ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มนุษยภูมิ...เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียว  (อ่าน 4465 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


มนุษยภูมิ

     คำว่า มนุษยภูมิ หมายถึง ที่อยู่อาศัยของมนุษย์หรือของคน มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนพื้นแผ่นดินนี้อยู่ในทวีปใหญ่ ๆ ๔ ทวีป ด้วยกัน อยู่ในทิศทั้ง ๔ ของเขาสิเนรุ มีทวีปใหญ่น้อยเป็นบริวาร ทวีปละ ๕๐๐ รวมแล้วได้ ๒๐๐๐ ทวีป มีชื่อดังนี้ ดูภาพประกอบ


    ภูเขาสิเนรุ เป็นศูนย์กลางของ มงคลจักรวาล คือ จักรวาลที่เราอาศัยอยู่นี้
    ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะอุบัติขึ้นเฉพาะในมงคลจักรวาลนี้เท่านั้น
    เป็นเขาที่ละเอียดมองไม่เห็นด้วยตา ยอดเขาสิเนรุ
    เป็นผืนแผ่นดินแห่งแรก ที่โผล่ขึ้นหลังจากโลกธาตุได้ถูกทำลายลงด้วยน้ำ
    ซึ่งทำลายขึ้นไปจนถึงเทวโลก และพรหมโลก คือ ถึง ชั้น สุภกิณหา (ตติยฌานภูมิ ๓)
    แผ่นดินที่โผล่เป็นครั้งแรกนี้ เป็นที่ตั้งของเทวดาชั้น ดาวดึงสาภูมิ
 

     ภูมิที่อยู่สูงขึ้นไป คือ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี ต่อจากนั้นก็เป็นภูมิของ รูปพรหม ๑๖ ชั้น และ อรูป พรหม ๔ ตามลำดับ ภูมิเหล่านี้สถิตอยู่สูงขึ้นไป ต่อจากยอดเขาสิเนรุทั้งสิ้น

     ขุนเขาสิเนรุ สูง ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์ จมอยู่ใน มหาสมุทรสีทันดร ครึ่งหนึ่ง วัดรอบเขาได้ ๒๕๒,๐๐๐ โยชน์ พื้นดินยอดเขาประกอบด้วย รัตนะ ๗ ตามไหล่เขา ๔ ด้าน
     ด้านตะวันออกเป็น เงิน
     ด้านตะวันตก เป็น แก้วผลึก
     ด้านใต้ เป็นแก้ว มรกต
     ด้านเหนือเป็น ทอง
     น้ำในมหาสมุทร อากาศ ต้นไม้ ใบไม้ ที่อยู่ในด้านนั้น ๆ จะเป็น สีน้ำเงิน สีผลึก สีเขียว สีทอง ตาม สีของไหล่เขานั้นด้วย 


     กลางเขาสิเนรุ เป็นที่ตั้งของเทวดาชั้น จาตุมหาราชิกาภูมิ รอบเขาทั้ง ๔ ทิศ เป็นที่สถิตของท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ
     ท้าวธตรัฏฐ ประจำอยู่ทิศตะวันออก
     ท้าววิรุฬหก ประจำอยู่ทิศใต้
     ท้าววิรุฬปักข์ ประจำอยู่ทิศตะวันตก และ
     ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ประจำอยู่ทิศเหนือ
     มหาราชทั้ง ๔ เป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลเทวดาในชั้น จาตุมหาราชิกาภูมิ ทั้งหมด รวมทั้งมนุษยโลกของเราด้วย 
           
    ตอนกลางของภูเขาสิเนรุ ลงมาจนถึงตอนใต้พื้นมหาสมุทร มีชานบันไดเวียน ๕ รอบ คือ
     ชั้นที่ ๑ ที่อยู่ใต้พื้นน้ำ เป็นที่อยู่ของพญานาค
     ชั้นที่ ๒ เป็นที่อยู่ของครุฑ
     ชั้นที่ ๓ เป็นที่อยู่ของ กุมภัณฑ์เทวดา
     ชั้นที่ ๔ เป็นที่อยู่ของยักเทวดา
     ชั้นที่ ๕ เป็นที่อยู่ของ จาตุมหาราชิกา ๔ องค์

           
  รอบเขาสิเนรุ มีภูเขาล้อมรอบอยู่ ๗ รอบ เรียกว่า สัตตบรรพ์ 
     รอบที่ ๑ ชื่อว่า ยุคันธร
     รอบที่ ๒ ชื่อว่า อีสธร 
     รอบที่ ๓ ชื่อว่า กรวิกะ 
     รอบที่ ๔ ชื่อว่า สุทัสสนะ 
     รอบที่ ๕ ชื่อว่า เนมินธร 
     รอบที่ ๖ ชื่อว่า วินตกะ
     รอบที่ ๗ ชื่อว่า อัสสกัณณะ 

