สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 20, 2012, 11:44:54 am



หัวข้อ: มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน แสงส่องทาง "เพื่อเด็กสลัม"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 20, 2012, 11:44:54 am

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/167503.jpg)


มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน แสงส่องทาง "เพื่อเด็กสลัม"

คนเราไม่สามารถเลือกที่เกิดได้ แต่สามารถเลือกที่จะมีหรือจะเป็นได้ คนที่เกิดในครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุขด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง มีปัจจัยสี่ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต มีครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความอบอุ่น มีโอกาสทางการศึกษาที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างล้วนสงบสุขและสร้างสรรค์ คนที่เกิดมาเช่นนั้นจึงถือว่าโชคดีมาก

ในทางตรงกันข้ามกับคนที่เกิดมาบนความยากจนของพ่อแม่ บนความขัดสนของครอบครัว อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมแล้ว โอกาสที่จะพบกับความสุขและความเจริญก้าวหน้าก็แทบจะมองไม่เห็น อย่างเช่นเด็กที่เกิดมาในแหล่งชุมชนแออัดของกรุงเทพมหานครหรือในสังคมเมือง โอกาสที่จะได้มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับชีวิตจึงมีน้อยเต็มทีเพราะชีวิตเกิดขึ้นมา “กลางสลัม” ของเมืองหลวงประเทศไทย แต่ก็มิใช่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปเสียทั้งหมดถ้ารู้จักต่อสู้ดิ้นรนสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้กับชีวิตและอนาคตของตนเอง

ภาพรวมของชุมชนแออัดนับตั้งแต่มีอาคารบ้านเรือนปลูกติดกันอย่างแออัดยัดเยียด มีทั้งบ้านเช่าและห้องเช่าให้ผู้คนที่หลากหลายมาเช่าพักอาศัย สภาพอากาศในห้องพักไม่ถ่ายเท ห้องนอนต้องใช้เป็นทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องเรียนของเด็ก ที่พักอาศัยขาดความสะอาด ขาดความสงบ มีผู้คนพลุกพล่านตลอดเวลา ระบบการกำจัดขยะหรือถ่ายเทของเสียด้อยคุณภาพ

เนื่องจากบ้านพักอาศัยมีผู้คนเช่าอยู่กันมากมาย เวลาจะนอนหลับพักผ่อนจึงไม่ได้พักเต็มที่ พอจะนอนหลับก็มีข้างห้องหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียงส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ด่าทอกัน ทะเลาะวิวาทกัน หรือหนักไปกว่านั้นคือทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จึงแทบจะหาความสงบสุขไม่ได้เลยในแหล่งชุมชนแออัด

คนที่เคยอยู่และเคยสัมผัสมาแล้วก็คงจะรู้ดีว่ามันเป็นทุกข์ขนาดไหน ส่วนคนที่ไม่เคยอยู่และไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็คงจะคาดเดาได้ยาก แต่มิได้หมายความว่าคนอยู่ในแหล่งชุมชนแออัดเป็นคนไม่ดี เป็นคนขี้เกียจ เป็นคนสร้างแต่ปัญหาหรือเป็นคนที่ไม่พัฒนา กลุ่มคนเหล่านี้ต่างใช้ชีวิตต่อสู้ดิ้นรน พยายามสร้างชีวิตให้มีความสุขและให้ประสบความสำเร็จ บางรายก็สมหวัง บางรายก็ยังเหมือนเดิม แต่บางรายยิ่งแย่กว่าเดิม ดังนั้นชีวิตของคนในชุมชนแออัดส่วนมากจึงต้องจมปลักอยู่กับ “ความยากจน”



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167503/0.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167503/1.jpg)


