ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - nonestop
หน้า: [1]
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นั่งสมาธิ ที่บ้าน เอาแบบ หลักสูตร เป็นเร็ว เข้าใจง่าย ครับ เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 07:01:50 pm
นั่งสมาธิ ที่บ้าน เอาแบบ หลักสูตร เป็นเร็ว เข้าใจง่าย ครับ
  อยากนั่งสมาธิ ที่บ้านบ้าง เอาแบบ ที่เข้าใจง่าย ขั้นตอนไม่มาก ควรทำอย่างไร บ้างครับ โปรดแนะนำด้วยครัับ

  :c017: :s_hi:
2  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / คำว่า นิพานัง ปรมัง สุขัง ต่างกับ นิพานัง ปรมัง สุญญัง อย่างไร เมื่อ: ตุลาคม 16, 2012, 12:14:44 pm
คำว่า นิพานัง ปรมัง สุขัง ต่างกับ นิพานัง ปรมัง สุญญัง อย่างไร

  ตามคำถามเลยครับ
3  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / จ่ายค่าไฟฟ้า เพิ่มขึ้นอีกแล้วนะเริ่มตั้งแต่ เดือน ก.ย.55 ไป จาก .3 เป็น .48 (ft) เมื่อ: กันยายน 20, 2012, 01:27:22 am
เรกูเลเตอร์ ไฟเขียวปรับขึ้นค่าเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค. 18 สต./หน่วย
Thursday, September 06, 2012

         นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(FT) งวดใหม่ระหว่างเดือนก.ย.-ธ.ค.55 เพียง 18 สต./หน่วย จากต้นทุนที่จะต้องปรับขึ้นจริงถึง 38.24 สต./หน่วย โดยส่วนที่เหลืออีก 20.24 สต./หน่วยนั้น จะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นผู้รับภาระชั่วคราวไปก่อน คิดเป็นมูลค่า 10,504 ล้านบาท         

         หากพิจารณาตามสูตรการปรับค่า FT งวดนี้จะต้องเพิ่มขึ้นในอัตรา 68.24 สต./หน่วย แต่ได้รับเงินชดเชยจาก บมจ.ปตท.(PTT)กรณีท่อก๊าซฯ ในอ่าวไทยรั่วจำนวน 2,400 ล้านบาท รวมทั้งค่าปรับที่ ปตท.ต้องจ่ายให้โรงไฟฟ้าขนอมอีก 600 ล้านบาท ทำให้ค่าเอฟทีไม่ปรับขึ้นมากนัก

         อย่างไรก็ดี ค่า FT ที่ปรับขึ้นในงวดนี้เมื่อรวมกับค่า FT ในงวดก่อนจะอยู่ที่ 48 สต./หน่วย(30+18) รวมค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.23 บาท/หน่วย จะทำให้ค่าไฟที่เรียกเก็บจากประชาชน อยู่ที่ 3.71บาท/หน่วย ซึ่งยังไม่คิดรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)

         ประธาน กกพ. กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ต้องมีการปรับขึ้นค่า FT ในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.55 เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นทุกตัว เช่น ก๊าซธรรมชาติ ปรับขึ้นจาก 301.28 บาท/ล้านบีทียู มาเป็น 317.50 บาท/ล้านบีทียู, ถ่านหิน ปรับขึ้นจาก 2,926 บาท/ตัน มาเป็น 3,227 บาท/ตัน และน้ำมันเตา ปรับขึ้นจาก 25.87 บาท/ลิตร มาอยู่ที่ 26.49 บาท/ลิตร นอกจากนี้ยังเป็นผลของอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 31.61 บาท/ดอลลาร์ด้วย

        ทั้งนี้ ภาระค่าไฟฟ้าที่ กฟผ.แบกรับ 10,504 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยชำระคืนงวดละ 6.55 สต./หน่วย ครบภายใน 3 งวด โดยจะเริ่มจ่ายคืนใน FT ในงวดถัดไปได้เลยหรือไม่นั้นยังต้องรอประเมินสถานการณ์ แต่ในงวดนี้มีการทยอยคืนแล้ว 3 สต./หน่วย

จากคุณ    : เม่าน้อยสู่พญาปลวก



  คาดว่า จะขึ้นเป็น .60 ในเดือน หน้า นะครับ
 
4  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / ๔๕ พรรษาของพระพุทธเจ้า ตอนที่ ๑ ที่เปิดในรายการ RDN ฟังได้ที่นี่ครับ เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 07:45:06 pm


 อัปโหลดโดย hiphoplanla เมื่อ 26 ม.ค. 2012

Playlist : http://www.youtube.com/playlist?list=PL626A763697061E2E

๔๕ พรรษาของพระพุทธเจ้า
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ภาพประกอบเป็นผลงานของ : Egg Pix - http://www.pixpros.net/


ส่วนตอนอืี่น ๆ ก็ตาม youtube เลยนะครับ

 
5  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / งานพุทธกิจ 45 พรรษา อาสาฬหบูชาธรรมยาตราคุ้มครองโลก 27 ก.ค.-15 ส.ค.55 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 07:04:31 pm


ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมเจริญกุศลถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโอกาสครบ ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ ในงาน“สัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา ธรรมยาตราคุ้มครองโลก” โดยคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และพุทธศาสนิกชน ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในวันที่ ๒๗ กรกฏาคม – ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕
ภายในงานพบกับกิจกรรม ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เทศน์มหาชาติ หล่อเทียนพรรษา ร่วมสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตรทุกเย็น และเวียนเทียนรอบพระมณฑป การบรรยายธรรมพร้อมฉายวีดิทัศน์

ชมนิทรรศการ“พุทธกิจ ๔๕ พรรษา อาสาฬหบูชาธรรมยาตราคุ้มครองโลก ๒๖๐๐ ปี สัมพุทธชยันตี” นิทรรศการที่จะชวนให้รู้ เหตุอันใกล้และเหตุอันไกลกว่าจักได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องราวพุทธกิจและสถานที่อันมีอยู่จริงตลอด ๔๕ พรรษา หลังพระพุทธองค์ “ตรัสรู้”จวบจน “ปรินิพพาน”  และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ขยายเวลาถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา และในโอกาสมหามงคลสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ชมรมใฝ่ธรรมวันพุธ โทรศัพท์ 02-308-0189

www.asarnhabucha.com
6  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เมื่อมีผู้กล่าวว่า ทำสมาธิอย่านึกถึงขั้น มันจะไม่ได้ขั้น อยากทราบความเห็นครับ เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 07:00:29 pm
เมื่อมีผู้กล่าวว่า ทำสมาธิอย่านึกถึงขั้น มันจะไม่ได้ขั้น อยากทราบความเห็นครับ ว่าพูดอย่างนี้ถูกหรือไม่ครับ หรือมีการพูดยังไม่สมบูรณ์ ครับ

  :smiley_confused1: :c017:
7  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สมถกรรมฐานของ หลวงพ่อสรวง วัดถ้าขวัญเมือง ชุมพร เมื่อ: สิงหาคม 04, 2012, 06:57:16 pm
สมถกรรมฐานของ หลวงพ่อสรวง

การทำสมาธิ
สมารถทำได้ทุกอริยาบถ คือ นั่ง นอน เดิน ยืน การนั่งควรเลือกเอา 2 แบบ คือขัดสมาธิแบบทั่ว ๆ ไป(แบบพระปฏิมากร) หรือ นั่งพับเพียบ(คุ้บัลลังก์) คือการเอาเท้าซ้ายสอดใต้เข่าขวา ทั้ง 2 แบบนี้ มือจะต้องประสานกันบนตัก

สมาธิลึกมี 3 ระดับ
1.สมาธิขั้นต้น หรือ ขณิกสมาธิ
2.สมาธิขั้นกลาง หรือ อุปจารสมาธิ
3.สมาธิขั้นสูง หรือ อัปปนาสมาธิ

เมื่อนั่งสมาธิแล้วจะไม่สามารถแยก 3 อย่างนี้ได้หรือจะแยกได้ยากมากซึ่งจะเรียกว่าเป็น ฌาณ ซึ่งฌาณจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ขั้น ที่เรียกว่า รูปฌาณ 4 คือ ฌาณ1 ฌาณ2 ฌาณ3 ฌาณ4 และก่อนที่เราจะเริ่มปฏิบัติ เราจำเป็นต้องรักษาศีล 5 ให้สมบูรณ์ หรือเรียกว่าเป็นคนไม่ผิดศีลเสียก่อน เพราะจิตที่ไม่บริสุทธิ์จะยากต่อการปฏิบัติธรรมให้สำเร็จได้

ก่อนนั่งจะต้องทำปัญจเคารพทุกครั้ง คือ กราบพระพุทธ พระ ธรรม พระสงฆ์ และจะต้องมีจิตใจที่เชื่อมั่นว่าเป็นของที่มีอยู่และจะต้องยึดมั่นในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกราบบิดามารดา และกราบครูอาจารย์ผู้ที่สั่งสอนทางธรรมให้กับเรา รวมแล้ว คือการกราบ 5 ครั้ง หรือ เรียกว่า ปัญจเคารพ ซึ่งเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที จะช่วยให้จิตใจเราผ่องใสและเป็นสิริมงคงลก่อนที่เราจะทำกรรมฐาน

บริกรรมกรรมฐาน 5
เมือ่นั่งถนัดดีแล้วให้นำมือขวาทับมือซ้ายบนตัก แล้วนั่งตัวตรง อย่างอตัว หน้าตรง อย่าก้ม เพราะถ้าหลังงอจะนั่งได่ไม่ทน จะทำให้ปวดหลังปวดเอว เมื่อนั่งได้ถูกต้องแล้ว ให้เริ่มบริกรรมภาวนาโดยท่องในใจว่า “เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ” แล้วให้ท่องถอยหลัง “ตโจ ทันตา นขา โลมา เกศา” เรียกว่า กรรมฐาน 5

เริ่มเข้าฌาณ
ในขณะที่บริกรรมอยู่นั้นให้เพ่งไปข้างหน้าประมาณ 1 ช่วงแขน โดยพยายามให้จิตนั้นยึดอยู่ใน กรรมฐาน 5 โดยให้ท่องกลับไปกลับมา โดยไม่ให้คิดถึงเรื่องอื่น แต่ถ้าคิดอยู่ให้นึกดูว่าคิดเรื่องอะไรแล้วก็ให้บอกตัวเองว่าให้หยุดคิด หรือพักไว้ก่อน แล้วให้กลับมานึกถึงกรรมฐาน 5 เพียงอย่างเดียว เมื่อท่องไปแล้ว สัก 10 เที่ยวแล้วไม่หลง แปลว่าจิตได้ยึดกับกรรมฐาน 5 แล้ว จิตก็จะตั้งมั่น เมื่อนั้น ฌาณ 1 ก็จะเกิดขึ้นโดยไม่มีความนึกคิดอื่นเข้ามาเจือปน จากนั้นก็จะเกิดปีติขึ้น คือจะรู้สึกขนลุกขนพอง หรือ ซาบซ่าที่ผิวกาย หรือรู้สึกตัวพอง บางทีก็จะมีอาการกระตุกที่มือ อาการแบบนี้แสดงว่าฌาณ 2 เริ่มเกิดขึ้นแล้ว

ในขณะที่จะขึ้นฌาณ 2 ที่เรยกว่า ปีติ ให้บริกรรมภาวนากรรมฐาน 5 ให้เร็วขึ้น ๆ ๆ เรื่อย ๆ จนรู้สึกใจหวิวและตัวสั่น หรืออาจสั่นอย่างแรงก็อย่าไปตกใจเพราะนั่นคือ อุเพงคาปีติ แต่ถ้าเป็นอาการขนลุกขนพอง เรียกว่า ผรณาปีติ ซึ่งผู้ปฏิบัติ จะต้องทำให้เกิด อุเพงคาปีติ ให้ได้จึงเรียกว่าถึงฌาณ 2 แล้วอย่างสมบูรณ์ เพราะอุเพงคาปีติ นี้เองจะเป็นกำลังและฤทธิ์ เพื่อให้ถึงฌาณ 4 ได้เร็วยิ่งขึ้น และทำให้เกิดฤทธ์ต่างๆได้ในฌาณ 4 เช่น การเกิด หูทิพย์ ตาทิพย์ หยั่งรู้ใจคน ระลึกชาติได้ หรือแม้แต่กายทิพย์ที่เหาะเหินเดินอากาศ ล้วนแต่มาจาก ฤทธิ์ของอุเพงคาปีตินั่นเองในฌาณ 2 นั่นเอง

การขึ้น ฌาณ 3 เรียกว่า ฌาณสุขนั้น ถ้าร่างกายมีอาการสั่นให้หยุดสั่นแล้วให้นึกคำว่า 3 จากนั้นกระตุกตัวขึ้น และให้ท่องกรรมฐาน 5 ให้ช้าลง ฌาณ 3 นี้ ท่านบอกว่าเป็นทางผ่านเท่านั้น เพราะถ้าขืนปล่อยใจเพ่งอยู่กับณาณเกินไปจะรู้สึกสบายกายสบายใจ ทำให้เพลินจนหลับได้ พยายามหายใจให้เป็นปกติให้นึกถึงคำว่า ฌาณ 4 พร้อมกับกระตุกตัวขึ้น จากนั้นท่องกรรมฐาน 5 ให้ช้าลงอีก เพื่อจะทำให้จิตนิ่งและแนบขึ้น ที่สำคัญในฌาณนี้ ห้ามกระดุกกระดิกตัวเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ฌาณตก เพราะในฌาณนี้จะเริ่มรู้สึกชาที่ข้อมือ ลามไปจนถึงขา และ ปลายเท้า บางครั้งชาจนทั่วใบหน้าไปถึงลิ้น ร่างกายของเราจะรู้สึกชาจนเหมือนก้อนหิน และอาจจะเกิดการเจ็บปวดตามร่างกายตามมาด้วย วึ่งถ้าทนไม่ได้จะไม่สำเร็จการเข้าฌาณ ความเจ็บปวดนี้เองที่พระพุทธเจ้าเคยเจอซึ่งเป็นความทุกข์กายทุกข์ใจ และถือเป็นมารที่ขัดขวางไม่ให้เราเข้าฌาณได่สำเร็จ ความเจ็บปวดตามร่างกายคือกรรมเก่าที่เราเคยทำมานั่นเองและทำให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ถึงการดับทุกข์ได้ในที่สุดเพราะสุดท้ายถ้าเราดับทุกข์ที่เกิดขึ้นนี้ไปได้ ความเจ็บปวดก็จะหาย การนั่งฌาณจนมาถึงขั้นนี้จึงเป็นการเผาผลาญกรรมที่เราเคยทำมา และชดใช้กรรมให้เบาบางลงนั่นเอง ซึ่งมีหลายคนที่เมือ่นั่งจนถึงขั้นนี้ก็ต้องออกจากฌาณเสียก่อนเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว และก็ไม่สามารถชดใช้กรรม หรือเผาผลาญกรรมของตนให้เบาบางลงได้

