ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - somchit
หน้า: 1 [2]
41  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ฝึกภาวนา พุทโธ กับลมหายใจ กับ ภาวนา พุทโธ ไม่อิงกับลมหายใจ ต่างกันอย่างไร เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:08:10 am
ฝึกภาวนา พุทโธ กับลมหายใจ กับ ภาวนา พุทโธ ไม่อิงกับลมหายใจ ต่างกันอย่างไร

คือผมสงสัย เพราะผมเองก็ฝึก พุทโธ กับลมหายใจเข้า ออก มาตลอด แต่มาได้ยินและอ่าน

การฝึกใน กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นไม่อิงกับลมหายใจ อันนี้ผมก็พยายามลองทำตามดู

อยากให้อธิบายความแตกต่าง ให้เข้าใจบ้างครับ เพราะอะไรจึงไม่ต้องฝึกผูกกับลมหายใจเข้าออกครับ

 :25:
42  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เมื่อวานไปงานบวชมา เห็นคนที่บวชท่องอะไรก็ไม่ได้ แถม.... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:04:07 am
เมื่อวานไปงานบวช ลูกชาย เพื่อนมา เห็นคนบวช ไม่สามารถท่องบทสวดขอบวชได้แม้กระทั่ง ศีล 10 ก็ไม่ได้

แถมยังมีอาการหน้าแดงเมาค้างอีก ... แต่พระท่านก็นำว่า จนบวชเสร็จ

อยากทราบว่า การบวชอย่างนี้ จัดว่าเป็นพระจริง ๆ หรือไม่ครับ กรณี ที่กล่าวไม่ถูก แล้วต้องว่าตาม

บวชอย่างนี้จะได้บุญจริงหรือไม่ครับ

 :96:
43  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระสงฆ์ในอุดมคติ ของ ชาวกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป็นอย่างไรคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2011, 12:10:03 am
สาธุ ดังๆครับ

แต่ทำไมไม่เห็นบอกว่า ต้องการอริยสงฆ์เลย

เอ๊ ไม่เข้าใจ เป็นงง

 :smiley_confused1: ;) :25:

สมัยนี้หาพระอริยะสงฆ์ อยากครับ จขกท. จึงคงไม่เลือกพระอริยะสงฆ์ ไปอีกข้อ

แต่ถ้าอ่านข้อที่ 6 ดี ๆ ก็น่าจะเป็นพระอริยะสงฆ์ด้วยนะครับ เพราะเป็นผู้ปฏิบัติกรรมฐานได้ เป็นผู้สอน

กรรมฐานนับรวม สมถะและ วิปัสสนา นะครับ

แหมแต่ สเปค สูง ๆ อย่างนี้จะหาที่ไหนครับนี่

อนุโมทนาครับ

 :s_laugh:


44  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม พระสงฆ์ปัจจุบัน ถึงได้ พยายามสร้าง เทวรูป ต่าง ๆ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 10:46:02 pm
ผมว่า หัวข้อนี้ หมิ่นเหม่ ต่อการปรามาสนะครับ ต้องระมัดระวัง แต่ท่านที่ได้พบประสบมา

ด้วยตนเองอย่างนั้น พวกเราก็ชื่นชมกับคุณธรรม ที่รู้เท่าทันกิเลส ในตัวให้มากนะครับ

เพราะแท้ที่จริง การเห็นผู้ือื่นด้อยกว่า และ ดีกว่า เสมอกัน นั้นก็ยังจัดเป็นกิเลสเรียกว่า มานะทิฏฐิ นะครับ

การขอขมาต่อพระรัตนตรัย จึงมีความจำเป็น เพราะโทษความรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างนี้

อ่านแล้วได้ เปิดโลกทรรศน์ของสงฆ์ มากขึ้นอีกครับ
 :25:
45  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ถ้าพบพระอาจารย์ยังไม่ได้ช่วงนี้ อยากทราบศิษย์เอกพระอาจารย์มีใครพอสนทนาได้บ้างครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:13:58 pm
เป็นที่ทราบกันแล้วว่า พระอาจารย์ปลีกวิเวกไม่ยุ่งกับสังคมวัดในช่วงนี้
อยากทราบถ้าจะสนทนาธรรม เรื่องกรรมฐานโดยตรง มีศิษย์เอกท่านไหนพอจะ private กันได้บ้างครับ

ในกรณีที่ยังพบพระอาจารย์ยังไม่ได้ช่วงนี้ อยากทราบศิษย์เอกพระอาจารย์มีใครพอสนทนาได้บ้างครับ
 :25: :91:
46  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: "หลวงตาบัว"ละสังขารแล้วเวลา03.53น. เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:37:09 am

นำสรีระหลวงตามหาบัวบรรจุหีบไม้-คนเรือนแสนแห่กราบไหว้

การจราจรติดขัดเดินเข้าวัดกว่า 3 ก.ม.

 เมื่อวันที่ 30 ม.ค.นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เผยว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานโกศโถและทรงรับศพหลวงตามหาบัว ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ส่วนการประชุมคณะผู้เกี่ยวข้อง หลังจากเสร็จพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 18.00 น. วันนี้ จะนำสรีระของหลวงตามหาบัวบรรจุลงในหีบไม้ แล้วนิมนต์ไปตั้งไว้ที่ศาลาการเปรียญใหญ่ หน้าวัดป่าบ้านตาด โดยโกศพระราชทานจะตั้งเป็นเกียรติไว้ด้านหลัง เพื่อบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นจะพิจารณากำหนดการกันอีกครั้ง

 

 นายสันต์ กรุงศรี หัวหน้าสถานีวิทยุยานเกราะอุดรธานี  ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กล่าวว่า ทางคณะกรรมการวัดป่าบ้านตาด พร้อมใจกันจัดทำพิธีศพของหลวงตามหาบัว ตามที่พินัยกรรม ได้ระบุไว้ คือจัดพิธีศพแบบเรียบง่าย ไม่มีพิธีสวดศพในตอนค่ำ จัดตั้งศพให้ประชาชนเข้ากราบไหว้แบบใกล้ชิด ในตอนเช้าก็มีการทำบุญตักบาตรเหมือนตอนที่หลวงตามหาบัว ยังมีชีวิตอยู่ และในวันนี้ได้มีประชาชนที่เดินทางมาทำบุญที่วัดเกิดความสงสัยว่ามีการตั้ง กองผ้าป่าไปทั่วบริเวณวัด เกรงว่าจะเป็นการหลอกลวง ทางกรรมการวัดจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ที่แอบอ้าง การทำบุญ มาเรี่ยไรในบริเวณวัด และจะมีกรรมการวัดคอยดูแล เพื่อนำเงิน ทองคำที่ได้รับบริจาคส่งเข้าคลังหลวงทั้งหมดตามที่หลวงตาได้ สั่งเสียเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยกำหนดพิธีการเคารพสรีระศพ ทางวัดได้แต่งตั้งให้ พระอาจารย์อินถวาย สันตุสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย เป็นผู้จัดการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
 
 ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนและญาติธรรมหลั่งไหลมากราบไหว้กว่า 100,000 คน นอกจากนี้ยังมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำแผงสลากกินแบ่งรัฐบาล มาวางขายจำนวนกว่า 50 แผงกระจายไปทั่วบริเวณหน้าวัด ชาวบ้านต่างหาซื้อเลขเด็ดตาม อายุของหลวงตามหาบัว คือ 97 ย่าง 98 และ ตามอายุจริงคือ 97 ปี 5 เดือน 18 วัน หรือวัดเกิด วันที่ 12 สิงหาคม 2457 แต่เลขที่เกลี้ยงหมดแผงอย่างรวดเร็วคือ 97 -98 มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาวางขายจำพวก ผ้าไหม ผ้านุ่ง ผ้าทอมือ  มะขามหวาน
 
