุบันนี้เป็นเพียง คำพูด แต่ไม่สามารถทำได้หรือ ปฏิบัติได้

    น่าช้ำนะครับ ที่เราทราบว่า องค์กรสงฆ์ เป็นอย่างนี้ ....

     

วิชาบาลี วิชาปริยัติธรรม ในสมัย ยุค ร 8 และ ร 9 ต้น ๆ นั้นนับว่าสำคัญ
ถ้าที่ไหน จะรับทำงาน เขาจะให้ พระรับรอง ด้านความรู้

  สมัยนี้ กระทรวงธรรมการ ไม่มี ยุบเป็นกระทรวงศึกศึกษาธิการ แล้วแตกทบวงกรม ออกมาเป็น กรมการศาสนา และ แยกตัวออกมาเป็น พศ. อีก ทำให้ระบบการศึกษา ด้านนี้ไม่มีความหมาย ในด้านการประกอบวิชาชีพ เอาวุฒิ นธ.เอก ปธ 3 ขึ้นไปสมัครงาน บริษัท ต่าง ตลอดถึง ระบบราชการ ไม่รับนะครับ ต่อให้พัฒนา คุณภาพอย่างไร ถ้าไม่เพิ่ม เกรียตคุณ ของ ประกาศนียบัตร เหล่านี้ให้มีความสำคัญเท่ากับ การศึกษาทางโลก แล้ว พัฒนาไปก็อย่างนั้น


  ถ้าหากถามประชาชน จะเรียน บาลี ไปทำไม ก็ตอบได้ว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะการปฏิบัติพื้นฐาน พระสงฆ์ท่านถ่ายทอด กันมากมายอยู่แล้ว ตำหรับตำรา ทางธรรมะ ไปดูที่สนามหลวง เป็นซุ้มนั้น นับว่าเป็นแสน ๆ รายการนะครับ

  ถ้าหากถามพระเณรเถรชี ว่าจะเรียนบาลีไปทำไม ก็ต้องตอบว่า บาลี ทำให้เป็นพระเณรเถรชี อันนี้ใช่ เพราะถ้าไม่สวดญัตติกรรมด้วยบาลี การบวชเป็นโมฆะ ตามบัญญัติ บางทีบวชใช้ภาษาไทยไม่มีบาลี แล้วบอกว่าถูกต้อง ท่านเหล่านั้นต้องไปดูข้อความในพระไตรปิฏก ด้วยนะครับ

  สรุป วิชาทางธรรม บาลี พัฒนาอย่างไร มันก็ใช้แค่ ในวัด ไม่ใช่ประกอบการงานอาชีพได้ ทาง ปกศ. นะครับ แต่อาจจะใช้ทาง พฤติกรรม ควบคุมให้เป็นคนดีได้ แต่ใครจะเชื่อ ขนาดนุ่งผ้าเหลืองห่มผ้า ทุกวันนี้ ชาวบ้านก็จะไม่กราบไม่ไหว้กันแล้วนะครับ

   ที่มองเห็นคือ งบประมาณตอนที่ส่งไปถึง ไม่ถึงครูอาจารย์ที่สอน ผมเคยสอนวิชาปริยัติ และ บาลีตอนเป็นพระหลายปี ไม่เคยเห็นเงินเดือนเลย แต่มาทราบจากการข่าวปัจจุบันว่า มีเงินเดือนให้ มีค่าใช้จ่าย ให้กับสำนักเรียน โทษทีนะครับ ขนาดหนังสือเรียน ยังต้องไปขอทางบ้านซื้อเลย

   ผมว่า ตัวพระที่เป็นศูนย์ ปริยัติ ต้องเคลียร์ตัวเอง เรื่องงบประมาณที่ไปถึง การบำรุงขวัญกำลังใจ พระเณร มันจึงไม่มี ให้เกิดเทียบเท่าทางโลก เพราะว่า พรงสงฆ์องค์เจ้าที่ทำสำนักเรียน ก็ไม่ซื่อตรง แถมยังประกาศขอรับบริจาค ๆ ทุกวันพระอีก เห็นแล้ว นึกแล้ว อนาถใจ ครับ เลยไม่อยากทำบุญกับสำนักเรียน แบบเมื่อก่อน

   

