« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2012, 10:50:07 am »
0
จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานประเพณีบุญผะเหวดและงานเทศกาลวันข้าวหอมมะลิโลกยิ่งใหญ่ 2- 4 มีนาคม นี้ หวังดึง นักท่องเที่ยวสัมผัสมหัศรรย์เที่ยวร้อยเอ็ดได้ปัญญา เสริมบุญบารมี มหาทานอันยิ่งใหญ่ หนึ่งเดียวในสยาม
นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า งานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด เป็นงานบุญที่ชาวร้อยเอ็ดได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กว่า 100 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อสืบสาน ย้อนอดีต เรียนรู้ อู่อารยธรรม เป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟู สืบทอดและส่งเสริม ตลอดทั้งเป็นการเผยแพร่จารีต ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ให้คงอยู่คู่กับวัฒนธรรมไทยสืบไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคี ระหว่างข้าราชการ พ่อค้า ชาชนชนทั่วไป เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดจัดงานในวันศุกร์ เสาร์และวันอาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ทุกปี สำหรับปี 2555 ตรงกับวันที่ 2 – 4 มีนาคม 2555 โดยวันที่ 2 มีนาคม มีพิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชทานแห่รอบเมือง การแสดง แสง เสียง "พระเวสสันดรชาดก” และงานพาแลง นุ่งผ้าไหมใส่ผ้าสาเกต สัญลักษณ์ผ้าประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ณ เกาะกลางบึงพลาญชัย วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2555 เวลา 10.00 น. ชมพิธีเปิดงานที่ยิ่งใหญ่ ชมขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , ขบวนแห่พระเวสสันดรชาดก เข้าเมืองยิ่งใหญ่ 13 กัณฑ์ นอกจากนั้น จังหวัดร้อยเอ็ด ยังมีการบริการข้าวปุ้นฟรี ตลอดทั้งเมือง , การประกวดต่างๆ , พิธีทักษิณานุประทาน และการเทศน์มาลัยหมื่น มาลัยแสน วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2555 เวลา 04.00 น. พิธีแห่ข้าวพันก้อน พิธีตักบาตร เทศน์สังกาด พิธีทำบุญตักบาตร การเทศน์มหาชาติ การแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอนวัน และพิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชทานกลับประดิษฐาน ณ สระชัยมงคล วัดบึงพลาญชัย ซึ่งในวันดังกล่าวพบว่าปีที่ผ่านมา ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้พร้อมใจกันแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน(แห่ต้นเงิน)ถวายพระ สมทบเข้ากองทุนบุญผะเหวด เพื่อจัดงานและสร้างถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา ได้เงินกว่า 2.3 ล้านบาท เป็นมหาทานอันยิ่งใหญ่ โดยพลังศรัทธา มหาชนชาวร้อยเอ็ดนับแสนร่วมบริจาคอย่างมหัศจรรย์และมิได้นัดหมายแต่อย่างใด นับเป็นจังหวัดแรกของไทยที่จัดงานประจำปีและยอดเงินเพิ่มขึ้นทุกปี จากนั้นพร้อมใจกันนุ่งขาว ห่มขาว เข้านั่งปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ วันเดียวจบ ณ เกาะกลางบึงพลาญชัย เชื่อว่า อานิสงฆ์ที่ได้ไปเกิดในศาสนาของพระศรีอริยเมตไตร ซึ่งเป็นดินแดนแห่งความสุข สงบ นอกจากนั้น จังหวัดร้อยเอ็ด ยังได้เสริมทัพ "จัดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก” ขึ้นในห้วงดังกล่าวด้านหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อสร้างความสำคัญและส่งเสริมแหล่งผลิตเฉพาะ และตราสัญลักษณ์ สินค้าข้าวหอมมะลิจังหวัดให้เป็นที่รูจักอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ เพื่อระดมแนวคิดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาการผลิต การแปรรูป การตลาด ข้าวหอมมะลิทั้งระบบ เพื่อส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวตามการพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดร้อยเอ็ด "เป็นผู้นำการผลิตข้าวหอมมะลิสู่ตลาดโลก เมืองแห่งการท่องเที่ยววิถีพุทธ และสังคมสงบสุข” โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพและมาตรฐานการผลิตข้าวหอมมะเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวหอมมะลิตามที่ตลาดต้องการ โดยมีตัวชี้วัดว่าพื้นที่ผลิตข้าวหอมมะลิตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม(GAP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ต่อปี ภายในงาน มีการประกวด การแข่งตำข้าว การเจรจาคู่ธุรกิจค้าข้าวเพื่อการส่งออก การจำหน่ายสินค้า โอทอป และ ถนนสายข้าวหอมมะลิ เลือกซื้อข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องให้ ที่ได้ฉายา "หอมมอร่อยที่สุดของไทย” และเป็น 1 ใน 5 จังหวัดภาคอีสานในเขตทุ่งกุลาร้องให้ มีพื้นที่ปลูกข้าวมากที่สุด ร้อยละ 46 หรือ พื้นที่ 2.1 ล้านไร่
นายบรรจง โฆษิตจิรนันทร์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด ระบุว่า เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่จะเดินทางมาสัมผัสมหัศจรรย์มนต์เสน่ห์งานประเพณีบุญผะเหวดและเทศกาลข้าวหอมมะลิโลกจังหวัดร้อยเอ็ด ไว้อย่างพร้อมเพรียงทั้งด้านที่พัก ร้านอาหาร และการตกแต่งเมือง ที่สำคัญเมื่อนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสมหัศจรรย์ขบวนแห่ , การแสดง เสียงสีแสง ,และฟังเทศน์มหาชาติ หรือแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน มหาทานอันยิ่งใหญ่ หรือ "กินข้าวปุ้น เอาบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ” กับชาวร้อยเอ็ด ท่านจะได้ทั้งปัญญา เสริมบุญบารมี และได้ทำบุญทำทาน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว รุ่งเรืองตลอดชีวิต อานิสงส์จาก 13 กัณฑ์ หรือ 13 บารมี จะทำให้บ้านเมืองมีแต่ความสงบและร่มเย็น” ทั้งนี้การจัดงาน ยึดหลัก ทานบารมี ,ศีลบารมี , เนกขัมบารมี , ปัญญาบารมี , วิริยบารมี ,สัจจบารมี , ขันติบารมี , เมตตาบารมี , อุเบกขาบารมี , อธิษฐานจิตบารมี ,ทัศนะบารมี, กรุณาบารมี ,มุทิตาบารมี จากข้อมูลดังกล่าวข้าต้นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้น้อมนำมาเป็นต้นแบบจัดงานที่ครบสมบูรณ์แบบลงตัว และลงมือทำด้วยจิตวิญญาณ เพื่อสื่อสารให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศ ด้วยตัวเอง และในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม ชาวร้อยเอ็ด พร้อมใจกันแห่ข้าวพันก้อน ฟังเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน ฟังเทศน์มหาชาติ และแห่กัณฑ์จอบกันหลอน ด้วยจิตใจเพื่อทำบุญอย่างแท้จริง
ด้านนายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ระบุว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ยังได้ส่งเสริมงานสำคัญดังกล่าว อย่างเต็มที่ ได้ตั้งงบประมาณสนับสนุน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด และโดยเฉพาะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดท่องเที่ยววิถีพุทธ และเป็นเมืองพระรัตนตรัย หรือเป็นจังหวัดเดียวของไทย ที่เขียนชื่อจังหวัดเป็นตัวเลขได้ด้วย ร้อยเอ็ดมีความรุ่งเรืองในอดีตสมัยก่อนพุทธกาล เมืองเนรมิต เมือ 3,000 ปี "เมืองสาเกตนคร” หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่พบ เสาหินแปดเหลี่ยมโบราณ” ที่วัดเหนือ เขียนด้วยอักษรปาละกะ ว่า เป็นขอบเขต เมืองคนมีบุญสร้าง และคนมีบุญอาศัยอยู่เท่านั้น” และสถานที่จัดงานประเพณีบุญผะเหวด บึงพลาญชัย ร้อยเอ็ด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด สักการะ บูชา สถานที่ประดิษฐาน ศาลหลักเมือง ,พระพุทธโคดม ดังกล่าวข้างตัน ยังมีพระพุทธรัตนมงคลมุนี(พระเจ้าใหญ่า) ที่วัดบูรพาภิราม เป็นพระพุทธรูปยืนปางประทานพร สูง 101 ศอก สูงที่สุดในประเทศไทย , อุโมงค์ปลา แห่งแรกของภาคอีสาน , วัดบึงพลาญชัย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ , วัดเหนือ เจดีย์โบราณ 1,300 ปี และเสาหินแปดเหลี่ยมโบราณ(ยุคหินใหม่ 3-5 พันปี) ,พิพิธภัณฑ์เมืองแห่งแรกของไทย (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติร้อยเอ็ด” ศูนย์รวมวัตถุโบราณที่สำคัญของจังหวัดเอ็ด แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม ประวัติศาสตร์เมืองร้อยเอ็ด ,ตุ้มหูเศียรพญานาคทองคำของเจ้าเมืองในอดีต พบที่กู่กาสิงห์ ปัจจุบันเก็บไว้ ณ แห่งนี้ ติดมตามชมได้ ที่กล่าวข้างต้นตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ห่างจากตัวจังหวัดร้อยเอ็ด 80 กม. ที่อำเภอหนองพอก เป็นเจดีย์ทีสวยงาม ขนาดใหญ่ที่สุดของไทยในยุครัตนโกสินทร์ เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ที่ขนาดความกว้างยาว 101x 101 เมตร สูง รวมยอดทองคำ 109 เมตร ก่อสร้างโดยศรัทธาศิษย์หลวงปู่ศรี มหาวีโร กว่า 3,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ วัดผาน้ำย้อย ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก และ บรมพุทโธ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก องค์จำลองของไทยแห่งแรก ณ วัดป่ากุง อ.สมเด็จ ห่างจากตัวเมือง 18 กม. และสักการะ อุฐิธาติหลวงปู่ศรี มหาวีโร พระอริยสงฆ์ศิษย์หลวงปู่หมั้น ภูทริรัตโต และสัมผัสย้อนอดีตเรียนรู้ อู่อารยธรรม ทะเลดึกดำบรรพ์ ทุ่งกุลาร้องให้ ที่กู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย กู่พระโกนา , เมืองจำปาขัน พระธาตุพันขัน อ.สุวรรณภูมิ บ่อพันขัน ที่อำเภอหนองฮี หรือสักการะพระธาตุ ณ เจดีย์วัดกลางอุดมเวทย์ ณ อำเภอพนมไพร หรือเมืองราชคฤช สร้างเมื่อ พ.ศ. 8 ปีเดียวกับพระธาตุพนม สำหรับที่พัก และการเดินทาง สะดวกสบาย ที่เที่ยวบิน เที่ยวเช้า-เย็นไป-กลับทุกวัน ที่พักกว่า 2,000 ห้อง และมีรถรางบริการทัวร์วัดดังกล่าวด้วย พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นจังหวัดร้อยเอ็ด ยังได้มีของที่ระลึก ที่ต้องการแนะนำ ได้ข้าวหอมมะลิร้อยเอ็ด หอมอร่อยที่สุดของไทย หอมกว่าทุกแห่ง 2 เท่า เนื่องจากปัจจัยพื้นที่ ทุ่งกุลาร้องให้ เป็นดินเค็ม ประสบกับภัยแล้งอย่างหนัก ส่งผลให้ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา หลั่งสารหอม 2 AP (2 –acetyl-1-pyrrolineX )พืชสร้างขึ้น ทำให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฯ หอมอร่อยที่สุดของไทย ผ้าไหมสาเกต ผ้าสัญลักษณ์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าลายมงคล 5 ประการ หมายถึงความอุดเมสมบูรณ์ ความรุ่งเรือง , สว่างไสว ,ความซื่อสัตย์ ,ความซื่อตรง ความยั่งยืน ,และสื่อสารความเป็นเมืองพระพุทธศาสนา นับว่าการจัดงานประเพณีบุญผะเหวด และเทศกาลข้าวหอมมะลิโลก จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมมือเป็นเจ้าภาพจัดงาน อย่างแท้จริง เพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาว ต่างประเทศ โดยเฉพาะเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงบุญบารมี เที่ยวร้อยเอ็ด ได้ปัญญา เสริมบุญบารมีมหาทานอันยิ่งใหญ่ หนึ่งเดียวในสยาม ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ วัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด 0-4352-7814 เกษตรจังหวัดฯ 0-4356-9004 สำนักงานจังหวัดฯ 0-4351-9165 หอการค้าจังหวัดฯ 0-4351-5004 และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ 0-4352-7117 /0-4351-5374 ///// วัชรินทร์ เขจรวงศ์ http://77.nationchannel.com/video/202657/ผมชอบตรงที่ว่า กินข้าวปุ่น ฟรีทั้งเมือง นี่สิ ชอบมาก ๆ ๆๆๆ
ผู้เขียน
หัวข้อ: ประเพณีบุญผะเหวดและงานเทศกาลวันข้าวหอมมะลิโลกยิ่งใหญ่ 2- 4 มีนาคม 2555 ร้อยเอ็ด (อ่าน 3034 ครั้ง)