ฉะนั้นเมื่อเรานั่งฌาณแล้วเจอทุกข์ ขอให้เรารู้ไว้ว่าเราได้นั่งฌาณได้ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงเคยนั่งมาก่อนแล้วทั้งสิ้น และขอให้เพียรต่อไป เพราะจะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต และยังสามารถพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าได้จนถึงการที่สามารถมีกายทิพย์แล้วย้อนกลับไปในอดีตชาติ หรืออนาคต หรือท่องเที่ยวไปที่ไหนก็ได้ด้วยความเร็วของจิตที่นึกคิด หรือแม้แต่ไปดูนรก หรือสวรรค์ซึ่งภาวะนี้เรียกว่า “ถอดจิต หรือถอดกายในได้นั่นเอง” ซึ่งอาการเหล่านี้รับรองว่าท่านก็สามารถพิสูจน์ได้แน่นอน ถ้าท่านเป็นผู้รักษาศีลได้อย่างดี และทำฌาณได้สม่ำเสมออย่างถูกต้อง หมายถึงการทำฌาณ4 ให้ได้ครั้งละไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง

*** ในการนั่งฌาณ ถ้าจะให้นั่งให้ได้คุณภาพ จะต้องให้ได้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะจะได้สมาธิขั้นกลางจนถึงขั้นสูง ซึ่งจำเป็นต้องตั้งนาฬิกาปลุกทุกครั้ง ตรงนี้ให้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถึงแม้ว่าเราจะนั่งให้ถึงขั้นดับทุกข์ไม่ได้ แต่เราก็สามารถเอาชนะเวลาได้ ซึ่งถือว่าเรานั้นได้สัจจาบารมี คือไม่แพ้มารนั่นเอง ที่สำคัญ อย่าออกจากฌาณก่อนนาฬิกาปลุกแม้ตานาทีเดียวเป็นอันขาด จะถือว่าแพ้มารทันที ***

โทษของการแพ้มาร
จะทำให้เราได้รับความหงุดหงิดรำคาญใจทั้งวัน และความโกรธซึ่งถือเป็นการผิดศีลข้อหนึ่งก็จะตามมา บางทีอาจเจอเรื่องที่ต้องทำให้เราหัวเสียไปทั้งวัน ทำอะไรก็จะติด ๆ ขัด ๆ และถ้าเรานั่งฌาณแล้วแพ้มารบ่อย ๆ ก็จะทำให้เราท้อและเลิกนั่งไปในที่สุด
ตรงกันข้ามกับการชนะมาร จะทำให้เรารู้สึกมั่นใจ มีสติปัญญา สบายใจ และราบรื่นไปทั้งวัน เมื่อนั่งฌาณแล้วชนะมารได้บ่อย ๆ จะทำให้เราเกิดความเจริญก้าวหน้า ทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ และที่สำคัญ จะทำให้เราเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรมอย่างมั่นคง และทั้งสองอย่างนี้ ผู้ที่ได้ปฏิบัติจะเจอกับตัวเองอย่างแน่นอน

การถอยฌาณ
ในการนั่งฌาณนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่เมื่อติดฌาณแล้ว เมื่อครบเวลา 1 หรือ 2 ชั่วโมงจะต้องถอยฌาณให้เป็นเพราะจะทำให้เป็นอันตรายถึงขั้นสติไม่ดี หรือบางรายอาจเป็นบ้าไปเลยก็มี เพราะฉะนั้น เมื่อ่เราอยู่ในฌาณที่ 4 ให้เรานึกถึงคำว่า 3 แล้วให้ลดตัวลง แล้วให้แผ่เมตตา เสร็จแล้วให้นึกถึงคำว่า 2 พร้อมกับสั่นร่างกายทันที และการสั่นถอยนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะจะเป็นการสลัดออกจากฌาณ 4 ซึ่งถ้าสลัดออกไม่หมดจะทำให้เราติดฌาณได้ เพราะการนั่งฌาณสำหรับคนที่ไม่รู้ก็จะไม่รู้สึกตัวว่าอยู่ฌาณไหน เพราะฌาณสามารถเลือ่นขึ้นเองได้อัตโนมัติ และเมื่อถึงฌาณ 4 โดยไม่รู้ตัว เมื่อต้องการจะออกจากสมาธิเขาก็จะลืมตาขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้ถอยฌาณ ถ้าเป็นช่วงแรก ๆ จะมีอาการปวดหัว ปวดตามตัว บางครั้งเกร็งจนขยับตัวไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เกิดจาการเส้นยึด แต่เป็นเพราะจิตยังติดอยู่ในฌาณที่เรียกว่า อุเบกขาฌาณ คือ ฌาณที่อยู่ในฌาณ 4 นั่นเอง ซึ่งเป็นฌาณแห่งการวางเฉย หนักเข้าก็จะกลายเป็นคนเบลอ ๆ ไม่พูดไม่จา บางทีพูดคำหนึ่งก็หยุดไปเลย จะกลายเป็นคนเชื่องช้า เซื่องซึม ไม่กระตือรือร้น พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง และกลายเป็นคนเกียจคร้าน เสื้อผ้าไม่เปลี่ยนไม่ซัก ข้าวปลาไม่กิน ไม่พูดไม่จากับใคร เมื่อใครเห็นก็ต้องคิดว่าไม่ต่างจากคนบ้าแน่นอน เช่นพระบางองค์ที่ท่านไม่รู้จักการถอยฌาณที่เราคงเคยเห็น ท่านจะนั่งสมาธิเป็นเวลานาน ๆ มองดูแล้วเหมือแก่กล้าอาคม แต่แท้จริงแล้วท่านไม่รู้จักการถอยฌาณ ซึ่งท่าทีจะดูสงบนิ่ง ดูเหม่อลอย แต่แท้จริงแล้วนั่นคืออาการติดฌาณ แต่ในเรื่องของฤทธิ์นั้นท่านมีแน่นอนเพราะมาจากอำนาจของฌาณที่ท่านบริกรรมครั้งละเป็นเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงนั่นเอง
เมื่อสั่นที่ ฌาณ 2 จนออกจากฌาณได้หมด ให้เรานึกถึง 1 แล้วลดตัว ในฌาณ 1 นี้ เราจะต้องทำการกรวดน้ำเพื่อแบ่งบุญให้คนเป็น และ อุทิศบุญให้คนตาย และการที่เรามีฌาณก็ถือว่าเราเป็นผู้มีอำนาจ อย่างน้อยก็สามารถกรวดน้ำแบ่งบุญและอุทิศบุญได้ ซึ่งคนธรรมดาทำไม่ได้ แม้กระทั่งพระที่ไม่มีศีลไม่มีฌาณสมาธิก็จะไม่สามารถกรวดน้ำได้ดีเท่าเรา ดังที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า “ทำบุญกับพระที่ไม่มีศีลไม่มีฌาณ เรียกว่า ทำบุญแล้วผีอด”
เมื่อกรวดน้ำในฌาณที่ 1 เสร็จ ให้นึกถึงฌาณที่ 2 แล้วสั่นตัวเบา ๆ ไปข้างหน้า 3 ครั้ง เสร็จแล้วให้นึกถึง ฌาณ 1
แล้วลดตัวลง เมื่อต้องการจะออกจากฌาณ ให้เราสะบัดหน้าแล้วนึกคำว่า ออก แล้วค่อย ๆ ลืมตา และก้มกราบ 5 ครั้งเหมือนตอนเริ่มนั่งฌาณ

คำอธิษฐาน
ในการนั่งฌาณ 15 นาที หรือครึ่งชั่วโมงแรกเมื่อถึง ฌาณ 4 โดยรอจนเริ่มรู้สึกชา แล้วให้ค่อย ๆ ถอยฌาณมาอยู่ที่ฌาณ 1 และจึงเริ่มเข้าฌาณ 1 อีกครั้ง โดยให้อธิษฐานดังนี้ก่อนจึงเริ่มเข้าฌาณอีกครั้ง ให้อธิษฐานจิตดังนี้โดยพนม หลับตา
“ด้วยอานุภาพคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ด้วยบุญบารมีที่ขาพเจ้าสร้าง และด้วยอธิษฐานบารมี ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า..... และขอให้ได้รับผลเกินคาดด้วยเทอญ”