พระดี ก็จะลำบาก ขึ้น เพราะการทำวินัย ชื่นชม กับผู้ให้ข้อมูล และ วินยาธิการ ที่ดำเนินเข้าพื้นที่โดยไว

 

ชั่ว ช่าง ชี  ดี ช่าง สงฆ์

  เรื่องของวัด พระ วิจารณ์มั่วกันไม่ได้ เสี่ยงนรก นะครับ เราคนนอกคงต้องได้แต่ดู นะครับ

 

เป็นวิธีแนบเนียน ในการ รู้รหัส บัตรประจำตัวประชาชน พอ ๆ กับ ลงทะเบียน ซิม แต่ ทะเบียน ซิม เห็นด้วยอยู่ เพราะมันจะปรามคนใช้ผิดกฏหมายได้ แต่การที่ อย่าง Dtac ถ่ายสำเนา บัตร เอาไว้นี้ มีความเสี่ยง ในขณะที่ AIS แค่ยืนบัตรแสดง เท่านั้น ที่เก็บสำเนาไว้ มีความเสี่ยงมากจริง ๆ โดยเฉพะา ถ้าเป็นบุคคลที่เอาผลประโยชน์ ทางหมายเลขไปใช้ แล้ว นับว่า น่าเป็นห่วง

 

  อันที่จริง หมู่บ้านศีล 5 ไม่ได้มีความจำเป็นเลย เพราะแต่ไหน แต่ไรก็ไม่เคยมี การมีอย่างนี้ มันทำให้เกิดการแบ่งแยกเพิ่มขึ้นไปอีก นะครับ

   

พระอริยะ หายาก ครับ แต่พระสูตร นั้นต้องการกล่าวว่า

 ผู้มีศีลงาม ดี ก็เหมือนเป็นพระอริยะ

 ผู้มีศีลงดงาม ย่อม ปราศจากธุลี ครับ

 

สรุปแล้วว่า อย่าไปเชื่อเรื่อง ผีสางนางไม้ ภูตผีปิศาจ ว่าไม่มีจริงหรอก
 เอ อย่างไร นี่ ไม่เข้าใจ ว่า ถ้าไม่เขื่อก็คือไม่เชื่อเรือ่ง การตายเกิดจุติเป็นเทวดา พรหม เปตร สัตว์นรก ด้วยหรือไม่ ?

 แล้วไปสวดทำไม ข้ามวัน ข้ามคืนเลยนะ สวดกันมาก 14 ชม. นี่

  ไม่เข้าใจ ....ง
 
   งงงง ง ง ง ง ง  ง ง

 

เข้าใจที่คุณ bajang แสดงความเห็นนะครับ
  การใช้ของ แบรนด์เนม ไม่น่าจะทีจะต้องถูกตำหนิ นะครับ เพราะว่า มันเป็นของดี เกรดดี ก็ย่อมเหมาะแก่สงฆ์จะได้ใช้กันนาน ๆ ไป ไม่ใช่ ใช้แป๊ปเดียวแล้วต้องซื้อกันใหม่อีก

   

เรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่ถูกปรามลงไป ตอนนี้ จะมีเยอะกว่านี้ นะครับ บรรดาพวกพลังพิเศษ ทั้งเก๊ และ แท้ มันก็ดูยาก อยู่เหมือนกัน
 
   มันต้องดูกันนาน ๆ ครับ ถึงจะรู้ว่า เป็นอย่างไร เห็นอย่างไร ?
 
   

เมื่อกี้ได้อ่าน ข้อความสร้างสรรค์ธรรมผลิตคนผลิตสื่อทางด้านปัญญา ของเสถียรธรรมสถาน แต่ผมก็เลยนึกถึง ที่นี่พระอาจารย์ก็กำลังต้องการจัดสรรค์ สร้างสถานธรรมที่เรียกว่า สื่อแสดงธรรมเผยแผ่ธรรมฉบับเก่า คือในสายกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ถ้าสร้างเส็จคงจะเป็นที่เชิดหน้าชูตา ของศิษย์ในสายนี้อย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนพระอาจารย์ ท่านก็จะลำบากเนื่องด้วย ศิษย์สายนี้มีจำนวนน้อยและ ผู้ที่เข้าถึงในหลักวิชา ก็มีน้อย ดังนั้นการสร้างธรรมสถา่นแห่งนี้ เท่าที่มองดูแล้ว ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะเริ่มสร้าง แม้ขณะนี้ ผมจับตามองมาทั้งหมดเป็นเวลาครึ่งปีแล้วก็ยังไม่รู้่เลยว่า จะสร้างที่ไหนและจะเริ่มเมือ่ไหร่

