ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บาป มากหรือไม่ คะ ที่เราห้ามลูกหลาน และ ญาติ ไปร่วมบุญที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 4  (อ่าน 4418 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

inlove

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บาป มากหรือไม่ คะ ที่เราห้ามลูกหลาน และ ญาติ ไปร่วมบุญที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 4 เนื่องด้วยในวันนี้เป็นวันหยุด นาน ๆ จะได้อยู่กันพร้อมหน้า มีคุณแม่มาชวนไปท้องสนามหลวงกัน ทั้งที่ ไม่ใกล้จากที่พัก คือ อยู่ที่สุขุมวิทคะ หลาย ๆ คนก็เตรียมตัวบอกว่าจะไปไหว้องค์ เวียนเทียน แ่ต่เราก็ห้ามเขาเหล่านั้นไว้ บอกว่าไปทำบุญใกล้ ๆ บ้านก็พอแล้ว ซึ่งทุกคนก็เหมือนไม่ยินยอมกัน แต่ก็ไม่ขัด ก็เลยมีคนไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านกันไม่ครบ และทุกคนก็ไม่ได้ไป ที่ท้องสนามหลวงกัน ประกอบกับฝนตกอีก จึงไม่ได้ไปเวียนเทียนที่วัดใกล้บ้านเข้าไปอีก

   คือรู้สึกว่าผิด ที่เหมือนห้ามบุญ คนอื่นอย่างนั้น อยากทราบว่า บาปนี้มีมากหรือไม่คะ

   ไม่ค่อยจะสบายใจ เลยคะ ช่วยตอบกันหน่อยนะคะ

    :'( :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

catwoman

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 88
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
รอคุณ Admax มาตอบก่อนก็ดีนะคะ เพราะอ่านข้อตอบแล้ว รู้สึกว่่าดีคะ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า

vichai

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 207
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 มาก หรือ น้อย ขึ้นไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่า เจตนาของคุณ ตอนนั้นต้องการขัดขวางการไปทำบุญกุศลของพวกเขาอย่างไร เพราะเหตุไร ครับ 

    มีครับ ผมมีเพื่อน ๆ อยู่หลายท่าน พอผมไปชวนร่วมบุญ ด้วย ก็มักจะมี อีกคนหนึ่ง ออกมาคอยขัดไม่ให้ร่วมครับ  แ่ต่การชวนคนไปสร้างกุศลร่วมบุญ ไม่ใช่ชวนกันง่าย ๆ นะครับ

   เอาง่าย ๆ ครับ ผมขอถามว่า

    วันนี้ คุณชวนลูก แฟน ญาต ของคุณไป ช๊อบปี้ง ดูหนัง สิครับ ว่าตอบกันกี่คน
    และ ลองชวนไปนั่งสมาธิ ที่วัด หรือในห้องพระที่บ้านดูสิครับ ว่าตอบกันกี่คน

  ดังนั้นเวลาที่ใครมีจิตเป็นกุศล แล้ว เราไปขัดขวางเขาในกุศลนั้น ก็ย่อมบาปมากครับ เพราะเขากำลังมีศรัทธา

  คงตอบได้เท่านี้นะครับ ...

 
บันทึกการเข้า
มาศึกษาธรรมะ ครับ ยินดีรู้จักทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร ครับ
เครดิต คุณกบแย้มกะลา

tewada

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 75
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 มี หลาย ต่อ หลาย ครั้ง ที่คนคิด จะทำดี มีโอกาส แต่ไม่สร้าง ความดี จ้า

     เีรา่ มีเพื่อนที่ดี อยู่ท่านหนึ่ง จัดได้ว่า ท่านดีมาก ๆ คะ เวลาทุกคนเดือดร้อน ท่านจะช่วยทุกคนที่เข้าไปขอพึ่งพา แต่เวลาท่านเดือดร้อน ไม่มีใครคิดจะช่วยท่าน เหตุผลมีเพียงเรื่องเดียว เพราะว่า เจ้านายใหญ่ ไม่ชอบท่านทุกคนจึงละจากการสมาคมท่าน ต่อหน้า มีแต่ คบท่านกันลับหลัง คะ แม้แต่เราเอง ก็ยังไม่กล้าสนทนากับท่าน ต่อหน้าผู้ใหญ่ เลยคะ กลัวหางเลขไปด้วย ก็เพราะอย่างนี้แหละคะ สังคมเรา ไม่ยกย่องคนดี เพียงแต่คบกันเพียงเพื่อโลกธรรม คือ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เพราะกลัว เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ทุกข์ นินทา กันใช่หรือไม่คะ