     นอกจากนี้ ยังมี ภูเขาจักรวาล ซึ่งเป็นภูเขาที่กั้นระหว่างจุฬโลกธาตุด้วย
             
    ในสารัตถทีปนีฎีกา กล่าวไว้ว่า มหานรก ทั้ง ๘ ขุม และ อุสสทนรก ซึ่งเป็นนรกบริวารของมหานรก ตั้งอยู่ที่ใต้พื้นดินธรรมดา ลึกลงไปตรงกันกับ ชมพูทวีป รวมเนื้อที่กว้าง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ สูง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ เป็นรูปสี่เหลี่ยม 

           
    ที่ยกมากล่าวโดยสรุปชี้ให้เห็นว่า ภูมิต่างๆ นั้น มีความสัมพันธ์กับ ขุนเขาสิเนรุ อย่างไร ซึ่ง คนในยุคปัจจุบันที่ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรม ยากที่จะเชื่อหรือเข้าใจได้  (ดูภาพประกอบ)








๑. อุตตรกุรุทวีป อยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ
     มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีใบหน้าเป็นรูป สี่เหลี่ยม
     มีคุณสมบัติ ๕ ประการ คือ 
        ๑. ไม่ยึดถือเอาทรัพย์สินเงินทอง ว่าเป็นของตน
        ๒. ไม่มีการยึดถือในบุตร ภริยา สามี ว่าเป็นของตน
        ๓. มีอายุยืนถึง ๑,๐๐๐ ปี รักษาศีล ๕ เป็นนิตย์
        ๔. เมื่อตายแล้ว จะไปบังเกิดในเทวโลกแน่นอน แต่เมื่อจุติจาก เทวโลกแล้ว อาจจะไปเกิดเป็นมนุษย์ในทวีปอื่น หรือตกลงไปเกิดในอบายภูมิได้ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจของกรรม

 
 
๒. ปุพพวิเทหทวีป อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ
     มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีใบหน้า ลักษณะคล้าย รูปบาตร   อายุยืน ๗๐๐ ปี 


๓. อปรโคยานทวีป อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ
     มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้มีใบหน้า กลมคล้าย วงพระจันทร์   อายุยืน ๕๐๐ ปี 


๔. ชมพูทวีป อยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ
    มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ มีใบหน้า รูปไข่
    อายุขัยไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับคุณธรรม สมัยใดคนในชมพูทวีป มี กาย วาจา ใจ พร้อมไปด้วยคุณธรรมที่สูง สมัยนั้นอายุจะยืนถึง อสงไขยปี สมัยใดถ้าคนในชมพูทวีปมี กาย วาจา ใจ หย่อนในคุณธรรมต่ำสุด สมัยนั้นอายุจะลดลงมาเหลือเพียง ๑๐ ปี เท่านั้น


คุณสมบัติของมนุษย์ในชมพูทวีป
       
          ๑. มีจิตใจรุ่งเรืองและกล้าแข็ง เป็นมนุษย์ที่มีจิตใจกล้าหาญที่จะทำดีและไม่ดีได้อย่างสุด ๆ คือ ในทางดีนั้น สามารถทำได้จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า อัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก อภิญญาลาภี ฌานลาภี ตลอดจนเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ตรงกันข้ามกับในทางที่ไม่ดีนั้น สามารถทำได้ถึงกับฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ กระทำโลหิตุปบาท และสังฆเภท (อนันตริยกรรม ๕)
           
          ๒. มีความเข้าใจในเหตุอันควรหรือไม่ควร สามารถที่จะวิเคราะห์วิจัย ค้นคว้าหาเหตุผล ให้รู้สภาวะของรูปนามตามความเป็นจริง
           
          ๓. เข้าใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ ชาวชมพูทวีป จะรู้และเข้าใจว่า การทำ การพูด การคิด อย่างไร จึงจะให้ประโยชน์ในชาตินี้ ให้ประโยชน์ในชาติหน้า หรือให้ประโยชน์อย่างยิ่ง คือ ทำให้พ้นจากทุกข์โดยเด็ดขาด
           
          ๔. เข้าใจในสิ่งที่เป็นกุศล และอกุศล การทำ การพูด การคิด ที่เป็นไปด้วยอำนาจของความโลภ ความอยากได้ เป็นไปด้วยอำนาจของความโกรธ ความอาฆาตพยาบาท หรือเป็นไปด้วยอำนาจของความลุ่มหลงมัวเมาก็จะหลีกเลี่ยงไม่กระทำ เพราะเข้าใจผลกรรมจากการทำ การพูด การคิดนั้น ๆ แล้วหันมาทำในสิ่งที่เป็นบุญกุศล การให้ทาน การรักษาศีล และการเจริญวิปัสสนา
 
          ๕. เชื่อว่าพวกตนนั้นมีเชื้อสายมาจากพระเจ้ามนุ ซึ่งมีตำนานเล่าว่า พระเจ้ามนุนี้เป็นพระโพธิสัตว์ ที่ปกครองชาวชมพูทวีป มาด้วยความเที่ยงธรรม เสมือนบิดาปกครองบุตร ทำให้ชมพูทวีปมีความ รุ่งเรืองสืบทอดกันมา 

 

ดังนั้น มนุษย์ในชมพูทวีปจึงมีลักษณะพิเศษกว่าทวีปอื่น ๆ ๓ ประการ
  ๑. เป็นผู้มีจิตใจกล้าแข็งแน่วแน่ ในการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
  ๒. มีสติตั้งมั่นในคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
  ๓. ประพฤติพรหมจรรย์ มีการอุปสมบท รักษาศีล เจริญภาวนา

 
 
มนุษย์แตกต่างกันเพราะกรรม
   ** อายุสั้น  เพราะได้เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้
   ** อายุยืน  เพราะงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
   ** มีโรคมาก เพราะเบียดเบียนทรมานสัตว์ไว้มาก
   ** มีโรคน้อย เพราะเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์
   ** ผิวพรรณงาม เพราะไม่มีความโกรธความคับแค้นเก็บไว้ในใจ
   ** ผิวพรรณไม่งาม เพราะมากด้วยความโกรธความคับแค้นเก็บไว้ในใจ
   ** มีอำนาจ  เพราะไม่เป็นผู้มีใจอิจฉาริษยาผู้อื่น
   ** ไม่มีอำนาจ  เพราะเป็นผู้มีใจมากด้วยความอิจฉาริษยาผู้อื่น
   ** มีฐานะร่ำรวย เพราะได้ทำบุญทำทานไว้มาก
   ** มีฐานะยากจน  เพราะไม่ได้ทำบุญทำทานไว้
   ** เกิดในตระกูลต่ำ เพราะดูถูกเหยียดหยามคนอื่นว่าต่ำกว่าตน 
   ** เกิดในตระกูลสูง เพราะไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น
   ** เกิดมามีปัญญาน้อย  เพราะไม่ชอบไต่สวนทวนถามปัญหาข้อสงสัยแก่ผู้รู้
   ** เกิดมาเป็นคนมีปัญญา  เพราะชอบไต่สวนทวนถามปัญหาข้อสงสัยแก่ผู้รู้เสมอ ๆ



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.buddhism-online.org/Section06B_02.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2012, 04:32:02 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: มนุษยภูมิ...เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 02:12:29 pm »
0
อนุโมทนาสาธุ   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

painting

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 72
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มนุษยภูมิ...เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียว
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 03:59:18 pm »
0
คือเรื่องนี้ ฝรั่งอ่านกัน ก็หัวเราะครับ เหมือนเรื่อง ปรัมปรา ที่แต่งมาไว้เป็นตำนานนะครับ เช่น มีคนกล่าวว่า โลกแบน  แล้ว ก็พิสูจน์ได้ว่าโลกกลม มีคนบอกว่า แผ่นดินไหว คือ ปลาอานนท์ พลิกตัว แต่มีการขุดเจาะ กันหาก็ไม่เจอปลาอานนท์ที่ว่านี้ ถึงแม้กระนั้น ก็มีมนุษย์ ที่มีความชำนาญทางด้านเทคโนโลยี พากันไปดวงดาว เพื่อพิสูจน์ สิ่งมีชีิวิตที่อยู่นอกโลก ปรากฏว่า เดินทางไปทั่ว หลายดวงดาวแล้ว ก็ยังไม่พบสิ่งมีชีิวิตที่อยู่ในดาวอื่น ๆ นอกจากโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก

   สุดท้ายบางที อาจจะเป็นเพียงตำนาน ( เกินไป ) หรือไม่ ที่เล่าขานกันไว้ให้เรา หลงเชื่อ เพื่อจะได้เป็นคนดี มีคุณธรรม อะไรประมาณนี้หรือป่าว

   ดัึงนั้น อย่างเรื่อง ราบละเอียด สิเนรุ นี้ถูกนำมาผสมในพระไตรปิฏกหรือไม่ ?