สำหรับ ผู้ ที่จะเดินทางมาถึงบริเวณวัดต้องจอดรถไว้ในหมู่บ้านห่างจากวัดประมาณ 3 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้ามาภายในบริเวณวัด โดยศาลาใหญ่หน้าวัดจัดเป็นที่พักหลับนอนและมีทีวีถ่ายทอดจากพิธีเคารพ สรีระศพ บนศาลาในวัด และบรรยากาศทั่วบริเวณตลอด รถยนต์ รถโดยสารเหมา รถทัวร์ วิ่งเป็นทางยาวจากตัวเมืองอุดรธานี เข้าไปยังวัดป่าบ้านตาดเป็นทางยาวกว่า 8 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เส้นทางวันเวย์เข้าทาง ถนนมิตรภาพอุดร –ขอนแก่น และออกทางถนนสายรอบเมืองอุดรธานี – เลย มีป้ายบอกเส้นทางตลอด

 
ขอบคุณที่มาข่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNU5qUXdNREV5TVE9PQ==&sectionid=
47  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ศูนย์หนังสือจุฬาฯเชิญร่วมกิจกรรม วันแห่งความรัก-มาฆบูชา เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:30:55 am
ศูนย์หนังสือจุฬาฯเชิญร่วมกิจกรรม วันแห่งความรัก-มาฆบูชา



ศูนย์ หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แจ้งว่า ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ร่วมกับวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก จัดกิจกรรม 'หัวใจกับใบโพธิ์ # 2 : กิ่งโพธิ์' ระหว่างวันที่ 4-28 กุมภา พันธ์ 2554 ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัตุรัสจามจุรี ชั้น 4 (สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่าน) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยได้เห็นถึงคุณค่า ความดีงามของความรัก และร่วมกันเชิดชูเกียรติและรำลึกถึงพระธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ และท่านปัญญานันทภิกขุ ด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นข้อคิดและแนวทางแก่พุทธศาสนิกชน ได้นำไปปฏิบัติตนให้เป็นผู้ที่รักเป็น และรักอย่างมีสติดีงาม พบกับกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2554 แถลงข่าวโครงการ "หัวใจกับใบโพธิ์ # 2 : กิ่งโพธิ์" (12.30-13.30 น.) ร่วมแถลงข่าวโดยพระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก, รศ. ดนุชา คุณพนิชกิจ ประธานกรรมการบริหารศูนย์หนังสือจุฬาฯ, นายบัญชา เฉลิมชัยกิจ เจ้าของสำนักพิมพ์สุขภาพใจ, นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ สนพ.สถาพรบุ๊คส์ ต่อด้วยงานเสวนา เรื่อง "รัก..อย่างใช้ปัญญา" (ตามคำสอนของท่านปัญญานันทภิกขุ) (14.00-15.30 น) โดยพระมหาทวีป กตฺปุญฺโญ ประธานสงฆ์ สถานปฏิบัติธรรมแทนวันดีเจริญสุข จิตกร บุษบา นักเขียน/นักจัดรายการวิทยุ ดำเนินรายการโดยโกมุท คงเทศ นักจัดรายการวิทยุ FM 92 ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ-จัตุรัสจามจุรี ชั้น 4

วัน ที่ 12 ก.พ. 2554 เสวนาเรื่อง "รัก..อย่างไม่เป็นทาส" (ตามคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ) เวลา 13.30-15.00 น. ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัตุรัสจามจุรี โดยพระครูใบฎีกามณเฑียร มัณฑิโร ผู้ดูแลท่านพุทธทาส ดำเนินรายการโดยพิสุทธิ์ เกรียงบูรพา ผู้เขียนหนังสือธรรมชิวๆ และแต่งเพลงธรรมะ วันที่ 26 ก.พ. 2554 เสวนาเรื่อง "รัก...อย่างพุทธปัญญา" เวลา 16.00-17.30 น. ที่ธรรมสถาน วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก โดยพระราชญาณกวี (พระศรีญาณโสภณ/ปิยโสภณ) ชุติมา ดุรงค์เดช มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2552 ร่วมถ่ายทอดนิยามแห่งความรักของตนเองผ่านใบโพธิ์ "ต้นไม้แห่งความรัก"
48  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / บทความเรื่อง สมาธิ สำเร็จรูป ( แกะซองเหมือน ม่าม่า ) เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:29:02 am
บทความน่าสนใจของ 'ปิยสีโลภิกขุ' ในนิตยสาร"ซีเคร็ต" ฉบับม.ค. พูดถึงโฆษณาเบาะรองนั่งสมาธินับยี่สิบชิ้นในนิตยสารธรรมะในต่างประเทศ

แต่ ละเจ้าต่างออกแบบสินค้าของตนมาจูงใจลูกค้ากันอย่างเต็มที่ มีทั้งแบบกลม แบบเหลี่ยม แบบนั่งคุกเข่า แบบทูอินวัน แบบวัสดุธรรมชาติ แบบพลาสติกรีไซเคิล ฯลฯ

บางรายแหวกแนวกว่าเจ้าอื่น โฆษณาว่าเบาะรองนั่งของเขาผลิตจากขนไก่ออร์แกนิกแอนด์แฟร์เทรด

ทุกเจ้ามีข้อความโฆษณาคล้ายๆ กัน คือ 'จะช่วยให้ท่านนั่งสมาธิดีขึ้น'

พร้อมภาพนายแบบนางแบบนั่งสมาธิหลังตรงแน่ว หลับตาพริ้มอย่างเป็นสุขเป็นตัวอย่างประกอบ

การ ฝึกนั่งสมาธิกำลังตื่นตัวเป็นอย่างมากในประเทศตะวันตก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มีสถิติยืนยืนยันว่าคนอเมริกันหลายล้านคนกำลังสนใจนั่งสมาธิ

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบหนังสือธรรมะหลากหลายรูปแบบตามร้านหนังสือในอเมริกา

มีหลักสูตรวิปัสสนาทั้งระยะสั้นและระยะยาว สายทิเบต เซน และเถรวาท

ตลอดจนร้านขายอุปกรณ์นั่งสมาธิแบบออนไลน์ ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

มีผลสำรวจว่า ศูนย์วิปัสสนาชื่อดังแห่งหนึ่งมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาทเลยทีเดียว

นอก จากนี้ ยังส่งผลให้อาชีพการสอนวิปัสสนารายได้ดีตามไปด้วย ยิ่งโฆษณาว่าผ่านการฝึกวิปัสสนาจากทิเบต อินเดีย หรือพม่ามาก่อน ยิ่งได้รับความสนใจพิเศษ

ผู้เขียนบอกว่า เห็นโฆษณาชิ้นล่าสุดก็ยิ่งน่าขัน เป็นหลักสูตรปฏิบัติธรรมแบบ DIY (Do It Yourself) ของเชรี่ ฮูเบอร์ ผู้สนใจสามารถซื้อแผ่นซีดีไปปฏิบัติตามได้

เขาโฆษณาว่า 'เพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น เราก็จะยอมรับตัวเองได้อย่างไม่มีเงื่อนไขและเป็นสุขกับชีวิตยิ่งขึ้น'

ฟังดูราวโฆษณาบะหมี่สำเร็จรูป

ที่แค่เทน้ำร้อนก็อิ่มได้เลย

ที่มา

http://www.khaosod.co.th/ ( 31/1/54)
49  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อาหารเป็นพิษแน่ ๆ เลยกรรมของเด็กนักเรียน กระบี่ เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:27:36 am
หาม 200 นักเรียนส่งโรงพยาบาล หลังกินข้าวแล้วท้องเสีย ขณะรอรถไฟเดินทางกลับภาคใต้