คำแผ่เมตตา
“ด้วยอานุภาพคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ข้าพเจ้าขอแผ่เมตตา ขอให้ข้าพเจ้ามีแต่ความสุข
ขอให้ ลูก (สามี,ภรรยา) พ่อ แม่ พี่น้อง และญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า จงมีแต่ความสุข
ขอให้ทั้งศัตรู และหมู่มิตรทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข
ขอให้มนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย เบื้องบนจดอรูปพรหม เบื้องล่างจดมหาอเวจีนรก เบื้องขวาง รายรอบสุดขอบจักรวาล จงมีแต่ความสุข”

คำกรวดน้ำแบบอธิษฐานเอง
“ด้วยอานุภาพคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้ ข้าพเจ้าขอแบ่งบุญนี้ให้แก่....(ใช้กับบคนเป็น) และขออุทิศบุญนี้ให้แก่....(ใช้กับคนตายหรือเทวดา) และขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้รับบุญของข้าพเจ้านี้ด้วยเทอญ”

http://board.palungjit.com/f4/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%8C%E0%B8%B2%E0%B8%99-4-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94-98757.html

http://www.wattham.org/

จากคุณ    : เกียดเกียด
8  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พาไปซื้อของเก่า ราคาไม่แพง ที่วัดสวแก้ว นนทบุรี ( ตามไปกลับวินเทจ ) เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2012, 11:54:48 am
พาไปซื้อของเก่า ราคาไม่แพง ที่วัดสวแก้ว นนทบุรี ( ตามไปกลับวินเทจ )
วันนี้พาท่านไปดูของเก่า เพื่ออุดหนุนวัด เที่ยวด้วยทำบุญด้วย ....
 
 ที่วัดสวนแก้ว ครับ

 
 มาอีกครั้งครับ กับสกู๊ปพาเที่ยวแบบเรื่อยเปื่อยเหนื่อยก็นั่งพักประมาณนั้นครับ เรียกว่าสกู๊ปเที่ยว แทบจะเป็นคอลัมน์ประจำเว็บมั่นคงเลยก็ว่าได้ครับ เรียกว่าไปแรดที่ไหน ถ้ามีโอกาสและไม่ลืม ผมจะพยายามเก็บภาพมาฝากกันให้ตลอดล่ะครับ 555

และแน่นอนวันนี้ผมจะพาท่านไปดูแหล่งขายเฟอร์นิเจอร์วินเทจ และของวินเทจทุกประเภท ซึ่งผมคิดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยซ้ำไปล่ะครับ หลังจากเจ้านัทเป็นผู้ชี้เป้าให้ผม มีหรือที่ผมจะพลาดได้ แหล่งวินเทจอันนี้ไม่ไกลเท่าไหร่ เรียกว่าอยู่แค่เมืองนนทบุรีแค่นี้เอง หากพูดไปแล้ว ใครไม่รู้จักคงจะเชยชะมัดยาดเลยครับ

นั่นไง๊...วัดสวนแก้ว ของพระพยอมล่ะจ้าๆๆๆๆ



  รายละเอียดเนื้อเรื่อง ติดตามต่อกันที่ลิงก์นี้ นะครับ



ยังมีคอมมือสองให้เลือกซื้อในราคาถูกๆๆ ด้วยครับ บางคนมีความจำเป็นต้องใช้คอม แต่ไม่ต้องการคอมที่แรงเร็วอะไรมาก ทางเลือกราคาถูกๆๆ ยังพอมีที่วัดสวนแก้วนี่เลยจ้าๆๆๆ


  http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=55349
ขอบคุณภาพเนื้อหา นายมั่นคงด้วยครับ

9  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เผยแผ่นดินไหวพม่า กระทบ 5 รอยเลื่อนในไทยขยับตัวตาม แต่ไม่กระทบเขื่อน เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2012, 02:10:25 pm
เผยแผ่นดินไหวพม่า กระทบ 5 รอยเลื่อนในไทยขยับตัวตาม แต่ไม่กระทบเขื่อน ชี้อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 นายสมบูรณ์ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 ลำปาง กล่าวถึงกรณีการเกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในประเทศพม่าขนาด 4.2 ริกเตอร์ เมื่อช่วงเวลา 06.13 น. ที่ผ่านมา ว่า จุดที่เกิดแผ่นดินไหวห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 174 กิโลเมตร ถือว่าเป็นการไหวที่รุนแรง แต่ไม่กระทบกับประเทศไทย โดยจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณรอยเลื่อนสะแกง ซึ่งเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่มีพลังอย่างมาก

ทั้งนี้ สิ่งที่จะกระทบกับประเทศไทยคือ การขยับตัวของรอยเลื่อน 5 แห่ง ที่มีพลังที่พาดผ่านในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เนื่องจากจะเกิดการขยับตัวตาม