     ดังนั้น คนดี จึงไม่เป็นที่ต้องการของคนทั่วไป คะ
 
     การทำความดี ทำได้ยาก นะคะ

     ดังนั้น เมื่อเราไปขวางโอกาสบุญกุศลของผู้ืือื่น แล้ว ก็ย่อมต้องรับกรรม คะ จะมาก หรือ น้อย ขึ้นอยู่กับเจตนาที่เราได้แสดงกระทำไว้ คะ

      :s_hi:
บันทึกการเข้า

wayu

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 162
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
บาป สิครับ ตอนนี้ คุณก็ไม่สบายใจ แล้ว ใช่หรือไม่ ครับ อันนี้แหละครับ วิบากของบาป ก็เริ่มแล้วครับ เพียงแต่จะหนักเบาขึ้นอยู่กับเจตนาของคุณ ตอนนี้หากใครมาบ่นเรื่องไม่ได้ไป คุณอาจจะเกิดโทสะ ได้... ดังนั้น วิธีระงับบาปอันนี้ ต้องสวด อิติปิโส บูชาคุณของพระพุทธเจ้า ทดแทนเลยนะครับ เอาสัก 108 จบเลยนะครับ

  บาปก็จะน้อยลงไปครับ
 
   :s_hi:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
รอคุณ Admax มาตอบก่อนก็ดีนะคะ เพราะอ่านข้อตอบแล้ว รู้สึกว่่าดีคะ

  :s_hi:

ขอบคุณคุณแคทวูแมนที่ให้เกียรติครับ ที่นี่มีหลายท่านที่รู้เยอะมากมายกว่าผมและให้แง่คิดได้มากกว่าผมเยอะครับ ฟังหลายๆท่านก็มีแง่คิดเยอะดีครับขอบคุณที่ให้เกียรติครับ
------------------------------------------------------------------------

ผมขออนุญาตใช้ความเห็นส่วนตัวนะครับดังนี้ว่า

1. หากการกระทำที่คุณกระทำไปนั้นมีจิตที่ขัดข้องขุ่นเคืองใจเพราะไม่พอใจที่จะให้ผู้อื่นได้ทำในสิ่งที่เขาทั้งหลายเห็นว่าดีและงดงาม ซึ่งทั้งๆที่สิ่งที่เขาทั้งหลายจะทำนั้นเป็นเรื่องที่ดีงามเป็นกุศล หรือ ที่คุณทำนั้นก็เพียงเพื่อต้องการให้เขาทั้งหลายต้องทำตามที่ตนเองพอใจต้องการ จนทำให้ผู้อื่นเกิดความ อัดอั้นใจ คับแค้นกาย-ใจ ทุกข์ทรมานกาย-ใจ โศรกเศร้าเสียใจ ร่ำไร รำพัน โดยที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้รับผลประโยชน์สุขใดๆเลย ขณะนั้นคุณมี อกุศลจิต เกิดขึ้นแก่ใจครับ พออกุศลจิตเกิด อกุศลกรรม ก็เกิดขึ้นนั่นคือการที่คุณเอ่ยวาจากล่าวไปนั่นเองครับ

2. หากการกระทำของคุณนั้นทำไปเพื่อความเห็นประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยจิตใจคุณมีความเอื้อเฟื้ออนุเคราะห์แก่ผู้อื่น มีความแบ่งปันสุขกุศลดีงามให้ผู้อื่น และ ยินดีเมื่อเขาได้พบสุข แล้วสิ่งที่คุณทำหรือพูดกล่าวมานั้นถูกต้องเหมาะสมควรแก่กาลที่จะพูด กุศลจิต ก็เกิดขึ้นแก่คุณ การกระทำที่ส่งผลออกมาก็เป็น กุศลกรรม แก่คุณ

ทีนี้คุณต้องทบทวนดูครับว่าขณะนั้นที่คุณทำไปเพราะไม่พอใจยินดี ขุ่นข้องขัดเคืองใจ หรือ เพราะความปารถนาให้ผู้อื่นได้พบสุขปราศจากทุกข์  มีความปิติยินดีแก่จิตคุณ จิตคุณตอนนั้นเป้นเช่นไรคุณเท่านั้นที่จะรู้ดี