เมื่อ เวลา 17.30 น. วันที่ 30 ม.ค. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุพระนคร ได้รับแจ้งว่ามีเด็กนักเรียนกว่า 200 คน จาก อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เกิดอาการอาหารเป็นพิษอย่างหนัก ต้องการความช่วยเหลือ  ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง จึงประสานรถมูลนิธิและรถ รพ. กว่า 30 คัน ไปดำเนินการ พบเด็กนักเรียนทั้งชาย-หญิง กว่า 200 คน อายุระหว่าง 10 – 13 ขวบ อยู่ในสภาพอิดโรยอย่างหนัก บางคนอาเจียน ท้องเสีย หน้ามืด หายใจติดขัด ซึ่งอาจารย์และผู้ปกครองที่มาด้วยกำลังช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันอย่าง เต็มที่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งช่วยกันลำเลียงเด็กที่อาการหนัก ลำเลียงกันขึ้นรถ ทยอยไปตาม รพ.ใกล้เคียง 6 รพ. คือ รพ.หัวเฉียว รพ.จุฬาฯ รพ.กลาง รพ.ตำรวจ รพ.เจริญกรุงฯ รพ.เลิศสิน เพื่อให้แพทย์ เข้าไปช่วยเหลือ ท่ามกลางสายตาประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาใช้บริการที่สถานีรถไฟ โดยพอถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ให้น้ำเกลือก่อน เนื่องจากเด็กบางคนมีอาการอ่อนเพลียอย่างมาก เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีเด็กคนไหนต้องเข้าห้องฉุกเฉินหรือเสียชีวิต

สอบ ถาม นางประทุมทิพย์ ผลนุ่น อายุ 36 ปี มารดา ของ ด.ญ.ณัฎฐณิชา ผลนุ่น หรือ น้องซันญ่า อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนทุ่งเสม็ด ให้การว่า  ทางโรงเรียนของลูกสาว เป็นหนึ่งในโรงเรียน ของ อ.คลองท่อม ที่ได้มามาทัศนะศึกษาที่กรุงเทพฯ ซึ่ตนได้เดินทางมาด้วย โดยนั่งรถบัสมาที่สถานีรถไฟ อ.ทุ่งสง ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ก่อนจะมาถึงที่กรุงเทพ ช่วงเช้าวันที่ 28 ม.ค. และทางโรงเรียนได้จัดให้เข้าพักที่สวนสยาม ซึ่งได้รับหน้าที่ให้จัดเตรียมที่พักและอาหาร โดยทุกอย่างก็เป็นไปอย่างปกติ
 

“จนมาวันนี้เมื่อช่วงเช้าก่อนจะกลับ ทางสวนสยามได้ทำข้าวต้มให้กินเป็นมื้อเช้า และทำข้าวผัดพริกไก่ไข่ดาว ประมาณ 500 กล่อง ใส่รถมาด้วยเพื่อให้กินตอนมื้อเที่ยงที่ซาฟารีเวิร์ล ซึ่งทุกคนก็กินข้าวกล่องที่จัดเตรียมไว้อย่างปกติทุกครั้ง จากนั้นพอออกจากซาฟารีเวิร์ล มุ่งหน้ามาที่หัวลำโพง  เพื่อรอรถไฟขบวนกลับทุ่งสง ในเวลา 18.00 น. จู่ๆเด็กนักเรียนหลายคน เริ่มมีอาการวิงเวียนและอาเจียนออกมาตลอดเวลา ทำให้ทางอาจารย์รีบติต่อเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน” นางประทุมทิพย์ กล่าว

ด้าน นายสมนึก พิศาล อายุ 52 ปี อาจารย์จาก โรงเรียนบ้านเหนือ ใน อ.คลองท่อม กล่าวว่า ทางโรงเรียนใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จำนวน 10 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านห้วยน้ำขาว  โรงเรียนบ้านทุ่งเสม็ด โรงเรียนบ้านท่าประดู่  โรงเรียน.บ้านควนใต้ โรงเรียนบ้านน้ำร้อน โรงเรียนอนุบาลคลองท่อม โรงเรียนบ้านเหนือ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 53 โรงเรียนคลองท่อมมิตรภาพ 160 และโรงเรียน.แชงเปิง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ค่ายลูกเสือเนตรนารีคลองท่อมร่วมใจ เพื่อพาเด็กมาทัศนะศึกษา ซึ่งมีการจัดทุกปี แต่ทุกครั้งจะไปจัดที่จังหวัดใกล้เคียง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาจัดที่กรุงเทพฯ

 “โดยนักเรียนที่มา อยู่ในระดับชั้น ป.4 – ป.6 รวมนักเรียน อาจารย์และผู้ปกครอง จำนวนร่วม 500 คน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่คาดว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ เพราะถ้าจะเป็นก็น่าจะเป็นตั้งแต่วันแรกที่มาถึงแล้ว ส่วนเรื่องข้าวกล่อง ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น ต้องรอแพทย์วินิจฉัยโรคเสียก่อน ขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคืออาการของเด็กว่าจะหนักหรือไม่ รวมทั้งนักเรียนชั้น ป.6 ที่มาด้วย มีภารกิจต้องกลับไปสอบโอเน็ต ที่ จ.กระบี่ ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นห่วงว่าเด็กอาจจะกลับไปไม่ทันสอบ อยากให้ทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ” อาจารย์จาก โรงเรียนบ้านเหนือ กล่าว

ด้าน นางพรศรี จันทรขัมมา ผจก.ฝ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ บริษัทาซิตี้ วอล์ค จำกัด(สวนสยาม) เผย เบื้องต้นกำลังประสานกับอาจารย์ที่ดูแลนักเรียนว่าต้องการให้ช่วยเหลือด้าน ไหนบ้าง ส่วนเรื่องข้าวกล่องนั้นยอมรับว่าทางสวนสยามเป็นคนจัดให้กับกลุ่มนักเรียน ที่มาสัมมนา ส่วนสาเหตุกำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ว่าเกิดจากสาเหตุใด นอกจากนี้ได้แจ้งทางผู้บริหารสวนสยามไปแล้ว ซึ่งท่านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำชับให้ดูแลทุกอย่าง เช่นสวนของค่ารักษาพยาบาล

ขณะที่ นายวิวัฒน์ ชำนาญธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิตี้ วอล์ค จำกัด (สวนสยาม) กล่าวว่า กำลังติดต่อและประสานงานกับอาจารย์ว่าเด็กนักเรียนบางส่วนที่ไม่มีอาการปวด ท้องหรือเจ็บป่วย มีที่พักหรือยัง หากยังไม่มีจะนำเด็กนักเรียนมาพักที่พักค่ายลูกเสือในสวนสยาม เบื้องต้นทราบว่า ในมือเช้าทางสวนสยามเป็นคนจัดหาข้าวต้มให้กับทางนักเรียน ส่วนอาหารกลางวันทางอาจารย์ได้ประสานให้ทำข้าวกล่อง เพื่อให้นักเรียนรับประทานระหว่างเดินทางกลับช่วงกลางวัน และกำลังตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใน และประสานให้เจ้าหน้าที่สวนสยามดูและนักเรียนอย่างเต็มที่.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=38&contentID=118445
50  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: "หลวงตาบัว"ละสังขารแล้วเวลา03.53น. เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:17:15 am
ชาวพุทธสุดเศร้า “หลวงตามหาบัว” ละสังขารอย่างสงบ “ เจ้าฟ้าหญิงฯ” ทรงเฝ้าดูใจจนสิ้นลมหายใจ


เมื่อ วันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก วัดเกสรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้ละสังขารอย่างสงบแล้วเมื่อเวลา 03.53 น. ภายในห้องปลอดเชื้อกุฎิหลวงตา โดยมี ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เฝ้าดูอาการพร้อมคณะแพทย์และลูกศิษย์อย่างใกล้ชิด ศพหลวงตาถูกเคลื่อนจากห้องปลอดเชื้อเข้าไปอยู่ห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องพักของหลวงตา ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าว ต่างหลั่งไหลกันมาที่วัดเป็นจำนวนมาก บางส่วนซึ่งเป็นญาติและศิษย์ที่ใกล้ชิด ได้เข้าไปกราบหลวงตาภายในห้องที่กุฎิ ขณะญาติบางส่วนพากันนั่งอยู่บริเวณรอบๆ กุฎิ เพื่อรอรับการเคลื่อนศพของหลวงตามหาบัว

หัวใจหยุดเต้นเวลา 03.53 น.

ต่อ มาเมื่อเวลา 07.00 น. ที่ศาลาเล็กภายในวัดป่าบ้านตาด หลวงปู่ลี กุสลธโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พระครูอรรถกิจ นันทคุณ หรือพระอาจารย์นภดล นนทะโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร และ นายแพทย์พิชาติ ดลเฉลิมยุทธนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวถึงอาการอาพาธของหลวงตาว่า เวลา 02.49 น.หลวงตามีอาการทรุดลง อยู่ในภาวะวิกฤติ ระดับความดันโลหิตเริ่มต่ำลง ตรวจพบสมองหยุดทำงาน เวลา 03.25 น. ตรวจพบม่านตาขยาย ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า เวลา 03.40 น. ชีพจร 54 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 38/49 มิลลิเมตรปรอท ออกซิเจนในเลือดมีค่าเท่ากับศูนย์ เวลา 03.50 น. ชีพจร 49 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 38/16 มิลลิเมตรปรอท ออกซิเจนในเลือดมีค่าเท่ากับศูนย์ เวลา 03.53 นาที หัวใจหยุดเต้นและหยุดหายใจ

ญาติสนิทเข้าสักการะศพ

ส่วน การปฏิบัติต่อร่างหลวงตา ได้เชิญร่างหลวงตาเข้าไว้ในห้อง เป็นห้องที่หลวงตาพักปกติเมื่อหลวงตายังไม่อาพาธ เมื่อสว่างก็ได้อนุญาตให้ญาติสนิทเข้าไปสักการะ พระสงฆ์ในวัดได้ออกบิณฑบาตตามปกติ เมื่อฉันอาหารเสร็จ คณะสงฆ์จะได้นัดกันเข้าไปทำพิธีสักการะหลวงตาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็จะนิมนต์หลวงตามาที่ชั้น 2 ศาลาหลังเก่าดั้งเดิมซึ่งหลวงตาได้สร้างตั้งแต่มาอยู่วัดป่าบ้านตาด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสักการะพอสมควร จึงจะนิมนต์หลวงตาเข้าหีบธรรมดาตามปกติ เมื่อบรรจุหีบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเชิญร่างหลวงตาไปที่ศาลาใหญ่ข้างนอก ทางบ้านเมืองจะถวายเกียรติยศค่อยว่ากันภายหลัง ส่วนพิธีถวายน้ำต่อองค์หลวงตา จะใช้วิธีโยงสายสิญจน์จากเท้าของหลวงตา ไปให้ประชาชนได้ถวายน้ำสงฆ์ เพราะองค์หลวงตาสูงสุดต่อพระสงฆ์และพี่น้องประชาชน

“ในหลวง”พระราชทานโกศโถ

ทั้ง นี้ หลวงตามหาบัวเข้ารับการรักษาอาการอาพาธลำไส้อุดตันและปอดติดเชื้อ ณ โรงพยาบาลศิริราช มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำนิมนต์ของคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ที่ได้ให้การรักษามาก่อนหน้านี้ ก่อนจะเดินทางกลับมาพักรักษาตัวที่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 3 ม.ค. กระทั่งละสังขารอย่างสงบในที่สุด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานโกศโถ และทรงรับศพหลวงตามหาบัวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ในการนี้ ได้ถวายพวงมาลาพระราชทาน พวงมาลาประทาน ของพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ วางที่หน้าโกศศพหลวงตามหาบัว

กราบทูล”ราชินี”ทรงทราบ

นาย คมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากหลวงตามหาบัวละสังขาร ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ทรงโทรศัพท์กราบบังคมทูล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงทราบ ซึ่งสมเด็จพระราชินีฯ จะได้ส่งผู้แทนพระองค์ เดินทางมาที่วัดป่าบ้านตาด เพื่อร่วมประชุมกันระหว่าง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, ผู้แทนพระองค์, คณะสงฆ์ และผู้ว่าฯอุดรธานี เพื่อประชุมหารือหมายกำหนดการณ์ต่อไป ซึ่งทางจังหวัดมีความพร้อมจะทำตามที่ประชุมมีมติทันที

“ฟ้าหญิง”ปธ.ฝ่ายฆราวาส

ต่อ มา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระอุดมญาณโมลี หรือหลวงปู่จันศรี จันททีโป เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง จ.อุดรธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นิมนต์เคลื่อนสรีระหลวงตาบัว จากกุฏิ มายังชั้นสองศาลาการเปรียญ โดยสรีระของหลวงตามหาบัวถูกวางไว้บนเตียงที่หลวงตาเคยนอนตอนยังป่วย มีพระสงฆ์สายวิปัสสนากรรมฐาน 20 รูป แบกเตียงเคลื่อนไปไว้บนศาลา ตลอดเส้นทาง พุทธศาสนิกชนเปล่งเสียง ”สาธุ” เมื่อสรีระถูกนำไปวางบนเตียงไม้ บริเวณที่หลวงตาใช้เดินจงกรม จากนั้นได้ทำพิธีขอขมา พระสงฆ์อาวุโส ร่วมสงฆ์น้ำศพ

เปิดพินัยกรรมหลวงตา

หลังจากนั้นคณะ สงฆ์มอบให้ พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อ่านพินัยกรรมของหลวงตามหาบัว โดยมีข้อความดังนี้คือ พินัยกรรมฉบับนี้ทำที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2543 ข้าพเจ้าพระธรรมวิสุทธิมงคล (พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) อายุ 87 ปี พำนักอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด ขอทำพินัยกรรมฉบับนี้เพื่อให้ทราบว่า เมื่อข้าพเจ้ามรณภาพแล้ว ให้จัดการทรัพย์สินและทำงานศพข้าพเจ้าดังนี้ 1.บรรดาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วในขณะที่ข้าพเจ้ามรณภาพ และบรรดาทรัพย์สินต่างๆ ที่จะได้รับบริจาคในงานศพของข้าพเจ้าให้จัดการดังนี้

ทรัพย์ทุกบาทมอบให้ธปท.

1.1 ส่วนที่เป็นทองคำให้หลอมเป็นทองคำแท่ง 1.2 ส่วนที่เป็นเงินไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใดให้นำเข้าซื้อทองคำแท่ง แล้วให้นำทองคำแท่งทั้ง ข้อ 1.1 และ 1.2 ไปมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อใช้เป็น เงินทุนสำรองเงินตราของฝ่ายบำบัดธนาคารแห่งประเทศไทย โดยข้าพเจ้าไม่มีเจตนาที่ใช้บุคคลใดหรือคณะบุคคลใดนำไปใช้ในงานอันใด นอกจากใช้เป็นเงินทุนสำรองของประเทศ 2.ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นจัดงานศพ และจัดการดูแลทรัพย์สินทั้งปวงที่มีอยู่ในขณะมรณภาพและที่จะได้รับบริจาคใน งานศพของข้าพเจ้า โดยให้ดำเนินการอย่างเปิดเผย และดำเนินการตามเจตนาของข้าพเจ้าระบุไว้ในข้อ 1.

