ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - มะยม
หน้า: 1 [2]
41  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: [ภาพ]ปริวาสกรรมประจำปี 2554 ณ วัดทุ่งเซียด [ในท่ามกลาง] อยู่ในความมืด เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 11:14:35 am
อนุโมทนา กับภาพและเรื่องที่มาถ่ายทอดให้ทราบครับ

 :25:
42  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทำบุญ โดยเขียนชื่อ พ่อ แม่ ลงไป ท่านจะได้บุญหรือไม่ คะ เมื่อ: มีนาคม 20, 2011, 09:40:45 am
ผมเข้าใจว่า บุญหมายถึงความสุข
การกระทำเพื่อก่อให้เกิดความสุขในคติทางพุทธนั้นเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10
หมายความว่า เมื่อคุณได้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหรือหลายอย่าง ผลของมันย่อมก่อให้เกิดความสุข ที่คุณรู้สึกได้เอง

ที่สำคัญมันเริ่มต้นตรงที่ทำความเห็นให้ตรงก่อน
ต้องเชื่อว่า สถานที่อาจจะเป็นโบสถ์ เจดีย์หรือภูเขา ตลอดจนถ้ำต่าง ๆ เป็นสถานที่ที่จะทำให้เรารู้สึกสงบได้
เมื่อ เราไปถึงสถานที่นั้นแล้ว เราพบเห็นร่องรอยการปฏิบัติธรรม หรือการเสียสละเพื่อการใดการหนึ่ง อาจทำให้เรารู้สึกสงบ ประทับใจ ยินดี
เมื่อเรารู้สึกสงบ ประทับใจ ยินดี แล้ว อาจทำให้เราเริ่มมีการบริจาค
เมื่อมีการบริจาคหรือที่เรียกว่าทานแล้ว เราก็อยากเฟื่อแผ่ความรู้สึกที่ดีแก่ผู้อื่น

บุญกิริยาวัตถุ 10 นี้ค่อนข้างลึกซึ้ง และก็เป็นเหตุผลทางจิตวิทยาง่าย ๆ
ด้วยเหตุ ที่ผู้คนได้เสพย์ความสุขที่ได้กระทำด้วยเจตนาเช่นนี้
ในช่วงแห่งความสุขนี้ จิตใจของผู้คนจะอ่อนโยนอย่างมาก
ใครขออะไร  ก้อ...อาจยกให้ฟรี ๆ
อย่าว่าแค่เรื่องบริจาคเลย

ดังนั้นถ้าเราเข้าใจหลักของบุญกริยาวัตถุแล้ว
เราควรควบคุมความรู้สึกของตนเองได้เช่นกัน
ที่ยกมานี้เป็นตัวอย่างเพื่อพิจารณา...

จากคุณ    : jonathan w
43  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไมหนูต้องเกิดมาเป็นลูกพ่อ เมื่อ: มีนาคม 03, 2011, 09:44:30 am


ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้นะ แต่ก็ไม่รู้จะไประบายที่ไหน เพราะอะไรนะหรือ

เพราะว่าคนรอบข้างคาดหวังว่าคนเป็นพ่อจะต้องเข้มแข็ง เป็นคำตอบ เป็นที่พึ่ง

พ่อเป็นคนที่รับฟังและเป็นที่บรรเทาทุกข์ของทุกคนในบ้าน มีคนข้างๆเคยถามว่า

เวลาพ่อกลุ้มใจพ่อคุยกับใคร ... พ่อบอกว่า พ่อไม่รู้ ... พ่อคุยกับ "คนบนฟ้า" กระมัง ...

เพราะเธอที่ถาม ตัวเธอเองก็แย่เต็มที พ่อไม่อยากให้เธอรู้ว่า ... พ่อเองก็จะไม่ไหวเหมือนกัน ...

ยากนะที่จะเป็นหลักที่ให้พึ่งพิงในยามที่หลักเองก็ยังต้องพยายามยันตัวเองเพื่อตั้งให้ตรง ....

พ่อคนนี้ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆที่อ่อนแอได้และร้องไห้เป็น

 

"พ่อขา ... ทำไมหนูไม่มีเพื่อน ทำไมไม่มีใครอยากเล่นกับหนู"
"พ่อขา ... (...)เอากระเป๋าหนูไปทิ้งถังขยะ (...)บอกว่าหนูใช้กระเป๋าเก่าๆ น่าจะเอาไปทิ้งได้แล้ว"
"พ่อขา ... (...)ว่าหนูสกปรก ชอบขโมยของ ชอบทำของหาย แล้วก็เรียนไม่เก่ง ท่องสูตรคูณก็ไม่ได้"
"พ่อขา ... (...)ว่าหนูชอบเสียงดัง แล้วก็เล่นแรงๆ"

"พ่อขา ... หนูอยากเป็นตัวตลก ...ตลกให้มากๆเลย"
"ทำไมล่ะลูก" ... "เพื่อนๆจะได้เล่นกับหนู ... (...)บอกให้หนูเลียโต๊ะก่อน เขาถึงจะเล่นด้วย"
(พ่ออึ้ง ..ไปพักนึง) ... "แล้วหนูเลียไหมล่ะจ๊ะ" ...
... "หนูเลียค่ะ" ...
"แล้วเขาเล่นกับหนูไหม" .. "เล่นค่ะ แต่แป๊บเดียว" ... (พ่อน้ำตาไหล ...)

"พ่อขา ... (...)ว่าหนูหัวยุ่ง แล้วก็ตอบคำถามครูก็ไม่ทัน"
"พ่อขา ... หนูเรียนไม่เข้าใจเลย ทำไมหนูถึงไม่เก่งเหมือนคนอื่น
. . . . . . . (...)ท่องศัพท์เก่งมากเลย หนูท่องเท่าไรก็ไม่ได้"
"พ่อขา ... หนูทำเค้กของ(...)หน้าเละ (...)บอกให้หนูไปซื้อมาใช้คืน ... หนูไม่ได้ตั้งใจนะค่ะ" (เริ่มสะอื้น)

... "ตอนกลางวันหนูกินข้าวกับใครค่ะ"
... "หนูกินคนเดียวค่ะ"
... "ตอนพักเที่ยงหนูเล่นกับใคร"
... "ไม่ได้เล่นกับใครค่ะ"
... "แล้วหนูทำอะไร"
... "หนูเข้าห้องสมุดอ่านหนังสือคนเดียวค่ะ"

วันนี้เป็นวันหยุด พ่อไปส่งหนูทำกิจกรรมที่โรงเรียน
ก่อนถึงเวลาครูนัด เราสองคนพ่อลูกนั่งกอดกันหลวมๆรออยู่ริมสนามเด็กเล่น
หนูจะเข้าไปขอเพื่อนเล่นด้วย เพื่อนๆไม่ยอมให้เล่นด้วย 2-3 คนเดินหนี
หนูโดนแกล้งให้เป็นลิงชิงบอลอยู่คนเดียว
... พ่อแอบเดินไปข้างหลังพุ่มไม้
... "อย่าไปเล่นกับเฟิร์น เดี๋ยวจะหัวยุ่ง สกปรกเหมือนเฟิร์น"
.
.
หนูเดินก้มหน้ากลับมา ... เราหามุมเงียบๆ
... เรานั่งกอดกันแน่นขึ้น
... หนูสะอื้น ... แต่พ่อร้องไห้

"พ่อขา ... (...)บอกว่าไม่ให้หนูเข้ากลุ่มเล่นพละด้วย เขาบอกว่าถ้ากลุ่มแพ้จะต้องเป็นเพราะหนูแน่ๆเลย"
"แล้วกลุ่มหนูแพ้ไหมล่ะ"
"แพ้ค่ะ ...หนูโดนรุมว่าใหญ่เลย ทั้งๆที่หนูวิ่งเต็มที่แล้ว"
"พ่อขา ...ทำไมเพื่อนๆไม่รักหนู"
"..."