   แต่อย่างไร ก็ มีความรู้สึกสนใจใน อุตตรกุรุทวีป ตามที่พระอาจารย์เสนอบทความไว้เมื่อวานนี้ครับ

  ขอบคุณครับ กับเนื้อหาที่มาเพิ่มความรู้ในครั้งนี้

  :coffee2: :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: มนุษยภูมิ...เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียว
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 14, 2012, 05:54:49 pm »
0
หากอยากทราบว่า ในพระไตรปิฎกกล่าวถึง "มนุษย์ต่างดาว" ไว้บ้างหรือไม่ แนะนำให้อ่านลิงค์นี้ครับ

พระพุทธเจ้าตรัสถึง "โลกอื่นๆ หรือ ต่างดาว" ไว้ว่าอย่างไร
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=558.msg2203#msg2203

อ่าน "จูฬนีสูตร" ได้ที่
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐  บรรทัดที่ ๕๙๘๕ - ๖๐๕๖.  หน้าที่  ๒๕๖ - ๒๕๘.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=5985&Z=6056&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=520

อ่าน "อัคคัญญสูตร" ได้ที่
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  บรรทัดที่ ๑๗๐๓ - ๒๑๒๙.  หน้าที่  ๗๑ - ๘๘.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=1703&Z=2129&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=51
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2012, 05:58:45 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: มนุษยภูมิ...เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียว
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 06:56:40 am »
0
ถึงท่านทั้งหลาย จะอ่านกันแล้ว คิดว่าเป็นเพียงตำนาน เล่าขานแสดงไว้ในพระสูตร พระไตรปิฏก แต่ผมเองก็มีความเชื่อ และคิดว่า ชาวอุุตตรกุรุทวีป นั้น มีแน่นอนครับ บางครั้งสิ่งทีเป็น มิติ อาจจะอยู่ติดเรา โลกนรก สวรรค์ นั้นอาจจะไม่ใช่เป็นวัตถุ เพราะเป็นพรมแดนที่ มนุษย์ ที่มีกายหยาบ ยากที่จะไปเข้าใจ นะครับ

   ดังนั้น ผมมีความเห็นในใจ คล้าย ๆ กับที่พระอาจารย์แสดงไว้ว่า อุตตรกุรุทวีป น่าจะเป็นเมืองลับแล ซึ่งการไปเมืองลับแลนั้น ผู้ทีไปก็เคยมีในพระสงฆ์ และ การแต่งงานของชาว ชมพูทวีป กับ ชาว อุตตรกุรุทวีป ก็มีแต่ผมจำกระทู้ไม่ได้ เคยอ่านมาแล้ว ในเว็บนี้


 อยู่ที่ ศรัทธา แล้ว ละครับ งานนี้ ......

  :25: :25: :25:

บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: มนุษยภูมิ...เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียว
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 12:38:18 pm »
0
ถึงท่านทั้งหลาย จะอ่านกันแล้ว คิดว่าเป็นเพียงตำนาน เล่าขานแสดงไว้ในพระสูตร พระไตรปิฏก แต่ผมเองก็มีความเชื่อ และคิดว่า ชาวอุุตตรกุรุทวีป นั้น มีแน่นอนครับ บางครั้งสิ่งทีเป็น มิติ อาจจะอยู่ติดเรา โลกนรก สวรรค์ นั้นอาจจะไม่ใช่เป็นวัตถุ เพราะเป็นพรมแดนที่ มนุษย์ ที่มีกายหยาบ ยากที่จะไปเข้าใจ นะครับ

   ดังนั้น ผมมีความเห็นในใจ คล้าย ๆ กับที่พระอาจารย์แสดงไว้ว่า อุตตรกุรุทวีป น่าจะเป็นเมืองลับแล ซึ่งการไปเมืองลับแลนั้น ผู้ทีไปก็เคยมีในพระสงฆ์ และ การแต่งงานของชาว ชมพูทวีป กับ ชาว อุตตรกุรุทวีป ก็มีแต่ผมจำกระทู้ไม่ได้ เคยอ่านมาแล้ว ในเว็บนี้


 อยู่ที่ ศรัทธา แล้ว ละครับ งานนี้ ......

  :25: :25: :25:



    กระทู้แนะนำให้อ่าน

    "โชติกเศรษฐี" ผู้ได้ภรรยาเป็นมนุษย์ต่างดาว "ชาวอุตตรกุรุทวีป"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=827.new#new

     :s_good:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 15, 2012, 02:37:14 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