3. ให้คณะกรรมการตามข้อ 2 จำนวน 9 คน ประกอบด้วย 1.พระอาจารย์ฝัก สันติธรรมโม (มรณภาพแล้ว) 2.พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก 3.พระปัญญา วัตโก 4.พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต 5.องคมนตรี ดร.เชาวน์ ณ ศีลวัน 6.นายศิริ คูสกุล 7.ม.ร.ว.ทองศิริ ทองแถม 8.พ.ต.อ.กฤษดา บูรณพานิช และ 9.พ.ต.ประชัย นาวินรัตน์

ทำไว้3ฉบับ-แยกเก็บ

4. ข้าพเจ้าขอตั้งให้พระสุดใจ ทันตมโน เป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า พินัยกรรมฉบับนี้ทำไว้ 3 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน เก็บไว้ 3 แห่งคือ ฉบับแรกที่วัดป่าบ้านตาด ฉบับที่ 2 เก็บไว้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี ฉบับที่ 3 เก็บไว้ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาอุดรธานี พินัยกรรมฉบับนี้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ายังมีสติสัมปชัญญะดีทุกอย่าง จึงลงชื่อไว้ต่อหน้าพยาน ลงชื่อ พระมหาบัว ญาณสัมปัญโญ (พระธรรมวิสุทธิมงคล) ลงชื่อพระปัญญา วัตโก พยาน และพระสุดใจ ทันตมโน พยาน

“ฟ้าหญิง”ทรงก้มกราบศพ

ภาย หลังอ่านพินัยกรรมเสร็จสิ้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จึงทรงวางพวงมาลัยที่ทรงทำด้วยพระองค์เองลงบนพานข้างศพ แล้วทรงก้มลงกราบ แล้วได้ให้พระสงฆ์ได้รดน้ำที่เท้าของหลวงตามหาบัว หลังจากนั้นคณะพระสงฆ์จำนวนประมาณ 3,000 รูป คณะของแม่ชี และประชาชนที่มาร่วมในวันนี้ประมาณ 30,000 คน ได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปรดน้ำศพ

ญาติธรรมนับแสนแน่นวัด

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังข่าวการละสังขารของหลวงตามหาบัวแพร่ออกไป ได้มีบรรดาศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วไป ต่างพากันเดินทางไปที่วัดป่าบ้านตาดเป็นจำนวนหลายหมื่นคน เพื่อกราบไหว้สรีระหลวงตาเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้บริเวณวัดแน่นขนัดไปด้วยคลื่นมหาชนที่หลั่งไหลเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดยาวหลายกิโลเมตร บริเวณที่จอดรถทั้งภายในวัดและโดยรอบวัดต่างเต็มไปหมด พร้อมกันนั้นทางศิษยานุศิษย์ของหลวงตาได้มาตั้งโรงทานจำนวนมาก เพื่อได้นำอาหารเครื่องดื่มมาบริการผู้ที่ไปร่วมในงาน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ตชด.24 อุดรธานี อส.และ สห.มทบ.24 อุดรธานี รวมจำนวน 500 นาย ได้มารักษาความสงบเรียบร้อยด้วย

ถวายน้ำหลวงอาบศพ

ต่อ มาเวลา 18.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีถวายน้ำหลวงอาบศพหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และถวายพวงมาลาพระราชทาน พวงมาลาประทาน ของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์  ในการนี้พระราชทานโกศโถ และทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน

นายคมสัน ผวจ.อุดรธานี กล่าวกว่า ในการประชุมคณะผู้เกี่ยวข้อง หลังจากเสร็จพิธีถวายน้ำหลวงอาบศพ จะนำสรีระของหลวงตามหาบัว บรรจุลงในหีบไม้ แล้วนิมนต์ไปตั้งไว้ที่ศาลาการเปรียญใหญ่ หน้าวัดป่าบ้านตาด โดยโกศพระราชทานจะตั้งเป็นเกียรติยศไว้ด้านหลัง เพื่อบำเพ็ญกุศลติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นจึงค่อยพิจารณากันอีกครั้ง

พระราชทานเพลิงมี.ค.

นาย นพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า หลังจากทางสำนักพระราชวังดำเนินการประกอบพิธีธรรมหลวงตามหาบัวที่ จ.อุดรธานี ครบ 3 วันแล้วนั้น ในส่วนของ พศ.ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการเคลื่อนย้ายศพหลวงตามหาบัว ไปให้ศิษยานุศิษย์ได้ทำความเคารพ ก่อนจะดำเนินการพระราชเพลิงศพในเดือน มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พศ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเกี่ยวกับพิธีธรรมของหลวงตามหาบัวแล้ว

ด้าน นายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางฝ่ายพิธี กรมการศาสนา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯไปช่วยทางสำนักพระราชวังในการประกอบ พิธีธรรมของหลวงตามหาบัวที่ จ.อุดรธานีแล้ว ซึ่งพิธีธรรมทั้งหมดทางสำนักพระราชวังจะเป็นผู้ดูแล ขณะที่ ศน.จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการช่วยเหลืองานด้านพิธีเท่านั้น ส่วนหลังจากครบกำหนดพระบรมราชานุเคราะห์ 3 วันแล้ว ต้องดูว่าทางวัดจะให้หน่วยงานใดดำเนินการด้านพิธีธรรมต่อไป

ฝึกจิตภาวนากับหลวงปู่มั่น

สำหรับ ประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กำเนิดในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 12  สิงหาคม พ.ศ.2456 นามว่า บัว โลหิตดี มีพี่น้องทั้งหมด 16 คน ได้เข้ารับการอุปสมบทขณะอายุ 21 ปี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2477 ณ วัดโยธานิมิตร อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชเวที เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ญาณสมฺปนฺโน

พอถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2485 ท่านก็ออกเดินทางไป จ.สกลนคร และได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มอบตัวเป็นศิษย์และอยู่ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานกับท่านพระอาจารย์มั่นอย่างเด็ด เดี่ยว จิตมุ่งอยู่กับสมาธิภาวนาเท่านั้น รวมเวลาที่อยู่กับพระอาจารย์มั่นทั้งหมด 8 ปี จวบจนท่านพระอาจารย์มั่นถึงแก่มรณภาพ ในปี พ.ศ.2492 ต่อมาในปี พ.ศ.2498 ท่านได้ทราบข่าวว่าโยมมารดาป่วย ท่านจึงได้เดินทางกลับมาตุภูมิที่บ้านตาด เพื่อดูแลโยมมารดา ซึ่งขณะนั้นชาวบ้านได้นิมนต์ท่านให้อยู่เป็นหลักที่นั่น พร้อมกับได้บริจาคที่ดินประมาณ 163 ไร่เพื่อสร้างวัด โดยตั้งชื่อว่าวัดป่าบ้านตาดจนถึงปัจจุบัน

ริเริ่มโครงการผ้าป่าช่วยชาติ

หลวง ตามหาบัวไม่เพียงมีบทบาทสำคัญในวงการพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ทางโลก โดยหนึ่งในนั้นคือ "โครงการผ้าป่าช่วยชาติ" โดยในปี พ.ศ.2540 ประเทศไทยประสบกับปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ด้วยความเมตตาสงสารอย่างบริสุทธิ์ใจต่อพี่น้องชาวไทย หลวงตามหาบัวจึงได้เชิญชวนประชาชนช่วยกันบริจาคทองคำ เงินดอลลาร์ เงินสกุลต่างประเทศ และเงินบาท นำเข้าคลังหลวง โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นประธานเปิดโครงการผ้าป่าช่วยชาติอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.41 ล่าสุดได้มอบทุนช่วยชาติครั้งที่ 15 โดยนำทองคำเข้าคลังหลวงแล้วกว่า 12 ตัน และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 10,803,600 บาท

