ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นักวิชาการศาสนาชี้ ถ้าตัดหนัง"อาบัติ"ก็ต้องลบ"วินัยปิฎก"เพราะ"พระสมสู่ลิง"ยังมี  (อ่าน 2144 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

นักวิชาการศาสนาชี้ ถ้าตัดหนัง"อาบัติ"ก็ต้องลบ"วินัยปิฎก"เพราะขนาด"พระสมสู่ลิง"ยังมี

หลังจากที่ นายเสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) เปิดเผยว่า ทางสนพ.และองค์กรเครือข่ายชาวพุทธ จะมีการนัดประชุมเพื่อหารือถึงความเหมาะสมของภาพยนตร์เรื่อง “อาบัติ” ที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ เนื่องจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เนื้อเรื่องภาพยนต์ตร์นำเสนอแง่มุมของพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดศีลในข้อ 3 (ประพฤติผิดในกาม) การนำเสนอเนื้อเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน อาจจะทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้ ดังนั้น การนำเสนอภาพยนตร์แนวนี้อาจเกิดความเสียหายมากกว่าประโยชน์


โดยในประเด็นดังกล่าว นายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการด้านปรัชญาและศาสนา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอีกด้านหนึ่งว่า "ถ้าคิดว่าหนังแบบนี้ไม่เหมาะสม จะทำลายศรัทธาชาวพุทธ ก่อนอื่นต้องไปลบเนื้อหาจำนวนมากใน "วินัยปิฎก" ทิ้งเสีย เพราะเรื่องราวในวินัยปิฎกมีทั้งเรื่องพระร่วมประเวณีกับลิงตัวเมีย หรือแม้แต่ศพ

คือเรื่อง "พระมีเซ็กซ์" เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นข่าวบ่อยๆ อยู่แล้ว คนดูข่าว ดูหนังเขามีสติปัญญาแยกแยะได้ คุณเสถียรไม่จำเป็นต้องมาคิดแทน เป็นห่วงพุทธศาสนาแทนคนอื่นๆ จนเกินไป นี่โลกยุคศตวรรษที่ 21 แล้วคุณจะปิดความจริงได้หรือ จะอยู่กันด้วยการโฆษณาชวนเชื่อภาพลักษณ์ที่สวยงามด้านเดียว โดยไม่ให้สังคมพูดถึง "ทุกด้าน" ไม่ได้แล้ว

 :96: :96: :96: :96: :96:

ภาพยนตร์เรื่อง "อาบัติ" นั้น สะท้อนปัญหา "พุทธศาสนาแบบพระ" ในสังคมไทย โดยสะท้อนปัญหาต่อไปนี้คือ

1. การไม่จำแนกระหว่าง "พระ" กับ "พุทธศาสนา" ทำให้สรุปว่าหนังที่เสนอด้านมืดหรือด้านที่อ่อนแอของพระในฐานะมนุษย์ปุถุชนเท่ากับเป็นการหมิ่นพุทธศาสนา ("ด้านมืดของพระ" เท่ากับ "พุทธศาสนา"?)

2. ความจริงพุทธศาสนากินความกว้างกว่าพระมาก แต่เมื่อพูดถึงพุทธศาสนาสังคมไทยมักนึกถึงพระสงฆ์ ทั้งที่จริงพระสงฆ์คือพุทธศาสนิกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
การไปให้ความสำคัญกับพระสงฆ์มากเกินไปทำให้สังคมไทยมองไม่เห็นพุทธศาสนาในมิติอื่นๆ มองเห็นแต่ "พุทธศาสนาแบบพระ" เท่านั้น


3. เพราะเน้น "พุทธศาสนาแบบพระ" รัฐและสังคมไทยจึงยกพระสงฆ์ให้สูงส่งวิเศษเกินความเป็นจริง คาดหวังความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพระสงฆ์สูงเกินจริง เราเคารพกราบไหว้พระสงฆ์ผู้ทรงศีล บริจาคทำบุญกับพระสงฆ์ผู้ทรงศีล พร้อมๆกับมีหน่วยงานราชการอย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คอยทำหน้าที่สอดส่องดูแล "ความประพฤติของผู้ทรงศีล" ตั้งแต่ความเหมาะสม ไม่เหมาะสมในการเล่นเฟซบุ๊ก ไปจนถึงการประพฤติผิดวินัย และทำพระธรรมวินัยให้วิปริตในลักษณะต่างๆ แถมยังมีองค์กรพุทธต่างๆ ที่ตั้งขั้นมาทั้งทำหน้าที่เป็นเสมือน "ตำรวจคอยจับผิดพระ" และขณะเดียวกันก็ทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์พระจากการวิพากษ์วิจารณ์ การสร้างภาพยนตร์ตีแผ่ชีวิตด้านมืดของพระ และอื่นๆ

4. คำถามคือ ทำไมรัฐและสังคมไทยจึงทุ่มเททั้งกำลังคน งบประมาณ และอื่นๆ ในการ "ดูแลความประพฤติและพิทักษ์ผู้ทรงศีล" มากขนาดนั้น ก็ในเมื่อพระท่านเป็นผู้ทรงศีล เป็นผู้นำทางจิตปัญญาและศีลธรรมของสังคม พระท่านย่อมจะมีวุฒิภาวะดูแลตัวเองได้มากกว่าฆราวาสไม่ใช่หรือ ทำไมต้องมีหน่วยงานของรัฐและองค์กรต่างๆมาดูแลพฤติกรรมพระและเป็นองครักษ์พิทักษ์พระอีกด้วย เราเคารพความเป็นผู้ใหญ่ของพระ ความมีวุฒิภาวะของพระกันบ้างหรือเปล่า

5. การกล่าวหาว่าหนัง "อาบัติ" หมิ่นพุทธศาสนา สะท้อนการขาด "ขันติธรรม (torerance)" อย่างชัดเจน เพราะไม่เคารพเสรีภาพที่สังคมจะพูดถึงหรือสะท้อน "ความจริงทุกด้าน" ของพระ ทั้งๆ ที่ตามหลักการพุทธศาสนานั้นสามารถพูดถึงด้านบวกและลบเกี่ยวกับพระอย่างเสรีมาตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานยิ่งวินัยปิฎกยิ่งเป็นหลักฐานบันทึกด้านมืดของพระยิ่งกว่าในภาพยนตร์อย่างเทียบกันไม่ได้

 ans1 ans1 ans1 ans1

นี่เราอยู่ในโลกยุคศตวรรษที่ 21 หากไม่เคารพเสรีภาพทางศาสนาหรือเสรีภาพจะพูดถึงความจริงเกี่ยวกับศาสนาได้ทั้งด้านบวกและลบก็เท่ากับเรากำลังทำให้สถาบันพระเป็นสถาบันอภิสิทธิ์ชนที่แตะไม่ได้"ว่าแต่เราเป็นใครกันล่ะ"ในเมื่อพุทธะเองยังให้เสรีภาพที่ใครจะวิจารณ์หรือพูดถึงท่านได้ทั้งด้านบวกและลบอยู่แล้ว

ทำไมคน "มีการศึกษาสมัยใหม่" ถึงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนากับรัฐแบบปัจจุบัน ขัดกับ "หลักเสรีภาพทางศาสนาในกรอบรัฐประชาธิปไตยสมัยใหม่" เพราะรัฐไทยแทรกแซงขัดขวางเสรีภาพทางศาสนาผ่านกลไกอำนาจตามกฎหมายคณะสงฆ์ และอำนารัฐบาลโดยตรงได้ตลอดเวลา

และภายใต้ระบบเช่นนี้ ก็ทำให้เกิดองค์กรพุทธต่างๆ ที่สามารถกล่าวหาคนอื่นๆ ว่า "หมิ่นพุทธศาสนา" ซึ่งเป็นการละเมิดเสรีภาพทางศาสนาของคนอื่นๆ ได้ตลอดเวลา แถมยังทำให้เกิดการผลักดันให้รัฐออกกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพทางศาสนาได้ตลอดเวลาอีกด้วย


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442920245
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2015, 11:48:02 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

5 องค์กรชาวพุทธฯ จ่อยื่นหนังสือผู้สร้างหนัง"อาบัติ" ส่อหมิ่นศาสนาพุทธ

เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายเสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา(สนพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย ถึงความเหมาะสมหรือไม่ของภาพยนตร์เรื่อง "อาบัติ" ที่สร้างโดยสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลและบาแรมยู  ที่ตีแผ่เรื่องราวเชิงลบในพระพุทธศาสนา  จนทางองค์กรภาคีเครือข่ายชาวพุทธประกอบด้วย สนพ. ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) เครือข่ายสตรีชาวพุทธแห่งประเทศไทย (คสพท.) องค์กรเครือข่ายพิกทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (อพช.) และองค์กรเครือข่ายชาวพุทธ ได้ประชุมหารือร่วมกันอย่างเร่งด่วนถึงกรณีดังกล่าวจากตัวอย่างหนังที่ปรากฎ และได้ข้อสรุปดังนี้ คือ