"พ่อขา ..."

ใครไม่เคยถูกปฏิเสธก็ไม่รู้รสชาติขอการถูกปฏิเสธ
และ รสชาติของการไม่ได้รับการยอมรับหรอก ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
ขนาดหัวใจกร้านโลกอย่างพ่อ ในโลกใบใหญ่ก็ยังเจ็บปวด ....
ประสาอะไรกับหัวใจเล็กๆบอบบาง ...ในโลกใบเล็กๆ ที่โดนปฏิเสธทุกวัน
แต่หนูก็ยังอยากไปโรงเรียน ... หนูเข้มแข็งกว่าพ่อมากมาย

ในโลกของเด็ก ... ไม่มีหน้ากาก ไม่มีมายา คิดออกมาอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น
...พ่อไม่ว่าเพื่อนๆหนูหรอก ... พ่อไม่ว่าใครทั้งนั้น ...
พ่อรู้ว่าที่หนูเป็นอย่างนี้ หนูไม่รู้ตัว หนูไม่ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น
เป็นความผิดพลาดทางสายพันธุ์ ... ที่อาจมาจากพ่อ
ดังนั้นหนูเลยไม่เข้าใจว่าทำไมหนูจึงไม่เป็นที่ต้องการ
.
.
ถ้าพ่อต้องอยู่ต่อไปทั้งชีวิตโดยไม่มีใครสักคน
ขอเพียงให้หนูมีเพื่อนที่ดีบ้างสักคน
พ่อยอม ....

...

เอาเถอะ ... อย่างน้อยหนูก็ดีกว่าเด็กอีกหลายๆคน
เพราะหนูรับรู้ได้ว่า ... "พ่อรักหนู"
และสามารถบอกพ่อได้ว่า " หนูรักพ่อ " ...
.
.

เธอเคยบอกว่าเธอไม่มีแม้ใครสักคนหนึ่ง
คงลืมว่าอย่างน้อย " ยังมี" ฉันไง
วันใดที่เธอมีเพื่อนรุมล้อมเธอหรือยังมีใคร
เธอก็จะไม่เห็นฉันเลยคนดี
... แม้วันใดหัวใจเธอพ่าย
... จะมาแพ้ไปกับเธอ
... และถ้ามีวันใดน้ำตาเธอเอ่อ
... จะร้องไห้เป็นเพื่อนกัน
หากเธอสมหวัง...ในวันหนึ่ง
ให้รู้ว่าฉันยังแอบเห็นและชื่นชม
หากเธอท้อแท้..ฉันยังอยู่
หากแม้นไม่เห็นฉัน ... จงโปรดรู้ไว้ว่าเธอ ...ใช่อยู่คนเดียว.
.
ยังไงพ่อก็รักหนู ... เพราะว่าหนูเป็นลูกของพ่อ
.
.
และถึงชีวิตหนูจะไม่มีใคร ...
ชีวิตหนูยังคงมีพ่อคนนี้เสมอและตลอดไป ...
.
.
เพราะว่า ....หนูเป็นเหตุผลเดียวที่พ่อยังจะต้องมีชีวิตอยู่

...

และเมื่อวันนั้นมาถึง ...
ไม่ว่าใครจะไปจากใครก่อนก็ตาม ....
พ่ออยากให้หนูรู้ไว้ว่า ...
ความรักของพ่อจะยังคงอยู่กับหนู ... ตลอดไป ...

...

จากหัวใจธรรมดาๆของผู้ชายคนหนึ่งที่หนูเรียกว่า "พ่อ" ...
...
 
 
แล้วคุณจะทราบซึ้ง กับความหมายยิ่งใหญ่ ของผู้ชายคนนี้

"คูณพ่อน้องเฟิร์น" คุณพ่อแสนดี กับลูกสาวที่น่ารักที่สุดของพ่อ

 

ใช่แล้วครับ

"ยัยตัวดี ... ลูกเฟิร์น ... ลูกสาวผม ... เป็นเด็ก ADHD"
44  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไมคนทำเลว จึงได้ดีคะ คนทำดี จึงไม่ได้ดีตกต่ำ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:11:23 am


ฟังเพลงกันบ้างนะครับ

 :25:
45  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 3 คาถาของคนทำงาน โดนจริง ๆ ศักดิ์สิทธิ์มากๆ เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:57:04 am
3 คาถาของคนทำงาน โดนจริง ๆ
1 . คาถาคนทำงาน
ขั้นแรก...ท่อง นะโม 3 จบ ก่อน แล้วจึงค่อยท่องคาถานะ
 
อาจจะมี ... เซ็งไปบ้าง...ในบางครั้ง
อาจจะมี ...เบื่อกันบ้าง.... ในบางหน
อาจจะมี ...เหม็นขี้หน้า...กับบางคน <====== อันนี้ โดน
พยายามทน ทำงานไป เพราะได้ตังค์ <====== อันนี้โดนก่า
 
2. คาถาปล่อยวาง
กูว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา
เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สาม ประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย
จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย
 
3. คำสอนของพระพุทธเจ้า
อย่าไปนึกว่า 'คนอื่น' เหนือ กว่าเรา เพราะทำให้เกิดปมด้อย
อย่าไปนึกว่า 'คนอื่น' ต่ำ กว่าเรา เพราะทำให้เกิดทิฐิ
อย่าไปนึกว่า 'คนอื่น' เสมอ เท่าเรา เพราะทำให้เกิดการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น
จงนึกเสมอว่า 'คนอื่นทุกคน' เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมด
46  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: จิตปภัสสร เป็นเช่นไร เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 02:42:21 pm
 พุทโธ สถิตย์ในฐานจิตที่ 1 คือ พระขุททกาปีติธรรมเจ้า เป็นฐานธาตุดิน

มะยมรู้แค่นี้ ก๊าบ

 ??? :25:
47  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กระทิง หนุนตักพระ เชียงใหม่เจ๊า.... เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 03:10:10 pm
ไม่น่าเชื่อวัวบ้านผม ยังไม่เคยซบตักใครเลย เห็นแล้วอึ้งเลยครับ

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริง ๆ
 :86:
48  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังษี วัดระฆัง เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 02:57:23 pm
อยากอ่านประวัติ หลวงปู่โต จริง ๆ ครับมีมากกว่านี้หรือป่าวครับ
 :c017:
49  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / งานวันเกิดสาวอังกฤษล่มเพราะเฟสบุ๊ก เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:05:32 pm
งานวันเกิดสาวอังกฤษล่มเพราะเฟสบุ๊ก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    22 กันยายน 2553 18:12 น.

   
อุทาหรณ์ยอดเยี่ยมจากการใช้งานเครือข่ายสังคมชื่อดังอย่างเฟสบุ๊กอย่างไม่ ระวัง เมื่อสาวผู้ดีอังกฤษนาม Rebecca Javeleau วัย 14 ประกาศเชิญเพื่อนมาร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 15 ปีบนเฟสบุ๊กโดยไม่ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ปรากฏว่ามีผู้ตอบรับคำเชิญร่วมงานถึง 21,000 คน ร้อนถึงคุณแม่ของสาวน้อยที่ต้องแจ้งตำรวจเพื่อป้องกันความไม่ปลอดภัยเบื้อง ต้น และดัดหลังลูกสาวด้วยการห้ามเล่นอินเทอร์เน็ตระยะหนึ่ง
       
       ต้นเหตุที่ทำให้งานปาร์ตี้ฉลองวันครบรอบ 15 ขวบของสาวน้อยสาวกเฟสบุ๊กรายนี้คือการลืม "uncheck" หรือการยกเลิกฟังก์ชัน "anyone can view and RSVP" ก่อนการกดปุ่ม "Create Event" เพื่อสร้างหน้าประกาศเชิญร่วมงานที่จัดขึ้น โดยรายงานจาก Daily Telegraph ระบุว่าน้องหนู Javeleau นั้นได้รับคำยืนยันร่วมงานจากผู้ใช้เฟสบุ๊กกว่า 21,000 ชื่อบัญชี ซึ่งในนั้นประกอบด้วยเซเลบตัวปลอมอย่าง Justin Bieber และ Stephen Hawking
       
       ขณะนี้เฟสบุ๊กได้ปลดเพจคำเชิญร่วมงานปาร์ตี้ของสาวน้อยจากเมือง Herdfordshire ลงแล้ว แต่ยังมีแฟนเพจที่กลุ่มผู้ใช้เฟสบุ๊กจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันสร้างไว้เพื่อ ระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยหนึ่งในแฟนเพจเหล่านั้นมีชื่อว่า  "HER PARTY WILL GO DOWN IN HISTORY"  และมีผู้ชื่นชอบด้วยการกดปุ่ม "likes" ถึง 1,200 ครั้ง

   

แทนที่จะเตรียมขนมนมเนยไว้เผื่อแขกตัวจริง คุณแม่ของสาว Javeleau กลับยกเลิกงานปาร์ตี้ของลูกสาว ก่อนจะลงโทษด้วยการห้ามใช้อินเทอร์เน็ตระยะหนึ่ง จากนั้นจึงโทรขอกำลังจากตำรวจเพื่อป้องกันกรณีที่ชาวเฟสบุ๊กแห่มาที่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นกับสาวน้อยเมืองผู้ดีรายนี้ ถูกนำไปรายงานผ่านรายการ Early Show ของสถานีโทรทัศน์ CBS
       
        นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สมาชิกเฟสบุ๊กต้องตกใจกับจำนวนผู้ตอบรับคำเชิญร่วมงาน ที่มากเกินไป โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา ชาวออสเตรเลียรายหนึ่งก็เคยได้รับคำตอบรับคำเชิญร่วมงานวันเกิดหลักหมื่นราย เช่นกัน แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความผิดพลาดของเฟสบุ๊ก แต่เป็นสิ่งที่สาวกเฟสบุ๊กจะต้องรับรู้เพื่อป้องกันการตกที่นั่ง"หมด สนุก"แบบที่สาวน้อย Javeleau กำลังเซ็งอยู่
50  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สวัสดีปีใหม่ เราก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มปีนักษัตรใหม่ “ปีเถาะ” เมื่อ: มกราคม 04, 2011, 11:56:05 am


สวัสดีปีใหม่ เราก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มปีนักษัตรใหม่ “ปีเถาะ” แม้ว่าปีนักษัตรเราจะนับกันตามปีใหม่ไทย (สงกรานต์) และปีใหม่จีน (ตรุษจีน) แต่ยุคปัจจุบันเพื่อความสะดวก เราก็นับรวมเถลิงศกกันไปพร้อมๆ กับปฏิทินสากล
       
       “เถาะ” ปีนักษัตรลำดับที่ 4 ที่มีกระต่ายเป็นสัญญลักษณ์ ตำราโหราศาสตร์บอกว่า ปีนี้เป็นปีที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดา 12 ปีเลยทีเดียว
       
       ในแง่โหราศาสตร์ดูดวง เสิรมชะตาก็ว่ากันไป แต่เมื่อพูดถึงสัตว์สัญญลักษณ์ประจำปีอย่าง “กระต่าย” แล้ว ทำให้ทีมข่าววิทยาศาสตร์สนใจศึกษาเรื่องราวของกระต่ายที่จะอยู่กับเรา (ในนาม) ไปถึง 1 ปีเต็มๆ นับจากนี้ …. ดูกันซิว่า เรารู้จักกระต่ายดีแค่ไหน
       
        กระต่ายบ้าน-กระต่ายป่า
       
        “กระต่าย” จัดอยู่ในจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีกระดูกสันหลัง มีลำตัวขนาดเล็ก ขนปุย หูยาว ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า กระต่ายถือกำเนิดมาในโลกเมื่อ 50 ล้านปีมาแล้ว บริเวณทวีปเอเชีย และอเมริกาเหนือ ทั่วโลกมีอยู่ 58 ชนิด จัดอยู่ใน วงศ์กระต่ายธรรมดา (Leporidae) 44 ชนิด และ วงศ์กระต่ายหูสั้น (Ochotonidae) อีก 14 ชนิด
       
        กระต่ายธรรมดามีขาหลังที่ยาว ทำให้วิ่งได้เร็ว ใบหูยาวหมุนไปมาได้ และมีหางสั้น ส่วนกระต่ายหูสั้นจะมีขาทั้งคู่หน้าและคู่หลังสั้นพอๆ กัน ใบหูจะสั้นเป็นมนกลม และจะไม่เห็นหางจากภายนอก
       
       ในวงศ์กระต่ายธรรมดา ยังแบ่งออกเป็น กระต่ายเลี้ยง (Rabbit) ซึ่งชอบอยู่กันเป็นฝูง และกระต่ายป่า (Hare) ที่ชอบอยู่โดดเดี่ยว
       
       ทั้งนี้ กระต่ายที่พบอาศัยตามป่าทั่วไปในประเทศไทยมีชนิดเดียว คือ กระต่ายป่า (Lepus peguensis) ซึ่งมีขนสีน้ำตาล ใต้หางสีขาว ขุดดินเป็นโพรงอาศัย ส่วนที่นำมาเลี้ยงตามบ้าน มีหลายชนิดและหลายสี แต่ที่พบมากจะเป็นสีอ่อน เช่นสีขาว
       
        กระต่ายเกือบจะเป็นหนู
       
        แม้ว่ากระต่ายจะเป็น “สัตว์ฟันแทะ” ที่มีฟันหน้าขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายหนู แต่กระต่ายเป็นสัตว์ฟันแทะมีฟันหน้า 2 คู่ (lagomorph) ต่างจากพวกหนูหรือกระรอกที่มีฟันแทะคู่เดียว (rodent)
       
       เดิมทีมีการจัดกระต่ายไว้เป็นสัตว์ฟันแทะในอันดับโรเดนเทีย (Rodentia) ร่วมกับพวกหนูและกระรอก แต่เมื่อพบว่ากระต่ายมีลักษณะหลายอย่างเป็นของตนเอง ที่แตกต่างจากพวกหนูและกระรอกมาก โดยเฉพาะกระต่ายที่มีฟันตัด2 คู่ทางด้านหน้าของขากรรไกรบนคู่ที่สองมีลักษณะเป็นปุ่มเล็กซุกอยู่ภายในคู่ หน้า ในขณะที่หนูและกระรอกมีฟันตัดเพียงคู่เดียว
       
        ขยายพันธุ์ว่องไว
       
       ถ้าใครเลี้ยงกระต่ายคงจะทราบกันดีถึงความสามารถในการผลิต ประชากรกระต่าย โดยกระต่ายบ้านสามารถผสมพันธุ์ได้บ่อย และตั้งท้องปีละหลายครั้ง
       
       กระต่ายเลี้ยงในยุโรปตอนเหนือผสมพันธุ์ในช่วง ก.พ.-ก.ย. ออกลูกได้ 3-5 ครอก ครอกละ 5-6 ตัว สำหรับกระต่ายป่าในซีกโลกเหนือ ออกลูก 2-4 ครอก ครอกละ 1-9 ตัว ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่ในเขตร้อนกระต่ายป่าผสมพันธุ์ได้ตลอดปี ตัวเมียตั้งท้องเพียง 1 เดือน ปีหนึ่งจึงสามารถออกลูกได้ 4-8 ครอก ลูกกระต่ายที่มีอายุราว 6-8 สัปดาห์จะแยกจากแม่ได้และมีอายุเฉลี่ย 9-12 ปี
       
       ทั้งนี้ ในมดลูกของกระต่ายเพศเมียจะมี 2 ช่อง นั่นหมายความว่า กระต่ายจะสามารถอุ้มท้องตัวน้อยได้ถึง 2 ครอก ที่มีอายุครรภ์ต่างกันได้ในเวลาเดียวกัน
       
        ถ้าไม่ได้กินสิ่งที่ถ่าย มีตายแน่นอน
       
       กระต่ายอยู่ในสภาพแวดล้อมได้หลายแบบทั้งเขตร้อนและหนาว อาหารส่วนใหญ่เป็น หญ้า พืชล้มลุก รากไม้ เปลือกไม้
       
       เวลาอาหารของกระต่าย พวกมันจะกินหญ้าจำนวนมากอย่างรวดเร็ว และขับถ่ายออกมาเป็นเม็ดแข็ง ส่วนที่เป็นเกล็ดของเสียจะไม่ถูกย่อย และเมื่อผ่านการกินอย่างหักโหมไปประมาณ 8 ชั่วโมงกระต่ายจะถ่ายมูลอ่อนออกมา ซึ่งส่วนใหญ่จะตรงกับช่วงกลางคืน
       
       มูลอ่อนดังกล่าวจะมีวุ้นเคลือบ และเมื่อเช้ามาถึงกระต่ายก็จะกินมูลอ่อนเหล่านี้ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียในมูลอ่อน เมื่อสัมผัวกับอากาศจะสร้างวิตามินบางชนิดขึ้น วิตามินเหล่านี้จำเป็นมากต่อสุขภาพของกระต่าย หากไม่ได้กินมูลอ่อนกระต่ายจะตายภายในเวลา 3 วัน
       
        ใช้งานได้ทั้งในครัว-ห้องแล็บ
       
       การบริโภคเนื้อกระต่ายเป็นที่แพร่หลายในหลายพื้นที่ ทั้งในยุโรป อเมริกาทั้งตอนเหนือและใต้ รวมถึงตะวันออกกลาง
       
       แม้ว่าปัจจุบันในอังกฤษจะไม่มีเนื้อกระต่ายวางขายในซุเปอร์มาร์เก็ต แต่ตามร้านขายเนื้อหรือตลาดพื้นเมืองยังมีให้เห็นกันอยู่อย่างแน่นอน โดยร้านจะห้อยกระต่ายตายแล้วที่ยังไม่ได้แล่โชว์กันให้เห็นอันเป็นสไตล์
       
       ที่ซิดนีย์ เคยนิยมกินกระต่ายกันมาก ถึงกับมีชื่อทีมรักบี้ว่า “เซาธ์ ซิดนีย์ แรบบิโทธส์” (South Sydney Rabbithos) แต่ความนิยมบริโภคกระต่ายในซิดนีย์ต้องหมดไป เมื่อเหล่ากระต่ายเลี้ยงโดนโรคระบาดคุกคาม
       
       อย่างไรก็ดี ในแถบภูมิภาคอินโดจีนไม่นิยมกินกระต่าย แต่ก็ใช้กระต่ายเป็นอาหารสำหรับงูใหญ่
       
       กระต่ายทั้งถูกล่าด้วยปืน และส่วนที่เลี้ยงก็จะถูกฆ่าด้วยการทุบด้านหลังหัว เนื้อกระต่ายมีโปรตีนสูง ปรุงอาหารได้หลากหลายชนิดแบบเดียวกับเนื้อไก่ ซึ่งเนื้อกระต่ายที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ “กระต่ายขาวนิวซีแลนด์”
       
       และกระต่ายขาวนิวซีแลนด์นี้ ก็ยังได้รับนิยมนำไปศึกษาและวิจัย ทั้งทางด้านพยาธิวิทยาเพราะเป็นแหล่งของสารที่เร่งให้เกิดลิ่มเลือด ด้านสรีรวิทยาการสืบพันธุ์ ต่อมไร้ท่อ รวมทั้งใช้ทดสอบความปลอดภัยของยาชนิดต่างๆ วัคซีน และทดสอบความเป็นพิษ
       
        บอบบางตายง่าย?
       
       กระต่ายขยายพันธุ์ง่าย และก็ตายง่ายไม่แพ้กัน ผู้เลี้ยงกระต่ายทราบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน ที่กระต่ายอาจเกิดอาการช็อคตายได้ง่าย เพราะกระต่ายไม่มีต่อมเหงื่อ ระบายความร้อนได้ยาก เมื่ออากาศร้อนกระต่ายจะต้องหายใจถี่ขึ้น ที่จมูกจะสั่นเร็วขึ้น รวมถึงที่เส้นเลือดแดงใหญ่กลางหูจะช่วยทำงานระบายความร้อนมากขึ้น แต่ก็ยังระบายความร้อนไม่ทัน จึงทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงจนช็อคตาย
       
       อย่างไรก็ดี การให้น้ำกระต่ายเป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะกระต่ายต้องการใช้ระบายความร้อน แต่ส่วนใหญ่ที่เราเลี้ยงกระต่ายกันก็ให้ผักหญ้า ซึ่งพืชพวกนี้มีน้ำสะสมอยู่ในระดับหนึ่ง ทำให้บางครั้งกระต่ายก็ไม่ต้องการน้ำเพิ่ม แต่หลายคนอาจมีความเชื่อว่าการให้น้ำกระต่าย อาจเป็นเหตุให้กระต่ายตายได้ นั่นอาจจะเป็นเพราะความสะอาดของน้ำหรือภาชนะบรรจุ
       
       นอกจากนี้ ในการจับกระต่าย ไม่ใช่จับที่หูแล้วดึงขึ้นมา เพราะถ้ากระต่ายตัวใหญ่และมีน้ำหนักมาก อาจทำให้เนื้ออ่อนบริเวณหูฉีกขาดได้ แต่ให้ค่อยๆ ประคองตัวลักษณะเหมือนอุ้มเด็ก และให้ทำด้วยความนุ่มนวล โดยเฉพาะหากกอดรัดที่บริเวณท้องอย่างรุนแรงก็จะทำให้กระต่ายได้รับอันตราย ถึงตายได้
       
       ปัจจุบัน กระต่ายกลายเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อมนุษย์นำออกจากป่าไปเลี้ยงและกระต่ายขยายพันธุ์เร็วเกินกว่าจะรับภาระ ไหว จึงพากระต่ายกลับไปปล่อยแต่ก็กลับไปไม่ถึงป่า ส่งผลให้กระต่ายสร้างปัญหาต่อเรือกสวนไร่นา โดยเฉพาะแนวคันนาหรือสวนที่นิยมใช้หญ้าทำเป็นแนว กลับกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีให้เหล่ากระต่าย
       
       อย่างไรก็ดี ปัญหาประชากรกระต่ายก็ยังคงสร้างความยุ่งยากให้แก่เกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ที่แม้ไม่ใช่แหล่งกำเนิดของกระต่าย กลับมีปัญหากับการรุกล้ำพื้นที่ของกระต่ายไม่น้อย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้ได้จัดให้กระต่ายเป็น “ศัตรูพืช” ชนิดหนึ่ง เจ้าของที่สามารถจัดการและควบคุมได้โดยถูกกฎหมาย
       
       ส่วนพฤติกรรมของกระต่ายดูเหมือนจะตื่นเต้นตกใจง่ายนั้น เป็นไปตามสัญชาติญาณระวังภัย คำว่า “กระต่ายตื่นตูม” เป็นสำนวนที่มาจากนิทานชาดก อ้างถึงสมัยพระพุทธเจ้า ซึ่งสามารถหาอ่านกันได้ ส่วนปีเถาะหนนี้เราจะเป็น “กระต่ายตื่นตัว” ประกอบกิจการงานและใช้ชีวิตอย่างมีสติก็คงจะดีไม่น้อย.

       ************************************
       
        เรื่องน่าสนของ "กระต่าย"
       
       - สถิติโลกบันทึกไว้ว่ากระต่ายกระโดดได้สูงที่สุด 1 เมตร
       
       - บันทึกเล่มเดียวกันก็ยังบอกไว้ว่า กระต่ายกระโดดได้ไกลที่สุด 3 เมตร
       
       - กระต่ายครอกที่ใหญ่ที่สุด คือคลอดออกมา 24 ตัว มีบันทึกไว้ถึง 2 ครั้งในปี 1978 และ 1999
       
       - หูกระต่ายที่ยาวที่สุดในโลกคือ 31.125 นิ้ว เป็นกระต่ายอเมริกัน
       
       - กระต่ายที่อายุยืนที่สุดคืออยู่ได้ถึง 19 ปี
       
       - กระต่ายที่หนักที่สุดในโลกมีน้ำหนัก 12 กิโลกรัม
       
       - กระต่ายป่าที่เล็กที่สุดในโลกคือพันธุ์ปิกมี่ หรือ ลิตเติ้ลไอดาโฮ ในสหรัฐอเมริกา มีน้ำหนักน้อยกว่าครึ่งกิโลกรัม
       
       - กระต่ายจะตื่นตัวอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่และยามเย็นโพล้เพล้
       
       - กระต่ายมองเห็นด้านหลังได้โดยไม่ต้องหันหัว
       
       - กระต่ายมีสีขนมากถึง 150 สี แต่มีสีตาเพียง 5 สี คือ น้ำตาล, น้ำเงิน-เทา, น้ำเงิน,ชมพู (แดง), และลูกแก้ว
       
       - กระต่ายตัวขาวตาแดง เพราะดวงตาของกระต่ายสีขาวอย่างพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์หรือแคลลิฟอร์เนียน ไม่มีเม็ดสี ทำให้เห็นเส้นเลือดสีแดงในตาซึ่งจะ สะท้อนแสงให้เราเห็นตากระต่ายเป็นสีแดง
51  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อวยพรส่งท้ายปีเก่า 2553 และ ต้อนรับปีใหม่ 2554 กันเถอะคร้า.... เมื่อ: ธันวาคม 29, 2010, 06:06:58 pm


52  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ผมสงสัยพิธี วิธีนี้ เป็นจริง หรือ แกล้งทำ ครับ เมื่อ: ธันวาคม 28, 2010, 04:33:57 pm
ป้าว่า........ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง......ต้องลองไปสักยันต์และเข้าไปไหว้ครูกับเขาด้วย...
        :hee20hee20hee:                         :hee20hee20hee:             :88:

กลัวเจ็บ อะครับ ไหว้ครู ทุกวันแล้วครับ
 :72:
53  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประมวลภาพวันที่ ๑๑ ธ.ค. ๕๓ ณ ศาลา ๑ วัดแก่งขนุน สระบุรี เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 01:26:50 pm
อนุโมทนา ด้วยครับ

 สังคมของผู้ปฏิบัติตาม กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นมีน้อยลงแล้วครับ

 ที่ ๆ ผมอยู่ ก็ วิชชาธรรมกายครับ ในโรงเรียนโครงการ Vstar ครับ
 :25:
54  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 10:09:23 am
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

          อุทยาน แห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่กิ่งอำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปางมีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีเนื้อที่ประมาณ 592 ตารางกิโลเมตร ได้รับประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2531

สิ่งที่น่าสนใจในเขตอุทยาน

          บ่อน้ำร้อนขนาด ใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน มีพื้นที่ราวหนึ่งไร่เศษ เต็มไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ น้ำพุร้อนมีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ อุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส เมื่อธารน้ำร้อนไหลไปบรรจบกับธารน้ำเย็นที่ไหลมาจากน้ำตกแจ้ซ้อนจะกลายเป็น ธารน้ำอุ่น (น้ำแร่) ซึ่งอาบได้และสามารถรักษาโรคผิวหนังได้ บริเวณใกล้เคียงมีห้องบริการอาบน้ำแร่ 11 หลัง ตกแต่งบริเวณด้วยพันธุ์ไม้ต่าง ๆ สวยงาม ค่าบริการห้องอาบน้ำแร่แบบแช่ 20 บาท ค่า บริการอาบน้ำแร่แบบตักอาบ 5 บาท ต้องนำผ้าเช็ดตัวไปเอง เปิดบริการถึง 17.00 น. ทุกวัน อีกสิ่งหนึ่งที่มหัศจรรย์ก็คือในช่วงฤดูร้อน ราวเดือนเมษายน จะมีจั๊กจั่นนับแสนตัวพากันมาเล่นและดื่มน้ำแร่ ส่งเสียงร้องก้องป่าในตอนกลางคืน นับเป็นธรรมชาติที่น่าสัมผัสมาก

              น้ำตกแจ้ซ้อน อยู่ถัดจากบ่อน้ำร้อนขึ้นไป 1 กิโลเมตร เป็นธารน้ำตกที่มีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย มีทั้งสิ้น 2 ชั้น มีต้นกำเนิดจากขุนห้วยแม่มอน ไหลผ่านหุบเขาสูงชัน นอกจากนี้ยังมีน้ำตกอีก 2 แห่ง คือ น้ำตกแม่มอนและน้ำตกแม่ขุน


55  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ทำไม เราถึงจะไม่ถูกกลั่นแกล้ง เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 02:00:46 pm
มะยม มักจะถูกกลั่นแกล้ง บ่อย ทั้ง ๆ ที่มะยม ก็มักจะแผ่เมตตาเป็นประจำ

ทำไมกรรมเหล่านี้ ถึงไม่หมดเสียที ครับ


   มีวิธี แผ่เมตตา แบบให้ผลทันตา ทันใจ เลยหรือป่าวครับ

 :25:
56  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เพลงศีล 5 ฟังไพเราะดีครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2010, 11:59:25 am
57  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประกาศ อนุโมทนา บุญกุศลเรื่อง กิจกรรมการเผยแผ่เว็บ www.madchima.org เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 12:10:28 pm
สาธุ สาธุ ผมชอบหมวด

FWD mail มาก ๆ ครับ เพราะมีสาระเหมาะกับผม

ห้องส่งจิตออกนอก เป็นอันดับสองครับ

ส่วนห้อง ถามตอบพระกรรมฐาน ผมชอบเป็นอัน 5 ครับ

พระอาจารย์ไม่ต้องน้อยใจนะครับ เพราะอย่างไรผมก็พยายามอ่านอยู่ครับ
อาจจะเป็นเพราะภูมิธรรม อาจจะมีน้อยอยู่ครับ

เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่านครับ

:25: :25:
58  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อัมพาต เพราะน้ำอัดลม เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 11:32:47 am


 

อัมพาต เพราะน้ำอัดลม

 

 

 
   ดร.โมเสส เอลิซาฟ อายุรแพทย์ หัวหน้าทีมวิจัยจากมหา- วิทยาลัยไอโออันนินา เผยว่า การดื่มน้ำอัดลมมากๆ (โดยเฉพาะ น้ำสีดำ) กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะนอกจากทำลายฟัน ทำให้ กระดูกผุ ส่งผลถึงระบบเมตาโบลิซึม และเป็น สาเหตุของเบาหวาน แล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะไฮโปคาเลเมียหรือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ทำให้ กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย ไม่มีแรง จนอาจถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาตอีกด้วย
 
 
   จากการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยที่ดื่ม น้ำอัดลมวันละ 2 - 9 ลิตรต่อวันต่อเนื่อง เป็นประจำ พบว่า คนไข้มาพบหมอด้วย อาการเหนื่อยล้า กล้ามเนื้อไม่มีแรง ไม่อยากอาหาร คล้ายจะอาเจียนตลอดเวลา ผลการตรวจเลือดพบ โพแทสเซียมในเลือดต่ำและมีภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันร่วมด้วย แต่หลังจากให้หยุดดื่มน้ำอัดลมและหันมารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย โพแทสเซียมแล้ว พบว่า อาการป่วยดังกล่าวหายไป
 
 
   ประมาณการกันว่า ในแต่ละปีคนทั้งโลกดื่มน้ำอัดลมราว 500 ล้านลิตร หรือประมาณ 80 ลิตรต่อ คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะชาวอเมริกันที่ดื่มกันมากถึงคนละ 200 ลิตรต่อปี
 
 
   รู้อย่างนี้แล้วลดปริมาณการดื่มลงบ้างเพื่อ สุขภาพที่ดีกว่าค่ะ
 

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
59  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 01:01:30 pm
คุณสมภพ เอาภาพมาได้อย่างไรครับ ศิษย์เอกหรือป่าวครับ

อธิบายด้วย อยากได้บ้าง (  :s_hi:  :67: )
60  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กินไป คุยไป ( ตายได้ ) เสียมารยาท นะจ๊ะ เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 11:05:22 am
อ่านแล้ว อึ้ง.... ชอบคุยเสียด้วยตอน ทาน
 :91:
61  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เวลาที่คุณได้รับตั๋วจากกระเป๋ารถเมล์ คุณจะทำยังไง เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 11:03:53 am
อ้างถึง
อ้าว.... ห้วเราะแล้วรึ
:57: :85:

ยิ้มค้าง เลยฮับ
62  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: 3 พระสูตรที่ยืนยันว่า: ธรรมธาตุ/นิพพาน/พระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างสร้างสิ่งทั้งปวง เมื่อ: ตุลาคม 11, 2010, 01:17:57 pm
สรุปได้อย่างไร ว่าคุณ Lastman หงาย ทีดิฉันอ่านมาทั้งหมด เห็นเป็นเป็น คุณ Tuenum หงาย นะนี่

อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
 :25:
63  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / 10 วิธีทำให้สมองแจ่ม เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 12:17:12 pm


อันดับที่ 10 นอนหลับอย่างเพียงพอ
ทำไมละ? การอดหลับอดนอน มันมีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายของเฮา โดยเฉพาะในส่วนของการรับรู้ ดังเช่น ความทรงจำ และ สมาธิ นอนไม่พอยังทำให้เกิดปรากฎการณ์ ที่เีรียกว่า snowball effect แถมจะมีผลเรื้อรังอีกด้วยนะ!! ทำไง? เข้านอนให้ตรงเวลา ก่อนนอนก็อย่าแจ้นไปกินข้าว เล่นเกมส์ หรือ หาโน่นหานี่มาทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูหนาว พยายามเข้านอนแต่หัวค่ำ จะได้ตื่นขึ้นมารับรุ่งอรุณ ได้อย่างแจ่มใส เข้านอนแต่หัวค่ำจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีและ กระปรี้กระเปร่าด้วยนะ เจ๋งไหมละ!!
 
