ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การแยกทุกข์ออกจากสุข ให้เหลือเฉพาะสุุขคงทําได้ยาก แต่มีตัวอย่าง ท่านที่สําเร็จ  (อ่าน 1552 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ดังนี้ ...ดูก่อนอานนท์เราตถาคตจักแสดงในข้ออันเป็นที่สุดแต่โดยย่อๆ พอให้เข้าใจง่าย ที่สุดก็คือ จิตต์ กับ ตัณหา จิตต์นั้นจําแนกออกไปเรียกว่ากองกุศล คือกองสุข ตัณหานั้นจําแนกออกไปเรียกว่ากองอกุศล คือ กองทุกข์ ต้นเง่าเค้ามูลแห่งทุกข์นั้น ก็คือจิตต์และตัณหานี้เอง จิตต์เป็นผู้คิดให้ได้เป็นสุขมีขึ้น ส่วนตัณหานั้นก็ได้เกิดตามเห็นตาม (จิตต์มีความสุขมากขึ้นเท่าใด ตัณหานั้นก็ได้เกิดทุกข์ตามมากขึ้นเท่านั้น)....ดูก่อนอานนท์ แต่เบื้องต้นเมื่อเราตถาคตยังไม่รู้แจ้ง ว่าสุขและทุกข์ติดอยู่ด้วยกัน เราก็ถือเอากุศลจิตต์อันเดียวหมายจักให้เป็นสุขอยู่ทุกเมื่อ ส่วนทุกข์จักไม่ให้มีมา ก็ตั้งหน้าบําเพ็ญกุศลจิตต์เรื่อยไป เมื่อได้สุขเท่าได ทุกข์ก็พลอยเกิดมีเท่านั้น ครั้นภายหลังเราพิจราณาด้วยญาณจักษุปัญญาและเห็นแจ้งชัดว่า สุขและทุกข์ติดอยู่ด้วยกัน ครั้นรู้แจ้งแล้วก็ตรึกตรองหาอุบายที่จะกําจัดสุขและทุกข์ ให้พรากจากกันนั้นแสนยากแสนลําบากเหลือกําลังจนสิ้นปัญญาหาทางไปมามิได้ (เราตถาคตจวางเสียซึ่งสุขคืนให้แก่ทุกข์ ก็คือวางใจไว้ให้แก่ตัณหา ครั้นเราวางใจไว้ให้แก่ตัณหาแล้วความสุขในพระนิพพานก็เลยเข้ามารับเราให้ถึงพระนิพพานดิบ)เมื่อวางใจได้จึงเป็นอัพยากฤต เป็นองค์พระอรหัง คือได้เข้าไปตั้งในพระนิพพานด้วยอาการดังนี้..คิริมานนทสูตร.
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์