- การทำบุญจะทำที่ไหนก็ได้ มันเป็นสิ่งที่ดีงามทั้งหมด และ ย่อมเกิดประโยชน์แก่คุณและครอบครัวทั้งหมด หากในการทำแต่ละครั้งนั้นทำด้วย ทานจิต คือ ให้เพื่อหวังให้ผู้รับมีความสุขจากการให้นั้น ให้เพื่อหวังให้ผู้รับได้ใช้ประโยชน์สุขจากสิ่งที่เราให้นั้น ให้แล้วไม่มานั่งนึกเสียใจและเสียดายในภายหลัง

- กรรม คือ การกระทำใดๆทาง กาย วาจา และ ใจ โดยเจตตาที่จะทำในปัจจุบันขณะนี้ และ ที่ผ่านมาแล้ว

- บาป ในมุมมองของผม คือ ผลลัพธ์จากการกระทำใดๆทาง กาย วาจา ใจ ที่ทำแล้วให้สภาพจิตใจคุณมีความขุ่นข้องขัดเคืองใจ ทุกข์ทน อัดอั้น คับแค้นกาย-ใจ ไม่สบายกาย-ใจ เสียใจ ร่ำไร รำพัน

- บุญ ในมุมมองของผม คือ ผลลัพธ์จากการกระทำใดๆทาง กาย วาจา ใจ ที่ทำแล้วให้สภาพจิตใจคุณมีความ สบายกาย-ใจ ยินดี สุขใจ ปิติใจ

ทีนี้คุณคงจะพิจารณาเองได้แล้วนะครับว่าตอนนี้กรรมที่คุณทำนั้นเป็น กุศลกรรมหรืออกุศลกรรม เป็น บุญหรือบาป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2012, 11:17:49 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

     ขอตอบแบบไม่เกรงใจ..นะครับ
     บาปแน่นอน บาปมากหรือน้อยนั้น จากที่ได้อ่านบทความต่างๆมา ขึ้นอยู่กับว่า
     คนที่ถูกขัดขวางนั้นมีเจตนาจะไปทำบุญใหญ่แค่ไหน ตัวอย่างเช่น เจตนาไปสร้างธรรมทาน
     บุญธรรมทานเป็นบุญสูงสุดในฝ่ายทาน คนขัดขวางน่าจะได้รับบาปที่หนักมาก


     มีตัวอย่างในเว็บพลังจิต board.palungjit.com/f14/เคล็ดลับในการสร้างคำอธิษฐาน-334200.html
     กล่าวไว้ว่า คนที่ขวางบุญ เมื่อตายแล้ว ไปเป็นสัมภเวสีหรือโอปาติกะก็ตาม
     หากมีคนอุทิศบุญให้ จะไม่สามารถรับบุญนั้นได้

     ส่วนตัวผม เคยห้ามไม่ให้แม่ไปทำบุญไกลบ้าน ปรกติหน้าบ้านผมจะมีพระบิณฑบาตอยู่สี่วัด
     ทุกวันพระ แม่ผมจะหยุดใส่บาตหน้าบ้าน ไปทำบุญที่วัดหนึ่ง แต่ที่หน้า็บ้านก็ยังมีพระบิณฑบาตอีกสามวัด
     ผมก็บอกแม่ว่า ทำไมไม่ทำบุญที่หน้าบ้านมีพระตั้งสามวัด ไปวัดนั้นได้ทำบุุญแค่วัดเดียว
     เรื่องนี้แค่ใจคิดและวาจาพูดออกไปเท่านั้น ไม่ได้ขวางท่านด้วยวิธีอื่น และผมก็ไปส่งท่านตามปรกติ


     จนมาเมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา ผมไปถึงสนามหลวงในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม พื้นที่บางส่วนของวัดพระแก้วและมณฑลพิธีสนามหลวงถูกปิดเพื่อเตรียมรับเสด็จ ทำให้ผมไม่ได้กราบพระแก้วมรกต ส่วนที่สนามหลวงผมต้องลักลอบเข้าไปเวียนเทียนพระบรมสารีริกธาตุ ขณะเวียนเทียนมีจิตใจที่ไม่ผ่องใส รู้สึกได้เลยว่า บุญที่ได้ไม่สมบูรณ์

     สรุปก็คือ วิบากกรรมในการขวางบุญด้วยใจและวาจาของผม
     น่าจะส่งให้ผมไม่ได้รับความสะดวกในการสร้างบุญของตนเอง บุญที่ได้จะไม่เต็ม


     พิจารณาเองนะครับ ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้

      :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