ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบบทขอขมากรรมและถอนคำอธิษฐานและคำสาปแช่ง ?  (อ่าน 2073 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

อาราม นิวส์ FACEBOOK

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 133
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อยากทราบบทขอขมากรรมและถอนคำอธิษฐานและคำสาปแช่ง ?
อยากทราบว่า ต้องกล่าวว่าอะไรบ้าง ?
บันทึกการเข้า
.              ร่วมรณรงค์ รักษาศาสนา ไม่ส่งต่อ ข่าวเสีย พระสงฆ์ไทย   
                                     คงไว้ แต่ข่าวดี ๆ
ติดตาม ข่าวสารดี ๆ ของพระสงฆ์ไทย ได้ที่ "อาราม นิวส์" ข่าวพระ ได้ทางเฟสบุ๊ค

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าจะต้องแยกประเด็น

  ขอขมา  แสดงว่า เราล่วงเกินผู้อื่น
  อธิษฐาน แสดงว่า เราได้อธิษฐาน กล่าวคำสัจจะ ความตั้งใจ บางอย่าง ที่จะทำจริง ๆ
  คำสาปแช่ง แสดงว่า เรามีความพยาบาท ผูกเวร จึงได้พูดวาจา แดกดันผูกเวร เพื่อที่จะให้ผู้ที่เราผูกเวร ตกต่ำ หรือพินาศย่อยยับ
 
   อันนี้เป็นส่วนเกี่ยวกับตัวเรา เกิดจากเรา

  ขอขมา หมายถึง การขอโทษ ละเว้นจากโทษ
  อธิษฐาน หมายถึง การกล่าวคำสัตย์ และ ปฏิบัติตามคำสัตย์
  สาปแช่ง หมายถึง การกล่าวคำพูด เพื่อให้อีกฝ่าย ตกต่ำ

 ขอขมา มีหลายรูปแบบ ตามฐานะ
 
   ขอขมา ต่อ เพื่อน
   ขอขมา ต่อ พ่อแม่
   ขอขมา ต่อ ญาติ ผู้ใหญ่
   ขอขมา ต่อ พระรัตนตรัย
   ขอขมา ต่อ ผู้ผูกเวร
   ขอขมา ต่อ ผู้เป็นนาย
   ขอขมา ต่อ ผู้เป็นบ่าว
   ขอขมา ต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มี ภูต สัมภะเวสี เทวดา เป็นต้น
   
   แบบไหนคือ แบบที่ต้องการ....
   หลัก ๆ ก็คือกล่าวคำพูด ที่ออกมาจากใจ ด้วยความสำนึกว่า เราผิด และ จะไม่ทำอีกต่อไป ก็ประมาณนั้นแหละ แต่คำพูดจะสละสลวย แบบไหน ก็ลองเรียบเรียง กันตามความเหมาะสม
 
 
   
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st11
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