ปัญหายาบ้า ยาเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่ในชุมชนแออัด ปัญหาเด็ก เยาวชนขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ได้เรียนหนังสือให้จบตามวัยที่ควรจะเป็น ปัญหาเด็กที่เกิดมาบนความขัดแย้งในครอบครัวจนคนที่เป็นพ่อหรือแม่ต้องแยกทางกัน เด็กจึงตกอยู่ในสภาพครอบครัวแตกแยก ไร้ความอบอุ่น ไม่มีจุดยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ไม่มีคนคอยให้กำลังใจหรือไม่มีผู้ชี้นำให้กับชีวิต มีจำนวนมากที่เป็นเช่นนี้ สุดท้ายก็กลายเป็น “เด็กที่มีปัญหา” กลายเป็นเด็กดื้อ เด็กทำลาย สร้างความเสื่อมเสียและความเดือดร้อนให้กับผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงกลายเป็นอาชญากรสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนในสังคม

เด็กเหล่านี้จึงเติบโตขึ้นมาอย่างด้อยคุณภาพจนกลายเป็นปัญหาให้กับสังคมไทยเรา การที่จะแก้ไขและการป้องกันสิ่งที่เลวร้ายเหล่านี้ได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนยื่นมือเข้าไปร่วมมือกันจัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแหล่งชุมชนแออัด

มูลนิธิกลุ่มแสงเทียนได้ตระหนักและห่วงใยปัญหาเหล่านี้ จึงได้จัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ขึ้นมาเมื่อ 16 กรกฎาคม 2527 จำนวน 16 โครงการ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดได้มีชีวิตที่ดีขึ้นมาโดยเริ่มตั้งแต่การเปิดเลี้ยงและสอนธรรมะเด็กเล็กก่อนวัยเรียนขึ้นมาในวัดบางไส้ไก่ ให้เด็กเล็กอายุ 2–5 ขวบซึ่งเป็นลูกหลานคนยากจนในชุมชนแออัดได้มีโอกาสเรียนหนังสือเบื้องต้น ได้รับการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง ได้รับการพัฒนาที่สมควรแก่วัยโดยการเลี้ยงฟรี สอนฟรี

ใช้แนวทางหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ให้เด็กเล็กได้ซึมซับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ตั้งแต่วัยเยาว์ ให้เด็กได้มีร่างกายที่สมบูรณ์ ได้รับอาหารที่เพียงพอแก่วัย ได้รับไออุ่นและใบบุญจากพระสงฆ์องค์เจ้าในวัดวาอาราม ได้หันหน้าเข้าวัดตั้งแต่เด็กอ่อนจึงเรียกโครงการนี้ว่า “โครงการเด็กอ่อนก่อนสาย” คือ เด็กอ่อนต้องแก้ก่อนที่จะสายเกินแก้ เปิดเลี้ยงอาหารและสอนหนังสือสอนธรรมะวันจันทร์–ศุกร์ วันละร้อยกว่าคน

ต่อจากนั้นได้มองเห็นคุณค่าของเด็กโตขึ้นมาจึงได้เปิดโครงการ “อบรมธรรมะวันหยุด” คือเปิดสอนธรรมะเด็กและเยาวชนอายุ 7–18 ปี สอนธรรมศึกษาตรี โท เอกตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ เด็กได้เรียนหลักธรรมคำสอนอย่างต่อเนื่องจะได้รู้จักนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในครอบครัวและในชุมชนต่อไป



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167503/2.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167503/3.jpg)


ดังนั้นทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์จึงมีเด็กและเยาวชนจากชุมชนต่าง ๆ จาก 12 ชุมชน เดินทางมาเรียนธรรมะวันละกว่าร้อยคน ชีวิตของเด็กและเยาวชนต่างมุ่งหน้าเข้าหาวัดวาศาสนาเช่นนี้มารุ่นแล้วรุ่นเล่า ปีแล้วปีเล่าจนผ่านมาแล้ว 28 ปีเต็ม วิถีชีวิตของเด็กในชุมชนแออัดจึงเกี่ยวข้องกับวัดวาศาสนามาโดยตลอดในระยะเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ ต่างได้เรียนธรรมะฟรี ได้เรียนหนังสือฟรี ได้รับการเลี้ยงข้าวปลาอาหารฟรี นี่คือชีวิต “เด็กสลัม”

