ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เทคนิคปลดหนี้ ที่ควรรู้  (อ่าน 676 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เทคนิคปลดหนี้ ที่ควรรู้
« เมื่อ: กันยายน 10, 2014, 10:02:34 am »
0

เทคนิคปลดหนี้ ที่ควรรู้

หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเป็นหนี้ลำดับต้นๆ ที่ควรปรับลดให้เร็วที่สุด
    “หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเป็นหนี้ลำดับต้นๆ ที่ควรปรับลดให้เร็วที่สุด” – K-Expert
     เมื่อเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หรือหนี้บัตรต่างๆ เชื่อว่าทุกคนต่างต้องการให้หนี้หมดโดยเร็ว แล้วควรจะทำอย่างไรบ้าง บทความนี้มีเทคนิคปลดหนี้มาฝากค่ะ

 ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

หนี้บ้าน นับว่าเป็นหนี้ที่มีมูลค่าสูงและใช้เวลานานในการชำระหนี้ โดยบางคนอาจใช้เวลานานถึง 25-30 ปี เลยทีเดียว อัตราดอกเบี้ยในการกู้ซื้อบ้านถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับหนี้ประเภทอื่น โดยเป็นแบบลดต้นลดดอก ซึ่งปกติธนาคารจะคิดอยู่ที่ MLR (Minimum Loan Rate) หรือปัจจุบันอยู่ที่ 6-7% ต่อปี การโปะเป็นเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้เราประหยัดดอกเบี้ยลงได้มาก ยกตัวอย่างเช่น หากขอสินเชื่อบ้าน 1 ล้านบาท เป็นเวลา 30 ปี ถ้าคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดสูงเกือบ 8 แสนบาท

ขณะที่การชำระหนี้เพิ่มหรือโปะเพิ่มเพียงเดือนละ 10% จะช่วยร่นระยะเวลาผ่อนให้ลดลงไปถึง 4 ปี และดอกเบี้ยเหลือเพียง 6 แสนบาท ส่วนการรีไฟแนนซ์ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยบรรเทาภาระดอกเบี้ยได้ แต่ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรตรวจสอบก่อนว่า ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้จะคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์หรือไม่ โดยควรรอให้พ้นระยะเวลาที่ธนาคารเดิมคิดค่าปรับเสียก่อน ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 3 ปี


หนี้รถ เป็นหนี้ที่มีการคิดดอกเบี้ยแตกต่างจากหนี้รูปแบบอื่นๆ เพราะมีการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งปกติแล้วอยู่ที่ 2.5-5% ต่อปี (เทียบกับแบบลดต้นลดดอกประมาณ 5-10% ต่อปี) ยิ่งเลือกผ่อนยาวก็จะจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น อีกทั้งการโปะไม่สามารถช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงได้ วิธีที่จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยลงได้คือ การปิดหนี้รถไปเลยในครั้งเดียว เพราะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดให้ผู้ให้เช่าซื้อต้องลดดอกเบี้ยไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อรถราคา 5 แสนบาท โดยผ่อนชำระเป็นเวลา 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ดอกเบี้ยทั้งหมดเท่ากับ 6 หมื่นบาท แต่หากทำการปิดหนี้เมื่อผ่อนไปแล้ว 2 ปี จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยไปได้เป็นเงิน 7,653 บาท


หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด เป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด หากนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าแล้วชำระไม่เต็มจำนวน หรือมีการกดเงินจากบัตรเครดิต จะเสียดอกเบี้ยที่อัตรา 20% ต่อปี ส่วนบัตรกดเงินสดจะมีการคิดดอกเบี้ยที่ 28% ต่อปี โดยเริ่มคิดเมื่อมีการกดเงินสดออกมาจากบัตร เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด หลายๆ คนมักเลือกที่จะชำระเท่ากับยอดชำระขั้นต่ำซึ่งอยู่ที่ 5-10% ของยอดหนี้ การชำระเงินแบบนี้ทำให้ยอดหนี้ที่เป็นเงินต้นลดลงไปน้อยมาก จึงใช้เวลานานกว่าจะชำระหนี้จนหมด

แนะนำว่า เมื่อเป็นหนี้บัตรทั้ง 2 ประเภท ควรรีบชำระหนี้หรือโปะให้เร็วที่สุด เพื่อให้ยอดหนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นลดลง จะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนมาก


 :96: :96: :96:

หวังว่า คำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้สามารถปลดหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเป็นหนี้ลำดับต้นๆ ที่ควรปรับลดให้เร็วที่สุด

   K-Expert Advice
   • สำรองเงินเผื่อฉุกเฉินเท่ากับค่าใช้จ่าย 6 เดือน สามารถป้องกันไม่ให้กดเงินจากบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดได้
   • นำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 1 แสนบาท


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/Article/265385/เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