ขณะที่ทางด้าน นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนในประเทศไทย ทั้งนี้ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 663 กิโลเมตร, เขื่อนวชิราลงกรณ์ 600 กิโลเมตร, เขื่อนภูมิพล 391 กิโลเมตร และเขื่อนสิริกิติ์ 491 กิโลเมตร โดย กฟผ.ได้ติดตามตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของเขื่อนทุกแห่งอยู่เป็นประจำ ประกอบกับการติดตั้งระบบการตรวจสอบ วัดแรงสั่นไหว บริเวณตัวเขื่อนแบบอัตโนมัติ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถประมวลผลข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนท้ายเขื่อนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ
10  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 20 อันดับคณะที่คนเลือกมากที่สุด ประจำปี 2555 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2012, 02:06:50 pm
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ นายกสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) ได้แถลงถึงความพร้อมในการประกาศผลการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือแอดมิชชั่น ปี 2555 ว่า ปีนี้มีผู้สมัครแอดมิชชั่นกว่า 122,169 คน ผ่านการคัดเลือก 82,102 คน และมีอีกกว่า 40,067 คน ที่พลาดหวัง

ทั้งนี้มีจำนวนเปิดรับทั้งนักศึกษาทั้งสิ้นกว่า 140,828 ที่นั่ง แยกเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล จำนวน 76,778 ที่นั่ง แต่มีผู้ผ่านการคัดเลือกเพียง 64,248 ที่นั่ง ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏ- ราชมงคล รับนักศึกษาทั้งสิ้นกว่า 25,321 ที่นั่ง มีผู้ผ่านการคัดเลือกกว่า 13,913 คน และสถาบันการศึกษาเอกชน รับได้ 38,573 ที่นั่ง แต่มีผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์เพียง 3,785 คน

ส่วนอันดับและสาขาที่มีคนคัดเลือกมากที่สุด 20 อันดับเเรก มีดังนี้

อันดับ 1 วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ รับทั้งสิ้นจำนวน 56 คน จำนวนผู้สมัคร 2,850 คน อัตราการแข่งขัน 1: 51

อันดับ 2 คณะวิทยาศาสตร์ หาดใหญ่ ประเภทวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) รับทั้งสิ้นจำนวน 160 คน จำนวนผู้สมัคร 1,906 คน อัตราการแข่งขัน 1:12

อันดับ 3 คณะครุศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับทั้งสิ้นจำนวน 150 คน สมัคร 1,813 คน อัตราการแข่งขัน 1:13

อันดับ 4 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รับทั้งสิ้นจำนวน 350 คน จำนวนผู้สมัคร 1,810 คน อัตราการแข่งขัน 1:5

อันดับ 5 คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาการประถมศึกษา (หลักสูตร 5 ปี) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต รับทั้งสิ้นจำนวน 60 คน จำนวนผู้สมัคร 1,784 คน อัตราการแข่งขัน 1:30

อันดับ 6 คณะวารสารศาสาตร์และสื่อสารมวลชน พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) รับทั้งสิ้นจำนวน 200 คน จำนวนผู้สมัคร 1,772 คน อัตราการแข่งขัน 1:9

อันดับ 7 สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) รับทั้งสิ้นจำนวน 840 คน จำนวนผู้สมัคร 1,748 คน อัตราการแข่งขัน 1:3

อันดับ 8 คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาวิชาบัญชีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) รับทั้งสิ้นจำนวน 175 คน จำนวนผู้สมัคร 1,652 คน อัตราการแข่งขัน 1:10

อันดับ 9 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รับทั้งสิ้นจำนวน 300 คน จำนวนผู้สมัคร 1,611 คน อัตราการแข่งขัน 1:6

อันดับ 10 คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา รับทั้งสิ้นจำนวน 50 คน จำนวนผู้สมัคร 1,310 คน อัตราการแข่งขัน 1:27

อันดับ 11 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รับทั้งสิ้นจำนวน 24 คน จำนวนผู้สมัคร 1,293 คน อัตราการแข่งขัน 1:54

อันดับ 12 คณะเทคโนโลยี สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น รับทั้งสิ้นจำนวน 30 คน จำนวนผู้สมัคร 1,272 คน อัตราการแข่งขัน 1:43

อันดับ 13 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับทั้งสิ้นจำนวน 100 คน จำนวนผู้สมัคร 1,228 คน อัตราการแข่งขัน 1:13

อันดับ 14 คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รับทั้งสิ้นจำนวน 230 คน จำนวนผู้สมัคร 1,203 คน อัตราการแข่งขัน 1:6

อันดับ 15 คณะเศรษฐศาสตร์ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับทั้งสิ้นจำนวน 180 คน จำนวนผู้สมัคร 1,164 คน อัตราการแข่งขัน 1:7

อันดับ 16 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมีสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง รับทั้งสิ้นจำนวน 60 คน จำนวนผู้สมัคร 1,155 คน อัตราการแข่งขัน 1:20

อันดับ 17 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับทั้งสิ้นจำนวน 45 คน จำนวนผู้สมัคร 1,154 คน อัตราการแข่งขัน 1:26

อันดับ18 คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ รับทั้งสิ้นจำนวน 100 คน จำนวนผู้สมัคร 1,115 คน อัตรา 1:12

อันดับ 19 พยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาล สภากาชาดไทย รับทั้งสิ้นจำนวน 60 คน
อันดับ 20 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับทั้งสิ้นจำนวน 100 คน จำนวนผู้สมัคร 1,100 คน อัตราการแข่งขัน 1:11
11  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / จับโจรปล้นแบงก์คากุฏิ รับศึกษาวิธีปล้นจากยูทูบ เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2012, 02:04:19 pm
จับโจรใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าปล้นธนาคารกสิกรไทยได้แล้ว หลังไปบวชเป็นพระหนีความผิด สารภาพหาเงินเที่ยวสงกรานต์ ศึกษาวิธีการปล้นจากยูทูบ

วันนี้ (9 พฤษภาคม 2555) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุง แถลงข่าวจับกุมตัว นายสุจินดา แสงเพชร์ หรือเปี๊ยก อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและยานพาหนะและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยถูกจับกุมได้ที่วัดทรัพย์สโมสร แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. ขณะผู้ต้องหาบวชเป็นพระ พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เงินสด 453,000 บาท และชุดที่ใช้ในวันก่อเหตุ

เหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์ในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินสดจำนวน 732,000 บาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แกะรอยติดตามจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มาถอนเงินที่ธนาคารแห่งนี้ทุกครั้ง เห็นว่าพนักงานรักความปลอดภัยของที่นี่ไม่ได้พกปืน จึงตัดสินใจลงมือทำการปล้น โดยใช้ปืนที่ซื้อมาจากเพื่อนตั้งแต่ตอนเรียน ปวช.ในราคา 800 บาท วางแผนประมาณ 1 เดือน โดยศึกษาจากคลิปในเว็บไซต์ยูทูปส่วนใหญ่พบว่า จะจับตัวคนร้ายไม่ได้จึงลองทำตาม ส่วนสาเหตุเพราะอยากหาเงินเที่ยวสงกรานต์
12  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ใครเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ บ้างครับ มาเล่าเนื้อความให้หน่อยครับ เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2012, 08:58:39 pm

ที่มาภาพหนังสือครับ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=171717586287144&set=o.250184051660380&type=1&theater

สนใจอ่านเหมือนกันครับ แต่ยังไม่แน่ใจในเนื้อหา ครับ

 :s_hi: :c017:
13  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อยากทราบความหมายจริง ๆ ของคำว่า วิญญาณ ในการภาวนาของชาวพุทธครับ เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2012, 08:37:14 pm
อยากทราบความหมายจริง ๆ ของคำว่า วิญญาณ ในการภาวนาของชาวพุทธครับ

 เพราะบางท่าน ก็บอกว่า วิญญาณ หมายถึง ผี

  บางท่านก็บอกว่า ความรู้สึก

  บางท่านก็บอกว่า ญาณ

 แท้ที่จริงคำว่า วิญญาณ ในภาษา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ หรือ ในการภาวนาแบบพุทธนี้ คืออะไร ? ครับ

  :c017: :c017: :c017:
14  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ควรอธิษฐาน ตั้งความหวัง ไว้อย่างไร เมื่อเราได้สร้างกุศลครับ เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2012, 07:02:10 pm
ควรอธิษฐาน ตั้งความหวัง ไว้อย่างไร เมื่อเราได้สร้างกุศลครับ

  ปกติผมจะอธิษฐาน ไปเกิดในยุคพระศรีอาริยเมตตรับ ครับ แต่มาช่วงหลังที่อ่านกระทู้ที่นี่มาก ๆ รู้สึกว่าเป็นเรื่องลกำบากมากเหลือเกินกว่าจะได้พบพระศาสนา พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขในสิ่งที่เคยอธิษฐานมาไม่ว่าจะภพไหน ชาติไหน ๆ ก็ตาม อยากแก้คำอธิษฐานเพื่อการบรรลุธรรม หรือเกิดในที่ใดดีครับ ... ที่จะได้ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด กันหลายภพ หลายชาติ

  ใครมีข้อแนะนำดี ๆ ช่วยเสนอแนวทางให้ด้วยครับ


   :c017: ขอบคุณทุกท่าน ที่มีน้ำใจครับ

 
15  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / ว.วชิรเมธี "อย่างมงายในวิทยาศาสตร์" เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 01:01:09 pm



Uploaded by prachathipatuay

มีข้อคิดดี ๆ นะครับ ผมเห็นต่างจากที่วิจารณ์นะครับ

 :25: :25: :25:
หน้า: [1]