เมื่อเด็กเติบโตขึ้นมาเป็นเยาวชนที่เรียนจบการศึกษาภาคบังคับของรัฐบาลแล้ว แต่ไม่สมควรเข้าสู่ตลาดแรงงานเพราะยังวัยเยาว์อยู่ ถ้าเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่ได้เรียนหนังสือต่อก็คงจะมีเวลาว่างเที่ยวเตร็ดเตร่ ก่อปัญหาให้กับชุมชนอย่างแน่นอน มูลนิธิกลุ่มแสงเทียนจึงได้รับเข้ามาอยู่ในความอุปการะ “โครงการมอบทุนการศึกษาช้างเผือก” เพื่อให้ได้เรียนหนังสือในชั้นสูง ๆ ขึ้นไป

การสอนธรรมะเด็กสลัมและเลี้ยงเด็กสลัมของมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ ได้ดำเนินงานมาเป็นเวลา 28 ปีแล้ว ได้มีโอกาสยื่นมือช่วยเหลือและชุบชีวิตเด็กด้อยโอกาสในสังคมมานับหลายหมื่นชีวิต มีโอกาสทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กในสังคมเราได้ดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่ภารกิจตามโครงการต่าง ๆ เหล่านี้คงไม่หยุดนิ่งเพียงเท่านี้ แต่ยังจะเดินหน้ายื่นมือให้ความช่วยเหลือเด็กคนอื่นที่ด้อยโอกาสในสังคมต่อไปเรื่อย ๆ

ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาล้วนอาศัยน้ำใจความเมตตาและศรัทธาของผู้คนในสังคมได้แบ่งปันมาช่วยเหลือเด็ก ๆ เหล่านั้น จนบัดนี้ศาสนทายาทได้เติบโตและสดใสขึ้นมาจากข้าวก้นบาตรของวัดวาอารามในพระพุทธศาสนาและความเมตตาจากผู้คนในสังคมอย่างน่าชื่นใจ

    สำหรับผู้มีจิตศรัทธาต้องการมีส่วนร่วมช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่
    มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ ซอยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ถนนอิสรภาพ
    ซอย 15 แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
    โทรศัพท์ 0-2465-6165, 0-2466-8354, 0-2465-8532 โทรสาร 0-2472-4212
    ตั้งแต่ 06.00–18.00 น. ไม่มีวันหยุด
    หรือบริจาคทรัพย์ให้เป็นค่าอาหารกลางวันและทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสได้ที่
    บัญชี “มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน” ธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาเจริญพาศน์
    เลขที่บัญชี 126-0-36151-2 ประเภทสะสมทรัพย์
    มาร่วมกันสร้างสรรค์สังคมด้วยการให้โอกาสแก่ชีวิตน้อย ๆ ในชุมชนแออัดด้วยกัน.

    พระมหาสมัย จินตโฆสโก


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/education/167503 (http://www.dailynews.co.th/education/167503)


หัวข้อ: Re: มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน แสงส่องทาง "เพื่อเด็กสลัม"
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ พฤศจิกายน 20, 2012, 12:29:28 pm
อนุโมทนา กับ พระคุณเจ้าที่เสียสละเข้าไปดูแลเยาวชน กันทุกรูป นะครับ
อนุโมทนา ด้วยหัวใจเลยครับ ถึงแม้บางท่านอาจจะมองว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์

  แต่อย่างไร บ้าน และ วัด โรงเรียน ควรจะไปด้วยกัน นะครับ เพราะถ้าขาดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้ว ย่อมทำให้เดือดร้อนกันนะครับ

  :c017: :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน แสงส่องทาง "เพื่อเด็กสลัม"
เริ่มหัวข้อโดย: SAWWALUK ที่ พฤศจิกายน 20, 2012, 01:39:04 pm
อนุโมทนา คะ ที่หลวงพ่อ หลวงพี่ ท่านอนุเคราะห์กับคนยาก คะ โดยเฉพาะ เยาวชน คะ

  :25: :25: :25: :58: :58:


หัวข้อ: Re: มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน แสงส่องทาง "เพื่อเด็กสลัม"
เริ่มหัวข้อโดย: Sitti ที่ พฤศจิกายน 21, 2012, 12:37:07 am
อนุโมทนา สาธุ ครับ อ่านตอนแรก นึกว่าบทความ
 แต่เป็นประกาศร่วมกันบริจาค ช่วงท้ายครับ
 :25: