ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมา – ธรรมเมา  (อ่าน 3420 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28415
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ธรรมา – ธรรมเมา
« เมื่อ: มีนาคม 30, 2012, 12:17:44 pm »
0


ธรรมา – ธรรมเมา
คำเทศนาของ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
   
    อดีตเป็นธรรมเมา อนาคตเป็นธรรมเมา จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน
    ตัดตัณหา ตัดกิเลส ตัดมานะทิฐิ ตัดความยึดมั่นถือมั่นของตน ให้เสร็จลงก็สงบได้
    อดีตมันล่วงไปแล้วไม่ต้องคำนึงถึง ถือเอาบุญเอาบาปในปัจจุบัน
    เราทำบุญทำบาป บุญบาปอันนี้แหละพาหมุนไปในปัจจุบัน
    อดีตผ่านไปแล้วเป็นมาแล้ว อย่าไปคำนึงถึงเอามาเป็นอารมณ์ อดีตอนาคตตัดออกให้หมด


    “อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ”  ตนแลเป็นที่พึ่งของตน
    ให้ตั้งอยู่ในพระไตรสรณคมณ์ตลอดชีวิต เป็นอารมณ์ของใจ อย่าให้เป็นธรรมเมา
    “เมาคิด เมาอ่าน เมาอดีต เมาอนาคต ใช้การไม่ได้”


    ตัดอดีตอนาคตลงให้หมด จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน
    รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน วางในปัจจุบัน แจ้งอยู่ในปัจจุบัน
    ตั้งความสัตย์ลงไปว่า เวลานี้เราทำจิตทำใจให้สงบ
    อย่าไปคิด อดีตอนาคตผ่านไปแล้ว เอาปัจจุบันนี้แหละเป็นที่ตั้ง


อ้างอิง หนังสือ "สมาธิเพื่อชีวิต" รวบรวมโดย พระสายัณห์ ติกฺขปญฺโญ
ที่มา http://dhammasatta.igetweb.com/index.php?mo=3&art=224213
ขอบคุณภาพจาก http://images.palungjit.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

แมนแมน

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 86
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ธรรมา – ธรรมเมา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 31, 2012, 09:31:08 am »
0
เห็นหลวงปูแหวนแล้ว รู้สึกเสียดายไม่ได้พบท่านครับ ตอนนั้นอายุุยังน้อยเป็นเด็กมากครับ

ขอบคุณครับ ยิ่งเห็นในหลวงแล้วยิ่งทำให้เข้าใจได้เลยว่า ในหลวงพระองค์่ท่านสนใจในครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่นเป็นอย่างมาก

 ขอบคุณครับ

 :c017:
บันทึกการเข้า

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ธรรมา – ธรรมเมา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 12:08:24 pm »
0
สาธุ คนเหนือก็คิดถึง ท่านคะ ไปวัดดอยแม่ปั๋ง มาก็เงียบเชียบไม่เหมือนตอนที่ท่านยังมีชีิวิตอยู่เลยคะ

 :88: :49:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

เด็กวัด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 150
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ธรรมา – ธรรมเมา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 03:29:59 pm »
0
สติ สัมปชัญญะ ต้องตื่นอยู่เสมอ (หลวงปู่แหวน)

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เล่าถึงการปฏิบัติทางจิตว่า เป็นของที่ละเอียดอ่อนมาก สติสัมปชัญญะต้องตื่นอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นจะตามไม่ทันจิต จิต เป็นธรรมชาติชอบคิด ชอบปรุง ชอบแส่ส่ายไปหาอารมณ์จากที่ใกล้ที่ไกลไม่มีขอบเขต
ถ้า อยู่ในที่ชุมชน อารมณ์ที่เข้ามานั้น ส่วนมากจะเข้ามาทางตาบ้าง ทางหูบ้าง จมูกบ้าง ลิ้นบ้าง กายบ้างการต้อนรับอารมณ์ของจิต มักจะนำมาแบกมาหาบมาหาม มาทับมาถมตัวเองการที่จะสลัดตัดวางนั้นไม่ค่อยปรากฏเพราะเหตุนั้น จึงทำให้เราเป็นทุกข์ไปกับอารมณ์นั้นๆ เป็นสุขไปกับอารมณ์นั้นๆ เป็นความเพลิดเพลินไปกับอารมณ์นั้นๆ
ทั้งนี้ก็เพราะขาดการพิจารณาของจิตนั่นเอง
จิต ที่ไม่มีสติเป็นพี่เลี้ยงคอยควบคุมคอยแนะนำมักจะไปแบกไปหาบไปหามเอาทุกสิ่ง ทุกอย่างมาทับมาถมตนเองให้เกิดทุกข์ ถึงกับบางคนตีอกชกตน เห็นทุกสิ่งทุกอย่างไม่น่ารื่นรมย์ กลายเป็นพิษเป็นภัยไปก็มาก
ส่วน อารมณ์ของนักปฏิบัติผู้อยู่ในป่านั้น มักเกิดขึ้นกับจิตที่ชอบปรุงแต่งเป็นอดีตเป็นอนาคต ซึ่งอารมณ์ประเภทนี้ทำลายนักปฏิบัติมามากต่อมากแล้ว เพราะไม่รู้เท่าทันกลมายาของจิต เหตุเพราะขาดสติปัญญานั่นเอง
ดัง นั้น การปฏิบัติจิตภาวนา จำเป็นต้องตื่นอยู่เสมอ อารมณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้าออกตามทวารต่างๆ นั้น ต้องได้รับการใคร่ครวญพิจารณาจากสติสัมปชัญญะเสียก่อนทุกครั้ง
 


ขอบคุณที่มาจาก : พลังจิตดอทคอม
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ธรรมา – ธรรมเมา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 01, 2012, 05:05:56 pm »
0
จิต เป็นธรรมชาติ ชอบคิด ชอบปรุง ชอบแส่ หาบหามมาทับถมตัว กลายเป็นพิษเป็นภัย อารมณ์ของนักภาวนา จำต้องตื่นอยู่เสมอ อารมณ์ที่ผ่านเข้าออกตามทวารนั้น ต้องใคร่ครวญพิจารณาจากสติสัมปชัญญะเสียก่อนทุกครั้ง

         

เขลาหามนามปรุ

     จิตแสร้งซ่อนซ่านฟุ้ง         เขลาหาม
สุขทุกข์ปรุงแต่งทราม           สติร้าง
ภาวนาตื่นขืนปราม              ทันเท่า เหตุแฮ
เพียรกิจอย่าเขลาสร้าง       ขุ่นข้องอารมณ์.


                                                    ธรรมธวัช.!



http://www.thoentoday.com/articles/569167/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%87.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 01, 2012, 05:16:00 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา