ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำงานแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากทำ อยากจะลาออก ไม่อยากทำ  (อ่าน 4625 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

GodSider

  • ผู้อุปถัมภ์
  • กำลังแหวกกระแส
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 121
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทำงานแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากทำ อยากจะลาออก ไม่อยากทำ ความรู้สึกนี้มองเห็นว่า การเป็นอยู่ของคนโลกนั้นต้องแ่ก่งแย่ง แข่งขัน เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น จนรู้สึกว่า โลกนี้มันน่าเบื่อ แสนจะไร้ค่า อยากหลบไปบวชเป็นพระเป็นชี ฤาษี บำเพ็ญตนในทางธรรม ความรู้สึก นึกคิดอย่างนี้ จัดว่าเป็นความบ้า หรือ ไม่ ?

 และ ถ้ามีเกิดขึ้นแล้ว จะทำอย่างไร ที่จะแก้อารมณ์ที่เกิดอย่างนี้ ที่จะไม่ให้เกิดอารมณ์ เบื่อ ๆๆๆๆ อย่างนี้ได้

 หรือ เป็นเพราะเราภาวนามาก ๆ จิตเข้ากระแสธรรม ที่จะต้องออกจากโลก

 ขอให้เพื่อน ๆ ที่มีประสพการณ์ ที่ผ่านตรงนี้ ช่วยแนะนำกันด้วย จ้า

  :s_hi: :c017:
บันทึกการเข้า
สุดเขต เสลดเป็ด ไกลสุดกู่ ใกล้แค่ ปลายจมูก

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28366
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

๘. นิพพิทานุปัสสนาญาณ (ญาณอันคำนึงเห็นด้วยความหน่าย คือ เมื่อพิจารณาเห็นสังขารว่าเป็นโทษเช่นนั้นแล้ว ย่อมเกิดความหน่าย ไม่เพลิดเพลินติดใจ)

 การเบื่อหน่ายที่แท้จริงต้องเกิดจากภาวนาถึงญาณที่ ๘....ขอรับ จึงจะได้ชื่อว่า เบื่อจริงๆ
 คนทั่วไปมักเรียกว่า "เกิดนิิพพิทา"

ส่วนการเบื่อที่ไม่ได้เกิดจาก "ญาณที่ ๘" ล้วนเป็นไปตามกิเลสของตนเอง
 ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของปุถุชน ที่เกิดอาการ "เบื่อๆอยากๆ"


 ส่วนตัวผมคิดว่า การไม่ประสบความสำเร็จทางโลก หรือ คิดอะไรแล้วไม่เป็นดังที่คิด คิดแล้วไม่ได้ดังใจ
 ไม่เป็นไปตามทิฏฐิของตนเอง ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเบื่อได้

  :41: :91: :03: :85: :) ;)

การแก้ไข มีทางเดียวครับ ต้องภาวนาเยอะๆ เบื่อมากก็หนีเข้าสมาธิก็ได้ หรือไม่ก็หากิจกรรมที่เป็นกุศลทำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2011, 04:29:41 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

แมนแมน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ต้องพิจารณา กันนาน ๆ นะครับ ว่าอาการเบื่อ ๆ เช่นนี้ ผมเองก็เป็นครับ พอฝึกนั่งกรรมฐาน ช่วงแรก ๆ ก็จะเห็นว่าเราและทุกคน ล้วนแล้วแต่กำลังปล่อยชีวิตไปอย่างไร้สาระ มีอยู่ถึงขนาดเพื่อนชวนไปดูหนัง ไปเที่ยว ถ้าเป็นเมื่อก่อน ละก็ไม่ขาด พอนึกถึงการภาวนาแล้ว รู้สึกการไปเที่ยวชายหาดกินเหล้า กันเป็นเรื่องไร้สาระ แล้วตอนนั้นใจมันจะบอกว่า เรากกำลังทำสิ่งที่ไร้สาระ ช่วงนี้เหมือนช่วงเปลี่ยนครับ เพราะดูเหมือนเราจะออกจากสังคม แล้วพยายามแสวงหาการภาวนามากขึ้น

  แต่พอมาภาวนามากขึ้น ก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาอีก เบื่อตรงที่ว่า การภาวนาเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่เราจะภาวนาสำเร็จ สุดท้ายก็ท้อถอยและคืนสู่วิัสัยเก่า แต่ก็ไม่เต็มร้อย เพียงแต่กลับไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่ยอมผิดศีล

  พอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ อีกก็รู้สึกเบื่อ และ เสียเวลาในการหาสาระ และ สาระอะไรเป็นเป้าหมายก็มานั่งใคร่ครวญใหม่ ก็เห็นว่าความพ้นทุกข์ เป็นเรื่องที่สำัคัญ ก็เลยมุ่งกลับมานั่งภาวนาใหม่อีก

  ผลการที่ผมเบื่อ ๆ อยาก ๆ อยู่อย่างนี้ ทำให้ผลการเรียน เสียหาย ทางบ้านก็เป็นห่วง เพราะผมมุ่งแต่เรื่องภาวนาแบบทิ้งโลก เหมือนคนอยากจะบวช ที่จริงอารมณ์ใจก็อยากบวช ติดแต่ที่บ้านขัดเพราะผมกำลังเรียนอยู่ ปี 2 ที่ มช. อยู่ครับ

  ดังนั้น อารมณ์ เบื่อ ๆ อยาก  ๆ จะมีแน่นอนสำหรับผู้ปฏิบัติครับ
  ถามผม ว่าควรผ่านไปอย่างไร กับอารมณ์นี้

  ผมคิดว่า ลอง แบ่งเวลา 70 กับชีวิตการงาน การเรียน ดูครับ
  และอีก 30 นั้นให้กับการภาวนา
  ยังไม่ต้องรีบร้อนมาสละครัว สละเรือน หรอกครับ
  มีเรื่องที่เราสามารถทำได้ ในระหว่างภาวนาอย่างนี้อยู่ ครับ

  ที่เล่าในนี้ เพราะผมได้พบพระเพื่อนทีร่วมปฏิบัติด้วยกัน และไปบวชในโครงการ แล้วไม่ยอมลาสิกขา บอกว่าจะเอาจริงสักพรรษา ตอนนี้เข้าพรรษาแล้ว เห็นบ่นว่าโอกาสภาวนามีน้อยกว่าเพศฆราวาสอีกครับ

  เนื่องด้วยพระใหม่ ต้องเรียนหนังสือ ต้องท่องตำราสวดมนต์ ต้องศึกษาวินัยสงฆ์ ต้องตื่นเป็นเวลา นอนเป็นเวลาฉันอาหารมื้อเดียว จะไปไหนเดินทางก็ลำบาก ติดต่อใครก็ไม่ได้ ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ เห็นบอกว่ายังไม่มีเวลาภาวนากรรมฐาน ใด ๆ ตามที่ต้องการเลย เพราะกิจวัตรของสงฆ์ เน้นหนักเรื่องเรียน กับก่อสร้าง ทำความสะอาดก็มาก กวาดใบไม้ กันเป็นไร่ ๆ ต่อวัน กวาดวันละ 2 ครั้ง ผมเองได้ฟัง ได้เห็น และเ้ข้าไปสัมผัสแล้ว ก็คิดได้ว่า ชีวิตฆราวาส มีโอกาสในการภาวนามากกว่าพระสงฆ์ อีกครับ

  จะเดินเหินไปไหน ก็ไม่มีใคร มาจด มาจ้อง มามอง เดินห้างก็ไม่มีใครว่า

  ดังนั้นอารมณ์ เบื่อ ๆ อยาก  ๆ อย่างนี้ปล่อยไว้กับการใช้ชีวิต 70 ภาวนา 30 ก็น่าจะพอนะครับ


  :s_hi: ;)
บันทึกการเข้า