 

ที่มา : คลิปวีดีโอจากช่องทีวีไทย
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=118285
51  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ทำกรรมกับงู เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 01:07:18 am
ทำกรรมกับงู
"...มนุษย์เรานั้น จงอย่ามองเห็นสัตว์ที่ต่ำต้อยกว่าเป็นเครื่องเล่น อย่าไปรังแกเขา ไม่ใช่ว่าเป็นมนุษย์แล้วจะมีอำนาจเหนือสัตว์อื่นๆ ไม่ใช่ว่าเห็นงูแล้วจ้องจะตีเขาให้ตายท่าเดียว ไม่ว่าสัตว์ชนิดใดถ้าเราทำร้ายเขาแล้ว เราก็จะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจกฎแห่งกรรมเช่นกัน อย่างเช่นเรื่องของ..
ต้อย เป็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่ถูกวิญญาณของงูรังควาญ แต่ไม่ได้รังควานกับตัวเธอโดยตรง หากแต่ไปกระทำกับลูกสาวที่น่ารักของเธอแทน
วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวหลังบ้าน อยู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงลูกของเธอร้องตะโกนมาจากหน้าบ้านให้แม่มาช่วยตีงู เธอจึงวิ่งออกมาจากหลังบ้าน ก็เห็นงูตัวหนึ่งกำลังหันรีหันขวางอยู่ลูกจึงบอกเธอว่า แม่ตีมันเลย เดี๋ยวมันกัดเอา สิ้นเสียงของลูกแม่ก็คว้าไม้ตีไปที่กลางลำตัวงูทันที แล้วก็ตีซ้ำมันจนตายตอนที่งูถูกตีนั้นงูมันผูกใจเจ็บไปที่ลูก เพราะหากลูกไม่บอกแม่ ตนเองก็คงไม่ตาย วิญญาณของงูตัวนั้นจึงผูกพยาบาทอยู่กับตัวลูก จึงส่งผลให้ลูกสาวเกิดมีอาการเจ็บปวด โดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ๆก็มีอาการเจ็บปวดตามตัว และในกระดูกจนต้องนอนบิดตัวไปมา

เป็นที่อับอายต่อสายตาของเพื่อนๆ จนไม่กล้าไปโรงเรียน ต้องเดือดร้อนถึงผู้เป็นแม่เพราะความสงสารลูก และด้วยสัญชาติญาณของความเป็นแม่เมื่อเห็นลูกเจ็บ แม่ย่อมรู้สึกเจ็บปวดกว่าหลายเท่า วิญญาณของงูต้องการทำให้ผู้เป็นแม่ที่ตีตัวเองได้รับความเจ็บปวดทางใจ เพราะการตีงูนั้นกว่ามันจะตาย มันต้องได้รับความเจ็บปวดทรมานมาก บิดตัวไปมาจนกว่าจะตาย ช่วงนี้เองที่ทำให้งูมีการอาฆาตจองเวรกับผู้ที่ทำมัน
ต้อยได้มาหาข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าได้แนะนำให้เธอหันมาปฏิบัติธรรม สอนให้รู้ว่าเวรกรรมนั้นมีจริง ต้อยจึงหมั่นทำตาม และอุทิศส่วนกุศลตรงไปให้วิญญาณของงูตัวนั้นทำอยู่หลายครั้ง นปัจจุบันลูกของต้อยน.ส.สินิททรา
สีใส หรือน้องเนยได้หายจากอาการเจ็บปวดโดยไม่ทราบสาเหตุนั้นเป็นปกติดีแล้ว...."



คัดจากหนังสือทางพ้นกรรมของแม่พัชราภา หน้า ๕๒
แม่บอกว่าเวรกรรมนั้นมิได้จำกัดว่าเด็กหรือ ไร้เดียงสา กระทำแล้วจะไม่เกิดกรรมไม่ว่า กรรมจากทางกาย วาจา หรือทางใจก็ดี เมื่อได้กระทำแล้วไปกระทบ ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้อื่นทำให้เขาทุกข์กายทุกข์ใจ ทันใดนั้นกรรมจะถูกบันทึก ทันที การปฏิบัติธรรมด้วยการภาวนาเป็นการทำบุญโดยไม่ต้องใช้สตางค์ลงทุน แต่ได้ผลโดยตรงต่อเจ้ากรรมนายเวร ถ้าเราทำให้เขาบ่อยๆ เขาก็จะใจอ่อนอโหสิกรรมให้เรา ชีวิตของเราก็จะได้อานิสงฆ์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น



Create Date : 18 มกราคม 2554
52  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / หลงตัว หลงเชื่อ...คือหลงทาง เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 01:01:05 am
หลงตัว หลงเชื่อ...คือหลงทาง
“...ชีวิตของคนเราทุกคนเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางป่าเขา น้อยคนที่จะสบายเหมือนเดินอยู่บนถนนหลวงทางเดินในชีวิตส่วนใหญ่ มักจะขรุขระ มีหลุมบ่อ พงหนามทั้งขึ้นเขาเข้าถ้ำ และลงห้วย ผลัดเปลี่ยนกันไป มีความลำบากมากบ้าง น้อยบ้างสุขบ้างทุกข์บ้าง สลับกันไปในแต่ละวัน
ชีวิตคนเรานั้นนอกจากเดินทางลำบากแล้ว ยังต้องเดินทางอย่างโดเดี่ยวอีกด้วย ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะชีวิตคือการเดินทางคนเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรียกว่าเราเกิดมาตามกรรมของเราเองเป็นไปอย่างนี้ ไม่ว่าจะเกิดมากี่ครั้ง หรือว่าตายไปกี่หนก็ตาม
การที่เราทุกคนกลัวความเหงานั้น อาจจะต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า อันที่จริงแล้วความเหงานั่นแหละ คือชีวิตที่แท้จริงของคนเรานั่นเอง เพราะไม่ว่าพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนฝูงและลูก แม้ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทาง แต่
ก็เป็นเพื่อนร่วมทางที่ ไม่ถาวร เพราะความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้น สมมุติเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่ น้อง และเป็นบทบาทที่แสดงต่อกัน ด้วยความผูกพันและหน้าที่ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปในช่วงชีวิตหนึ่งเท่านั้น เรามาคนเดียว แล้วเราก็ไปคนเดียว จะไปทีเดียวหลายๆคนแบบจูงมือกันไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก สามี ภรรยา พ่อแม่ พี่น้อง ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป

ต่างคนต่างเกิด เป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรสักอย่างที่จะเอาติดตัวไปได้แม้แต่เงินเพียงบาทเดียว ต้องปล่อยทิ้งไว้ทั้งหมด ไม่มีอะไรเป็นที่ยึดถือ เรือกสวนไร่นา ตึกรามบ้านช่อง ก่อนที่เราจะเกิดเขาก็มีอยูอย่างนี้ ชายหญิงเขาก็มีกันอยู่อย่างนี้ ตอนเราเกิดก็มีอยู่อย่างนี้ เราตายไปแล้วมันก็มีอยู่อย่างนี้
เพราะฉะนั้นเราจะกลัวความเหงากันไปทำไม ทั้งๆที่ชีวิตก็คือการเดินทางคนเดียวอยู่แล้ว คนที่อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องหาเพื่อนแก้เหงาตลอดเวลา หรืออยู่ไม่ได้ถ้าขาดคนอื่น คนนั้นคือผู้หลงทาง เพราะหารู้ไม่ว่ายิ่งเราอยู่ในวงห้อมล้อมของคนมากเท่าไร เราก็จะยิ่งค้นหาตัวเองไม่เจอเท่านั้น เพราะเรามักจะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นตลอดเวลา คอยจะดูแต่ว่าคนนั้นดี คนนี้ชั่ว คนนั้นถูก คนนี้ผิด นั่นเรามองเห็นแต่คนอื่น เรามองออกไปข้างนอก มองรอบตัว แต่เราไม่เคยมองเห็นตัวของเราเองเลย นี่คือเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ
ผู้ฉลาดย่อมเห็นคุณค่าของการอยู่คนเดียว ผู้มีปัญญาย่อมจะแสวงหาความวิเวก ความสงบ เพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง รู้ใจตัวเอง เมื่อใจไม่วุ่นวาย ใจเกิดความสงบ ใจเกิดความสว่างเย็นแล้วเรสก็จะเป็นสุข
เราต้องดำเนินชีวิตด้วยตัวของเรา เอง เลือกดี เลือกชั่ว ด้วยตัวของเราเอง จะถูกทางหรือหลงทางก็ด้วยปัญญาของเราเอง เหมือนดังที่พูดว่า” ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” หมายถึงพุทธศาสนาเป็นเพียงแผนที่บอกทางให้เราเท่านั้น
ส่วน การเลือกเดินทางไหน อย่างไร อยู่ที่ตัวเราคนเดียว เมื่อรู้ว่ากำลังเดินทางคนเดียว ก็อย่าทำเป็นคนเห็นแก่ตัว รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ทำกรรมดี อยู่ในศีลในธรรม เป็นหนทางที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางของการหลุดพ้นได้เร็วขึ้น เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็เท่ากับว่าเราโชคดีแล้ว และได้มาอยู่ในเส้นทางที่มีปลายทางทิ่มีทั้งแสงสว่างและความมืดมัวให้เรา เลือก คราวนี้อยู่ที่ตัวของเราเองว่าจะเดินทางช้าเดินทางเร็วหรือจะเดินหลงทางเท่า นั้น
ชีวิตคนเรานั้น แท้จริงแล้วคือการเดินทาง และยังคงเป็นการเดินทางเรื่อยไปอยู่นั่นเอง ย่อมมีความระหกระเหินบอบช้ำเป็นธรรมดา ชีวิตที่ต้องการเดินทางไปสู่นิพพานหรือการดับทุกข์ขั้นเด็ดขาด จะถึงช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับปัญญาของแต่ละคนแต่การเดินทางนี้ไม่ใช่เดินด้วยร่างกาย เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่หากแต่ว่าเป็นภาวะอันบรมสุขของจิตใจ การเดินทางนี้จึงเป็นการเดินทางของจิตใจ จากสภาพที่มัวหมองไปสู่ความสะอาดสดใสที่ไม่มีกิเลส ตัวเรานั้นอาจเดินทางทุกวันด้วยพาหนะชั้นดี มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย พาให้เราไปสู่จุดหมายนับร้อยนับพันแห่ง แต่ใจของเราเดินทางด้วยหรือเปล่า ความสวยงามของโลก อาจทำให้ใจเราซัดส่ายไปมา ซ้ำซากวนเวียนอยู่กับสุขเดิมๆ ทุกข์เดิมๆอยู่นั่นแหละไม่เคยแสวงหาสภาวะที่สุขจริง สุขแท้กว่านั้นเลยชีวิตของเราชาติหนึ่งๆ ก็จบสิ้นไปโดยไม่ได้พัฒนา ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร เป็นการเสียชาติเกิด เสียเวลาเปล่าๆ..”

คำสอนของแม่พัชราภา ในหนังสือทางพ้นกรรม
53  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทดสอบจิต กันหน่อยครับ รถตกเขา รอดได้ไง <> เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 01:10:53 am

ทดสอบจิต กันหน่อยครับ รถตกเขา รอดได้ไง <>
54  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เสียเวลาสัก 7 นาที อยากให้ดู VDO ชุดนี้ครับผม เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 01:07:15 am


อยากให้ได้ชมครับสำหรับ ท่านที่มีการขับรถ และ เดินทางประจำครับสิ่งเหล่านี้จักหมดไปได้
ถ้าเราร่วมใจกันทำตามกฏ และ ไม่ประมาทครับ

55  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: 9 วิธีเจริญสติในออฟฟิศ เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 12:42:12 am
ขอคุยด้วยคน เข้าห้องน้ำก็เจริญสติได้นะครับ

จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าสอนให้เจริญสติทุกลมหายใจครับ

หายใจเข้าก็ตาย หายใจออกก็ตาย ไม่หายใจก็ตาย


 :49: :58: :) ;) :25:

ส่วนมากถ้าเข้าห้องน้ำ จะหลับครับ ชีวิตคนทำงานเข้าห้องน้ำไปหลับครับ หลับสักงีบ 10 นาที
เจริญสติไม่ได้แล้วครับ ผมมักจะทำประจำครับ และหลายคนที่ทำงานผมก็มักจะแอบม่อยใน
ห้องน้ำครับ  :)
56  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พ่อใจสลายรีบถอยรถทับลูกสาววัยขวบเศษดับสยอง เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 01:28:20 am
อ่านติดตามเรื่องนี้ แล้วก็เศร้าใจกับ พ่อ แม่ ที่สูญเสียครับ วิเคราะห์แล้ว

   ก็เพราะความประมาท นี้ส่วนหนึ่งเลยครับ

   เป็นกรรมของเด็ก ก็อีกส่วนหนึ่งครับ

 การเยียวยาจิตใจ ของ พ่อ แม่ ที่ประสพปัญหาตรงนี้ มีวิธีการอย่างไร
และ พ่อ แม่ ที่ทำให้ลูกตายเพราะความประมาทนี้ต้อง ได้รับโทษอย่างไร ?
 การเกิดก็เป็นทุกข์ จริง ๆ นะครับ พ่อ แม่ ที่มีน้ำใจให้ลูกเกิดมา ต้องรับความทุกข์ ทุกเรื่อง แล้วก็ตัองรับไปอย่างนี้
เรื่อย ๆ จนกว่าจะพ้นสังสารวัฏฏ์กัน

 :smiley_confused1: :03:
57  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: พศ.สั่งฟันพระธุดงค์ปลอม เจอจับส่งตำรวจ เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 01:12:52 am
ช่วงนี้มีข่าวเรื่อง พระสงฆ์ ออกบ่อยในหนังสือพิมพ์นะครับ

 แต่ศรัทธา ของเราถามว่าเสื่อมหรือไม่ ก็ขอตอบว่าเราเข้าใจ เราแยกบุคคลได้ครับ

 :021:
58  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 01:11:29 am
เห็นแล้ว รู้แล้ว ไม่อยากซ์้ออีกเลย ผมก็ชอบซื้อ สาหร่ายประจำครับ
เห็นว่าราคาถูก ๆ จีนต้มแน่ ๆ เลย

59  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / Re: เด็กนักเรียนโพสกระทู้โวยพ่อไม่ซื้อ ไอโฟน 4 ให้ เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 11:28:18 pm
หน้าที่พ่อ ก็คือ ซื้อ iphone ให้ลูก แล้ว หน้าที่ลูก ก็คือใช้ iphone อวดกับเพื่อน ๆ

เด็กปัญญาอ่อนคิดได้ยังไง กันเนี่ย อ่านแล้วถ้าเป็นเรื่องจริง ละก็คนเป็นพ่อเหนื่อย คนเป็นครูเหนื่อย
คนเป็นอะไรที่ใกล้วตัวเธอ ต้องเหนื่อยแน่ เพราะนักพูดที่ มีนิสัยรั้นอย่างนี้เป็น คุณสมบัติของพวกชุมนุมจริง ๆ

ความทุกข์ของ ..... มากกว่า ความทุกข์ของพวก..... ทั้งที่ความเป็นจริง มันก็ ปชช เหมือนกัน เหตุผลข้าง ๆ คู ๆ
กันจริง เหมือนกันเดี๊ย....ขอให้คุณพ่อ โชคดี นะครับ....
 :13: :13: :13:
60  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ฟังธรรม งาน ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ “ฟ้าสางที่กลางอุโมงค์” เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 09:12:34 pm
วัดอุโมงค์ อยู่เชียงใหม่ นะเจ๊า ครูอริสา อย่าบ่นเน้อ ขอลงตัดหน้าก่อน เนาะ
 :hee20hee20hee:
61  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ฟังธรรม งาน ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ “ฟ้าสางที่กลางอุโมงค์” เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 09:11:29 pm
62  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ฟังธรรม งาน ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ “ฟ้าสางที่กลางอุโมงค์” เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 09:06:36 pm


ขอเชิญฟังธรรม งาน ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ “ฟ้าสางที่กลางอุโมงค์”

กำหนดการ โครงการอาจาริยบูชา วาระ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ “ฟ้าสางที่กลางอุโมงค์”

วันเสาร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
ณ วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
๐๘.๐๐ – ๐๙.๐๐ น. ลงทะเบียน / รับสื่อธรรมะที่ระลึก

๐๙.๐๐ – ๐๙.๓๐ น. พิธีเปิด
- ประธานกล่าวต้อนรับ โดย พระครูสุคันธศีล เจ้าอาวาสวัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
- โอวาทกล่าวเปิดงาน อาจาริยบูชา วาระ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ สาส์นจาก
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

๐๙.๓๐ – ๑๑.๐๐ น. กล่าวแนะนำองค์ปาฐก โดย ดร.ส่งเสริม แสงทอง : คณะพุทธนิคม
ปาฐกถาธรรม : หัวข้อ “ปฏิปทาหลวงพ่อปัญญากับพุทธศาสนาไทยในอนาคต” โดย พระราชสุเมธาจารย์ (หลวงพ่อสุเมโธ) : วัดอมรวดี ประเทศอังกฤษ

๑๑.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล / ร่วมรับประทานอาหาร
สนทนา – ดนตรี – เวทีธรรม โดย พระครูสังฆกิจพิมล (สุรศักดิ์ สุราโณ) : วัดชลประทานรังสฤษฏ์ และ คณะจีวัน

๑๓.๐๐ – ๑๓.๑๕ น. อ่านบทกวี

๑๓.๓๐ – ๑๕.๐๐ น. กล่าวแนะนำองค์ปาฐก โดย พระอาจารย์มหาพิภพ จนฺทสิริ (ป.ธ.๙) :
วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
ปาฐกถาธรรม : หัวข้อ “งานสร้างสัมมาทิฏฐิในสังคมพุทธร่วมสมัย” โดย พระราชปฏิภาณโสภณ
(มาณพ ติกฺขญาโณ ป.ธ.๙) : วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

๑๕.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. เสวนาธรรม : หัวข้อ “ ตรีกัลยาณมิตร ศิษย์สหาย”
(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ, ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ, เจ้าชื่น สิโรรส)
นำ เสวนา โดย - พระอาจารย์สิงห์ทอง เขมิโย : สวนโมกขพลาราม - ดร.ส่งเสริม แสงทอง : คณะพุทธนิคม ดำเนินการเสวนา - คุณประสาน อิงคนันท์ : รายการคนค้นตน
๑๖.๐๐ น. กล่าวสรุปกิจกรรม วันแรก โดย พระประสิทธิ์ วิสุทฺธิสาโร : วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
ณ วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
๐๘.๐๐ – ๐๙.๐๐ น. ลงทะเบียน / รับสื่อธรรมะที่ระลึก

๐๙.๐๐ – ๐๙.๓๐ น. ธรรมคีตา

๐๙.๓๐ – ๑๑.๐๐ น. กล่าวแนะนำองค์ปาฐก โดย อาจารย์ทัศนีย์ สุวานิชวงศ์ : บ้านสวนพันดาว เชียงใหม่
ปาฐกถาธรรม : หัวข้อ “๕ ดีนี้ มีในตน” โดย อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม : ชมรมเพื่อนคุณธรรม

๑๑.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล / ร่วมรับประทานอาหาร
ชมวีดิทัศน์ทามือ โดย พระนิสิต มจร. เชียงใหม่

๑๓.๐๐ – ๑๓.๑๕ น. อ่านบทกวี

๑๓.๓๐ – ๑๕.๐๐ น. กล่าวแนะนำองค์ปาฐก โดย แพทย์หญิงดุลยา ไชยเศรษฐ : ชมรมสารธรรมล้านนา
ปาฐกถาธรรม : หัวข้อ “น สิยา โลกวฑฺฒโน – อย่าเป็นคนรกโลก” โดย พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช : สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม

๑๕.๐๐ น. ปาฐกถาปิดโครงการฯ โดย พระอธิป อธิปญฺโญ : วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
63  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แถลงผลปฏิบัติงานปี 53 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:20:31 pm
เรื่องการ สร้างสังคมให้ดี พระคุณเจ้ามีส่วนอย่างมากครับ
แต่ถ้า พระคุณเจ้า ที่เป็นผู้นำมีวิสัยทัศน์ ที่ไม่ไปทางดับกิเลสแล้วก็อาจจะทำให้เสียได้ครับ
 :13:
64  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระพุทธบาทที่ปรากฏในพระไตรปิฏก มีกี่รอยจ๊ะ และมีอยู่ที่ไหนบ้าง เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:08:53 pm
อ้างถึง
จากหนังสือตามรอยพระพุทธบาท เรียบเรียงโดย พระชัยวัฒน์ อชิโต
อัตเดต เมื่อ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๔๘ ระบุว่ามีรอยพระพุทธบาท ในแต่ละภาคของไทยดังนี้
- ภาคใต้ 49 แห่ง
- ภาคเหนือ 148 แห่ง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 206 แห่ง
- ภาคตะวันตก 34 แห่ง
- ภาคตะวันออก 15 แห่ง
- ภาคกลาง 39 แห่ง  รวมในประเทศ ๔๙๑ แห่ง

และมีรอยพระพุทธบาท ที่ต่างประเทศ 64 แห่ง  เมื่อรวมจำนวนรอยพระพุทธบาททั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว จะมีทั้งสิ้น ๕๕๕ แห่ง


ไม่ธรรมดาเลยนะครับ ประเทศไทย มีมากที่สุด เพราะอะไรหรือครับ

 :smiley_confused1:
65  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: แก้กรรมด้วยพลังธรรม หยั่งรู้พฤติกรรมด้วยบารมีทาน กับแม่ชีทศพร เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:51:03 pm
เว็บมาสเตอร์ ได้เจอกับแม่ชี ทศพร บ่อยหรือป่าวครับ
 :13:
66  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: การ์ตูนสั้น ๆ แต่แง่คิดดี เรื่อง "คิดได้ ก็ สายเกินไป" เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:47:36 pm
เห็นด้วยครับ สื่อความรู้สึกนึกคิด ให้เข้าใจง่าย ๆ ด้วยภาพ

 :13:
67  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: นิพพานปรมัตถ์ คำตอบของ "จิตปภัสสร" เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:15:54 pm
อ้างถึง
น้ำที่กลิ้งไปมาบนใบบัว ไม่อาจทำให้ใบบัวเปียกได้ และที่น้ำกลิ้งไปมาได้นั้น
ก็เพราะ น้ำเกาะใบบัวไม่ติด น้ำจึงเปรียบเสมือนกิเลส
ส่วนใบบัวด้านบนเปรียบเสมือนจิตที่ถึงนิพพานแล้วของพระอรหันตผลนั่นเอง

เป็นคำเปรียบอุปมา ของผู้อยู่เหนือโลก ที่พอดีครับ

 :13:
หน้า: 1 [2]