 

อันดับที่ 9 ผ่อนคลาย
 
ทำไมละ? ก็เพราะว่าความเครียดมีผลต่อด้านจิตใจ และลดประสิทธิภาพด้านความคิด ทำไง? พยายามทำอะไรที่เป็นการ relax เช่นการนั่งสมาธิ เช่นโยคะ เป็นต้น
 
 

 

อันดับที่ 8 ออกกำลังกาย
 
ทำไมละ? ออกกำลังกายที่เน้นการทำงานของหัวใจ จะทำให้่ช่วยให้ ระบบเผาผลาญพลังงานดีขึ้น และทำให้หัวใจไม่เสื่อมเร็วด้วย ทำไง? ไปออกกำลังกายไง เน้นการออกกำลังกายที่เน้นการทำงานของหัวใจ และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
 
 

อันดับที่ 7 กินเยอะๆ พวกผักสีเขียว
 
ทำไมละ? ผักสีเขียวหนะมีวิตามินสูง ทั้งยังมีแอนตี้ออกซิเด้นที่จะช่วยป้องกัน ความจำเสื่อม เช่น vitamin E,C,B มีอยู่เยอะในผักสีเขียว ดังนั้นกินเข้าไปโลด ดีทั้งนั้น ทำไง? กินผักผลไม้ไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ ลองทำอาหารบำรุงสมองเช่นสลัดดูก็ได้
 
 

 

อันดับที่ 6 เข้าเรียน!!
ทำไมละ? ก็ความรู้คือพลังไงละ เคยได้ยินบ่? ทำไงดี? พยายามหาความรู้เข้าสมองให้เยอะๆ มีเรียนก็เข้าเรียน หุๆ แค่เพียงการ เทคคอร์สสักคอร์ส เพียงคอร์สเดียว ก็จะช่วยให้คุณได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแล้วแหล่ะ รู้มาก เก่งมาก ไม่ยาก ใช่ไหม....

 

อันดับที่ 5 เล่นเกมส์พัฒนาสมอง
 
ทำไม? เกมส์ด้านตรรกะ จะช่วยให้คุณได้ใช้งานสมอง ด้านซ้าน ช่วยพัฒนากระบวนการคิดอย่างมีเหตุมีผล และทำให้กระบวนการคิดด้านตรรกะดีขึ้น ทำไง? เดี๋ยวนี้มีเกมส์แนวนี้เยอะแยะ เช่นเกมส์อักษรไขว้ โซดูกุ หาซื้อสักเล่มก็ได้ หรือจะเล่นวีดีโอเกมส์ หรือเกมส์คอมฯ ที่มันเอาไว้ "พัฒนาสมอง" หรือไม่ก็หาเล่นเกมส์แนวนี้ออนไลน์ ก็ได้ มีเยอะแยะเีชียวแหละคับ ก็ลองหาไรทำเป็นกลุ่มดูสิ
 
 

อันดับที่ 4 อ่านมากเก่งมาก
 
ทำไม? คงไม่มีใครจะปฎิเสธนะครับว่าการอ่านมีประโยชน์แค่ไหน เดี๋ยวนี้นิยายหลายเรื่อง ก็มีในรูปแบบดิจิตอล หรือหาอ่าน แบบออนไลน์ก็ได้ ทำไง? เลือกหนังสือมาสักเล่ม แล้วเริ่มอ่าน อ่านปกมันดูก่อนก็ได้ แล้วลองหาดูว่า เล่มไหนที่เราอยากอ่าน หาเจอแล้วก็อ่านมันเสีย

 

 

อันดับที่ 3 หางานอดิเรกที่สร้างสรรค์ทำ
 
ทำไม? งานด้าน Creative จะพัฒนาสมองด้านขวา ในขณะที่ สมองด้านซ้ายจะเกี่ยวกับด้านความคิด ตรรกะต่างๆ พยายามใช้สมองทั้งสองด้าน แล้วสมองของคุณจะแจ่ม!! ทำไง? ใช้เวลาสักชั่วโมง เพื่อทำงานอดิเรกที่ creative เช่น วาดรูป แกะสลัก ถ่ายภาพ หรือแม้แต่ทำอาหาร ถ้าคุณไม่รู้จะทำไรดี ก็ลองหาไรทำเป็นกลุ่มดูสิ
 
 

 

อันดับที่ 2 เลิกบุหรี่!
ทำไม? นอกจากการสูบบุหรี่จะทำร้ายคนอื่นแล้ว ควันบุหรี่นี่แหละทีเ่ป็นปัจจัยที่ทำให้คุณ ดูแก่ขึ้น และลดความสามารถในการจดจำ ทำไง? การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก แต่มันก็ ทำได้นะครับ มีวิธีแนะนำหลายๆอย่างเลยเกี่ยวกับ การเลิกบุหรี่ ลด ละ เลิก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใ้ช้ได้ผลดีทีเดียว
64  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สามุกกังสิกา คืออะไร คะ เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 11:13:38 am
ได้อ่านเรื่อง อนุปพพิกถา แล้ว มาถึงคำว่า สามุกกังสิกา คือธรรมะสุดยอด

และก็ไม่มีคำอธิบายต่อ จึงอยากรู้ว่า สามุกกังสิกา คืออะไร มีความหมายอย่างไร

ทำไมจึงกล่าวว่าเป็นธรรมะ สุดยอด ใช่ นวโลกุตตรธรรม หรือป่าว
 
:25: :25:
65  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / แนะำนำเว็บธรรมะ วัดเขาสวนวาง พังงา เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 09:59:41 am


http://www.watsuanvang.com/

Aeva Debug: 0.0004 seconds.
66  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ืทำไม พระต้องทำพิธีพวกนี้ เป็นหลักของชาวพุทธ หรือ ป่าว เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 09:04:40 am


ืทำไม พระต้องทำพิธีพวกนี้ เป็นหลักของชาวพุทธ หรือ ป่าว

เป็นหลักของพระพุทธศาสนา หรือ ป่าว

พุทธศาสนา หรือ ไสยศาสตร์
67  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เมื่อเราท้อ นี่เป็นการให้กำลังใจ เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 08:30:40 am
เมื่อเราท้อให้นึกว่า..ไม่เป็นไร..
-

ขอให้นึกถึงสิ่งหนึ่งไว้ว่า “เราจะไม่เป็นไร” สิ่งที่เราเป็นไปนั้นเป็น “เรื่องธรรมดา”
เรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นกับทุกคนได้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา
และเมื่อถึงในวันที่ใจอ่อนล้า หมดเรี่ยวแรง สักแค่ไหน ขอเพียงอย่าเพิ่งหมด “กำลังใจ”
ทำใจให้ดีแล้วพยายามสร้างพลังใจขึ้นมาใหม่ ต่อสู้และแก้ปัญหา ต่อไปอย่าได้ท้อถอย แล้วค่อยๆเดินก้าวไปข้างหน้า

ก้าวช้า ช้าอย่างสุขุมและรอบคอบกว่าเดิม ถือเสียว่าสิ่งที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์ชีวิต สอนให้เรารู้จักคิด รู้จักใช้ปัญญา

อย่า ให้ปัญหามาบั่นทอนจิตใจ ต้องคิดให้ได้ว่าชีวิตต้องดำเนินไป
ถึงจะยากเย็นเพียงไรก็ต้อง “อดทน” ไว้อย่าได้ยอมแพ้และ
ขอให้อย่าลืมคำ คำนี้ไว้ว่า “เราจะไม่เป็นไร”

สักวันทุกอย่างที่เป็นมา มันก็จะผ่านไป
 แล้วชีวิตก็จะพบกับสิ่งใหม่ๆอีกครั้ง ความสุขก็ยังรอเราอยู่เช่นเดิม

อย่าลืมว่า การจะอยู่อย่างมีความสุขนั้น มันเริ่มจากที่จิตใจ ของเราเอง
 

--

68  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สามัคคี กับ การฝึกฝนย่อมนำซึ่งความสำเร็จ เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 08:17:13 am
เป็นวีดีโอ ที่ทหารโชว์ ถอด ประกอบ รถจิ๊บ ภาย 4 นาที
เอาใจช่วยด้วย
69  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: โอวาท 10 สอนใจ หญิงแต่งงาน เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 08:42:40 am
จำมาผิดหรือป่าว ช่วยแก้ ให้ด้วยนะคะ

ส่วนคำอธิบาย นั้น มะยม ก็ยังไม่เข้าใจ รอให้ พี่ ๆ สมาชิกเว็บ แนะ มะยม บ้างนะคะ

ขอบคุณคะ

มะยมชอบอ่านเรื่อง นางวิสาขา คะ ( แต่ก็มีจุดไม่เข้าใจ ก็หลายอย่างคะ )

 :25: :25: :c017:
70  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / โอวาท 10 สอนใจ หญิงแต่งงาน เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 08:39:54 am
เป็นโอวาท 10 ประการที่ ธนัญชัยเศรษฐี ได้กล่าวกะนางวิสาขา



คราออกเรือน ( แต่งงาน )

  โอวาท 10 ประการนั้นมีดังนี้
  1) ไฟในไม่ควรนำออก
  2) ไฟนอกไม่ควรนำเข้า
  3) ควรให้แก่ผู้ให้
  4) ไม่ควรให้แก่ผู้ไม่ให้
  5) ควรให้แก่ผู้ให้บ้างแก่ผู้ไม่ให้บ้าง
  6) ควรนั่งให้เป็นสุข
  7) ควรบริโภคให้เป็นสุข
  8) ควรนอกให้เป็นสุข
  9) ควรบูชาไฟ
 10) ควรนอบน้อมเทวดาภายใน
71  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เบญจกัลยาณี เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 08:34:24 am
หญิงเบญจกัลยาณี คือ หญิงที่มีความงาม 5 ประการคือ
           
     1.ผมงาม คือ ผมดำสลวยเป็นเงางาม
                       
           2.เนื้องาม คือ ริมฝีปากงาม
                       
                  3.กระดูกงาม คือ ฟันขาวงามเป็นระเบียบ
                       
                           4.ผิวงาม คือ ผิวเกลี้ยงเกลางามไม่มีไฝฝ้า
                                   
                                      5.วัยงาม คือมีความงามเหมาะสมกับวัยของตน



 
72  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ของนางวิสาขา เป็นอย่างไรครับ เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 08:23:22 am
ถ้าเป็นผู้หญิง จะได้รับ เครื่องประดับ มหาลดาปสาธน์ เป็นผลที่สุด ?

  เครื่องประดับนี้ มีูรูปร่างอย่างไรคะ ประกอบด้วยอะไรบ้างคะ


ถ้าเป็นผู้ชาย จะได้รับ เครื่องประดับ อะไรคะ ?
73  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ของนางวิสาขา เป็นอย่างไรครับ เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 08:20:58 am
มะยม ได้ไปอ่านเรื่องการถวายจีวร เข้าแล้วก็พบกับคำว่า

มหาลดาปสาธน์

หญิงถวายจีวรย่อมได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์




นอก จากอานิสงส์ ๕ ประการ ดังกล่าวในตอนที่แล้ว ในอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องนางวิสาขา ยังได้แสดงว่า หญิงที่ถวายจีวรย่อมได้รับผลสูงสุดคือ เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์

เช่น นางวิสาขาได้ถวายจีวรสาฏกแก่ภิกษุ ๒ หมื่นรูป ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะผลแห่งจีวรทานนั้น นางจึงได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ก็จีวรทานของหญิงทั้งหลายย่อมถึงที่สุด(อานิสงส์สูงสุดที่จะพึงได้รับ)ด้วย เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์

สำหรับ จีวรทานของบุรุษทั้งหลาย  ย่อมสำเร็จด้วยบาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ ซึ่งบาตรและจีวรอันสำเร็จของฤทธิ์นี้ มิใช่เป็นฤทธิ์ที่เกิดจากการเนรมิตรของผู้มีฤทธิ์ แต่หมายถึงบาตรและจีวรที่เกิดขึ้นโดยเป็นผลทานจากการที่ตนได้เคยถวายจีวรไว้ ในอดีตชาติ

ดัง เช่นที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ มีกุลบุตรผู้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์แล้วบรรลุธรรม มีความประสงค์จะขอบวช พระพุทธองค์ก็จะตรวจดูว่า ผู้นั้นเคยถวายจีวรเป็นทานหรือไม่? ถ้าเคยถวายจีวรเป็นทาน จีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็จะเกิดขึ้น พระพุทธองค์ก็จะทรงอนุญาตให้บวช โดยกล่าวใจความเป็นสังเขปว่า "ธรรมอันเราตรัสไว้ดีแล้ว เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด" แล้วทรงยื่นพระหัตถ์ออกไป บาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ก็จะเกิดขึ้น การบวชเช่นนี้ เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" ดังเช่นที่พระพุทธองค์ทรงบวชให้แก่พระองคุลีมาล เป็นต้น

แต่ ถ้าผู้ใดไม่เคยถวามจีวรเป็นทาน พระพุทธองค์ก็จะให้ไปหาบาตรและจีวรมาก่อนแล้วจึงจะบวชให้ ดังเช่นพระพาหิยะทารุจีริยะเถระ ได้ฟังธรรมแล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์(พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้งให้เป็นเอตทัคคะ ทางด้านตรัสรู้เร็วที่สุด)จึงขอบวช แต่ท่านไม่เคยถวายจีวรเป็นทาน บาตรและจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์จึงไม่เกิดขึ้น พระพุทธองค์ได้ให้ท่านไปหาบาตรและจีวรมาเอง ในขณะที่พระพาหิยะกำลังไปคุ้ยหาเศษผ้าจากกองขยะอยู่นั่นเอง โคแม่ลูกอ่อนได้วิ่งมาขวิดท่านจนถึงแก่ความตาย ท่านจึงมิได้บวช

ฉะนั้น กุลบุตรผู้ใดปรารถนาจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ในพุทธกาลข้างหน้า(เช่นสมัยพระศริอาริย์ เป็นต้น) ก็จงถวายจีวรเป็นทานเสียแต่บัดนี้

อัน ว่าทานนั้น บัณฑิตทั้งหลาย มีพระสัพพัญญูโพธิสัตว์ เป็นต้น ผู้แสวงหาอยู่ซึ่งพระสัมมาสัมโพธิญาณอันยิ่งใหญ่ ทรงขวนขวายเป็นยิ่งนัก ที่จะบำเพ็ญให้เกิดขึ้นเป็นสิ่งแรก ในการสั่งสมบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ชื่อว่าทานที่พระโพธิสัตว์ทั้งหลายไม่เคยให้ ไม่ว่าจะเป็นทานชนิดใดๆนั้น ไม่มีเลย ท่านให้ทานมาแล้วทุกชนิด ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งสัพพัญุตญาณอันยิ่งใหญ่

ฉะนั้น ท่านสาธุชนทั้ง ผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญา มองเห็นภัยในสังสารวัฏ พึงบำเพ็ญทาน เพื่อสั่งสมไว้เป็นบารมี นำตนให้พ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ โดยทั่วกันทุกท่านเทอญ


หน้า: 1 [2]