ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว  (อ่าน 4941 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

เฉินหลง

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 153
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว

ถ้าคุณจับหลักให้ถูก และทำให้เป็นสมาธิจริง ๆ สัก 3 นาที ก็มีผลแล้วครับ 5 นาที ก็ได้กำลังดี

ถ้าเราทำสมาธิแม้เพียง 5 นาทีแบบถูกต้อง ก็เหมือนกับ รีเซตสมอง เกิดความสดชื่นรวมจิตใหม่ขึ้นมาได้ไม่น้อยเลย

ผม สังเกตในสมัยที่ผมอ่านหนังสือเรียน จะมีบางช่วงที่เราคิดว่า อ่านไม่ไหวแล้ว อ่านไปก็ไม่เข้าหัว  อย่างน้อยต้องนอนก่อนคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยอ่านใหม่  จากการที่คิดว่าเราจะนอนก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อนั้นเพราะอ่านไปก็ไม่ เข้าหัวแล้ว ถ้าเราทำสมาะิแค่เพียง 5 นาทีก็มีผลเท่ากับเรานอนไปแล้วหนึ่งคืนเลยทีเดียวในเรื่องนี้ สามารถกลับมาอ่านต่อได้แบบการเริ่มต้นใหม่เลยทีเดียว

ทีนี้การทำ สมาธินั้น อย่างน้อยเราต้องตั้งความมุ่งหมายไว้ก่อนทำสมาธิ ว่าเราจะทำสักเท่านั้นเท่านี้นาที คือเปรียบเหมือนวางแผนไว้ก่อนทำ  อย่าทำแบบเลื่อนลอยคืออยากจะทำก็ทำและไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำสักกี่นาที กันแน่ แบบนี้พอไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พอเริ่มมีอกุศลเข้ามากระตุ้น เช่น ง่วง เหงา หาวนอน ก็จะเบื่อหน่ายแล้วพลันจะวางเป้าหมายเดิมไป


อย่าง ไรก็ตาม จะเปลี่ยนมาเป็นการสวดมนต์ให้มากขึ้นก็ได้ การสวดมนต์ เพื่อให้ได้ประโยชน์ในทางสมาธิด้วยในทางสติด้วยก็ได้  ก็เอาสติสมาธิรับรู้คำที่บริกรรมนั้น ไม่ว่าจะบริกรรมออกเสียงหรือบริกรรมในใจก้ได้ทั้งนั้น  หากเมื่อก่อนเราบริกรรมไปแบบนกแก้วนกขุนทองคือท่องตามความจำ    มาตอนนี้เปลี่ยนใหม่คือให้ใส่ใจมากขึ้น เอาสติไปจับในคำก็ได้ ในเสียงก็ได้ ในความหมายก็ได้ หรือในจังหวะการขยับปากก็ได้  คือเราสามารถฝึกสติหรือสมาธิกับกริยาใดๆของร่างกายหรือของจิตเราก้ได้ ตรงนี้จะมีประโยชน์มากครับ

เช่นเราท่องชิณบัญชร เราก็เอาสติไปจับที่คำที่เราท่อง หรือจับที่ความหมายก็ได้ ตรงนี้มันทำกันยาก ก็ทำได้ถือว่าเริ่มมีพัฒนาการด้านสติที่ดีขึ้นแน่นอนครับ เพราะหลายๆคนเคยทำมาอย่างนี้ นอกจากจะได้ผลตามอนิสงค์แห่งการสวดแล้ว ที่เป็นผลที่เห็นชัดเจนจริงๆคือ  ได้ผลด้านสติ และแน่นอนสมาธิก็จะมาควบคู่กันด้วย

การใช้สติมาจับเมื่อสวด ดร.บุญชัย เจ้าของโรงเรียน FAST ENGLISH สอนแนะนำเป็นประจำ ซึงท่านก็เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากคนหนึ่งเลยทีเดียว


จากคุณ : มังกรจักรวาล

บันทึกการเข้า

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เึคยได้ยินมาว่า จิตเป็นสมาธิ แค่ ชั่วแล่น ของ ขณิกะสมาธิ ก็มี สวรรค์ เป็นที่พึ่งได้เลย

ก็คงจะเป็นอย่างที่ จขกท. กล่าวไว้

 แต่มีพระสูตร ยืนยัน คำพูดนี้บ้างหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้า ทรงตรัสอานิสงค์ แสดงไว้อย่างนี้

  :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
เึคยได้ยินมาว่า จิตเป็นสมาธิ แค่ ชั่วแล่น ของ ขณิกะสมาธิ ก็มี สวรรค์ เป็นที่พึ่งได้เลย

ก็คงจะเป็นอย่างที่ จขกท. กล่าวไว้

 แต่มีพระสูตร ยืนยัน คำพูดนี้บ้างหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้า ทรงตรัสอานิสงค์ แสดงไว้อย่างนี้

  :25:



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต


เวลามสูตร


[๒๒๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

          พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดีในตระกูลของท่าน ยังให้ทานอยู่บ้างหรือหนอ ฯ


...ฯลฯ.........ฯลฯ............ฯลฯ...

         ดูกรคฤหบดีทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่ามหาทานที่เวลามพราหมณ์ให้แล้ว ...


         การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุด แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท คือ

         งดเว้นจากปาณาติบาต ... และการที่บุคคลเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลาลัดนิ้วมือมีผลมากกว่าการที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดมของหอม ฯ



อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  บรรทัดที่ ๘๓๓๖ - ๘๔๑๖.  หน้าที่  ๓๖๐ - ๓๖๓.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=8336&Z=8416&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=224
ขอบคุณภาพจากwww.dmc.tv


   ผมจะไม่วิเคราะห์  ขอให้เพื่อนๆที่สนใจวิเคราะห์กันเองนะครับ
   "สมาธิเป็นบาทฐานของ การเจริญเมตตาและการเจริญวิปัสสนา"


     ;) :25: :49: :welcome:


        ลิงค์แนะนำ
   สมาธิชั่ว "ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5045.msg18351;topicseen#new
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 31, 2011, 12:36:10 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ถือว่าเป็นกุศลใหญ่หลวงแล้ว
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2011, 09:49:03 am »
0
สมาธิ แค่เพียงนาทีเดียว ก็มีประโยชน์ เพราะเป็น กุศลจิ

 จะเสี้ยว จะวินามี ก็มีผลดีทั้งนั้น เพราะถ้ามีสมาธิ แสดงว่าอยู่ ฝั่ง สุขสมาธิ นะจ๊ะ เป็นกุศลที่ดี
 
 แต่จะให้ดี ให้มีทั้งวันทั้งคืน ก็จะดีมาก ๆ นะจ๊ะ

 เจริญพร

  ;)
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
แล้วอย่างนี้ การนั่งปฏิบัติกรรมฐาน

      ควรจะนั่งนานแค่ไหน ?

      นั่งนานแค่ไหนถึงจะเป็นการดี ?
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
นั่งนานแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า นั่งเท่าเดิม
 แต่ฝึกไปจนกว่าจะปราศจาก ปีติยุคล
 ฝึกให้เข้าสุขสมาธิ
 ก็ต้องค่อยคืบไป
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา