ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - paisalee
หน้า: 1 2 [3] 4 5
81  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watdon.net/ วัดบรมสกล ( วัดดอน ) ยานนาวา กทม. เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 10:14:17 am





http://www.watdon.net/

วัดบรมสกล ( วัดดอน ) ยานนาวา กทม.

 :13:
82  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watsai.net/ วัดไทรงาม สุพรรณบุรี เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 10:05:33 am



http://www.watsai.net/ 


วัดไทรงาม สุพรรณบุรี

ปฏิบัติแนว สติปัฏฐาน 4
83  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / งานมหกรรมทุเรียนโลก 2554 จ. จันทบุรี 5 - 15 พ.ค.54 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 09:38:07 am
84  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วิธีดูแล ซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม ครับ เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 05:03:09 pm
สิ่งใดจะเกิด ก็ต้องเกิดครับ เขาบอกว่าบ้านพัง ยังซ่อมแซมได้ แต่ชีวิตพัง ซ่อมแซมยากครับ

การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมในประเทศไทย บทความที่ 4




เชิญไปอ่านตามลิงก์นะครับ
http://www.tamlaydee.com/forum/index.php?topic=349.msg371#msg371
85  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระพุทธเจ้า ตรัสว่าทุกสิ่ง อยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 07:31:30 pm
พระพุทธเจ้า ตรัสว่าทุกสิ่ง อยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์

 แล้วทำไม พระนิพพาน หรือ การเป็นพระอรหันต์ จึงพ้นสภาพพระไตรลักษณ์ได้

  :67:
86  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ตารางปฏิบัติธรรม ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน คุณแม่ ดร.สิิริ กรินชัย ปี 2554 เมื่อ: มีนาคม 02, 2011, 04:51:46 am
87  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ศูนย์ปฏิบัติธรรม อโรคยา เมดิเตชั่น เฮลท์ แคร์ พระราม5 เชิญท่านร่วมภาวนา 2554 เมื่อ: มีนาคม 02, 2011, 04:42:42 am
ศูนย์ปฏิบัติธรรม อโรคยา เมดิเตชั่น เฮลท์ แคร์ พระราม5 เชิญท่านร่วมกิจกรรมในปี 2554 ดังนี้

1.ดูแลสุขภาพ ด้วยพลังจิตเพียงปลายนิ้วสัมผัส อ.วิเชียร อยู่เกตุ "แพทย์หมดทางเลือก"

2.พยากรณ์ โดยโชติยศาสตร์ จาก อ.วิเชียร อยู่เกตุ

3.คอรส์บวชจิตล้างใจ เพื่อปรับศักยภาพกายและจิต สำหรับท่านที่มีปัญหาในเรื่องครอบครัว การเงิน การงาน สุขภาพ ฯลฯ

4.คอรส์พยากรณ์กรรม เพื่อค้นหาต้นเหตุแห่งทุกข์และแนวทางการแก้ไข

5.คอรส์พลีกรรมนำสุข เพื่อการดำเนินชีวิตที่มีความสุข

6.อบรมอภิญญา (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

7.ปฏิบัติธรรมและรับฟังพระธรรมเทศนาจากพระคุณเจ้า อาทิ พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์, พระมหาบุญช่วย วัดบางยี่ขัน องค์ความรู้เปรียบเสมือนตู้พระไตรปิฎก
และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ท่านที่สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ 082-323-3777, 082-323-3888, 082-323-3999

www.vichien-u-gate.com, email:arokaya_by_vichien@hotmail.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0823233888 อโรคยา พระราม5

88  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อานิสงค์ใหญ่ยิ่ง กับการบรรพชาสามเณร เมื่อ: มีนาคม 02, 2011, 04:32:12 am
หน่อไม้ไผ่ย่อมงอกออกมาเป็นกอไผ่ ให้ความร่มเย็น เป็นสุขและประดับประดาวัดวา อาคารบ้านเรือนฉันใด สามเณรก็เป็นเหล่ากอของสมณะคือพระภิกษุ ซึ่งเป็นหนึ่งในพุทธบริษัท 4ที่คอยปกปักรักษาพระพุทธศาสนาฉันนั้น  ถ้าไม่มีสามเณรก็ไม่มีพระภิกษุ ดุจไม่มีหน่อไผ่ก็ไม่มีกอไผ่ ฉันนั้น

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 หน้า 1177 ให้ความหมายของคำว่า"สามเณร" ไว้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม ดังนี้ "ผู้ดำรงเพศอย่างภิกษุแต่สมาทานศีล 10 เรียกสั้นๆ ว่า เณร"

ความจริงการบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เริ่มแรกจริงๆก็บวชเป็นพระเลย โดยพระพุทธเจ้าทรงประทานการบวชให้ดังปัญจวัคคีย์ภิกษุรุ่นแรก พระองค์ตรัสว่า "เอหิ ภิกฺขุจงมาเป็นภิกษุด้วยกันเถิด" เท่านั้น ท่านเหล่านั้นก็กลายเป็นภิกษุในทันที

ต่อมาเมื่อผู้มาขอบวชมีมาก ขึ้นพระพุทธเจ้าทรงประทานอำนาจการบวชแก่พระสงฆ์ การบวชมีพิธีรีตองขึ้น เช่นมีกำหนดคุณสมบัติผู้มาขอบวช มีอุปัชฌาย์ผู้เป็นประธานในการบวช
การ บวชเณร ปรากฏครั้งแรกเมื่อ ราหุลกุมารติดตามทูลขอทรัพย์สมบัติตามคำสั่งของผู้เป็นพระมารดาพระพุทธเจ้า ทรงดำริว่า การให้ "อริยทรัพย์" ดีกว่าให้ทรัพย์ธรรมดาจึงรับสั่งให้พระสารีบุตรบวชให้ราหุลกุมาร

สามเณร ราหุลบวชมาแล้วก็อยู่ในความดูแลของพระอุปัชฌาย์ คือ พระสารีบุตรตามหน้าที่ในพระวินัยจนได้รับการยกย่องสรรเสริญถึงคุณสมบัติที่ เป็นต้นแบบในทางสร้างสรรค์ 3อย่าง คือ

   1. เป็นผู้ว่าง่าย ไม่ถือตัวว่าเป็นโอรสของพระพุทธเจ้า
   2. เป็นผู้ใฝ่การศึกษาอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นผู้เลิศกว่าผู้อื่นในด้านผู้ใฝ่การศึกษา
   3. เป็นผู้มีความเคารพและกตัญญูกตเวทีต่ออุปัชฌาย์อย่างยิ่ง เข้าตำราโบราณที่ว่า "ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น"

สามเณรราหุล นับเป็น "บิดา" ของสามเณรทั้งหลายในปัจจุบัน

อนึ่ง ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชทรงประยุกต์หลักธรรมในพระพุทธศาสนามาใช้ปกครอง ประเทศ ประกาศนโยบายปกครองอันเรียกว่า ธรรมวิชัย หรือ ธรรมราชา ที่กษัตริย์ในยุคต่อๆมาถือเป็นแบบอย่างนั้น พระองค์ถึงกับทรงคัดเลือกพระสูตรและเนื้อหาธรรมะด้วยพระองค์เอง แล้วทรงแนะนำว่าสูตรไหนพระเถระและพระเถรีทั้งหายควรอ่านควรศึกษา  ที่สำคัญกว่านั้น คือ ทรงสร้างสถูปอุทิศให้สามเณรราหุลไว้สำหรับให้สามเณรทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา จนถึงปัจจุบันนี้

ถัดจากนั้นก็มีสามเณรทั้งในสมัยพุทธกาลและหลังพุทธกาลที่ควรจารึกไว้ให้ปรากฏเป็นทิฏฐานุคติ อีก 25 รูป มี
สามเณรสังกิจ
สามเณรบัณฑิต
และสามเณรสุข เป็นต้น
(ผู้สนใจในรายละเอียดพึงหาอ่านได้จากหนังสือ สามเณร : เหล่ากอแห่งสมณะ โดย ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต)

เฉพาะประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการศึกษาพระปริยัติธรรม มีสามเณรผู้สามารถสอบผ่านจนจบหลักสูตรชั้นสูงสุดแต่อายุยังน้อย  เช่น

รูปแรกสมัยรัชกาลที่ 3 คือ สามเณรสา ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 9 วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม
รูปที่ 2 คือ สามเณรปลด เกตุทัต ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 14 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 5 สถิต ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
รูปที่ 3 คือ สามเณรเสฐียรพงษ์ วรรณปก วัดทองนพคุณ เป็นชาวมหาสารคาม สอบได้เป็นรูปแรกในรัชกาลปัจจุบัน ต่อมาลาสิกขาแล้วรับราชการต่างพระเนตรพระกรรณในตำแหน่ง ราชบัณฑิตและสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้อุทิศตัวทำงานโครงการบรรพชาสามเณร 84,000 รูป โดยสมบูรณ์แบบ
รูปที่ 4 คือ สามเณรประยุทธ์ อารยางกูร วัดพระพิเรนทร์ เป็นชาวสุพรรณบุรี ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต) และเป็นเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม ผู้อุทิศตนทำงานด้านวิชาการและเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยไม่ประมาทต่อกาลเวลาและสุขภาพ

ตั้งแต่ พ.ศ.2506 จนถึงปัจจุบัน ยังมีสามเณรที่สอบได้เปรียญธรรม 9ประโยค จำนวนมากถึง 180 รูป พอดีนับเป็นเลขมงคลที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบางรูป/คนมีความโดดเด่นเป็นกำลังสำคัญของคณะสงฆ์ ส่วนราชการและมาตุภูมิ เช่น
พ.ศ.2519 มีสามเณร 3 รูป สอบได้พร้อมกัน มั่นคงสมณเพศ และเป็นกำลังสำคัญในการสอนงานคณะสงฆ์ไทยและต่างประเทศแบบเชิงรุก คือ

สามเณรประกอบ วงศ์พรนิมิตร วัดชนะสงคราม เป็นชาวสมุทรสาคร (ปัจจุบัน คือ พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค 13 และเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร)
สามเณรประยูร มีฤกษ์วัด ประยุรวงศาวาส (ปัจจุบัน คือ พระธรรมโกศาจารย์ เจ้าคณะภาค 2อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวา ส)
และ สามเณรสุชาติ สอดสี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (ปัจจุบัน คือ พระธรรมปัญญาภรณ์ เจ้าคณะภาค 5 และเลขานุการแม่กองบาลีสนามหลวง)

ส่วนที่ลาสิกขาแล้วออกไปเป็นอุบาสก ช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
สามเณรอุทัย เมตตานุภาพ (เกลี้ยงเล็ก) วัดบางหลวง ปทุมธานี,
สามเณรบรรจบ บรรณรุจิ (ปั่งมี) วัดสุทัศนเทพวราราม,
สามเณรชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ วัดมหาพฤฒาราม,
สามเณรสำเนียง เลื่อมใส วัดดาวดึงษาราม,
สามเณรแก้ว ชิดตะขบ วัดจักรวรรดิราชาวาส,
สามเณรบุญเลิศ โสภา วัดพระพุทธบาท สระบุรี,
สามเณรอุทิศ ศิริวรรณ วัดราชบูรณะ,
สามเณรเวทย์ บุญคุ้ม วัดมหาสวัสดิ์ นครปฐม
และ สามเณรเทพพร มังกรธานี วัดปทุมคงคา ฯลฯ

และ ที่สำคัญสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย คือ การได้ทรัพยากรบุคคลที่ล้วนแต่เป็นผลิตผลมาจากการบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว พัฒนาการตามหลักไตรสิกขา ก้าวสู่ความเป็นพระมหาเถระทั้งกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และ เจ้าอาวาสทั่วประเทศ

และที่ได้รับการยอมรับจากสังคมไทยและต่างประเทศในเวลานี้ ในฐานะพระนักเขียนและนักเผยแผ่ธรรมะรุ่นใหม่ ก็มี

พระมหาอุเทน ปญฺญาปริทตฺโต วัดชนะสงคราม,
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) วัดเบญจมบพิตรฯ
และ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต วัดสร้อยทอง ซึ่งล้วนแต่มาจากการบรรพชาเป็นสามเณรเช่นเดียวกัน

ฉะนั้น การบรรพชาหรือการบวชเป็นสามเณรนั้นถือว่าเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ทั้ง แก่ผู้บวชและผู้จัดให้มีการบวชเพราะผู้บวชได้มีโอกาสเข้ามาใช้ชีวิตแบบ บรรพชิตจริงๆได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อน้อมนำไปปฏิบัติเป็นหลักใจได้สนองพระคุณบิดามารดา ผู้เป็นบุรพการีส่วนบิดามารดาและวงศาคณาญาติย่อมได้โอกาสทำบุญเป็นพิเศษเท่า กับได้บวชใจไปด้วย
นอกจากนี้ การบวชยังทำให้เกิดผลดีทั้งฝ่ายศาสนจักรและอาณาจักร กล่าวคือฝ่ายศาสนจักร หรือวัด ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ หอฉันย่อมมีความหมายขึ้น เพราะมีผู้นำมาใช้ประโยชน์ฝ่ายอาณาจักรหรือฝ่ายบ้านเมืองก็ได้รับความสงบร่ม เย็นได้สงวนทรัพยากรของชาติ ได้อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามไว้ ที่สำคัญคือ การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เยาวชนของชาติได้อย่างแยบยลและมีผลมหาศาล

เหนือ อื่นใด คือ การแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อสถาบันชาติ พระพุทธศาสนาและการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เพราะการ บรรพชาเป็นสามเณร 84,000 รูป ทั้ง 76 จังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช องค์พระประมุขของชาติไทยผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ บริบูรณ์ด้วยทศพิธราชธรรมเปี่ยมด้วยพระบารมีแห่งเมตตาคุณ และบริสุทธิ์ด้วยพระกรุณาธิคุณยังประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์อย่างหาที่ สุดมิได้เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550

ดังนั้น เราท่านทั้งหลายควรมีส่วนร่วมในมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์นี้ทั้ง ทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะการอนุโมทนาบุญแล้วตั้งใจประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักศีล สมาธิ ปัญญามุ่งมั่นกระทำหน้าที่ของตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และจงรักภักดีระหว่างที่ลูกหลานของคนไทยพร้อมใจกันบรรพชาเป็นสามเณรพร้อมกัน 15 วันตั้งแต่วันที่ 14-28 ตุลาคม 2550และรวมพลังสวดมนต์ปฏิบัติสมาธิพร้อมกันในวันปิยมหาราชจะเป็นการประกาศ ความมั่นคงในหลัก "รู้รัก-สามัคคี" ได้ดีที่สุด

และเชื่อมั่นด้วย ความบริสุทธิ์ใจว่า ในวันนี้ (ที่เคยบอบช้ำเมื่อครั้งที่ผ่านมา) สามารถนำสีจีวรเหลืองของพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์และสามเณรทุกรูปมาเป็นธงชัย พร้อมกับเสื้อเหลืองของพวกเราชาวไทยพร้อมใจกันประกาศความสุข สงบ เย็น ถวายเป็นพุทธบูชาและราชสักการะได้อย่างดีที่สุด

ผู้เขียน: สมชาย สมานวงศ์       
ที่มา: มติชน
ข้อมูลจาก  http://www.phrathai.net/node/277     


ขอบคุณภาพจากเว็บ http://www.bangkokbiznews.com
89  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / บวชชีพราหมณ์ 17-18-19 ก.พ.2554 วัดป่าปัญญโรจน์ จ.ตาก เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:58:47 am
วัดป่าปัญญโรจน์ จังหวัดตาก

วัดป่าปัญญโรจน์ จังหวัดตาก

ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพกระเบื้องแกรนิตโต้ปูพื้นฐานองค์พระใหญ่

สมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธประทานพร ประดับพื้นผิวด้วยพลอยทั้งองค์ ถึงจำนวนมากกว่า 10 ตัน

จำนวน 209 กล่อง กล่องละ 350 บาท ตรงกับวันศุกร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 เวลา 07.00 น.

ณ วัดป่าปัญญโรจน์ ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก

******************************************************************

เนื่องด้วยวัดป่าปัญญโรจน์ ได้ดำเนินการสร้างองค์พระใหญ่พระสมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธประทานพร ชึ่งในปัจจุบัน ได้ดำเนินการมาถึงขั้นตอนของการประดับพื้นผิวด้วยพลอยในชั้นแรกอยู่ และใต้ฐานองค์พระจัดให้เป็นห้องปฏิบัติธรรมพิพิธภัณฑ์ในทางพระพุทธศาสนา และกำลังเร่งรีบในการปูพื้นหินแกรนิตโต้อยู่เพื่อให้ทันในประโยชน์ในช่วงงาน ปฏิบัติธรรมบรรพชา-อุปสมบทภาคฤดูร้อน แต่ยังขาดจตุปัจจัยสำหรับใช้จัดชื้อหากระเบื้องอยู่ชึ่งจะต้องใช้ถึงจำนวน 209 กล่อง ตกราคากล่องละ 350 บาท จึงได้บอกบุญมายังท่านผู้ใจบุญทุกท่าน ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมกันในการปูพื้นกระเบื้องให้แล้วเสร็จเพื่อให้ทันใช้ ในการปฏิบัติธรรมบรรพชา-อุปสมบทภาคฤดูร้อน ที่จะถึงในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

                ด้วยพลานิสงค์อานุภาพแห่งผลบุญในครั้งนี้ ขอบุญกุศลนี้ได้ช่วยส่งเสริมอุปถัมภ์ค้ำจุนให้ทุกท่านได้ดวงตาเห็นธรรม ประสบแต่ความสุขความเจริญสุขสมหวังในสิ่งที่พึงปราถนาทุกประการ ปราศจากโรคา พยาธิเบียดเบียน มีโอกาสได้เข้าถึงพระนิพพานในอนาคตอันใกล้นี้ เทอญฯ

กำหนดการ

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554                 บวชชีพราหมณ์  ปฏิบัติธรรมแบบอุกฤษ ถือธุดงค์วัตรไม่นอน อยู่กลดโคนไม้ ไม่นอน มื้อเดียว สวดมนต์วันละ 7 ครั้ง จำนวน 3 วัน 2 คืน

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554                 ทำพิธีทอดผ้าป่า ปฏิบัติธรรม กรรมฐานภาวนา เวียนเทียน

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554                 ผู้ปฏิบัติธรรมลาศีลชีพราหมณ์

 

ร่วมบริจาคผ่านธนาคารได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาแม่ระมาด

ชื่อบัญชี วัดป่าปัญญโรจน เลขที่ 054-780-393-457

ธนาคารกรุงไทย สาขาแม่สอด ชื่อบัญชี พระพรมงคล พลธมโม เลขที่ 604-00-66-865

รายละเอียดเพิ่มเติม
http://watpapunyaroj.com/index.php?option=com_content&view=frontpage
90  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / “สัปดาห์ปฏิบัติธรรมวันมาฆบูชา” ระหว่างวันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ 2554 ศิริราช เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:52:47 am


ชุมนุมพุทธธรรมศิริราช หน่วยคุณธรรมและจริยธรรม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ขอเชิญบุคลากรชาวศิริราชและผู้สนใจเข้าร่วม

บำเพ็ญกุศลพร้อมพิธีเปิดและถวายสังฆทาน (14 ก.พ.  เวลา 09.30 น.) ในงาน “สัปดาห์ปฏิบัติธรรมวันมาฆบูชา” ระหว่างวันที่ 14 - 17

กุมภาพันธ์ 2554 ณ โถงอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ คลิกดูรายละเอียด>>>

โดยมีกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจ ดังนี้

เวลา 09.00 – 12.00 น.  และ 14.00 – 16.00 น.  รายการวีดิทัศน์

เวลา 12.15 – 13.30 น.  รายการภาคกลางวัน เป็นการบรรยายธรรมและทอดผ้าป่าสามัคคี

เวลา 16.30 – 18.00 น.  รายการภาคเย็น อาทิ ถาม-ตอบปัญหาธรรม และเจริญพุทธมนต์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการธรรมะเรื่องวันมาฆบูชาและธรรมะในพระพุทธศาสนา ตลอดจนมีหนังสือ และเทปธรรมะมอบให้เป็น

ธรรมทานอีกด้วย

http://www.si.mahidol.ac.th/th/sic/news_detail.asp?n_id=2246
91  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / งานนมัสการพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จัดงานในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวันมาฆบูชา เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:50:10 am



“พระธาตุนาดูน” หรือ “พุทธมณฑลอีสาน” เป็นสถานที่ที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่แสดงว่าบริเวณแห่ง นี้เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรื่องของนครจำปาศรี เมืองโบราณในอดีต อีกทั้งได้ขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13–15 สมัยทวาราวดี จึงได้สร้างพระธาตุตามแบบสถูปที่ได้ค้นพบ และทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จัดงานในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวันมาฆบูชา ของทุกปี โดยจัดที่บริเวณพุทธมณฑลอีสาน พระธาตุนาดูนรวม 9 วัน 9 คืน มีการร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนา และกิจกรรมในงานประกอบด้วย

 

ขบวนแห่ประเพณี 12 เดือน การทำบุญตักบาตร การเวียนเทียนวันมาฆบูชา การปฏิบัติธรรมวิปัสสนา การออกนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การแสดงแสง สี เสียง ประวัติความเป็นมานครจำปาศรี และการจัดร้านสินค้าชุมชน“พระธาตุนาดูน” หรือ “พุทธมณฑลอีสาน” เป็นสถานที่ที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่แสดงว่าบริเวณแห่ง นี้เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรื่องของนครจำปาศรี เมืองโบราณในอดีต อีกทั้งได้ขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13–15 สมัยทวาราวดี จึงได้สร้างพระธาตุตามแบบสถูปที่ได้ค้นพบ และทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จัดงานในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวันมาฆบูชา ของทุกปี โดยจัดที่บริเวณพุทธมณฑลอีสาน พระธาตุนาดูนรวม 9 วัน 9 คืน มีการร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนา และกิจกรรมในงานประกอบด้วยขบวนแห่ประเพณี 12 เดือน การทำบุญตักบาตร การเวียนเทียนวันมาฆบูชา การปฏิบัติธรรมวิปัสสนา การออกนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การแสดงแสง สี เสียง ประวัติความเป็นมานครจำปาศรี และการจัดร้านสินค้าชุมชน

พระครูโสภณเจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า พระบรมธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสาน จ.มหาสารคาม เป็นพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธได้ให้ความเคารพสักการบูชาอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจังหวัดมหาสารคามยึดถือว่าพระธาตุนาดูนเป็นส่วนหนึ่ง ของวิถีชีวิตที่ผูกพันกันมายาวนาน ในช่วงเดือนมาฆะทุกปีชาวอำเภอนาดูนและจังหวัดมหาสารคามจะมีการจัดงานนมัสการ พระธาตุนาดูนขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มาสักการบูชา ทำพิธีบวงสรวงอันศักดิ์สิทธิ์ และร่วมกันปฏิบัติธรรมที่ลานหน้าองค์พระธาตุนาดูน ถือเป็นงานใหญ่ระดับภาคอีสานและระดับประเทศ จึงมีพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมงานบุญยิ่งใหญ่แต่ละปีจำนวนมาก

ที่มา : http://www.nadoon.com/
92  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / งานปริวาสกรรม วัดควนคลัง 18-28 กุมภาพันธ์ 2556 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:46:38 am


งานปฏิบัติธรรมประจำปี
ณ วัดควนคลัง หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
ระหว่างวันที่ 18-28 กุมภาพันธ์ 2556 (10 วัน 10 คืน)


รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://watkhuanklang.blogspot.com/2010/12/blog-post.html
93  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เข้าปริวาสกรรม 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2554 วัดโนนยาง บ้านโนนโพธิ์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:42:55 am
วัดโนนยาง บ้านโนนโพธิ์ จัดงานปฏิบัติธรรมเข้าปริวาสกรรม 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2554
    ด้วยคณะ สงฆ์วัดบ้านโนนโพธิ์ คณะกรรมการหมู่บ้านและทายกทายิกาบ้านโนนโพธิ์ ตำบลโนนโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ได้พร้อมใจกันจัดงานปฏิบัติธรรมเข้าปริวาสกรรมขึ้น กำหนดงานระหว่างวันที่ 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2554 ณ โนนยาง บ้านโนนโพธิ์ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าถึงประชาชนอันจะทำให้สถิตสถาพรมั่นคงสืบไป
    จึงขอเชิญพระภิกษุ สามเณร ญาติโยมพุทธศานิกชน ร่วมงานปฏิบัติธรรมเข้าปริวาสกรรม ในวันที่ 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ อย่างพร้อมเพรียงกัน
    อธิชา/พิมพ์
    วิมล/ข่าว/ตรวจทาน
    วิมล/บก.ข่าวสวท.อจ.

ยังไปทำบุญได้นะครับ ไม่ได้มาอัพเดทข่าวสารนานแล้วครับ

94  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ถ้าเพื่อนของเราคนหนึ่ง มาปรึกษา เรื่องการเห็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่เห็น เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:26:30 am
ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นผู้หญิง ชอบนั่งกรรมฐาน แล้วสิ่งที่เธอมักจะพูดให้ผมฟังบ่อย ๆ ก็คือ มีเทพพวกหนึ่ง
จะมาอาศัยร่างเธอเป็นร่างทรง เธอนั่งกรรมฐานครั้งละ 2 - 3 ชม. ผมก็อยู่ด้วย บางทีเดี๋ยวก็เห็นเธอนั่งร้องไห้
และบางทีก็เห็นเธอนั่งสั่นงันงกเหมือนเจ้าเข้า และทุกครั้งเธอจะมาเล่าให้ผมฟังว่า ได้ไปเที่ยวเมืองสวรรค์เห็น
วิมานนั้น วิมานนี้ ส่วนตัวผมเองนั้น ผมไม่เชื่อเธอทีพูดเท่าไหร่ครับ

 แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าบางครั้ง เธอก็ทำท่าเหมือนจะบอกเหตุการณ์ได้แม่นยำ แต่บางครั้งก็ไม่แม่นเอาเสียเลย
ก็เลยจะเชื่อ ก็ยังไม่เชื่อ บางครั้งก็จะเชื่อ

อยากทราบว่า คนที่เป็นอย่างนี้เป็นโรคจิต หรือ มีญาณพิเศษกันแน่

ผมควรจะพาเธอไปเรียนหรือ ศึกษากรรมฐาน กับอาจารย์องค์ไหนดีครับ
 :c017:
95  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระเจ้าตากสิน เป็นบ้าจริงหรือป่าวครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:18:20 am
พระเจ้าตากสิน เป็นบ้าจริงหรือป่าวครับ ใครพอทราบประวัติจะเล่าให้ฟังได้บ้างครับ

คือผมสงสัยว่า บางท่านว่า พระเจ้าตากสินเป็นบ้า ท่านบ้าเรื่องอะไรครับ

มีใครรู้บ้างครับ

 :c017:
96  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ขอความรู้เรื่อง บทสวด ยันทุน ... ด้วยครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2011, 05:16:04 am
ิขอความรู้เรื่อง บทสวด ยันทุน ... ด้วยครับ

ว่าจะสวดตอนไหน มีความเป็นมาอย่างไร ขอท่านผู้รู้ช่วย เล่าให้ฟังด้วยครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 :c017:
97  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ความหมายของคำว่า สาธุ เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 07:55:05 am
ความหมายของคำว่า สาธุ
ข้อมูลส่วนใหญ่เรียบเรียงจาก
พระธรรมเทศนา พระธรรมวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณฺโณ) วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพฯ

สาธุ มาจากรากศัพท์ว่า สาธฺ (หรือ สธฺ) ในความหมายว่า สำเร็จ และประกอบด้วย รู ปัจจัย (สาธ + รู = สาธุ)

ส่วนในคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา ได้จำแนกการใช้คำว่า สาธุ ไว้ 6 นัย กล่าวคือ

สุนทระ หมายถึง ดีงาม
ทัฬหิกัมมะ เป็นการย้ำอีกครั้ง เพื่อให้การกระทำนั้นมั่นคงยิ่งขึ้น
อายาจนะ เป็นคำอ้อนวอนหรือเรียกร้อง เมื่อเริ่มต้นจะพูดอย่างอื่นต่อไป
สัมปฏิจฉนะ เป็นการรับคำหรือยอมรับคำพูดของผู้อื่น
สัชชนะ หมายถึง คนดี
สัมปหังสา เป็นคำแสดงความยินดีหรือพอใจ

ก่อนจะอธิบายธรรมอธิบายคำว่าสาธุให้ฟังสักหน่อยพวกเราได้ยินแต่ว่าสาธุ ๆ แต่ไม่รู้แปลว่าอะไรสาธุในภาษาไทยมีความหมายอย่างน้อย5อย่าง

1.สาธุ หมายถึง อนุโมทนา แสดงความยินดี ตกลง เห็นด้วย เช่น เวลาเราเห็นด้วยกับใครตกลง โอเค เราก็บอกสาธุ เห็นด้วย ๆ สมมุติว่าเราเลือกตั้งเห็นคะแนนเสียงเราก็บอกสาธุไม่ต้องปรบมือกราว ๆ เพราะปรบมือเป็นของฝรั่งเขาของไทยคือสาธุเห็นด้วยเหมาะสมแล้ว หรืออาจารย์รู้ว่าลูกศิษย์กราบสวยอาจารย์ก็บอกสาธุดีแล้วอนุโมทนายินดีด้วย

2.สาธุ หมายถึง ยังประโยชน์ให้สำเร็จ คือให้สำเร็จประโยชน์ เช่นได้ยินคำว่า มัตตัญญุตา สทา สาธุ ความรู้จักประมาณให้สำเร็จประโยชน์เสมอ

3.สาธุ หมายถึง ขอให้สมพรปากกับคำอวยพรที่ท่านให้ อย่างเช่น อันนะภาระในครั้งสมัยพุทธการเป็นคนยากจนเข็ญใจทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้อธิฐานว่าคำว่าจนอย่าได้มีและจงได้รู้ธรรมอย่างท่านพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ ให้พรว่า

อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ สัพเพ ปูเรนตุ
สังกัปปาจันโท ปัณณะระโส ยะถา มะณิ โชติระโส ยะถา
แปล ว่าขออิฏฐผลที่ท่านปรารถนาแล้วตั้งใจแล้วจงสำเร็จโดยฉับพลัน ขอความดำริทั้งปวงจงเต็มที่เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เหมือนแก้วมณีอันสว่างไสวควรยินดี ฯ
จึงรับว่าสาธุขอให้สมพรปากท่าน


4.สาธุ หมายถึง ขอโอกาส อันนี้เป็นสำนวนของพระ อย่างสมมุติว่าจะอาราธนาศีลก็จะขึ้นว่า สาธุ สาธุ มะยัง ภันเต เคยได้ยินบ้างไหม เหมือนกับว่าคนเป็นครูบาอาจารย์จะทำอะไรก็ขอโอกาสพระเถระเสียก่อนเช่น จะเปิดหน้าต่างก็ ขอโอกาสท่านอาจารย์ครับผมจะเปิดหน้าต่าง ทำอะไรต้องบอกผู้ใหญ่เสียหน่อย ไม่ใช้ทำพรวด ๆ ไปขาดความเคารพ การทำขอโอกาสอย่างนี้ท่านเรียกว่าสาธุภาษาบาลี ภาษาไทยว่าขอโอกาส

5.สาธุ หมายถึง แสดงความต้อนรับแสดงความยินดีไชโยโห่ร้องกราบไหว้ ยกตัวอย่าง เวลาสมเด็จสังฆราชหรือใครก็ตามเสด็จไปต่างประเทศ ต่างประเทศเช่นเนปาลเขานิยมเวลามาต้อนรับเขาจะร้องสาธุตลอดทางที่มาต้อนรับ สาธุตัวนี้ก็คือขอยินดีต้อนรับ

จาก facebook คุณ ของอะไรดี มีอะไร ค่ะ
98  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิธีฝึกฝนสติปัฏฐานสำหรับผู้ไม่อยากอ่านมาก อยากฝึกสบาย ๆ - มุมมือใหม่ เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 07:51:48 am
วิธีฝึกฝนสติปัฏฐานสำหรับผู้ไม่อยากอ่านมาก อยากฝึกสบาย ๆ - มุมมือใหม่

ถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ประสงค์จะพ้นจาก สังสารวัฏ แต่ก็ต้องการวิธีที่สบาย ๆ ไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องเรียนอะไรมากมาย ขอเพียงรู้สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น บทความนี้จะเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ แต่ผมจะมีข้อแม้กับท่าน 2 ข้อเท่านั้น ซึ่งถ้าท่านรับว่าทำได้แน่นอน ผมก็กล้ารับรองได้ว่า วิธีนี้ท่านสมความประสงค์แน่นอนเช่นกัน

มาดูข้อแม้ 2 ข้อกันก่อน

ข้อ ที่ 1.... ท่านต้องเชื่อว่า สิ่งที่ผมจะเขียนให้ท่านอ่านนี้ เป็นไปได้แน่นอน ท่านต้องไม่มีข้อสงสัยแม้แต่นิดเดียวในใจว่า ใช่ทางหรือเปล่าหว่า

ข้อที่ 2.... เมื่อท่านอ่านแล้ว ถ้าท่านเกิดไม่เข้าใจวิธีฝึกที่ผมเขียน ให้ถามมาได้ทางหลังไมค์ ผมจะตอบข้อสงสัยในวิธีการฝึกให้ เมื่อท่านเข้าใจวิธีการฝึกแล้ว ท่านต้องหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ ๆ ฝึกบ่อย ๆ ฝึกทุกโอกาสที่ท่านสามารถจะฝึกได้ เช่น เวลาเข้าส้วมถ่ายหนัก เบา ท่านก็ควรฝึก เวลารถติดอยู่ ท่านก็ควรฝึก หรือ ระหว่างที่เดินไปทำงาน เดินไปรับประทานอาหารเที่ยง ขณะที่กำลังซักผ้า แปรงฟัน ล้างรถ ซักผ้า ถูบ้าน หรือ ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่มีเวลาว่าง แม้แต่เพียง 1 นาที ก็ขอให้ฝึกครับ

เอาละ มาอ่านดูวิธีการฝึกกัน

ก่อนอื่น ผมอยากให้ท่านนึกถึงตอนที่ท่านไปพักผ่อนตามป่าเขา หรือ ชายทะเล ท่านไม่มีภาระอะไรต้องทำเลย ท่านกำลังนอนอย่างสบาย ๆ ที่เก้าอี้ผ้าใบ จิตใจท่านไม่ต้องทำอะไรเลย ท่านไม่ต้องสนใจอะไรเลย เพียงแต่ทำตัวทำใจ สบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องเครียด เท่านั้น

ในขณะที่ท่าน กำลังผ่อนคลายอยู่นี้ จิตใจท่านจะสบาย ๆ สมองจะว่างเปล่า เพราะท่านไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ต้องการอะไร ถ้ามีลมพัดมาโดนกาย ท่านก็จะรู้สึกได้ ถ้ามีเสียงนกร้อง ท่านก็ได้ยินได้ แต่ท่านไม่ต้องไปสนใจว่า นี่เสียงนกอะไร ท่านจะหลับตา หรือ ลืมตา ไม่สำคัญ ขอเพียงแต่ว่า ท่านต้องสำรวจตัวเองเป็นระยะ ๆ ว่า ท่านสบาย ๆ อยู่ใช่ใหม ท่านไม่เกร็งไม่เครียดอยู่ใช่ใหม

การฝึกก็มีแค่นี้เอง

ขอ ให้ท่านจำอาการที่ท่านสบาย ๆ ไม่เกร็ง ไม่เคียด ผ่อนคลายนี้ไว้ เมื่อท่านมีเวลาว่าง แม้แต่เพียงน้อยนิด ท่านก็มาผ่อนคลายแบบนี้บ่อย ๆ เวลาทำงานในชีวิตประจำวัน ขอให้ท่านทำด้วยจิตใจที่ผ่อนคลายแบบนี้เสมอๆ

ท่าน ไม่ต้องไปนั่งสมาธิให้ปวดขา ท่านไม่ต้องไปเดินจงกรมให้ปวดน่อง ท่านไม่ต้องไปสวดมนต์อะไรเลย แต่ถ้าท่านอยากจะทำ ก็ทำได้เช่นกัน ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด แต่ท่านบอกผมว่า ท่านต้องการสบาย ๆ ดังนั้น ผมก็เชื่อว่า ท่านคงไม่อยากทำอย่างที่ผมกล่าวนี้จริงใหมครับ

*******************
สิ่งที่ผมเขียนข้างต้นนี้ คือสภาวะแห่งธรรมชาติครับ
ผมนำสิ่งทีเป็นธรรมชาติแท้ ๆ มาบอกท่าน
จริง ๆ การปฏิบัติธรรมมันง่ายมาก ๆ ถ้าเราเคยพบกับมันมาก่อน
เราจะเข้าใจ เมื่อเราเข้าใจ เราก็จะพบวิธีการเดินตรงทางเข้าสู่ธรรมชาติได้เลย ไม่อ้อมค้อม ไม่ยุ่งยาก

จำไว้นะครับ สบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่เกร็ง ไม่เครียด ทำตัว ทำใจแบบนี้เสมอ

ถ้า ท่านเกิดเกร็ง เกิดเครียด ขี้นมา ก็ขอให้ท่านรีบผ่อนคลายอาการเกร็ง อาการเครียดนี้ออก มันจะดีสำหรับท่าน และก็เป็นประโยชน์ในการฝึกฝนด้วยครับ


ที่มาเนื้อหา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=28-04-2010&group=8&gblog=4
99  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อย่ามัวทำตัวเป็นโพธิสัตว์ โปรดแต่ผู้อื่น.... แล้วตัวคุณเองเล่า ..... เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 07:48:40 am
อย่ามัวทำตัวเป็นโพธิสัตว์ โปรดแต่ผู้อื่น.... แล้วตัวคุณเองเล่า .....

    (เครดิตพระมหากำธร อุดมสิน ผู้เผยแผ่)

    คำทักท้วงจาก ท. ถึง ว. (อย่ามัวทำตัวเป็นโพธิสัตว์) ยาวนะ...แต่ขอให้อ่านเถอะ


    ครั้ง...หนึ่ง จากเรื่องจริงของนักปฏิบัติธรรม ชายคนหนึ่งมีนามว่า ว. มีอาชีพค้าขาย อาศัยอยู่แถบใจกลางเมืองหลวงของเรานี่เอง เขาเป็นคนมีอัธยาศัยดี จิตใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นที่รักใคร่ของเพื่อน ๆ และผู้คนที่ได้รู้จักกับเขาอย่างมากมาย

    ก่อนที่เขาจะเรียนจบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เขาและเพื่อนๆ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะทำประโยชน์อะไรสักอย่างให้กับสังคมเรา จึงได้ตกลงจัดรายการพิเศษ เดินทางไปศึกษาธรรมะที่สวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเชิญชวนเพื่อนๆ และผู้ที่สนใจในธรรมะทั่วไป ร่วมไปในรายการที่จัดขึ้นนี้

    เหมือน กับว่ามีอะไรบางอย่าง มาดลใจเขาและเพื่อน ๆ ขณะที่ได้สดับฟังการบรรยายธรรมของท่านอาจารย์ที่สวนโมกข์ พวกเขาเกิดความประทับใจในธรรมะของพระพุทธศาสนามากขึ้น จึงคิดจะช่วยงานเผยแพร่ธรรมะแห่งพุทธศาสนาให้กับผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อให้ได้ทั้งประโยชน์ทั้งส่วนตนและผู้อื่น

    หลังจากกลับจากสวน โมกข์แล้ว พวกเขาจึงช่วยกันเผยแพร่ธรรมะ ด้วยการคัดลอก ตีพิมพ์บทความธรรมะที่คิดว่า จะเป็นประโยชน์ให้แก่สมาชิกที่สนใจมากมาย ภายใต้การนำของ ว.

    จนกระทั่งวันหนึ่ง ว. ได้ไปพบวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งมาภายหลังพบว่าเป็นวัดเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า ที่นั่น เขาได้พบกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อว่า ท. เดินทางลงมาจากแถบภาคอิสานเหนือ สำเนียงถ้อยคำทีท่านพูด เป็นภาษาอิสานปนภาษาไทยภาคกลาง ฟังได้พอเข้าใจ แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ พระภิกษุรูปนี้ ไม่รู้หนังสือเลย แต่สามารถสอนธรรมะขั้นสูงด้วยภาษาพูดง่ายๆ ระดับชาวบ้าน ซึ่งฟังง่าย แต่ความหมายนั้นลึกซื้ง เป็นเรื่องวิถีทางหลุดพ้นจากทุกข์ นั่นก็คือแก่นแท้ของศาสนาพุทธ

    สิ่ง ที่ ว. ได้พบ ทำให้เขาประทับใจในการปฏิบัติธรรมแบบง่ายๆ โดยฝึกสติสร้างความรู้สึกตัว ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกขณะ และบรรยากาศของวัด ก็เป็นลักษณะของวัดป่า แต่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองแถบฝั่งธนบุรีนี้เอง จึงคิดจะเผยแพร่การปฏิบัติธรรมแบบง่ายๆ นี้ให้กับสมาชิกกลุ่มและเพื่อนๆของเขา โดยการจัดให้มีการฟังธรรมและปฏิบัติธรรมอยู่เป็นประจำเสมอมา ณ ที่วัดแห่งนี้ จนเป็นที่รู้จักของนักปฏิบัติธรรมว่า เป็นวิธีปฏิบัติธรรมแบบลัดสั้น ซึ่งบังเอิญเหมือนกับพุทธศาสนาในญี่ปุ่นนิกายหนึ่ง ชื่อว่าแบบ "เซ็น" คือทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตนเองหลุดพ้นจากทุกข์ ด้วยระยะเวลาอันสั้น โดยข้องแวะกับตำราหรือพิธีรีตองให้น้อยที่สุด ถือว่าการเรียนรู้ตัวแก่นแท้ของพระพุทธศาสนานี้ ต้องเรียนจากร่างกายที่ยาวประมาณวา หนาประมาณคืบนี้เท่านั้น

    การจัด รายการปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ บ่อยครั้งแทบจะทุกๆเดือน ทำให้สมาชิกสนใจการปฏิบัติธรรมและเข้าใจตัวธรรมะภาคปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ว. เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดทุกครั้ง

    อยู่มาวันหนึ่ง ว. ก็เข้าไปที่วัดแห่งนี้อีก เพื่อจะปรึกษากับพระภิกษุ ท. สำหรับการจัดรายการ
    ให้ สมาชิกในครั้งต่อไป มาคราวนี้แปลกกว่าครั้งก่อน พระภิกษุ ท. ไม่ได้แนะนำเรื่องจัดรายการปฏิบัติธรรมเหมือนกับครั้งที่แล้วๆมา แต่พูดกับ ว. ว่า

    “ทำไม ? คุณถึงมัวแต่ทำงานของโพธิสัตว์อยู่เล่า เที่ยวโปรดแต่สัตว์ผู้อื่น กิจกรรมที่พวกคุณทำนะ ทราบไหมว่า มันเป็นเพียงทางไปสวรรค์เท่านั้นหรอก หาใช่ทางนิพพานสำหรับตนเองไม่ เหตุใดเล่า จึงไม่สนใจตัวเองก่อน สร้างความเป็นพุทธะให้เกิดในใจเสียก่อน ชีวิตนี้มันสั้นนัก ระวัง ! ตัวคุณเองเกิดมาแล้วจะเสียเวลาเปล่า”


    ว. ได้ยินได้ฟังแล้วถึงกับตะลึงงัน ลืมเรื่องที่จะคิดจัดรายการให้กับผู้อื่นเสียหมดสิ้น เพราะนี่เป็นการชี้ขุมทรัพย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เขาไม่เคยได้รับจากผู้ใดมาก่อน เลย

    เขากลับไปและครุ่นคิดอย่างมากมาย ถึงคำพูดที่ได้ฟังวันนั้น "ทำไมเราช่วยทำให้คนอื่น อาบอิ่มไปกับรสแห่งธรรมกันไปตามๆ กัน แต่เรากลับปฏิเสธหนทางนี้เสียเอง เปรียบประดุจพนักงานเสริฟในร้านอาหารซึ่งบริการเสริฟอาหารอันอุดมด้วยรสชาด แก่ลูกค้า โดยที่ตนเองไม่มีโอกาสลิ้มรสอาหารอันอร่อยนั้น ๆ เลย"

    เมื่อ ว. คิดได้เช่นนั้น จึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ที่จะเข้าปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ณ ที่วัดนี้
    แต่ โอกาสก็ยังไม่อำนวยให้ เนื่องจากเขามีอาชีพค้าขาย และตัวเขาเองก็เป็นกำลังสำคัญในการทำงาน ของบางอย่างที่ขายในร้าน เขารู้รายละเอียดแต่เพียงผู้เดียว
    โชคดียังเป็นของ ว. เขามีกัลยาณมิตรอยู่มากมาย ซึ่งคนเหล่านี้ได้ยอมเสียสละ ลางานของตนเองมาสับเปลี่ยนกัน ช่วยขายของที่ร้านของ ว.

    โอ้ ! โอกาสอันงามเป็นของเขาแล้ว เขารีบไปปฏิบัติธรรมแบบเก็บอารมณ์ 7 วัน กับพระภิกษุ
    ท. ที่วัดแห่งนั้นทันที เพื่อค้นหาธาตุแห่งความเป็นพุทธะให้ปรากฏแก่ตัวเอง

    ใน สองสามวันแรก ๆ ของการปฏิบัติ ว. ก็เหมือนกับนักปฏิบัติโดยทั่วไป ซึ่งมักจะจดจำข้อความจากหนังสือธรรมะที่ได้เคยอ่านมา เคยคิดคำนึงไว้ นำไปฝึกปฏิบัติ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว ภาคปฏิบัติธรรมมันต่างจากภาคปริยัติธรรม "สิ่งที่เราคิดว่าใช่ ตามความเข้าใจของเรา มันก็กลับไม่ใช่(ธรรมะชั้นสูง)"

    พระภิกษุ ท. มาสอบอารมณ์ ว. เป็นระยะๆ แนะนำให้พยายามลืมอดีต อนาคต ความรู้เก่า
    ที่ ได้ศึกษามาให้หมดสิ้น ในระหว่างที่ปฏิบัติธรรมตามแบบของท่าน เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรค มีสติอยู่เพียง รู้ อยู่ ทำความรู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบัน เพียงเฝ้าดูปรากฏการณ์ที่เกิดกับกายและจิตใจของตนเท่านั้น ซึ่ง ว. ก็เชื่อฟังและทดลองทำดู

    ในวันต่อมา เขาเริ่มจะทำได้ถูกทาง เขาเห็นอาการที่ความคิด (ความทุกข์) เริ่มก่อตัวในจิต
    ของ เขาอย่างไร และสามารถดับมันลงได้ด้วยการมีสติ รู้สึกตัวอยู่เท่านั้น สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็ดับลงไปได้ด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องคิดใช้เหตุผลพยายามลบล้างมัน
    พระภิกษุ ท. มาสอบอารมณ์เขา และกล่าวว่า “ใช่แล้ว จิตโยมเริ่มเข้ากระแสทางธรรมแล้ว
    ถูก ต้องโดยไม่ต้องอาศัยหนังสือตำรับตำราหรือครูอาจารย์ชักจูงชีวิตอีกต่อ ไป บัดนี้ พระธรรมที่โยมได้พบด้วยตนเองแล้ว นี่จะเป็นสิ่งนำทางชีวิตของโยมตลอดไปจนถึงที่สุดของทุกข์ นี่แหละ ที่เรียกว่า ผู้ปฏิบัติธรรมพึงเห็นได้ด้วยตนเอง (ปัจจัตตัง)”

    ว. เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ จิตใจมีความรู้สึกอิสระจากสิ่งทั้งปวงได้ แม้ว่าจะยังไม่เป็นการถาวร
    แต่แน่แท้ว่า วันหนึ่งความหมดทุกข์อย่างสิ้นเชิงจะต้องเป็นของเขา

    บัดนี้ ความชั่วเขาก็จะไม่ทำอีกแล้ว ความดีล่ะ ! ก็เป็นสิ่งควรจะทำต่อไป แต่คราวนี้ เขาจะ
    ไม่ ทำความดีด้วยความงมงายอีกแล้ว การคิดจะช่วยผู้อื่น โดยที่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดละก็ ไม่ขอทำอีกแล้ว เพราะในการเดินนำทางผู้อื่น ถ้ายังไม่รู้จักเส้นทางนั้นดีพอ ก็อาจทำให้ชีวิตของทั้งผู้นำทางและผู้เดินตามนั้นเดินวกวนไปอย่างไร้ ประโยชน์ ไม่รู้จักจุดหมายแท้จริงแน่นอน ...

    ท่านทั้งหลาย ท่านเคยได้รับคำทักท้วงอย่างเช่น ว. แล้วหรือยัง ? หากท่านเคยได้รับละก็
    ท่าน จะปล่อยโอกาสของคุณให้ผ่านไปอย่างง่ายดายหรือ รีบทำให้ชีวิตของเราพบกับความสุขอันถาวรของชีวิตด้วยการปฏิบัติธรรมเถิด ผลลัพท์ก็จะเกิดกับคุณในไม่ช้า

    และหากท่านทั้งหลายไม่เคยได้รับคำทักท้วงเช่นนี้มาก่อน ก็ยังมีอีกผู้หนึ่งที่สามารถจะมาทักท้วงท่านได้ เขาผู้นั้นก็คือ ตัวท่านเอง

    จากเรื่องที่ท่านได้อ่านจบไปแล้วนี้
    ท. ก็คือ หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
    ว. ก็คือ คุณวุฒิชัย ทวีศักดิ์ศิริผล
    อดีตประธานกลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม ผู้ล่วงลับไปแล้วด้วยอายุเพียง 35 ปีเท่านั้น
    ท่านทั้งหลายคงไม่ปรารถนาให้ความตายมาพลัดพราก โอกาสการเข้าถึงธรรมที่ทุกคนสามารถทำให้มีได้ในชีวิต หากเพียงเริ่มเสียแต่วันนี้

    สำหรับ กรณี "คุณวุฒิชัย" นั้น มันเกือบจะสายไปเสียแล้ว เพราะธรรมจากการปฏิบัติที่เขาได้รับในวันนั้น เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตที่สุดของเขา คือเขาได้เห็นธรรมในระดับ เข้าใจเรื่องรูปนาม อันเป็นการเข้าเส้นทางเบื้องต้นที่ถูกต้องตามแบบเส้นทางพระอริยะนั่นเอง

    " ท่านทั้งหลาย จงถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด " พุทธพจน์

    -----------------------------------------------------------------------------
    จากข้อเขียนลงในเอกสารประจำเดือนของ
    กลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม (ไกวัลย์)
    มิถุนายน ๒๕๓๒
    ย้อนรอยอดีตโดย โตสื่อพระธรรมSee More
100  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมสวนธรรมอยู่เย็นเป็นสุข 21-23 ม.ค.54 เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 07:44:57 am
ขอเชิญสาธุชนร่วมปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมสวนธรรมอยู่เย็นเป็นสุข

ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ตำบลเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ มกราคม ๒๕๕๔











http://www.bloggang.com/data/vj01/picture/1272460428.jpg
101  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / โคราช-รูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 10:21:53 pm


วัด ป่าแสงธรรมพรหมรังสี โคราช สร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง 38 เมตร สูง 49 เมตร แหล่งท่องเที่ยวทำบุญแห่งใหม่ของพุทธศาสนิกชนชาวไทย

นครราชสีมา วันนี้ (4 ม.ค. 54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใหม่อีกแห่งหนึ่ง และน่าจะเป็นสถานที่ที่สามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้แวะไปเยี่ยมชมได้ คือ ที่วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่ง ที่วัดดังกล่าวกำลังมีการจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยปูน และแกะสลักรูปเหมือนอย่างสวยงาม โดยใช้เวลาก่อสร้างจนถึงขณะนี้นานกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดหน้าตักกว้าง 38 เมตร ความสูงรวม 49 เมตร

ซึ่งรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกดัง กล่าว ถูกสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ของพระครูปลัดภูมิ ญาณสัมปัญโน เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมรังสี ที่ต้องการก่อสร้างสถานที่ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จไปประมาณ 90% แล้ว และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 นี้

ทั้งนี้หาก การก่อสร้างแล้วเสร็จวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสีก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่ง ใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั่วไปสามารถแวะไปทำบุญ และกราบสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวได้

ที่มา
http://www.krobkruakao.com/ข่าว/3177
102  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / มาแนะนำ สถานที่ปฏิบัติธรรม ของสาวออฟฟิส เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 03:25:08 pm

ตอนนี้ไม่ว่าสาวในแวดวงไหนต่างก็ยก ให้ธรรมะเป็นของอินเทรนด์แบบว่ากำลังมาอย่างแรง สุดสัปดาห์ เลยถือโอกาสชวนให้สาวๆ ออกจากบ้านไปชำระล้างจิตใจให้สงบและบริสุทธิ์ด้วยการปฏิบัติธรรม เพราะเชื่อว่าถ้ามีธรรมะในใจ จะช่วยให้สติมา ปัญญาเกิด สามารถเปลี่ยนให้มีความสุขและสดใสกว่าเดิม เชื่อเถอะว่าไม่ว่า พ.ศ.นี้หรือ พ.ศ.ไหน ประโยชน์ที่คุณจะได้ไม่มีวันเอ๊าต์เทรนด์แน่นอน

สาวที่มีปัญหาขี้วีน หงุดหงิดง่าย หรือเพิ่งประสบปัญหาหนักในชีวิต
SSD Recommends: วัดอินทรวิหาร
ถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร. 0-2628-5550 - 4

สาวที่ไม่เคยศึกษาธรรมมะและไม่มีเวลาทำบุญ
SSD Recommends: วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0-2658-3885, 0-2251-6478

สาวที่มีปัญหาเรื่องความอยากและบ้าช็อปปิ้ง
SSD Recommends: วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
เลขที่ 3 ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร. 0-2222-6011, 0-2222-4981

สาวที่ย้ำคิดย้ำทำ มีปัญหาเรื่องการจดจำและสมาธิสั้น
SSD Recommends: วัดยานนาวา
ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา กรุงเทพฯ โทร. 0-2672-3216

สาวเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน และจับจด
SSD Recommends: วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร
ถนนสุขุมวิท 101 เขตพระโขนง กรุงเทพฯ โทร. 0-2311-1387, 0-2741-3552 และ 0-2311-3903

สาวที่มีปัญหาในการนั่งสมาธิ จิตไม่สงบ ทำงานผิดพลาดประจำ
SSD Recommends: เสถียรธรรมสถาน
ซอยวัชรพล กรุงเทพฯ โทร. 0-2510-6697, 0-2509-0085

สาวที่เป็นโรคเครียด มีปัญหารุมเร้า และอยากหลีกหนีความวุ่นวาย
SSD Recommends: วัดพิชยญาติการามวรวิหาร
ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โทร.0-2861-4530, 0-2861-5425, 0-2861-4319

สาวที่มีปัญหาขาดที่พึ่งทางใจ เพื่อนไม่รัก อกหัก กำลังเคว้ง และต้องการหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
SSD Recommends: วัดบวรนิเวศวิหารราชวรมหาวิหาร
ถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร. 0-2282-2665, 0-2282-8303, 0-2281-6427

สาวที่มีปัญหาโรคซึมเศร้า เครียด เจอเรื่องผิดหวัง และมีคนอิจฉานินทา
SSD Recommends: วัดชลประทานรังสฤษฏ์
ถนนติวานนท์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โทร.0-2583-8845, 0-2583-4243 และ 0-2584-3074

สาวที่มีปัญหาทุกข์ใจ ท้อแท้ และอับจนหนทางแก้ไขปัญหา
SSD Recommends: วัดสังฆทาน
บ้านบางไผ่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โทร. 0-2447-0799, 0-2447-2363 และ 0-2447-0800


ที่มา สนุกด็อทคอม
103  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คลอดทารกทิ้งห้องน้ำโลตัส สระบุรี เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 10:31:27 pm
คลอดทารกทิ้งห้องน้ำโลตัส



เมื่อ เวลา 21.30 น. วันที่ 30 พ.ย. ขณะที่ นางสงกรานต์ จันทร์ทะนะ อายุ 48 ปี จนท. ทำ ความสะอาดห้างเทสโก้ โลตัส สาขาจ.สระบุรี กำลังเข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำหญิง ชั้นล่าง ห้องที่ 1 เห็นว่าภายในห้องน้ำมีรอยเลือดและได้ยินเสียงเหมือนเด็กน้อยร้องพร้อมกับ เห็นถังขยะขยับได้ จึงวิ่งออกมาแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.เข้า ไปตรวจดู ภายในถังขยะพบเด็กทารกเพศชายจึงอุ้มนำมาส่งที่ห้องพยาบาลของห้างและแจ้ง หน่วยกู้ชีพ ร.พ.สระบุรี มารับตัว พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.ท.จักร พันธ์ แก้วมณี ร้อยเวร สภ. เมืองสระบุรี รุดมาตรวจสอบ พบว่าเป็นเด็กทารกเพศชายเพิ่งคลอดใหม่ๆ สายสะดือยังติดอยู่ กู้ชีพนำมาทำความสะอาดที่ร.พ.สระบุรี ชั่งน้ำหนักได้ 3.3 กิโลกรัม จึงรับไว้ดูแลในเบื้องต้น พนักงานห้างโลตัสต่างขนานนามตั้งชื่อเรียกขานเด็กน้อยว่า เด็กชายเทสโก้ ตร.สันนิษฐานว่า แม่เด็กใจแตกตั้งท้องและมาคลอดทิ้งในห้องน้ำ

หน้า 11

ที่มาข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01EVXlNekF5TVRJMU13PT0=&sectionid=TURNek5RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNaTB3TWc9PQ==
104  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หน่วยกู้ภัยฯสระบุรี จับงูเหลือมยักษ์ผัวเมียยาว 5 ม. เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 10:27:33 pm

จนท.มูลนิธิฯ จ.สระบุรี ระดมพลจับงูเหลือมยักษ์ 2 ตัวผัวเมีย ความยาวกว่า 5 เมตร ที่รอเขมือบสุนัขท้องแก่ ก่อนนำไปปล่อยเขาหนองหอย...



เมื่อ เวลา 01.30 น. 12 ธ.ค. เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน จ.สระบุรี รับแจ้งจากเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร ส.ราชา ตั้งอยู่ที่ถนนเลียบทางรถไฟ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ว่า พบงูเหลือมขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ริมขอบบ่อน้ำ มีผักตบชวาและหญ้าขึ้นเต็มไปหมด หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างจึงระดมพนักงานและเครื่องมือไป

ถึงที่เกิด เหตุ เป็นที่โล่งลักษณะเป็นแอ่งน้ำมีผักตบชวาและหญ้าปกคลุม พบสุนัขท้องแก่เดินไปมาอยู่แถวขอบบ่อน้ำ ใกล้ๆ กัน พบงูเหลือม 2 ตัว เป็นตัวผู้กับตัวเมีย ความยาวประมาณเกือบ 5 เมตร ลำตัวขนาด 50 เซนติเมตร มีอาการดุร้ายมาก ฉกขู่พนักงานตลอดเวลา สันนิษฐานว่าจะมากินหมาท้องแก่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงช่วยกันจับมาได้ทั้ง 2 ตัว แล้วนำมาไว้ที่ทำการมูลนิธิสว่างรัตนตรัย เพื่อจะนำงูเหลือมทั้ง 2 ตัวไปปล่อยสู่ธรรมชาติที่เขาหนองหอย อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นป่าทึบ
105  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตำนานเสาร้องไห้ วัดสูง อ.เสาไห้ สระบุรี เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 10:21:54 pm


มีตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ เป็นราชธานี ได้มีการเกณฑ์เสาจากหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อคัดเลือกเสาที่มีลักษณะงดงาม เพื่อจัดเป็นเสาเอก ทางเมืองสระบุรีได้จัดส่งเสาต้นหนึ่งที่มีลักษณะงดงามมากล่องลงมาตามลำน้ำ ป่าสัก แต่มาถึงกรุงเทพฯ ช้าไปเล็กน้อย และได้มีการคัดเลือกเสาเอกไปก่อนแล้ว จึงได้เป็นเสารอง ซึ่งถ้าเสาต้นนี้มาทันเวลาก็ต้องได้เป็นเสาเอกอย่างแน่นอน เพราะมีลักษณะใหญ่ และสวยงามมาก ด้วยความยาว 13 เมตร กล้าว 0.75 เมตร เสาต้นนี้จึงเกิดความเสียใจลอยทวนน้ำกลับขึ้นมาจมลง ณ ตำบลแห่งนี้อยู่ประมาณ 100 กว่าปี เมื่อปี พ.ศ. 2501 ได้มีชาวบ้านนำขึ้นจากน้ำไปไว้ที่ศาลหน้าพระอุโบสถวัดสูงจนถึงปัจจุบันนี้ พอตกเวลากลางคืนชาวบ้านมักได้ยินเสียงร้องไห้ จึงได้ให้ชื่อตำบลนี้ว่า ตำบลเสาร้องไห้ และได้กลายเป็น "อำเภอเสาไห้" ในปัจจุบัน และในวันที่ 23 เมษายนของทุกปี จะมีประเพณีอาบน้ำนางตะเคียน ซึ่งถือเป็นวันที่ยกเสาตะเคียนขึ้นจากแม่น้ำ

106  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วัดพระแก้ว จ.เชียงราย เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 10:08:04 pm
วัดพระแก้ว

     วัดพระแก้ว  อยู่บนถนนไตรรัตน์ อ.เมือง เชียงราย เป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน


ประวัติวัดพระแก้ว

     เดิมเป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน  แต่บริเวณนี้มีกอไผ่ชนิดหนึ่งคล้ายไผ่สีสุก  แต่ไม่มีหนาม  ชาวบ้านนิยมนำไปทำคันธนู  และหน้าไม้  คงจะมีมากในบริเวณนี้ ชาวเชียงรายจึงเรียกว่า ?วัด ป่าเยี้ยะ หรือวัดป่าญะ? ต่อมาในปี พ.ศ.1897 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวสร้างด้วยหยก คือพระแก้วมรกตนั่นเอง  ชาวบ้านจึงเรียกชื่อเสียใหม่ว่า ?วัดพระแก้ว"  ปัจจุบันชาวเชียงรายได้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหม่ขึ้นแทน เรียกว่าพระหยกเชียงราย หรือ พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล ซึ่งสร้างขึ้นในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุ ครบ 90 พรรษา

     

ตำนานพระแก้วมรกต

     ตามตำนานโบราณ  (พระภิกษุพรหมราชปัญญา  แต่งเป็นภาษาบาลีไว้เมื่อ พ.ศ. 2272) ชื่อหนังสือรัตนพิมพวงศ์พระนาคเสนเถระเป็นผู้สร้างด้วยแก้วอมรโกฏิที่เทวดา นำมาจากพระอินทร์นำมาถวาย ที่เมืองปาฏลีบุตร (ปัจจจุบัน เมืองปัตนะ รัฐพิหาร อินเดีย)  ต่อมาได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐ์สถาน ยังที่ต่างๆ ดังนี้
    1. เกาะลังกา   2. กัมพูชา   3.  อินทาปัฐ  (นครวัต)   4. กรุงศรีอยุธยา   5. ละโว้ (ลพบุรี)   6. วชิรปราการ  (กำแพงเพชร)   7. เชียงราย (พ.ศ.1934-1979  ประดิษฐาน 45 ปี)  8. ลำปาง (พ.ศ. 1979-2011 ประดิษฐาน 32 ปี)   9. เชียงใหม่ (พ.ศ. 2011-2096 ประดิษฐาน  85 ปี)  10. เวียงจันทน์ (พ.ศ.2096 -2321  ประดิษฐาน 225 ปี)   11. กรุงเทพมหานคร (พ.ศ.2321-ปัจจุบัน)
     ปัจจุบันประดิษฐานอยุ่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พรบรมมหาราชวัง  ได้รับพระราสชทานนามว่า ?พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร?



พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล

     เนื่องในมหามงคลสมัย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระเจริญมายุ 90 พรรษา จังหวัดเชียงรายได้จัดสร้าง พระพุทธรูปหยก ขนาดหน้าตักกว้าง 47.9 ซม. สูง 65.9 ซม. สร้างด้วยหยก จากประเทศแคนาดา (มร. ฮูเวิร์ด โล เป็นผู้บริจาค)  แกะสลักโดยโรงงานหยก วาลินนานกู มหานครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
     พระพุทธรูปหยกองค์นี้สร้างขึ้น เพื่อเป็นองค์แทนพระแก้วมรกต เพราะพระแก้วมรกต ได้ถูกค้นพบ ณ พระเจดีย์วัดพระแก้วเป็นแห่งแรก (พ.ศ.1977) และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่ง พระองค์ท่านได้พระราชทานนามถวายว่า ?พระพุทธรตนากรนวุติวัสสานุสรณ์? แปลว่าพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นอากรแห่งรัตน  เป็นมงคลอนุสรณ์ 90 พรรษา  และโปรดเกล้าให้เรียกนามสามัญว่า ?พระหยกเชียงราย?
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2543  และจังหวัดเชียงราย ได้ประกอบพิธีแห่เข้าเมืองเชียงราย  เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2534



หอพระหยกเชียงราย

     วัดในภาคเหนือในสมัยโบราณ นอกจากจะมีอุโบสถ วิหาร ศาลา กุฏิ หอพระธรรม ฯลฯ แล้วยังมี
?หอ พระสำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป? วัดพระแก้วจึงได้สร้าง ?หอพระหยกเชียงราย? เป็นอาคารทรงแบบลานนาโบราณ เป็นอาคาร ค.ส.ล. ประกบด้วยไม้ชั้นเดียว ใต้ถุ่นสูง ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร วางศิลาฤกษ์ โดยเจ้าประคุณสมเด็จ
พระพุทธชินวงศ์ เมื่อวันที่ 19  ตุลาคม 2534  เมื่อได้ก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  เสด็จมาเป็นประธานพิธีเปิดหอพระหยกเชียงรายเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2541



พระอุโบสถ

     พระอุโบสถสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2433 มีขนาดกว้าง 9.50 เมตร ยาว 21.85 เมตร เดิมเป็นพระวิหาร ต่อมาได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา ได้ประกอบพิธีผูกพัธสีมา เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2495 ได้บูรณปฏิสังขรณ์ ครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2503  ได้บูรณะใหญ่ครั้งที่ 1 พ.ศ.2503-2505 ในสมัยพุทธวงศ์วิวัฒน์ (วงศ์ ทานวโร) เป็นเจ้าอาวาส นายหมัด ไชยา เป็นช่างผู้ควบคุมการก่อสร้าง ประกอบพิธีปอยหลวงสมโภช  เมื่อวันที่ 14  มีนาคม 2505  ได้บูรณะใหญ่ครั้งที่ 2 พ.ศ.2543-2545 โดยเปลี่ยนกระเบื้องกระเทาะปูนเก่าออก ฉาบปูนใหม่ ลงรัก ปิดทอง  เปลี่ยนช่อฟ้า-ใบระกา บานประตูหน้างต่าง ลวดลาย ภายในเป็นไม้สักทั้งหมด  โดยการควบคุมการก่อสร้างของพระเทพรัตนมุณี เจ้าอาวาส และนายนพดล อิงควนิช



   
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดพระแก้ว โทร. 0 5371 8533  หรือ
www.watphrakaew.org

107  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Thailand Game Show 2010 มหกรรมเด็กเล่นเกมครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด The Competition เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 09:53:58 pm




โชว์โนลิมิต ร่วมมือกับนิตยสารคอมพ์เกมเมอร์นิวส์ และสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี จัดพิธีเปิดงาน Thailand Game Show 2010 มหกรรมเด็กเล่นเกมครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด The Competition อย่าง เป็นทางการ ซึ่งถือเป็นสุดยอดมหกรรมสำหรับคอเกมไทยครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีฉลองเทศกาลวัน เด็กแห่งชาติ ปี 2553 โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้สนับสนุนการจัดงาน สื่อมวลชน และคอเกม ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ที่มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การเปิดงานด้วยรูปแบบที่สร้างสรรค์ขึ้นตามแนวคิดของ ภาพยนตร์สุดฮิตแห่งปี “Avatar” กับเทคโนโลยีสุดล้ำที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก

 08

 

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า Thailand Game Show หรือ มหกรรมเด็กเล่นเกม ถือเป็นงานที่สำคัญของแวดวงเทคโนโลยีด้านเกมที่เป็นที่สนใจของเด็กและเยาวชน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีผู้สนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ สื่อให้เห็นถึงความสนใจของเด็กไทยที่มีต่อเทคโนโลยีในรูปแบบเกมที่เพิ่มสูง ขึ้น ซี่งต้องยอมรับว่ามีผู้สนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ สื่อให้เห็นถึงความสนใจของเด็กไทยที่มีต่อเทคโนโลยีในรูปแบบเกมที่เพิ่มสูง ขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการดีเที่เราจะส่งเสริมให้เขาเล่นเกมในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะ สม และสร้างสรรค์ โดยในปีนี้ กระทรวงวิทย์ฯ ได้ร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน ภายใต้รูปแบบกิจกรรมที่มีชื่อว่า “นิทรรศการเกมวิทย์:คิดเป็น วิทยาศาสตร์…ด้วยเกม” อีกด้วย

 

นาย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด กล่าวว่า อยากจะเชิญชวนคอเกมทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ พร้อมทั้งครอบครัว และผู้ที่สนใจ มาร่วมกันให้มาก ๆ โดยเชื่อว่า สิ่งที่ผู้จัดและผู้สนับสนุนทุกรายเตรียมไว้นำเสนอจะเป็นสุดยอดที่จะสร้าง ประสบการณ์ให้กับคอเกมทุกคน ตามความตั้งใจของการจัดงานที่จะให้วันเด็กปีนี้ สนุกที่สุดในชีวิต

 

15

 

“แนวคิดหลักในการจัดงานครั้งนี้คือ “The Competitions!!” ซึ่งเราได้ยกขบวนเกมดังจากค่ายเกมชั้นนำต่าง ๆ มาโชว์กันอย่างมากมาย พร้อมเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้แข่งขันกันอย่างเต็มที่ พร้อมกันนั้น เราได้เตรียมกิจกรรมไฮไลท์ความบันเทิงสนุกสุดมันส์จากผู้สนับสนุนใจดีอีกมาก มายไว้เอาใจคอเกมอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้ง 3 วัน ไม่ว่าจะเป็น โออิชิ กรีนที โซนเซียน เกม, เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ศึกชิงเจ้ายุทธภพ และการกลับมาอีกครั้งของราชาเพลงการ์ตูนญี่ปุ่น ฮิโรโนบุ คาเงยาม่า ใน เนสท์เล่ ดรากอนบอล แซด คอนเสิร์ต, โก๋แก่ คอสเพลย์ คอนเทสต์, สายการบินแห่งไทยแลนด์เกมโชว์ พร้อมการสนับสนุนจากภาครัฐ กับกิจกรรม “นิทรรศการเกมวิทย์: คิดเป็นวิทยาศาสตร์…ด้วยเกม” โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกิจกรรมสัมมนา “โรงเรียนเปลี่ยนผู้เล่น เป็นผู้สร้าง” โดย SIPA

 

นาย สันติ โหลทอง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารคอมพ์เกมเมอร์ สื่อเพื่อการสร้างสรรค์และพัฒนาตลาดเกมคอมพิวเตอร์ในเมืองไทย ผู้ร่วมจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า ในฐานนะของสื่อหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเกมโดยตรง ไม่ได้ต้องการสื่อสารเพียงแค่ให้มีการเล่นเกมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้อง “เล่นเป็น” ด้วยความเข้าใจ พร้อม ๆ กับที่บริษัทหรือคนทำเกม ก็ต้องทำอย่างสร้างสรรค์ไม่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว โดยการจัดงาน Thailand Game Show จะ เป็นอีกหนึ่งในความพยายามของคนในแวดวงเกมเมืองไทยที่จะต่อยอดแนวคิดให้เป็น รูปธรรม รอให้คอเกมมาร่วมเติมเต็มและสร้างพลังของคนเล่นเกมในงานนี้เพียง 3 วันเท่านั้น

 

นาย ธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวนการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่าการที่ อสมท ได้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมกับสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเยาวชน อย่างหลาย ๆ รายการของ ช่อง9 หรือคลื่นวิทยุ Seed 97.5 ที่ ต่างก็มุ่งเน้นการเสริมสร้างให้เด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่มีโลกทัศน์ที่กว้างขวาง ขึ้น ผ่านสื่อหรือกิจกรรมที่มีคุณภาพต่าง ๆ การร่วมสนับสนุน Thailand Game Show 2010 อย่าง ต่อเนื่อง จึงเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของเราในการที่จะส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ต่อ เยาวชน โดยเฉพาะแนวคิดหลักของการจัดงานกับการสร้างเกมตลอดจนคนเล่นเกม สังคมเกมที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งกิจกรรมย่อยต่าง ๆ ที่เป็นเวทีให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ จึงถือเป็นความยินดีในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่มีประโยชน์ และหวังง่าจะมีคอเกม พร้อมทั้งผู้สนใจร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความสนุกจากงานนี้อย่างเต็มที่
108  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / “มหกรรมตรุษจีนรังสิต ครั้งที่ 4” ในวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 09:48:46 pm
ภาควิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ สมาคมครูภาษาจีนแห่งประเทศไทย และสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-จีน จัดกิจกรรม “มหกรรมตรุษจีนรังสิต ครั้งที่ 4”  หรือ“RSU CHINESE NEW YEAR FAIR 2011”ในวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 เวลา 08.30-15.30 น. ณ ห้องประชุม 1-301 อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ (อาคาร 1) มหาวิทยาลัยรังสิต 
            กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประกวดแสดงละครภาษาจีน ประกวดวาดภาพจีนด้วยพู่กัน ประกวดคัดลายมือภาษาจีน การแข่งขันตอบปัญหาทักษะภาษาจีน กิจกรรมสาธิตเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน การแสดงของนักศึกษาชาวจีนสถาบัน Chinese Business School การแสดงของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ การออกร้านหนังสือภาษาจีน การจัดบอร์ดนิทรรศการ และกิจกรรมสันทนาการ เป็นต้น
            สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ โทร.0-2997-2200-30 ต่อ 1324
109  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / “รวมพลคนการ์ตูน”ครั้งที่ 4 :คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย เมื่อ: ธันวาคม 18, 2010, 09:46:00 pm
“รวมพลคนการ์ตูน”ครั้งที่ 4 :คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย

วันเสาร์ ที่ 22 มกราคม 2554  เวลา 16.00 น. – 22.00 น.  ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์

..............................................................

 

            สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และสมาคมการ์ตูนไทย ได้ร่วมกันจัดงาน รวมพลคนการ์ตูนขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา งาน รวมพลคนการ์ตูน ครั้งที่ 1 (25 มกราคม 2551) เป็นการรวมตัวสังสรรค์กลุ่มนักการ์ตูน ที่ทำงานร่วมกันตลอดปีที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการสถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และนักการ์ตูนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานประมาณ 60 คน

รวมพลคนการ์ตูน ปี 2(31 มกราคม 2552) สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และสมาคมการ์ตูนไทย ได้ร่วมกันจัดงานเช่นเคย มีเครือข่ายนักการ์ตูนทั้งรุ่นเล็ก รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ มากันพร้อมหน้า ครั้งนี้มีการร่วมระดมความคิดเห็นแนวทางการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การ์ตูนไทย และขยับขยายการจัดงานเพื่อคนการ์ตูนและคนรักการ์ตูนครั้งใหญ่

ผลสำคัญของการจัดงานครั้งที่ 2 คือ

มีสถานีโทรทัศน์ ASTV ติดตามทำข่าว มีนักการ์ตูนร่วมงานประมาณ 70 คน เครือข่ายฯ มีความเห็นร่วมกันในประเด็นสำคัญ ๆ อาทิ

-  ร่วมผลักดันการอ่านให้เป็นวาระแห่งชาติ

            -  หนุนเสริมให้มีการจัดตั้งห้องสมุดการ์ตูนไทย/พิพิธภัณฑ์การ์ตูนไทย  เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้และสร้างเสริมกิจกรรมพัฒนาวงการการ์ตูนไทย

            -   เชื่อมโยงให้เกิด  “เครือข่ายการ์ตูนไทยสร้างสรรค์สังคม”

            -  หนุนเสริมผลักดันให้เกิดงานมหกรรมการ์ตูนไทย ระดับชาติ

รวมพลคนการ์ตูนปีที่ 3: ขอการ์ตูนเป็นพระเอกนางเอกบ้าง ได้จัดงานวันเสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 ชั้น 3 ศูนย์พัฒนาทุนมนุษย์  มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต (สะพานซังฮี้) มีการจัดเสวนา “การ์ตูนบนเส้นทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์”  และระดมความคิดรูปแบบการจัดงานที่ต้องการนำเสนอในงาน CLEA2010 Character & Licensing  Expo Asia 2010วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2553 ณ โรแยล พารากอนฮอลล์  (1-3)  สยามพารากอน เนื่องจากปีที่ 3 เป็นปีร่วมรณรงค์ “วาระการอ่านแห่งชาติ”  จึงได้ขอความร่วมมือจากนักการ์ตูน ได้ร่วมนำภาพเขียนคาแรกเตอร์เฉพาะของตนเอง ร่วมรณรงค์ส่งเสริมการรักการอ่าน มอบให้แก่คณะผู้จัดงาน เพื่อนำไปเผยแพร่รณรงค์

ผลสำคัญ:ผลงานการ์ตูนที่ได้รับมาจากนักการ์ตูนในวันงาน และส่งมาจากเครือข่ายนักการ์ตูนรุ่นใหม่ทางอีเมล์ ได้นำมาประกอบในสื่อรณรงค์ของแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และเครือข่ายการอ่าน

ทั้งนี้ เครือข่ายการ์ตูนไทยได้เปิดบทบาทร่วมสร้างสรรค์สังคมการ์ตูนด้านต่าง ๆ ทั้งการผลิตหนังสือ การจัดกิจกรรมอบรมปฏิบัติการสร้างนักการ์ตูนรุ่นใหม่ การร่วมจัดงานยกย่องคุณค่าของการ์ตูน / นักการ์ตูน ฯลฯ ขณะนี้เรากำลังร่วมขับเคลื่อนให้เกิด “หอศิลป์ (พิพิธภัณฑ์) การ์ตูนไทย” เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดผลงานการ์ตูนไทยต่าง ๆ เป็นแหล่งรวบรวมผลงานนักการ์ตูนชั้นครู ฯลฯ รวมถึงการจัดตั้ง “กองทุนสื่อสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาวงการการ์ตูนไทย”

จากการตั้งวงสนทนาของเครือข่ายนักการ์ตูนที่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม ค่าย รำลึก ช้าง ‘53 เขาใหญ่ หัวใจของเรา : จากวันนั้น ถึงวันนี้ ระหว่าง 29 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2553 ณ ค่ายสุรัสวดี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีนักการ์ตูนที่เข้าร่วม อาทิ คุณพล ข่าวสด, คุณเซีย ไทยรัฐ, ข.ขวด เดลินิวส์, คุณสมบัติ คิ้วฮก, คุณสละ นาคบำรุง, คุณอิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์ , คุณเรืองศักดิ์ ดวงพลา , คุณเข็มทอง โมราษฎร์ , คุณพวงผกา แสนเขื่อนสี ฯลฯ

 

 

 

            ได้นำเสนอแนวทางการจัดงาน “รวมพลคนการ์ตูน ปี 4” ดังนี้

·     เนื่องจากมีนักการ์ตูนเพิ่มขึ้นทุกปี จึงควรจัดให้มีคณะทำงาน เพื่อการจัดกิจกรรมในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้ร่วมมือและออกแบบการจัดงานประจำปีซึ้งปีนี้จะได้กำหนดขึ้นใน วันที่ 22 มกราคม 2553  สถานที่ :โรงแรมรัตนโกสินทร์

·     ขอความร่วมมือจากกนักการ์ตูน และทุกสำนักพิมพ์การ์ตูนส่งผลงานการ์ตูนหลากรูปแบบ อาทิ คอมมิค สตริป นิยายภาพ และการ์ตูนช่องเดียวจบ ฯลฯ ในหัวข้อสร้างสรรค์สังคม “คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย” เพื่อ ร่วมแสดงนิทรรศการในวันจัดงาน และจัดทำเป็นชุดนิทรรศการเคลื่อนที่ จัดเสวนา ฯลฯ ไปตามที่ต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัย แกลเลอรี่ ฯลฯ และรวบรวมจัดทำหนังสือ รวมทั้งการจัดประมูลภาพเขียน เพื่อหารายได้จัดตั้ง “กองทุนการ์ตูนไทย” ฯ เพื่อเป็นสวัสดิการและพัฒนาวงการการ์ตูนต่อไป

-  มีกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้นักการ์ตูนคุ้นเคยกันและเพื่อไม่ให้นักการ์ตูนที่มาครั้งแรกรู้สึกโดดเดี่ยว

-  มีการเสวนาจากค่ายต่าง ๆ เพื่อแบ่งปันความรู้ในการทำงาน การแสดงจากลูกหลานการ์ตูน

-  คุณเข็มทอง โมราษฎร์ เสนอการแสดงจากหนังสือการ์ตูน โดย เยาวชนกลุ่มเด็กรักป่า

            -  การระดมทุนจากค่ายต่าง ๆ เพื่อร่วมมือกันจัดงาน (เนื่องจาก 3 ปีที่ผ่านมา สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก สมาคมการ์ตูนไทย และนักการ์ตูน ร่วมกันออกเงินเพื่อจัดงาน)

            -  ขอความร่วมมือกับเครือข่ายนักการ์ตูน บริษัทและสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันจัดงานการ์ตูนหลากหลายรูปแบบเพื่อ พัฒนาวงการการ์ตูนไทย

            -  ร่วมผลักดัน การจัดตั้งกองทุนเพื่อยกระดับ นักการ์ตูน มีสวัสดิการนักการ์ตูน เนื่องจากนักเขียน ที่ไม่มีสังกัด จะไม่มีความมั่นคง จะทำอย่างไร ให้นักเขียน มีหลักประกันในผลงาน เป็นเครดิตในการกู้ธนาคาร หรือแม้แต่การประกันตนเอง ทั้งในด้านอาชีพ และสุขภาพ

-  หารือ/ปรึกษาเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการสมาคมการ์ตูนไทย เนื่องจากคณะกรรมการชุดเดิมที่ก่อตั้งสมาคม อาทิ อาจารย์ปยุต เงากระจ่าง ได้เสียชีวิตลง จึงน่าจะมีการเสนอตัวแทน เป็นคณะกรรมการสมาคมชุดใหม่ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมกันพัฒนาสมาคมฯ

 

คณะทำงาน รวมพลฯ ปี 4

ที่ปรึกษา :คุณชัย ราชวัตร, คุณพล ข่าวสด , คุณเซีย ไทยรัฐ, คุณสุดใจ พรหมเกิด ฯลฯ

คณะทำงาน: คุณอิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์, คุณพวงผกา แสนเขื่อนสี, คุณกนกกาญจน์ เอี่ยมชื่น, คุณไตรภัค สุภวัฒนา, คุณผดุง บุญศิริ, คุณนุชพนิดา วัชรถิรานนท์, คุณพีระ ธรนิตยกุล ฯลฯ

ฝ่ายประสานงาน :สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก โทร. 02-881-1734 อีเมล์ cartoonthai_ffc@ hotmail.com

งบประมาณการจัดงานสังสรรค์

ค่าสถานที่และค่าอาหาร               สนับสนุนโดย                  สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก

สมาคมการ์ตูนไทย

.............................................................

.............................................................

.............................................................

องค์กร / ผู้ประสงค์ร่วมสมทบทุน กรุณาติดต่อ สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก

(พวงผกา โทร. 02-881-1734, 089-446-0864) อีเมล์ cartoonthai_ffc@hotmail.com

ร่างกำหนดการ

“รวมพลคนการ์ตูน”ครั้งที่ 4 :คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย

วันเสาร์ ที่ 22 มกราคม 2554 เวลา 16.00 น. – 22.00 น. ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์

...................................................................................

 

เวลา

16.00 น.                        ลงทะเบียนกระชับพื้นที่ ชมนิทรรศการ คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย

17.00 น. – 18.00 น.        เสวนา กองทุนการ์ตูนไทย :ความหวัง วัตถุประสงค์ และแนวทางการก่อเกิด

19.00 น. – 20.30 น.        กิจกรรม “งัด 3” (เพะชะคุชะ ฉบับการ์ตูนไทยโชว์ผลงานคนละ 2-3 นาที)

20.30 น. – 22.00 น.        เขียนภาพที่ระลึก  คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย บนผืนผ้าขนาดใหญ่ร่วมกัน

                                    หารือ การจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร สมาคมการ์ตูนไทย

22.00 น.                        ช่วงเวลากระชับมิตร – ปิดงาน

 

กิจกรรมแทรก/สลับตลอดงาน

·     กิจกรรมกล่องคำถาม (อยากถามนักการ์ตูนคนใด เรื่องอะไร เขียนคำถามไว้ในกล่องหน้างาน)

·     แจ้งข่าวความคืบหน้ากิจกรรมสำคัญของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ / คนการ์ตูน เพื่อเชิญชวนคนการ์ตูนร่วมงาน

·     แนะนำตัวและผลงาน ผ่านคลิปวีดีโอ

 

พิธีกรโดย :.......................................................

กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

...

 

ท่านสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้โดย

-  ร่วมเขียน / แสดงนิทรรศการ การ์ตูน คอมมิคคอมมิค สตริป นิยายภาพ และการ์ตูนช่องเดียวจบ ฯลฯ

   หัวข้อ “คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย” จำนวน 1 – 2 หน้า (กำหนดส่งภายในวันที่ 6 มกราคม 2554)

-  ร่วมกิจกรรมกิจกรรม “งัด 3” (เพะชะคุชะ ฉบับการ์ตูนไทยโชว์ผลงานคนละ 2-3 นาที)

   (แจ้งความประสงค์ภายในวันที่ 6 มกราคม 2554)

-  สนับสนุนของรางวัลภายในงาน

-  สมัครเป็นคณะทำงาน

-  สมัครเป็นพิธีกรในวันงาน

-  สมัครจัดกิจกรรมสังสรรค์ในวันงาน

-  สมทบทุน กองทุนการ์ตูนไทย

-  ร่วมสนับสนุนทุนในการจัดงาน “รวมพลคนการ์ตูน”ครั้งที่ 4 :คืนรอยยิ้มให้ประเทศไทย

ฯลฯ
110  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / กำหนดวันสอบบาลีสนามหลวง ประจำปี 2554 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 09:22:34 pm
การสอบบาลี ครั้งที่ 1

ครั้งแรก

ประโยค ป.ธ.6     วันขึ้น 2, 3 ค่ำ เดือน 3      ตรงกับวันที่ 5, 6 กุมภาพันธ์ 2554
ประโยค ป.ธ.7     วันขึ้น 2, 3 ค่ำ เดือน 3      ตรงกับวันที่ 5, 6 กุมภาพันธ์ 2554
ประโยค ป.ธ.8     วันขึ้น 4, 5, 6 ค่ำ เดือน 3   ตรงกับวันที่ 7, 8, 9 กุมภาพันธ์ 2554
ประโยค ป.ธ.9     วันขึ้น 4, 5, 6 ค่ำ เดือน 3   ตรงกับวันที่ 7, 8, 9 กุมภาพันธ์ 2554

ครั้งหลัง

ประโยค 1-2      วันแรม 10, 11 ค่ำ เดือน 3       ตรงกับวันที่ 28 กุมภาพันธ์, 1 มีนาคม 2554
ประโยค ป.ธ.3   วันแรม 10, 11, 12 ค่ำ เดือน 3  ตรงกับวันที่ 28 กุมภาพันธ์, 1, 2 มีนาคม 2554
ประโยค ป.ธ.4   วันแรม 10, 11 ค่ำ เดือน 3       ตรงกับวันที่ 28 กุมภาพันธ์, 1 มีนาคม 2554
ประโยค ป.ธ.5   วันแรม 10, 11 ค่ำ เดือน 3       ตรงกับวันที่ 28 กุมภาพันธ์, 1 มีนาคม 2554

การสอบบาลี ครั้งที่ 2 (สอบซ่อม)

      ประโยค 1-2      วันแรม 10, 11 ค่ำ เดือน 5        ตรงกับวันที่ 28, 29 เมษายน 2554
      ประโยค ป.ธ.3   วันแรม 10, 11, 12 ค่ำ เดือน 5   ตรงกับวันที่ 28, 29, 30 เมษายน 2554
      ประโยค ป.ธ.4   วันแรม 10, 11 ค่ำ เดือน 5        ตรงกับวันที่ 28, 29 เมษายน 2554
      ประโยค ป.ธ.5   วันแรม 10, 11 ค่ำ เดือน 5        ตรงกับวันที่ 28, 29 เมษายน 2554
111  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ธรรมะดิลิเวอร์รี่ ส่งถึงที่ ซึ้งถึงใจ 4 ภาค เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 09:19:54 pm


ข่าวกิจกรรม
แถลงข่าวงานเปิดตัวโครงการ Dhamma Delivery 4ภาค โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต งานเทศน์ทอล์คเต็มรูปแบบครั้งแรก ณ ร้าน จีลอง นิมมานเหมินทร์ ซอย11จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 22 กันยายน 2553

วัตถุประสงค์
โครงการ ธรรมะ Delivery ๔ ภาค โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต งานเทศน์ทอล์คเต็มรูปแบบครั้งแรก ด้วยเนื้อหาใหม่ที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน พร้อมสะพรั่งด้วยการแสดง แขกรับเชิญ ที่จะพาท่านตื่นตาตื่นใจครบรส ตลอดงานทอล์คครั้งนี้ เปลี่ยมรูปโฉมใหม่ในการเผยแผ่ สนุกไม่ยัดเยียด แต่สอดแทรกเนื้อหาชวนติดตาม มีสาระ ได้ประโยชน์ นำไปปรับใช้กับชีวิตได้จริง

แนวคิดการจัดงาน จะจัดขึ้นทั้งสี่ภาค ภาคเหนือ ใต้ อีสาน และกลาง แบ่งกลุ่มเป้าหมายไว้สองกลุ่ม กลุ่มนักเรียนนักศึกษา และกลุ่มประชาชนทั่วไป

โครงการ ธรรมะ Delivery ๔ ภาค เกิดขึ้นจากความห่วงใยและใส่ใจในงานทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยความตั้งใจและ จริงใจ ขอเป็นส่วนผลักดันให้หลักธรรมคำสอนได้เผยแผ่ในวงกว้าง ลงลึกทุกกลุ่มวัย

ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าชีวิตคนไทยมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งทางด้าน เศรษฐกิจและสังคม ทำให้การดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป มีแต่ความรีบเร่ง แก่งแย่ง แข่งขัน เพิ่มมากขึ้น จนหลงลืมการเข้าวัดเพื่อฟังธรรม ปฏิบัติธรรม กล่อมเกลาจิตใจ วัดซึ่งเป็นจุดรวมคำสอนจุดยึดเหนี่ยวจิตใจเริ่มลดบทบาทลง คนไทยโดนมอมเมาโดยสื่อด้านลบที่เข้าถึงตัวเราได้ง่ายขึ้น รวมถึงความรักความเข้าใจในสังคมลดน้อยลง สถิติปัจจุบันคนไทยมีความสุขน้อยลง เครียดมากขึ้น

ดังนั้นจึงเล็งเห็นว่า เราควรเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน โครงการที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโครงการ ธรรมะ Delivery ๔ ภาค โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต จึงเกิดขึ้น ด้วยความมุ่งหวังอย่างสูงเพื่อให้เกิด แรงกระเพื่อมทางสังคมได้ซึมซับคำสอนทางพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวคน ไทยมายาวนาน

สถานที่จัด

- ภาคใต้ สงขลา หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาทิตย์ 26 ธันวาคม 2553
- ภาคอีสาน ขอนแก่น หอประชุมมหาวิทยาลัยขอนแก่น อาทิตย์ 30 มกราคม 2554
- ภาคกลาง กรุงเทพ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาทิตย์ 13 กุมภาพันธ์ 2554



สถานที่ขายบัตร
ภาคเหนือ ซื้อบัตรได้ที่
- สุริวงศ์ บุ๊ค เซ็นเตอร์
- ร้าน จีลอง นิมมานเหมินทร์ ซอย11
- ร้าน บ้านกับดอย


รอบราคาบัตร


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 08 5503 5358


รายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสจังหวัดเชียงใหม่
112  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ศาลอาญายกฟ้อง "พระเทพวิสุทธิกวี" คดีหนังพระไตรปิฎก เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 09:10:43 pm
ศาลอาญายกฟ้อง "พระเทพวิสุทธิกวี" คดีหนังพระไตรปิฎก ในข้อหาฉ้อโกงและเรี่ยไรเงินจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งหน่วยงานรัฐ


เมื่อ วันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เป็นโจทย์ฟ้อง พระเทพวิสุทธิกวี รองอธิการบดี มมร. และพวกรวม 4 รูป/คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและเรี่ยไรเงินจากประชาชนทั่วไปรวมทั้งหน่วยงานรัฐ ต่างๆ  โดยอ้างว่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์พระไตรปิฎก ฉบับมหาวิทยาลัยมหามกุฏฯ   ทั้งนี้เกิดเหตุระหว่างเดือน ธ.ค. 2548-ก.ค. 2552 นั้น

ศาลพิเคราะห์แล้วว่า การกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 จะต้องมีการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ ประชาชน  ซึ่งบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดอาญาฐานดังกล่าว คือผู้ถูกหลอกลวงหรือต้องเสียทรัพย์จากการหลอกลวง  แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ถูกจำเลยทั้ง 4 รูป/คน หลอกลวงหรือต้องสูญเสียทรัพย์สินไปจากการถูกหลอกลวง อันจะถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลย   โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2 (4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

ด้านพระเทพวิสุทธิกวีกล่าวว่า เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์และความยุติธรรม เพราะมีหลักฐานเอกสารต่างๆ ว่าการดำเนินการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับภาพยนตร์นั้น อธิการบดี มมร. เป็นผู้ลงนาม   อย่างไรก็ตาม ยังมีคดีความที่ มมร. ไปฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษและ ป.ป.ช.  ตนเองก็จะสู้ให้ถึงที่สุด  นอกจากนั้น ยังมีคดีที่อาตมาฟ้อง มมร. ซึ่งที่ผ่านมาตัวแทนของ มมร. ขอเลื่อนนัดศาลไปแล้วถึง 2 ครั้ง.
ที่มา:
ไทยรัฐ

http://www.phrathai.net/node/3101
113  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขยายเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่ง อาจารย์ เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 09:04:25 pm
ประกาศ ขยายเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่ง อาจารย์

ประกาศ ขยายเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่ง อาจารย์ ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้จากเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้

เอกสารประกอบ : 1000000724.pdf
ประเภทข่าว : ประชาสัมพันธ์
วันที่เผยแพร่ : 8 ธันวาคม 2553 - 31 มกราคม 2554

http://www.soc.cmu.ac.th/report.asp?NID=1000000724
114  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รับสมอง'สิ่งที่สูงกว่าเงิน'ธรรมะน่าคิดท่านว.วชิรเมธี เณรแก้วกับน้อยไชยา2 การ์ตูน เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 09:00:08 pm
รับสมอง'สิ่งที่สูงกว่าเงิน'ธรรมะน่าคิดท่านว.วชิรเมธี เณรแก้วกับน้อยไชยา2 การ์ตูนดี-เหมาะสำหรับเยาวชน

คอลัมน์ เลาะแผงหนังสือธรรมะ

คนข่าวธรรมะ areeya_814@hotmail.com



เมื่อเราแสวงหามูลค่าทรัพย์สินเงินทอง ถ้ารู้จักเปลี่ยนมูลค่าเป็นคุณค่าของชีวิต คือ ยิ่งรวยยิ่งให้ ยิ่งได้ยิ่งแบ่งปัน ชีวิตเราจะมีแต่ความสุข

-ครั้งนี้ขอแนะ นำหนังสือดีจากสำนักพิมพ์ปราณ นำเสนอ "สิ่งที่สูงกว่าเงิน" เขียนโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) หลายคนคิดว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและคิดว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง แต่แท้ที่จริงแล้ว คุณจะพบว่ายังมีสิ่งที่สูงกว่าเงินอีก และสิ่งเหล่านั้นช่วยสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้แก่ชีวิตคุณ เพราะเงินเป็นเพียงปัจจัย แต่ยังไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของการเป็นมนุษย์ ราคา 259 บาท

-"เชื่ออย่างไร ได้อย่างนั้น" หนังสือแห่งความเชื่อที่จะเปลี่ยนความคิดและชีวิตที่เหลือของคุณโดยสิ้นเชิง สามารถทำให้คุณลดทุกข์ สร้างสุข และความสำเร็จได้จริงๆ ด้วยการยึดธรรมะเป็นแกนของชีวิต มุ่งมั่นและมีเป้าหมายที่ชัดเจน วิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายก็จะก่อตัวขึ้น ถ้าเราไม่หยุด เราจะมี จะเป็น จะทำอะไรก็ได้ ถ้าเราต้องการจริงๆ เป็นความจริงที่เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเราเองทุกคน บริษัท บิสซี่เดย์ จำกัด จัดพิมพ์ ราคา 175 บาท

-"รู้ชะตาชนะดวง ๒๕๕๔" ทำนายดวงประจำปี 2554 ของโหรชื่อดัง 'อ.ปฐวี ท่าช้าง' ที่จะเผยความลับฟ้า ตอบทุกเรื่องที่เราอยากรู้ ทั้งเรื่องการงาน การเงิน และความรัก รวมทั้งเคล็ดลับเพื่อพิชิตโชคชะตา สำนักพิมพ์ เวิร์คพ้อยท์ จัดพิมพ์ ราคา 89 บาท

-"เณรแก้วกับน้อยไชยา 2 ตอน ผจญภัยในภาคกลาง" ในครั้งนี้ เณรแก้ว ผู้รักคุณธรรม และน้อยไชยา เจ้าหนูนักมวย ออกเดินทางปราบปีศาจร้ายในภาคตะวันตกและภาคกลาง คราวนี้ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้าปีศาจลิงจอมขโมยที่มีพลังย้ายมิติ และปีศาจทหารญี่ปุ่นจอมอาฆาตแค้นบนทางรถไฟสายมรณะ! อ่านสนุกเพลิดเพลินในรูปแบบภาพการ์ตูนสี่สี นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น จัดพิมพ์ ราคา 148 บาท

-นิตยสารพระเครื่องคุณ ภาพ ส่งมาให้ 4 เล่ม นิตยสารพระเครื่อง "นะโม" ฉบับที่ 974 เดือนพฤศจิกายน 2553 ปกหน้า พระสม เด็จศาสดาสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เด่นในฉบับกับประวัติพระเกจิชื่อดัง หลวงพ่อเอิบ ฐิตธัมโม วัดหนองหม้อแกง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท และ พระครูปลัดธวัชชัย ชีวสุทโธ พุทธสถานวิหารธรรม ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

-นิตยสารพระเครื่อง "อิทธิฤทธิ์" ปักษ์แรกเดือน พฤศจิกายน 2553 เด่นในฉบับกับเรื่องราวพระเกจิคณาจารย์ พระครูโสภณพรหมคุณ (สวาท สุภาจาโร) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในนาม 'หลวงพ่อตึ๋ง วัดหลวงพ่อปากแดง' วัดพราหมณี อ.เมือง จ.นครนายก พระเกจิชื่อดังแห่งนคร นายก และ หลวงพ่อสาย สุธัมโม วัดเจริญสุขาราม (บางไผ่เตี้ย) จ.สมุทร สาคร

-นิตยสาร "ข่าวพระเครื่อง" ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 ปกหน้า พระสมเด็จบาง ขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ, พระผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง พิมพ์หัวโต บล็อกหินมีดโกน, พระกริ่งประภามณฑล หลวงพ่อกึ๋น วัดดอนยานนาวา, เหรียญหลวงพ่อทองสุข เนื้อเงิน วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี, เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดช้างให้ ปี พ.ศ.2500

-นิตยสารพระเครื่อง "ศักดิ์สิทธิ์" ประจำเดือนพฤศจิกายน 2553 ปกหน้า วัตถุมงคลกุมารทองเทพ สิทธิชัย เครื่อรางดัง หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย วัดสุทธาวาสวิปัสสนา ต.ลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เด่นในฉบับกับเรื่องราวอัตโนประวัติหลวงปู่สุข สุชีโว เกจิดังแห่งวัดหนองหินมงคลธรรม อ.คลองหาด จ.สระแก้ว

-แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์ใหม่ครับ



หนังสือ ... "พุทธศิลป์วิเศษ"

จัดพิมพ์ ? สำนักพิมพ์อมรินทร์

ราคา ... 3,000 บาท



หนังสือ "พุทธศิลป์วิเศษ" เกิดจากการรวบรวมโบราณวัตถุ หมวดพระเครื่อง พระบูชา ด้วยการสืบเสาะข้อมูลจากครูบาอาจารย์และนักสะสมอาวุโส ที่ได้รับมรดกตกทอด โดยคัดเลือกจากสิ่งมงคลหายากสมบูรณ์ สวย งาม มีประวัติศาสตร์ ชัดเจน

ของ บางอย่างเป็นของสะสมส่วนบุคคลที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งผู้ที่ครอบครองไว้ต่างไม่ค่อยนำออกมาเผยแพร่ ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า พระเครื่อง พระบูชา ที่มีชื่อเสียงได้ถูกเก็บไปอยู่กับผู้ที่รักการสะสม และไม่ปรากฏแก่สาธารณะได้ชมอีก

ดังนั้น สำนักพิมพ์อมรินทร์ จึงได้จัดทำหนังสือ "พุทธศิลป์วิเศษ" โดยเสาะแสวงหาสุดยอดของสะสมส่วนบุคคล ที่เป็นพระประวัติศาสตร์ล้ำค่าต่างๆ นำมาเผยแพร่ให้นักสะสมที่มีความศรัทธา ได้ชื่นชมและสามารถศึกษาได้ถึงความรู้สึกนึกคิด เกิดสุนทรียภาพด้านงานศิลปะทางประวัติศาสตร์ ความเชื่อในพระพุทธคุณ

ภาย ในเล่มมีข้อมูลพุทธศิลป์ในประเทศไทย โดย ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ความเป็นมาของพระพิมพ์หรือพระเครื่องในเมืองสยามโดย ทรงวิทย์ แก้วศรี และแบ่งเนื้อหาออกเป็นหมวดหมู่ ดังนี้ ศิลปะเทวรูปและพุทธบูชา พระเบญจภาคี พระเนื้อดิน พระเนื้อชิน พระเนื้อผง พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ และรูปหล่อ พระเหรียญ พระปิดตาและพระปิดทวารทั้งเก้า พระเนื้อว่าน

"หนังสือ พุทธศิลป์วิเศษ เป็นหนังสือรวบรวมสุดยอดพระเครื่องเล่มแรกที่จัดพิมพ์ขึ้น โดยใช้เทคนิคการพิมพ์แบบ FM Screen ซึ่งเป็นเทคนิคการพิมพ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดในปัจจุบัน สามารถพิมพ์ภาพพระเครื่องพระบูชาและสามารถมองเห็นได้เหมือนกับการส่องพระ ที่สำคัญภาพพระเครื่อง พระบูชาในเล่มยากแก่การทำซ้ำหรือลอกเลียนแบบได้"

หนังสือ เล่มนี้พิมพ์จำนวน 3,000 เล่ม เพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองได้ที่ร้านนายอินทร์ บีทูเอส ซีเอ็ด คิโนะคูนิยะ ทุกสาขา และร้านหนัง สือทั่วประเทศ หรือฝ่ายสมาชิก โทร 0-2423-9999 กด 2 ในราคา 2,950 บาท

สำหรับผู้ที่สั่งจองก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน รับส่วนลด 20% เหลือเพียง 2,360 บาทเท่านั้น

หน้า 29

ที่มาข่าวสาร
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXlOakUwTVRFMU13PT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1DMHhNUzB4TkE9PQ==
115  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / โครงการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน 1-15 ม.ค.54 อ.เมือง นครปฐม สำนักธัมโมทยะ เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 08:57:57 pm
โครงการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน 1-15 ม.ค.54 อ.เมือง นครปฐม สำนักธัมโมทยะ


โครงการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน
ณ สำนักวิปัสสนาธัมโมทยะ
45/1 หมู่4 ตำบลถนนขาด อำเภอเมือง นครปฐม 73000
E-mail address: dhammodaya@yahoo.ca

หลักสูตรฝึกอบรมเมตตาและวิปัสสนากรรมฐาน
โดย พระอาจารย์เองตะกะ
ระหว่างวันเสาร์ที่ 1 ถึงวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554
(มีล่ามแปล)


พระวิปัสสนาจารย์ : พระอาจารย์ เองตะกะ
ค่าใช้จ่าย : ฟรี เชิญบริจาคตามจิตศรัทธา
ติดต่อ :
คุณศิริรัตน์ รัชตะพงศ์ธร : 08-1-7958045
คุณแม่ชีสุนีย์ ฤทธิสุข : 08-3-2967030
คุณรภานัน วิภาตะโยธิน : 08-1-8109632
อีเมล์ : dhammodaya@yahoo.ca

ประวัติพระอาจารย์
พระอาจารย์ อู เองตะกะ ( Sayadaw U Inndaka) หรือ พระอาจารย์ เชมเย ไม (Chanmyay Myaing Sayadaw)
พระอาจารย์เข้าสู่ร่มกาสาวพัศน์ตั้งแต่อายุยังน้อย บวชเป็นสามเณร เมื่อท่านยังเป็นสามเณรอยู่นั้น
ท่านได้ศึกษาคัมภีร์พุทธศาสนากับพระอาจารย์ชื่อดังชาวพม่าหลายรูป รวมถึงกับอดีตพระอาจารย์ใหญ่
มหากานดายอง แห่งเมือง อมรปุระ ( the late Mahagandhayon Sayadaw in Amarapura)
หลังจากที่ท่านได้สอบผ่านในระดับ ธัมจริยะ (ซึ่งเป็นระดับการเรียนสูงสุดของพระสงฆ์ในประเทศพม่า)
ท่านได้สอนปริยัติธรรมอยู่ประมาณ ๒-๓ ปี หลังจากนั้นจึงเข้าฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ตามแนวสติปัฏฐาน๔ ภายใต้การแนะนำของพระอาจารย์ใหญ่เชมเย สยาดอ (สยาดอ อู ชนกภิวังศ์)
ซึ่งหลังจากนั้น พระอาจารย์ใหญ่เชมเย สยาดอได้มอบหมายหน้าที่ให้ท่านเป็น เจ้าอาวาส
ประจำสาขาเชมเย เย้กต้า ที่เมืองมอบี้ ทำหน้าที่ดูแลและะสอนวิปัสสนากรรมฐานแก่ผู้มาปฏิบัติ
ทั้งชาวพม่าและชาวต่างชาติ

ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ ( ค.ศ. 2005 ) พระอาจารย์ อู เองตะกะ ได้เปิดสำนักวิปัสสนากรรมฐานของท่านเอง
โดยใช้ชื่อว่า สำนักวิปัสสนาเชมเย ไม ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง

พระอาจารย์ อู เองตะกะได้ถูกเชิญให้ไปสอนที่ มาเลเซียและสิงคโปร์เป็นประจำทุกปี

ตารางเวลาการปฏิบัติ
Retreat’s schedule

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2554 / 1st January 2011
09:00 hrs ลงทะเบียน / Register
09:30 hrs กล่าวต้อนรับผู้ปฏิบัติ / แนะนำการใช้สถานที่ / แนะนำการปฏิบัติเบื้องต้น
Welcome meditators / Introduce the place / Basic Instruction
10:00 hrs อาราธนาศีล9 /Asking for 9 precepts
แนะนำการปฏิบัติ /Meditation Instruction
11:00 hrs อาหารกลางวัน / Lunch
12:00 hrs พักผ่อน / Rest
13:00 hrs เดินจงกรม – นั่งสมาธิ / Walking and Sitting Meditation
17:00 hrs น้ำปานะ / Refreshment
18:00 hrs เดินจงกรม / Walking Meditation
21:30 hrs พักผ่อน / Rest




วันอาทิตย์ที่ 2 – วันศุกร์ที่14 มกราคม 2554 / 2nd -14th January 2011
04:00 hrs ตื่นนอน / Wake up
04:30 hrs นั่งสมาธิพร้อมกันในห้องปฏิบัติธรรม
Group sitting at the meditation hall
เดินจงกรม – นั่งสมาธิ /Walking and Sitting Meditation
06:30 hrs อาหารเช้า /Breakfast
08:00 hrs เดินจงกรม – นั่งสมาธิ / Walking and Sitting Meditation
11:00 hrs อาหารกลางวัน / Lunch
12:00 hrs พักผ่อน / Rest
13:00 hrs เดินจงกรม – นั่งสมาธิ / Walking and Sitting Meditation
17:00 hrs น้ำปานะ / Refreshment
18:00 hrs เดินจงกรม / Walking Meditation
19:00 hrs ธรรมบรรยาย / Dhamma Talk
20:00 hrs เดินจงกรม / Walking Meditation
20:30 hrs นั่งสมาธิ / Sitting Meditation
21:30 hrs พักผ่อน / Rest

วันเสาร์ที่ 15มกราคม 2554 / 15th January 2011

04:00 hrs ตื่นนอน / Wake up
04:30 hrs นั่งสมาธิพร้อมกันในห้องปฏิบัติธรรม /Group sitting at the meditation hall
เดินจงกรม – นั่งสมาธิ /Walking and Sitting Meditation
06:30 hrs อาหารเช้า /Breakfast
08:00 hrs ถาม- ตอบ / Questions and answers ธรรมบรรยาย / Dhamma Talk
อาราธนาศีล5 / Ask for 5 precepts
กล่าวคำขอขมา /Ask for forgiveness
11:00 hrs อาหารกลางวัน / Lunch
กลับบ้าน / Go back home


สาธุ..ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่สนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมครับ
116  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ข่าว ตะลึง! หนูน้อย 5 ขวบ บวชชีใฝ่ธรรมะอุทิศให้คุณทวด-ย่า เมื่อ: ธันวาคม 17, 2010, 08:54:36 pm

ฮือฮาแวดวงคนเล่นเน็ต หนูน้อยแค่ 5 ขวบ ขอบวชชี แสดงความกตัญญุตาต่อบุพการี อุทิศส่วนกุศลแก่คุณชวด-คุณย่า ผู้ล่วงลับ โดยถือวัตรปฏิบัติที่งดงามเหมือนแม่ชีทุกประการ นานถึง 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกรับบาตรพร้อมแม่ชี ผู้ใหญ่ สร้างความทึ่งและซึ้งใจแก่ผู้รู้ข่าว ร่วมอนุโมทนาบุญล้นหลาม ขณะที่หนูน้อยเปิดใจชอบบวชชีและอยากบวชนานกว่านี้ แต่ต้องกลับไปเรียนหนังสือ แต่จะกลับมาบวชใหม่ในโครงการบวชชีพุทธสาวิกา ภาคฤดูร้อน ช่วงเมษาฯนี้ เชื่อคุณชวด-คุณย่า จะได้รับผลบุญจากการบวช

เรื่อง ราวของหนูน้อยวัย 5 ขวบ แต่มีความกตัญญูต่อบุพการีอย่างเหลือล้น ตัดสินใจโกนหัวนุ่งขาวห่มขาว บวชชีหน้าไฟเป็นแม่ชีน้อย อุทิศส่วนกุศลให้กับคุณชวดอายุ 105 ปี และคุณย่าผู้ล่วงลับรายนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า บรรดานักท่องเน็ตต่างฮือฮา เกี่ยวกับเรื่องแม่ชีน้อยบวชอยู่ที่เสถียรธรรมสถาน โดยพากันโพสต์ข้อความชื่นชมในตัวแม่ชีน้อย ซึ่งถือได้ว่าเป็นแม่ชีที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย จึงได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เสถียรธรรมสถาน ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา และได้ทราบจากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ว่า แม่ชีน้อยชื่อ ด.ญ.พอฟ้า พรรณเชษฐ์ ชื่อเล่นน้องฟ้า อายุ 5 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 61/80 ซอยทวีมิตร 10 ถนนพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เรียนอยู่เกรด 1 ที่โรงเรียนนานาชาติ นิว อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล ออฟ ไทยแลนด์ สุขุมวิทซอย 15 เป็นลูกสาวคนเล็กของนายคมกฤช สัจจาอนันตกุล อายุ 46 ปี เจ้าของบริษัทผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ และนางปิยพร พรรณเชษฐ์ อายุ 42 ปี ผู้บริหาร บริษัทเอกชน มีพี่ชาย 1 คน คือ ด.ช.พอเพียง พรรณเชษฐ์ หรือน้องพอ อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่เกรด 2 โรงเรียนเดียวกัน

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต กล่าวว่า น้องฟ้า หรือพุทธสาวิกาฟ้า มาบวชตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.ปีที่ผ่านมา และลาสิกขาไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2553 รวมเป็นเวลา 14 วัน เป็นเด็กที่พ่อแม่พามาที่เสถียรธรรมสถานเป็นประจำตั้งแต่เล็กๆ การบวชชีนั้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณยายชวดชื่อนางทองดี บัณฑุรัตน์ อายุ 105 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา และคุณย่าดวงพร สัจจาอนันตกุล อายุ 72 ปี เป็นความสมัครใจของเด็ก ไม่มีการบังคับจากผู้ปกครอง เป็นจิตกุศลที่บริสุทธิ์ เป็นการแสดงความกตัญญู

โดยการบวชเริ่มจาก ที่ตนไปร่วมแสดงธรรมในงานสาธยายพระไตรปิฎกระดับชาติ ในหัวข้อทางพุทธสาวิกา เพื่อชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงก็มีศักยภาพในการบรรลุธรรมได้ ที่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ประเทศอินเดีย นับเป็นเรื่องบังเอิญมาก ถือเป็นความมหัศจรรย์ ที่พอกลับมาเมืองไทย ได้ทราบว่าน้องฟ้าเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆที่อยากบวชเป็นพุทธสาวิกา ที่เสถียรธรรมสถานแห่งนี้

แม่ชีศันสนีย์กล่าวว่า เดิมทีน้องฟ้าจะบวชเพียงวันเดียว เพื่อจูงศพคุณชวดและคุณย่า ขณะไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดเท่านั้น ผู้ที่มาร่วมงานศพเมื่อได้เห็นน้องฟ้า  แม่ชีน้อยเดินจูงศพด้วยอากัปกิริยาที่สำรวมและสงบเสงี่ยมเหมือนแม่ชีผู้ใหญ่ ทุกคนต่างทึ่งในความกตัญูและความงดงามในศีลอันบริสุทธิ์ของแม่ชีน้อย โดยระหว่างเดินจูงศพน้องฟ้าได้เดินประสานมือทั้งสองข้างเหมือนกับคล้ายทำ สมาธิไปด้วย หลังจากกลับจากงานศพน้องฟ้าได้กระซิบบอกแม่ว่า อยากจะบวชต่อ และมาปรึกษาตนว่า อยากให้ดูเป็นวันต่อวันไป โดยน้องบวชได้ถึง 14 วัน ต้องลาสิกขาเพราะต้องไปเรียนหนังสือ ทั้งๆที่ใจไม่อยากจะสึก ขณะที่บวชชีตนเคยถามว่า น้องฟ้าบวชแล้วรู้หรือไม่ว่าคุณชวดอยู่ที่ไหน น้องฟ้าตอบว่า คุณชวดอยู่ในตัวฟ้า ซึ่งเป็นคำตอบที่สร้างความประหลาดใจอย่างมาก และเชื่อว่าการตายของคุณชวดกลับกลายเป็นการเกิดของเด็กหญิงที่เป็นเหลนวัย เพียง 5 ขวบ ถือว่าการตายของคุณชวด เป็นการเกิดของเหลนฟ้าในทางธรรมนั่นเอง

ผู้ ก่อตั้งเสถียรธรรมสถานกล่าวต่อไปว่า น้องฟ้าเป็นเด็กที่มีความอดทนสูง เห็นได้จากการโกนผมที่ต้องใช้เวลาถึง 45 นาที จากนั้นต้องเข้าสู่พิธี โดยเฉพาะการทำความเข้าใจในหลักปฏิบัติการถือศีลของแม่ชี โดยเริ่มอธิบายรายละเอียดเป็นภาษาที่เด็กเข้าใจง่ายๆ แล้วถึงเริ่มฝึกเป็นภาษาบาลี หลังจากบวชแล้วต้องปฏิบัติ ทำวัตร ออกบิณฑบาต ฉันเสร็จต้องล้างบาตรด้วยตัวเอง ทำความสะอาดซักผ้า ซึ่งน้องฟ้าปฏิบัติได้เองทุกอย่าง โดยมีแม่ชีรุ่นพี่คอยแนะนำให้ ถือเป็นเด็กที่เก่งและมีความตั้งใจดีมาก

แม่ชีศันสนีย์ยังเล่าถึง ความประทับใจในตัวแม่ชีน้อยรายนี้อีกว่า ก่อนที่น้องฟ้าจะสึกในวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาเสถียรธรรมสถานได้จัดงานร่วมทำบุญตักบาตรขึ้นปีใหม่ มีประชาชนราว 500 คนเข้าร่วม น้องฟ้าได้ออกบิณฑบาตแบบแม่ชีทุกคน ตนได้ถามน้องฟ้าว่าไหวหรือไม่ หนักหรือไม่ที่ต้องถือบาตร ขณะที่เหงื่อออกเต็มใบหน้าน้อยๆ แต่น้องฟ้าตอบทันควันว่า "ไหว" จุดนี้เอง เมื่อผู้เข้าร่วมงานเห็นทำให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใสในแม่ชีตัวน้อย พร้อมกับยกมือไหว้พุทธในใจของเด็กคนนี้ จุดนี้เองทำให้มีการฟอร์เวิร์ดในเว็บไซต์นับแสนราย น้องฟ้าถือเป็นเด็กหญิงคนแรกที่อายุน้อยที่สุดที่ตนเคยบวชให้ และเป็นผู้ที่จุดประกายให้ตนจัดโครงการบวชชีพุทธสาวิกา ภาคฤดูร้อนระหว่างวันที่ 9-19 เม.ย.นี้ โดยจะรับเด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้ได้ดี เข้ามาบวชที่เสถียรธรรมสถาน

ด้าน น้องฟ้า-ด.ญ.พอฟ้า พรรณเชษฐ์ อดีตแม่ชีน้อยกล่าวว่า การบวชครั้งนี้เป็นความตั้งใจของตน ที่ต้องการบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับคุณชวดและคุณย่าที่เสียชีวิตไป จากการบวชชีนี้ได้เห็นความรู้สึกของตัวเองที่ชอบการบวชชี  เพราะมีความสุขมากและอยากกลับมาบวชอีก สิ่งที่ประทับใจก็คือเวลาออกบิณฑบาต เห็นผู้คนญาติโยมใส่บาตรแล้วรู้สึกปลื้มปีติ สุขใจอย่างยิ่ง และเชื่อว่าคุณชวดและคุณย่าที่ล่วงลับจะได้รับผลบุญจากการบวชชีของตนครั้ง นี้

ขณะที่นายคมกฤช สัจจาอนันตกุล พ่อน้องฟ้า กล่าวว่า การบวชของลูกสาว ทำให้ตนเกิดความรู้สึกที่ทำให้ทึ่งอย่างน่าประหลาดใจในตัวลูกสาวที่อายุ เพียง 5  ขวบเท่านั้น  นั่นคือ  พี่ชายมาแกล้งยั่วยุน้องฟ้าตลอดเวลา อาทิ เอาขนมมาล่อ แต่น้องไม่มีอาการตอบโต้แต่อย่างใด กลับสงบนิ่ง รักษาศีลได้ปกติ ขณะบวชชีอยู่นั้น ตนจะมาเยี่ยมวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนนางปิยพร พรรณเชษฐ์ แม่น้องฟ้ามานอนด้วยทุกวัน ในขณะที่ปฏิบัติธรรมน้องฟ้าจะอธิษฐานจิตทุกวันให้คุณชวดที่ล่วงลับ ในอาการที่ปกติไม่มีโกรธ หรืองอแงและไม่ เจ้าอารมณ์ ผิดกับที่เคยอยู่บ้าน

ส่วน นางปิยพร พรรณเชษฐ์ แม่น้องฟ้ากล่าวว่า ดีใจและภูมิใจมากที่ลูกมีความผูกพันกับพุทธศาสนา แม้ว่าจะลาสิกขาไปแล้ว น้องฟ้ายังคงนั่งสมาธิและไปช่วยสอนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนให้นั่งสมาธิด้วย ส่วนอนาคตน้องฟ้าอยากเป็นหมอ เพราะอยากช่วยเหลือคน ช่วยเหลือสัตว์ ส่วนที่เลือกมาปฏิบัติธรรมนั้น สืบเนื่องจากเมื่อก่อนคุณพ่อของน้องฟ้าป่วยเป็นโรคหัวใจ สมัยยังเป็นนักศึกษาอยู่ เคยมีผลการเรียนระดับกลางๆของห้อง แต่พอมาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ทำจิตใจสงบไม่เครียด ไม่โกรธ ทำให้มีผลการเรียนดีขึ้นติดอันดับท็อปของห้อง ทำให้เกิดความรู้สึกที่ธรรมะช่วยได้ ตั้งแต่นั้นมาได้ปลูกฝังให้ลูกๆเข้าถึงธรรมะ โดยเน้นเรียนรู้เรื่องสมาธิจนมาถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ในวันที่ 9-19 เม.ย.นี้เสถียรธรรมสถานได้จัดโครงการบวชชีพุทธสาวิกา ภาคฤดูร้อน น้องฟ้าได้ขออนุญาตมาบวชชีอีก ตนก็อนุญาตเพราะเห็นว่า เป็นความตั้งใจจริงของลูกสาวที่จะก่อให้เกิดกุศลอันสูงส่งแก่ชีวิตของลูกต่อ ไป

ขอบคุณที่มาเนื้อหา และ ภาพจาก
http://atcloud.com/stories/75304

http://www.thairath.co.th/today/view/61078

117  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เตือนภัย แม่ชีปลอม เมื่อ: ธันวาคม 15, 2010, 08:38:48 am




ป่าปริวาสใดพบเห็นโปรดแจ้งด้วย ที่ 0862450045

สำหรับงานปริวาส ให้ระวังผู้ปลอมแปลงเป็นแม่ชี มาหลอกยืมเงินพระและนักปฏิบัติธรรม

สำหรับป่าปริวาสของทางวัดโดนหลอกเงินไป 13400 บาท ทั้งพระ สามเณร ญาติโยม

ลักษณะ อายุประมาณ 45 สูง ตาโต ผิวคล้ำ ปากเล็ก ตากรอกไปมา ใช้ชื่อว่ากิ๊ฟ และอยู่กาฬสิน

ภาพได้ชัดสุดเท่านี้
    โพสต์โดย :admin   วัน/เวลา :8/12/2553 18:44:15
ลักษณะ การเข้ามาก่อกวน รับอาสาเข้ามาช่วยทำงานต่างๆในงานปริวาสกรรม ทำงานทุกหน้าที่ ชอบจุ้นจ่านไม่สำรวม (เป็นนิสัยที่โดดเด่น) พูดเก่ง และอ้างให้ไปส่งที่ตู้atmหน่อยจะกดเงิน โดยบอกว่าไม่สามารถกดเงินได้ เอาบัญชีให้ดู มีเงินร่วม 5หมื่นบาท และลักษณะที่ผิดสังเกตสำหรับแม่ชีคือ กินข้าวเย็นในบ้านชาวบ้าน เรื่องนี้เพิ่งทราบเมื่อเช้านี้เอง ชาวบ้าน
เพิ่งจะบอก สำหรับป่าปริวาสต่างๆให้ระวังลักษณะคนดังกล่าวให้ดี ทางวัดได้ถ่ายรูปไว้ชัดแค่นี้ วัดเนกขัมมารามขออภัยคณะผู้ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้

    โพสต์โดย :admin   วัน/เวลา :8/12/2553 18:49:42

ที่มา
http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=2577
118  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมปฏิบัติธรรม วัดโพธิสัตว์บรรพตนิมิต ครูบาเจ้าบุญคุ้ม เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 10:28:33 pm
วัดโพธิสัตว์บรรพตนิมิตจัดกิจกรรมสำคัญแห่งปี ต้อนรับปีใหม่เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่บรรดาสานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาทุก ท่าน จึงใคร่ขอเชิญร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม บวชเนกขัมมะ รักษาศีล วิปัสนา กรรมฐาน เดินจงกลม ทอดผ้าป่ามหากุศล ร่วมสร้างพระแม่กวนอิมพันมือ และพิธีอาบน้ำสุริยันต์ โดยมีรายละเอียดดังนี้


30-31 ธันวาคม 2553
กิจกรรมสวดมนต์ ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคล สเดาะเคราะห์ต่อชะตาเสริมบารมี



14-21 มกราคม กิจกรรมบวชเนกขัมมะประจำปี ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ รักษาศีล วิปัสนากรรมฐานและเดินจงกลม (การแต่งกาย นุ่งขาว-ห่มขาว) และในวันที่ 16 มกราคม เวลา 12.00 น.กิจกรรมพิเศษ อาบน้ำสุริยันต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต (เตรียมเสื้อผ้า มาเผื่อเปลี่ยนด้วยนะครับ) นอกจากนี้ยังมีพิธีปัดสะตวง(ภาษเหนือ)หรือ เสียเคราะห์(ภาษาอิสาน) ส่งเคราะห์กะบี้กะบาล(ภาษากลาง) และกิจกรรมฟังเทศปฏิบัติธรรมอื่นอีกมากมาย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.081-917-6583
119  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / หลักสูตรอิ่มเอมใจ-กาย ณ ชั้น 4 อาคารพิศาลพร (ตรงข้ามเซ็นทรัล พระราม2) กรุงเทพฯ เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 10:19:53 pm
หลักสูตรอิ่มเอมใจ-กาย มีภาพบรรยากาศของเพื่อนๆ รุ่น 13 มาฝากกันนะค่ะ กับการปฏิบัติธรรรม 3 วัน 2 คืน ด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม ฝึกสติในอิริยาบถต่างๆ ออกกำลังกายด้วยการยืดกล้ามเนื้อ ในรุ่นนี้มีผู้ปฏิบัติตั้งใจปฏิบัติ ถือศีล 8 กันหลายท่าน ถ้าเพื่อนๆ ท่านใดสนใจปฏิบัติในรุ่นๆ ต่อไป สามารถเข้าร่วมได้ตามกำหนดการ ดังนี้นะค่ะ

     รุ่นที่ 15 24-26 ธ.ค. 2553

     รุ่นที่ 16 28-30 ม.ค. 2554

     รุ่นที่ 17 25-27 ก.พ. 2554

     ณ ชั้น 4 อาคารพิศาลพร (ตรงข้ามเซ็นทรัล พระราม2) กรุงเทพฯ

หมายเหตุ : ผู้ปฏิบัติธรรมถือศีล 8 (อาหาร 2 มื้อ)  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถบริจาคได้ตามกำลังศรัทธาค่ะ

(รับจำกัดไม่เกิน 50 คน พักค้างไม่เกิน 30 คน)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม




120  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / ปฏิบัติธรรมสัญจร วันที่ 12 ก.พ.ถึง 21 ก.พ.2556 .9คืน10วัน บวชเนกขัมมะวัดถ้ำผาจม เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 10:06:47 pm
❤.โครงการปฏิบัติธรรมชำระจิต "ปริวาสกรรม-บวชเนกขัมมะ"
❤.ขอเรียนเชิญญาติธรรมทุกท่านร่วมปฏิบัติธรรม
❤.ให้ทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา
❤.ณ.ศุนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
❤.วันที่ 12 ก.พ.ถึง 21 ก.พ. 2556
❤.ติดต่อ.053 733129 ตั้งแต่บัดนี้...
❤.ยินดีต้อนรับคณะญาติธรรมทุกท่านด้วยเมตตาธรรม
❤.บรรยากาศ การปฏิบัติธรรม อริยาบถ เดินจงกรม ลานรอบศาลาปฏิบัติธรรมเอนกประสงค์
หน้า: 1 2 [3] 4 5