     1.เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เป็นการดูหมิ่นและไม่เคารพต่อพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน
     2.ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าใดๆต่อสังคมไทยนอกจากความเกลียดชังและความขัดแย้งของผู้คนในสังคม
     3.ผู้สร้างมีเจตนาที่น่าสงสัยว่าจะทำลายศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อพระพุทธศาสนาหรือไม่ และ
     4.ไม่มีศาสนิกในศาสนาใดๆสร้างภาพยนตร์จากจินตนาการแต่กลับไปรุกล้ำล่วงเกินต่อศาสนาใดศาสนาหนึ่งอย่างชัดเจน

   
       :41: :41: :41: :41: :41:

      "ทั้งนี้ในวันที่23กันยายนเวลา 10.00. และคณะจะไปยื่นหนังสือต่อนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)และเวลา13.00น.จะไปยื่นหนังสือเพื่อเตือนสติผู้สร้างหนัง   เพื่อขอให้ทบทวนเนื้อหา และนักแสดงนำ ที่แสดงออกในทางไม่เหมาะสมในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเหมาะสมและเป็นธรรมต่อคณะสงฆ์และชาวพุทธหรือไม่และท่านได้เคารพต่อพระพุทธศาสนาหรือไม่" นายเสถียรกล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442826399
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอวิจารณ์ หน่อยครับ ความคิดในการตีแผ่ เรื่องนี้ ผมว่ามันเป็นเรื่องเก็บกดของคนสร้างด้วยส่วนหนึ่ง และ เป็นช่วงกอบโกยเงิน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่พระสงฆ์ ถูกวิจารณ์ ผมเชื่อว่าภาพยนต์เรื่องนี้ จะเป็นเหตุทำลายภาพพจน์ ของพุทธศาสนามากขึ้น การที่ทำให้พระสงฆ์ ซึ่งจัดอยู่ในสถาบันมัวหมองลงนั้น เป็นผลประโยชน์ ในการทำลายประเทศชาติด้วย ประเทศไทย ที่อยู่มาได้ ถึงทุกวันนี้ก็เพราะสถาบัน กลุ่มพุทธ หรือพระสงฆ์ ซึ่งมีผลโยงทุกสถาบัน คือ ชาติ และ กษัตริย์ ด้วย

    การที่คนสร้าง หรือ คนวิจารณ์ บอกว่า เราต้องยอมรับความจริง และ สังคมเราทุกวันนี้ ยอมรับความจริงได้แล้วหรือ เอาง่าย

      1. คุณประกาศสมัครงาน แล้ว มีผู้สมัครงานเขียนหรือบอกความจริงว่า ผมเคยติดคุกมาก่อน คุณจะรับเขาเข้าทำงานหรือไม่ ?
      2. ลูกคุณติดยา มั่วการพนัน เป็นโจร คุณกล้าเดินไปพูดถึงลูกคุณว่า ลุกคุณติดยา มั่วการพนัน ตีรันฟันแทง
      3. เวลาส่งลูกไปเรียน สถาบันการศึกษา สอบสัมภาษณ์ แล้ว คุณกล้าบอกเขาหรือไม่ ว่า ลูก ย้ายมาหลายโรงเรียน เพราะตีกับครูอาจารย์ บ้าง อย่างนี้

     นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง 3 ตัวอย่างเท่านั้นนะ

      คุณ คิดหรือว่า สังคมทุกวันนี้ จะยอมรับความจริงเรื่องเหล่านี้ได้ การชำระวินัยสงฆ์ไม่ใช่หน้าที่ ของ อุบาสก อุบาสิกา แต่เป็นหน้าที่ ของสงฆ์ ซึ่งเราไม่ควรเข้าไปยุ่ง มาก มีความเสี่ยง

      และหนังเรื่องนี้ จงใจเพื่อทำลายภาพพจน์ ของพระสงฆ์ มากขึ้น คุณคิดดูตอนนี้ถึงไม่ทำ พระสงฆ์ก็ไม่ปลอดภัยแบบเมื่อก่อนแล้ว ที่พึ่งทางใจของทุกคนที่มีอยู่ ถ้าต้องหดหมดหาย นับว่าน่าใจหาย ประเทศไทย วันนี้เป็นเมืองขึ้นหลายอย่างแล้ว ถ้าวันนี้จิตวิญญาณ จะเป็นเมืองขึ้นอิสสระเสรี ตามแนวคิดใหม่ อีก ( ก็ช่างมัน )

     เอวัง ..... จบ

     :character0029: :character0029: :character0029: :character0029:
    :021: :021: :021: :021: :021:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

mongkol

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 95
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ลองไปทำ ภาพยนต์ อิสลาม ดูสิ แล้วจะรู้ว่า นรก บนดินมีจริง

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทุกวันนี้ คนยอมรับความจริงกันยังไม่ได้ หรอกคะ
 มันจะเสียหายมากกว่า จะฟื้นฟู นะคะ เห็นด้วย
 
   :signspamani:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