สูตรสำเร็จในชีวิต (13) การงานไม่อากูล (2)
คนจะทำงานไม่ให้อากูลคั่งค้างจะต้องมีอิทธิบาท 4 ประจำใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดว่าคนทำงานคั่งค้างจะต้องได้รับผลเสียทั้งทางกายและทางใจ ทางกายนั้นต้องเปลืองแรงถึงสองครั้ง ทางใจนั้นเล่าเวลานึกถึงงานที่คั่งค้างเมื่อใดใจหายวาบเมื่อนั้น เสียสุขภาพจิตมิใช่น้อย คนจะทำงานไม่ให้อากูลคั่งค้างจะต้องมี "อิทธิบาท 4" ประจำใจคือ
@@@@@@
ฉันทะ : แปลกันว่าความพอใจ ยังไม่สื่อความหมายเท่าที่ควร ถ้าจะให้เข้าใจง่ายต้องแปลว่า ความรักงาน หรือเต็มใจทำ คนเราลองได้รักอะไรหรือรักใครแล้ว ย่อมเต็มใจทำให้ทุกอย่าง นึกถึงสมัยยังหนุ่มยังสาวก็แล้วกัน (สำหรับท่านที่ชราภาพแล้ว) คนรักชอบอะไร ต้องการอะไร ก็อุตส่าห์หามาประเคนให้ด้วยความเต็มใจ ฉันใดก็ฉันนั้น การทำงานก็ไม่แตกต่างกัน เราต้องมีความรัก เพียงแต่แปรความ “รักคน” มาเป็น “รักงาน” แล้วเราก็ทุ่มเทให้กับงานได้เป็นอย่างดี
วิริยะ : พากเพียรพยายาม หรือแข็งใจทำ แข็งใจในที่นี้มิใช่ฝืนใจทำแบบซังกะตาย หากหมายถึงทำงานด้วยความเข้มแข็ง กล้าสู้ กล้าบุก ไม่ว่างานจะใหญ่โตหรือลำบากแค่ไหน พยายามทำเต็มที่ ไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก
จิตตะ : ตั้งใจทำ หมายถึงคิดถึงงานที่เริ่มไว้ตลอดเวลา เอาใจจดจ่ออยู่ที่งานนั้น คิดเปรียบเทียบง่ายๆ เวลาเรารักใครสักคนเราจะคิดถึงแต่คนที่เรารัก คนที่รักกันคิดถึงกันย่อมไม่มีวันจะทอดทิ้งกันแน่นอน นอกเสียแต่จะหมดรักกันเท่านั้นฉันใด คนที่คิดถึงงานตลอดเวลา ย่อมไม่ทิ้งงาน มีแต่จะคิดหาทางปรับปรุงแก้ไขให้งานก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ฉันนั้น
วิมังสา : เข้าใจทำ อันนี้หมายถึงทำงานด้วยการใช้ปัญญาทำอย่างฉลาด คนเราถึงจะรักงานเพียงใด พากเพียรเพียงใดเอาใจจดจ่ออยู่กับงานเพียงใด ถ้าขาดปัญญาความรู้ ความเข้าใจแล้วแทนที่งานจะสำเร็จ หรือก่อทุกข์โทษให้ก็ได้ว่ากันว่าคนโง่ขยันนั้นอันตรายยิ่งกว่าอะไรเสียอีก เพราะแกจะขยันสร้างปัญหาให้แก่ตัวเองและคนอื่น
@@@@@@
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
บุรุษคนหนึ่งเลี้ยงลิงไว้ฝูงหนึ่ง วันหนึ่งเขาจะไปธุระต่างเมือง สั่งให้หัวหน้าลิงช่วยดูแลสวนผลไม้ที่เพิ่งปลูกใหม่ๆ เจ้านายหายไปสามสี่วันต้นไม้ในสวนตายเรียบ ไม่ใช่เพราะลิงขี้เกียจทำตามที่เจ้านายสั่ง มันทำอย่างขะมักเขม้นทีเดียว
มันสั่งให้ลูกน้องช่วยกันตักน้ำมารดต้นไม้ทุกเช้า ขณะรดน้ำมันสั่งให้ลูกน้องถอนต้นไม้มาดูทุกครั้งว่ารากมันชุ่มน้ำหรือยัง ถ้ายังให้ราดน้ำลงไปใหม่ ถ้ารากชุ่มแล้วจึงยัดลงหลุมกลบดินใหม่ ทำอย่างนี้ทุกวันแล้วอย่างนี้มันจะเหลืออะไร เจ้านายกลับมาเห็นต้นไม้ตายเกลี้ยงสวน แทบลมจับ นี่แหละโทษของการใช้ลิงโง่แต่ขยันรดน้ำต้นไม้
ที่สำนักงานแห่งหนึ่ง ผู้บริหารโง่ ผู้ช่วยงานก็โง่ แต่ขยันขันแข็งทำงาน บางทีเซ็นสั่งงานไปทั้งที่ไม่รู้ว่า เขาทำอะไร พอเขาถามว่าจะให้ทำอะไร ก็ตอบไม่ได้
เรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนแก้ไม่ไหว เพราะพวกเขาขยันสร้างเงื่อนปมเสียจริง จนผู้บริการระดับสูงบ่นปวดศีรษะต้องมาช่วยแก้ปัญหาให้ไม่รู้จบสิ้น เวรกรรมจริงๆ คือเป็นกรรมของหน่วยงานนั้นที่มีผู้บริหารเวรๆ อย่างนั้น นี่คือโทษของการเอาคนโง่มาบริหารงาน
สรุปแล้วคุณสมบัติของผู้ที่จะทำงานมิให้อากูลคั่งค้างจำต้องมีความเต็มใจทำ แข็งใจทำ ตั้งใจทำ และเข้าใจทำ ใช้สูตรนี้สูตรเดียวการงานทุกอย่างไม่ว่าใหญ่ว่าเล็กรับรองประสบความสำเร็จแน่นอนที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8-14 พฤษภาคม 2563
คอลัมน์ : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เผยแพร่ : วันพฤหัสที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2563
ขอบคุณ :
https://www.matichonweekly.com/column/article_304721