  น่าเสียดาย จริง ๆ ที่ กรรมฐาน สายนี้ หาผู้สนับสนุนได้น้อยมาก ๆ

   

 

  อย่างน้อย เสถียรธรรมสถาน ก็ยังเป็นที่พึ่งพา ทางจิตได้สำหรับคนที่ไม่เอาอะไรได้ นับว่าเป็นสถานที่ผลิตสื่อธรรม สร้างสั่งสอน ธรรมด้วยดี นับว่าเป็นสถานธรรมทีเน้นเรือ่งของปัญญา ตามแบบฉบับสวนโมกข์อีกที่หนึ่ง

   บางครั้ง การใช้ปัญญา มองเห็นแง่มุม แล้วนำมากระทบกับชีวิต ก็จะเห็นว่า บางครั้งสิ่งที่ทำลงไปทุกวันมันเป็นเรื่องไร้สาระ

  แต่อย่างไร ผมก็ชอบที่เว็บนี้ มากกว่านะครับ เพราะปิดทองหลังพระจริง ๆ ธรรมะที่นี่เหมือนสาธารณะ สามารถเข้ามากอบโกย ตักตวงเอาไปใช้อ่าน ศึกษา ภาวนา โดยไม่ต้องระวัง ความหวงแหนแต่ใด ๆ ในวิชาทั่วไป ยกเว้นเสียแต่ ห้องบอร์ดลับเฉพาะศิษย์ ( อันนี้เข้าใจนะครับ )

   

 

  สุขของคฤหัสถ์ มี สี่ อย่าง

 

 
  อ่านแล้ว รู้สึก ซาบซึ้งในความเป็นผู้มีศีล จริง ๆ

   แต่พิจารณาให้ดี แล้ว พระสิวะ ท่านเป็นพระอรหันต์ และมีลูกศิษย์เป็นพระอรหันต์ น่าจะฝ่ายเจโต ด้วย เพราะเหาะมาเพื่อล้างเท้าครูอาจารย์ ถึง 30000 รูป ไม่ใช่ธรรมดา
   ขนาดแค่ความคิดของท่าน ยังส่งเสียงไปถึง ศิษย์ในใจ แม้กระทั่ง ท้าวสักกะเทวราช ก็ยังได้ยิน นับว่า เป็นพระอรหันต์ ที่ไม่ธรรมดา ชื่อว่า พระอรหันต์แล้ว ได้อ่านข้อความบางส่วนจาก เว็บนี้ ว่า ผู้เป็นพระอรหันต์ ย่อมถึง กายวิสุทธิเทพ และ กายวิสุทธิเทพนั้น พ้นจากธาตุ เป็นอิัสสระ จากธาตุ ทั้งห้า เป็นเพียงสุญญธาตุ ดังนั้นกายพระอรหันต์ บางครั้งก็มีความพิศดารไม่ได้เป็นที่ลำบากแก่ เหล่าเทวดา เพราะเหล่าเทวดา นั้นย่อมหวังในบุญกุศลที่ทำต่อพระอรหันต์ทั้งนั้น

   ดังนั้นในการนี้ ท้าวสักกะ มาชิงบุญไปก่อน

   คงไม่ใช่แค่เรื่องกลิ่นศีล หรอก สำหรับพระอรหันต์ เป็นเพียงสำนวนของท้าวสักกะเท่านั้น แต่ท่านเป็นพระอรหันต์ ย่อมเหนือกว่าศีล กลิ่นแห่งพระอรหัตผล ย่อม เหนือกว่านั่นเอง

   

เก้าสัมผัส (จ้อง)   เก้ากระทบ ( จับ ) เก้าฐานจิต ( แจ้ง )
  เดานะครับ อันนี้ คือ วิชา นวหรคุณ
         
เก้านิมิต (บ่อเกิด ) เก้าธาตุ (บ่อแปลง )  เก้านฤดล ( บ่อใช้)
  เดานะครับ อันนี้ คือ ธาตุ พุทธคุณ 108 พุทธคุณฝ่ายศีล พุทธคุณฝ่ายสมาธิ พุทธคุณฝ่ายปัญญา

เก้าดวงแก้ว (แสง ) เก้าชั้นธรรม ( สว่าง ) เก้ามรรคผล ( สงบ )
  เดานะครับ  อันนี้คือ นิมิต 3  ธาตุนิมิต แสงสว่าง 9 สี ปฎิภาคนิมิต 9 แสงสว่างใน ฌาน 9 ดวง
    ปฐมมรรค จบ จตุตถผล 9 ดวง

เก้ากมล (วิจยะ ) เก้าแห่งญาณ ( วิจารณัง ) เก้าสัจจ์  ( วิมุตติ )
   เดานะครับ  มานานุสัย 9 ประการ  อวิชชานุสัย 9  และ ก็ วิมุตติ 9 ประการ

  ถูกผิดอย่างไร ไม่รู้ จำได้ว่า เคยฟังพระอาจารย์ เรื่องนี้ มี 5 ตอน ผมผสมความเข้าใจ ที่ฟัง 5 ตอนแล้วยังคิดอยู่วิชา ล้ำลึกอย่างนี้ต้องเข้าหาครูอาจารย์ เท่านั้นแหละถึงจะก้าวหน้าได้ ปฏิบัติลำพัง มีได้แต่ไม่รู้จริง

  ยอมรับความรุ้ทางธรรมกรรมฐาน ที่พระอาจารย์บรรยายนั้น ไม่เคยได้ฟังที่ไหน ๆ บรรยายได้เท่าแล้วครับ

 

  ผิดถูกอย่างไร อภัยให้ด้วยนะครับ ทั้งหมดแค่การเดาจากการได้ฟังธรรมทางสถานี ครับปกติผมจะเปิดหน้าเว็บมัชฌิมา ไว้ตลอดทั้งวันครับ แล้วก็ใช้งานเว็บอื่นไป เปิดฟังเสียงไว้ทั้งวันมันจึงทำให้ผมมีโอกาสได้ฟัง ในขณะที่ทำงาน และพักผ่อนไปด้วย ผมชอบฟังรายการธรรมะ ถึงแม้จะมีซ้ำแต่ยิ่งฟัง ยิ่งเพิ่มนะครับ

   ขอบคุณ ทีมงาน มัชฌิมา สระบุรี ด้วยครับ

 

  ถ้ามีคนตอบ

ก็ไม่ไกล นะ แต่ ก็ไม่ใกล้ นะ จาก ราชวิถี ไป จุฬา ก็รถติดกันยัวะเยียะ นะ แถวมาบุญครอง ถ้าไปรถไฟฟ้า ก็ต้องเดินใน จุฬา อีก ไม่รู้อยู่ตรงไหน

   

 

เห็นรูปภาพเครื่อง ทั้งในเฟค แล้ว ต้องบอกว่า คนจัด spec ยอดเยี่ยมครับ ไม่ใช่ ว่ามีเงิน แล้วจะได้เลิศนะครับ ผมเคยไปซือ้ ในราคาใกล้เคียงกัน เป็นของมียี่ห้อ เวลาอัพเกรด ยกเครื่องไป ช่างที่ร้านบอกว่า เปลี่ยนหลายอย่างเลย ตั้งแต่ power mainboard แถม Ram ก็ต้องเปลี่ยนอีก หลัก ๆ หัวใจอยู่ที่ mainboard ถ้าเลือกผิดก็ไปเลย เสียสูญ ครับ

   สำหรับ ในที่นี้ ทีมงาน ยอดเยี่ยมมาก เลือก mainbaord ระดับ Grade A สาย Home และ Northchip เป็น Z97 ultra ซึ่งมีความสามารถ เรื่องใส Ram ได้ทุกขนาด ถึง Bus 2600 เลย แถม VGA ทำ Crossfire ได้ด้วย อีก สุดยอดมาก

   

 

 

 

 

 

 

ถ้าเกี่ยวกับ เรื่อง การฟัง ปริยาย ขึ้นธรรม แล้วนั่งพับเพียบ พนมมือ ไม่ทราบว่า ต้องใส่ความอดทน กันเต็มขั้นเลยใช่ไหมครับ สลับขาได้หรือไม่ ครับ เพราะพอเวทนา มันเกิดขึ้นมาก รู้สึกฟังปลาย ๆ ไม่รู้เรื่อง คือไม่ได้ฟัง ครับ